5.0
ความคิดเห็น
352.5K
ชม
98
บท

เมื่อจู่ๆ ‘คริสโตเฟอร์ เมสัน’ ผู้บริหารหนุ่มหล่อจอมเฮี้ยบของแม็กนามีเดีย ตัดสินใจที่จะยุบนิตยสารแม่บ้านตกยุคที่ไม่เคยทำกำไรมานาน แน่นอนว่ามันรวมไปถึงการลอยแพพนักงานด้วยการจ้างออกทั้งแผนก ‘อลิสา สิปปา’ บ.ก.สาวไทยผู้แสนจะเชยไม่แพ้นิตยสารที่เธอดูแลอยู่จึงหมดทางเลือก นอกจากบุกไปพบเจ้านายคนใหม่เพื่อขอให้เขายืดเวลา แต่ว่าก็ว่าเถอะ แค่การแต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูเฟี้ยวฟ้าวเหมือนผู้หญิงปกติในสังคมเธอยังทำไม่ได้ ประสาอะไรจะปรับปรุงนิตยสารใหม่ทั้งเล่มแล้วปลุกยอดขายให้เขาได้ล่ะ ถ้าอยากได้โอกาสนักล่ะก็ ก่อนอื่นลองทำตัวสวยจนเขารู้สึกพอใจก่อนจะดีไหม “ถ้าเธอไม่ตื่นเดี๋ยวนี้ล่ะก็... เราคงไม่ได้ลุกจากเตียงกันอีกจนกว่าจะถึงเที่ยงของวันนี้นะ” ไม่ขู่เปล่า แต่คริสโตเฟอร์ยังคงกดจมูกลงที่ข้างขมับของเธอ ก่อนที่จะใช้กลีบปากแกร่งค่อยๆ ไล่จูบหนักๆ ไปตามผิวแก้มนวล เล่นเอาคนที่ตั้งท่าจะดึงดันเมื่อครู่เปิดเปลือกตาทันควัน “ตื่นแล้วค่ะ!” หญิงสาวร้องบอก แล้วผลักอกกว้างให้ออกห่าง ตั้งท่าจะถลาลงจากเตียงเมื่อเขาทำท่าว่าจะปล้ำเธอเข้าจริงๆ หากทว่าเขากลับดึงแขนเธอไว้ไม่ยอมให้ลงจากเตียงไปง่ายๆ “ตื่นแล้วก็มามอร์นิ่งคิสกันก่อนสิ” ชายหนุ่มพูดอย่างเจ้าเล่ห์ “ไม่เอาค่ะ!” อลิสาสั่นหน้าปฏิเสธ ขืนจูบเขาล่ะก็... เธอกลัวว่ามันจะไม่หยุดเพียงแค่จูบน่ะสิ และเธอเองก็คงอดที่จะปล่อยให้อารมณ์เตลิดตามเขาไปไม่ได้ด้วยแน่ๆ “เพิ่งตื่นก็ต้องแปรงฟันแล้วก็ทำความสะอาดร่างกายก่อนสิคะ” “ถ้าแปรงฟันแล้วเขาจะเรียกมอร์นิ่งคิสได้ยังไงล่ะ?” คริสโตเฟอร์ถามด้วยน้ำเสียงเง้างอนน้อยๆ ก่อนยื่นข้อเสนอให้ “เลือกเอาว่าเธอจะเป็นคนจูบฉัน หรือจะให้ฉันเป็นคนจูบเธอ?”

บทที่ 1 Prologue

เสียงจอแจของพนักงานบริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ขนาดใหญ่ ที่มีนิตยสารในเครือหลายหัว ดังเซ็งแซ่ ต่างไถ่ถามกันถึงสาเหตุที่พวกตนถูกเรียกเข้าประชุมอย่างกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าเช่นนี้ แต่ทว่าก็ไม่มีใครสามารถให้คำตอบได้ กระทั่งเสียงบานประตูห้องประชุมถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนที่ร่างสูงทรงเสน่ห์ของชายหนุ่มชาวอเมริกันผู้ที่สาวๆ หลายคนรู้จักกันดี จะเดินเข้ามาพร้อมทั้งบอดี้การ์ดส่วนตัวทั้งสี่คน ที่อยู่ในชุดสีดำสนิทไปทั้งตัว ทั้งเสื้อเชิ้ตตัวใน เสื้อสูทตัวนอก กางเกงผ้าขายาว หรือแม้กระทั่งรองเท้าหนังที่สวมใส่ สร้างความแตกตื่นให้กับบรรดาพนักงานที่มาร่วมนั่งประชุมในห้องประชุมใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นระดับหัวหน้ากอ

งบรรณาธิการของนิตยสารแต่ละฉบับ ที่บางคนอาจจะพ่วงเอาลูกน้องคนสนิทมาด้วย

ร่างสูงในชุดสูทผ้าไหมสีเทา ด้านในสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด ผูกด้วยเนกไทผ้าไหมสีฟ้าเข้ม กลัดกระดุมเสื้อสูทเป็นที่เรียบร้อย เดินไปหยุดยืนที่บริเวณหัวโต๊ะประชุม ที่มีลักษณะเป็นรูปตัวยู แผ่นหลังเหยียดตรงดูสง่างามและทรงอำนาจ เสียจนหลายคนต้องมองด้วยความเกรงขาม ส่วนอีกหลายคน... โดยเฉพาะสาวๆ มองเขาด้วยแววตาประหนึ่งว่าจะกลืนกินร่างสูงของชายที่ใครหลายคนรู้จักเขาผ่านหน้านิตยสาร

“ที่ผมเรียกพวกคุณมาประชุมในวันนี้” เขาพูดขึ้นเสียงทรงอำนาจ ก้องกังวานไปทั่วห้องประชุมโดยไม่ต้องอาศัยเครื่องขยายเสียงเลยด้วยซ้ำ ทุกคนต่างตั้งใจฟังว่าเขาจะพูดอะไรต่อไป เจ้าของดวงตาสีฟ้า กวาดสายตามองพนักงานที่มาร่วมประชุมนิ่งๆ ก่อนเอ่ยต่อ “เพื่อที่จะแจ้งให้ทุกคนทราบว่า... ผมจะเข้ามารับหน้าที่ดูแลบริษัทนี้ต่อจากคุณจอห์น โคลตัน เจ้าของเดิม”

“ว่าไงนะ? เป็นไปได้ไง?” เสียงพนักงานแต่งละคนหันไปถามเพื่อนที่นั่งข้างตัวเองด้วยความตกใจ และงุนงงกับข่าวใหม่ที่ไม่เคยได้ระแคะระคายมาก่อนหน้า

ปัง!!

“เงียบ!” เสียงตบโต๊ะดังขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงออกคำสั่งที่เขาไม่จำเป็นต้องตะคอกด้วยซ้ำ เสียงคุยกันอื้ออึงราวกับนกแตกรังก็เงียบลงแล้วมองคนที่จะเข้ามาเป็นเจ้าของคนใหม่เป็นตาเดียวกัน “ผมไม่ชอบให้ใครพูดแทรกขณะที่ผมยังพูดไม่จบ!”

เขาบอกแล้วใช้ดวงตาสีฟ้าอมแสนเย็นชาราวกับน้ำแข็งกวาดมองพนักงานแต่ละคน ที่บางคนเกรงเขามากจนต้องหลบสายตาวูบ ส่วนบางคนยังทำใจดีสู้เสือเหลือบตาสบกับเขาบ้างเป็นจังหวะ ริมฝีปากหยักแบบผู้ชายบิดยิ้มอย่างพอใจก่อนเอ่ยต่อไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ดี!” ชายหนุ่มเอ่ยชมอย่างพึงใจ แต่กลับทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกเสียววาบไปทั่วกระดูกสันหลัง “ผมได้สรุปยอดรายรับรายจ่ายของบริษัท ในรอบห้าปีให้หลังนี่มาเรียบร้อยแล้ว และคิดว่าคงต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเพื่อให้บริษัททำกำไรให้ได้มากขึ้น” เขาพูดช้าๆ จากข้อมูลที่ได้รับมาเมื่อสามวันก่อน และจัดการอ่านศึกษาข้อมูลรายได้ของบริษัทแห่งนี้มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะเรียกประชุมในวันนี้ “ตัวแทนนิตยสาร Housewives อยู่ที่ไหน?”

“เอ่อ... อยู่นี่ค่ะ” หญิงวัยสี่สิบกว่ายกมือขึ้นพร้อมขานรับอย่างกล้าๆ กลัวๆ ข้างๆ กันนั้นเป็นลูกน้องคนสนิทที่เธอพามาร่วมประชุมด้วย

“จากข้อมูลที่ผมได้อ่าน ทำให้ผมรู้ว่านิตยสารหัวนี้ทำกำไรได้ไม่ดีเท่าที่ควร...” ชายหนุ่มบอกแล้วหยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะแก้คำพูดของตัวเองใหม่ “ไม่สิ... ต้องบอกว่าทำกำไรไม่ได้เลยติดต่อกันมาห้าปีแล้ว ผมจึงมีความเห็นว่าจะยุบนิตยสารหัวนี้ และจ้างพนักงานที่เป็นกองบรรณาธิการของนิตยสารฉบับนี้ออก เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้น้อยลง”

“ไม่... ไม่นะ...” ผู้ช่วยของหัวหน้ากองบรรณาธิการนิตยสาร Housewives พึมพำไม่พ้นริมฝีปากของตัวเอง แทบช็อกกับข่าวร้ายที่ได้รับอย่างไม่ทันได้เตรียมใจแม้สักนิด

“เอาล่ะ... เรื่องที่ผมจะแจ้งก็มีเพียงเท่านี้ เลิกประชุมได้” ชายหนุ่มบอก แต่ยังไม่ทันที่จะหมุนตัวเดินออกไป เสียงร้องห้ามสั่นเครือก็ดังขึ้น

“ไม่ได้นะ! คุณจะยุบนิตยสารอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาด!” เสียงหวานเกรี้ยวกราดและสั่นเครือดังก้อง ทุกคนในห้องต่างตกตะลึงกับอาการสติแตกของหญิงสาวที่อาจหาญต่อกรกับเจ้าของบริษัทคนใหม่

“ทำไมจะไม่ได้?” เขาหันกลับมามองคนที่กล้าโต้แย้งเขา พอหันกลับมาก็เจอกับหญิงสาวในชุดเสื้อเชิ้ตสีพื้นลายดอกไม้เล็กๆ ติดกระดุมจนถึงคอ สวมกระโปรงสีน้ำตาลยาวคลุมเข่า ดวงตาเกรี้ยวกราดของเธอวาวโรจน์อยู่ในใต้แว่นตากรอบสีดำหนาเตอะ ร่างสูงหันมามองผู้หญิงเอเชียผิวสีน้ำผึ้ง ซุกมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ดวงตาฉายแววท้าทายปนเยาะหยันอีกฝ่าย “ในเมื่อผมเป็นเจ้าของบริษัทนี้แล้ว ผมมีสิทธิตามกฎหมายทุกประการที่จะกระทำการใดๆ ก็ตาม เพื่อที่จะทำให้บริษัททำกำไรได้มากขึ้น และการตัดนิตยสารที่ไม่ทำเงินเลยมากว่าห้าปีทิ้ง ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ผมหวังว่าคุณคงฉลาดพอที่จะเข้าใจนะครับ... มิสซิส”

คนที่ตั้งท่าจะแย้งนิ่งงัน จนด้วยเหตุผลที่เขายกมาอ้าง เธอและทุกคนในบริษัทนี้ต่างรู้ดีว่านิตยสาร Housewives ทำกำไรไม่ได้มานานแล้ว แต่กระนั้นเจ้าของเดิมก็ยังไม่ยอมยุบนิตยสารดังกล่าวด้วยเหตุผลส่วนตัว ทำให้บริษัทต้องสิ้นเปลืองต้นทุนการผลิตโดยใช่เหตุ การตัดสินใจของเจ้าของคนใหม่นั้นก็ถือว่าถูกต้องแล้ว เพียงแต่... นี่เป็นแหล่งรายได้เดียวของเธอ เธอจะยอมเสียมันไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก งานในสหรัฐหาง่ายเสียที่ไหนกันเล่า!

“เดี๋ยวสิคุณ!” หญิงสาวร้องตามหลังคนที่กำลังจะเดินพ้นประตูห้องประชุมออกไป เท้าบางก้าวเร็วๆ อ้อมโต๊ะประชุมใหญ่ไป หมายจะเข้าไปประชิดตัวเขาเพื่อขอร้องให้เขาเปลี่ยนใจ “คุณคะ! หยุดก่อนสิ! ฟังฉันก่อน!! ฉันขอร้อง...” เธอยังไม่ทันที่จะได้เข้าใกล้เขาแม้แต่ปลายเล็บด้วยซ้ำ ก็ถูกบอดี้การ์ดอีกสองคนที่ยืนเฝ้าประตูอยู่เมื่อครู่ขวางเอาไว้ “นี่! หลีกทางสิ! ฉันต้องคุยกับเขา!”

“หยุดครับมิสซิส! ผมไม่อยากทำร้ายคุณ” บอดี้การ์ดหนึ่งในสองคนที่กำลังขัดขวางเธออยู่เตือนด้วยความหวังดี หากแต่หญิงสาวกับดื้อดึงเหลือเกิน

“ปล่อยฉันสิ! ฉันต้องคุยกับเขานะ!” เธอหันไปตวาดใส่บอดี้การ์ดร่างใหญ่อย่างไม่ยี่หระกับขนาดร่างกายที่ต่างกันหลายเท่าตัว เธอโกรธ... และกลัวที่จะเสียงาน จนลืมที่จะกลัวบอดี้การ์ดทั้งสองคนของเจ้าของบริษัทคนใหม่ไปเสียสนิท

“ผมขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย... หากคุณไม่อยากถูกจับข้อหาพยายามทำร้ายร่างกายเจ้านายของผม กรุณาเลิกยุ่งกับเขา” บอดี้การ์ดอีกคนเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจังเสียจนหญิงสาวคนงามชะงักงัน เธอไม่อยากตกงาน... แต่ก็ไม่อยากติดคุก รู้ดีว่าอีกฝ่ายคงไม่ใช่แค่ขู่แน่ๆ และเขามีอำนาจพอที่จะทำอย่างที่บอดี้การ์ดของเขาขู่เอาไว้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ กวีมนตรา_พัณณ์ภัสร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ่วงวิวาห์จำยอม (The Unwilling Wedding)

บ่วงวิวาห์จำยอม (The Unwilling Wedding)

มหาเศรษฐี

5.0

“คุณก็รู้ว่าฉันเมา แล้วคุณยังจะทำอย่างนั้นกับฉันอีก คุณยังมีความเป็นสุภาพบุรุษอยู่รึเปล่า หา! คุณปรานต์? หรือคุณโกรธแค้นฉันมากถึงอยากจะแก้แค้นฉันให้ตายทั้งเป็นอย่างนี้?” “เธอจะมาหาว่าฉันฉวยโอกาสได้ยังไง? ในเมื่อเธอเองเป็นคนเรียกร้องสิ่งนั้นจากฉันเองแท้ๆ เธอควรจะโกรธตัวเธอเองมากกว่า แต่พูดก็พูดเถอะนะ ว่าลีลาของเธอมันช่างร้อนแรงกว่าผู้หญิงทุกคนที่ฉันเคยผ่านมาเสียอีก แหม...ว่าแล้วเราก็มาต่อกันอีกรอบดีไหมจ๊ะสาวน้อย? บอกตรงๆ ว่าฉันยังติดใจเธอไม่หาย” “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” “เอาน่า...ไหนๆ เรื่องมันก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ฉันยินดีรับผิดชอบเธอทุกอย่าง พรุ่งนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันเลยก็ได้ บอกตามตรงนะ ฉันยังประทับใจในลีลาของเธอไม่หายเลย” ปารวี ต้าเฟย เมธาชัย จำต้องตกอยู่ในบ่วงวิวาห์อย่างจำยอม เมื่อถูกคนเป็นพ่อมัดมือชกให้ต้องแต่งงานกับญาตาวี วัฒนากุล ลูกสาวอดีตคนรักของพ่อ คนที่ทำให้แม่ของเขาต้องตกอยู่ในความห้วงของความเจ็บปวดเพราะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อของเขาแม้กระทั่งในวินาทีสุดท้ายของชีวิต นั่นทำให้ชายหนุ่มผูกใจเจ็บญาตาวีจนนึกอยากจะขย้ำเธอทุกวินาที แต่มันจะสนุกอะไรกับการฆ่าเธอให้ตาย? สู้หลอกล่อให้เธอตกหลุมพราง แล้วค่อยๆ กรีดหัวใจของเธอให้เจ็บมันสะใจกว่ากันเยอะ ญาตาวีไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตนี้จะต้องโคจรมาพบกับชายหนุ่มผู้เจ้าคิดเจ้าแค้น แถมยังหยิ่งยโสชนิดที่เธอนึกอยากจะข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้เป็นแผลเหวอะหวะ เธอพยายามจะเอาตัวออกห่างเขาเพราะไม่อยากทนรองรับอารมณ์หงุดหงิดที่ไม่มีเหตุผลของปารวีนัก แต่มันมักจะมีอันให้ต้องเข้าไปพัวพันกับเขาทุกที สุดท้าย... ก็ถูกเขาเล่นกลหลอกล่อให้เธอต้องติดอยู่ใน ‘บ่วงวิวาห์’ กับเขาแบบจำยอม แล้วชีวิตคู่ที่ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานของความรักมันจะยืนยาวสักแค่ไหนกัน ในเมื่อเขาจ้องจะคอยทำร้ายจิตใจของเธอเพื่อแก้แค้นแทนแม่ผู้ล่วงลับของเขา ในขณะเดียวกัน... นับวันเธอก็รู้สึกเหมือนจะยิ่งผูกพันกับเขาไปทั้งใจ “อย่าเล่นบ้าๆ นะญาตาวี!” “เล่นบ้าๆ อย่างนั้นเหรอคะ? ฉันว่าไม่ใช่มั้ง เพราะดูเหมือนคุณเองก็ต้องการไม่ใช่เหรอ?” เจ้าของร่างบางค่อยๆ คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนเตียงนอนระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา ก่อนโน้มตัวมาข้างหน้าจนใบหน้าหวานอยู่ห่างใบหน้าคมคายของเขาไม่ถึงคืบ “อย่าทำอย่างนี้นะญาตาวี เธอไม่รู้หรอกว่าผลที่ตามมามันรุนแรงแค่ไหน” “งั้นเหรอคะ?”

บ่วงมะลุลี

บ่วงมะลุลี

มหาเศรษฐี

5.0

“แล้วอีกอย่าง...ฉันมันพวกไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ ด้วยสิ ยิ่งคุณรำคาญ ยิ่งคุณอยากไล่ฉันไปไกลๆ ฉันก็จะคอยป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ คุณ จนคุณขาดฉันไม่ได้ ยิ่งคุณเกลียดฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็จะทำให้คุณรักฉันมากเท่านั้น” “แสดงว่า...ถ้าเธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการแล้ว เธอจะเลิกยุ่งกับฉันอย่างนั้นใช่ไหม?” “คุณจะทำอะไร!?” หญิงสาวเบิกตาถามอย่างตกใจ เมื่อเขาย่างสามขุมเข้ามาหาด้วยท่าทีไม่น่าไว้ใจนัก เท้าบางกระชากตัวเองก้าวถอยหลังด้วยสัญชาตญาณป้องกันตัวเอง “ก็จะทำให้เธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการไง จะได้เลิกยุ่งกับฉันสักที!” คำว่า ‘ยอมแพ้’ ไม่เคยมีอยู่ในพจนานุกรมประจำใจของ ‘มะลุลี วิโรจน์รุ่ง’ นักเขียนสาวผู้พกความมุ่งมั่นจนเข้าขั้นดื้อดึงมาเกิด โดยเฉพาะกับเรื่องของหัวใจ... ในเมื่อเธอหลงรักกระทิงหนุ่มผู้ดุดันและเร่าร้อนอย่าง ‘เอเลียต รามิเรส นาธาเนียล’ เข้าอย่างยากจะถ่ายถอน มีหรือที่เธอจะยอมปล่อยให้เขาหลุดมือไปโดยไม่คิดจะทำอะไรเลย ดังนั้นเธอจึงเดินหน้า ‘ภารกิจตื้อรักกระทิงหนุ่ม’ อย่างเต็มกำลัง และไม่คิดจะถอยแม้จะถูกเขา ‘ขวิด’ ด้วยการกระทำและคำพูดแสนร้ายกาจ แต่หญิงสาวก็ยังมุ่งมั่นที่จะเป็นมาทาดอร์สาวปราบพยศกระทิงผู้เร่าร้อนให้จงได้ และมะลุลีก็ยังคงเป็นมะลุลี... เธอมักจะหาเรื่องใส่ตัวเสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อเธอคิดร่วมมือกับทนายหนุ่มไฟแรงเพื่อกระชากหน้ากาก ‘ชาโดว์ เดวิล’ ฆาตรกรต่อเนื่องแสนโหดเหี้ยมตัวจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลสำหรับงานเขียนเล่มใหม่ และการกระทำเช่นนั้นกลับกลายเป็นภัยร้ายที่ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาหายจะคร่าชีวิตของเธอให้แดดับ ภารกิจสืบหาความจริงที่เริ่มต้นไปพร้อมๆ กับภารกิจพิชิตรัก งานนี้มะลุลีจะทำภารกิจทั้งสองสำเร็จหรือไม่? หรือต้องสังเวยทุกๆ ภารกิจด้วยชีวิตและหัวใจของเธอกัน? “แต่ไม่เป็นไรหรอก... อีกไม่กี่นาทียาก็หมดฤทธิ์แล้ว เธอจะรู้สึก... ทุกๆ อย่างที่ฉันทำกับเธอ และเชื่อเถอะว่า เธอจะภาวนาให้ยาที่ฉันฉีดให้ไม่ฤทธิ์ เพราะมันจะเจ็บบรรลัยเลยล่ะ!” “อ๊ะ!” หญิงสาวร้องเพราะรู้สึกเจ็บจี๊ดที่ข้อมือซึ่งถูกมัดติดกับที่วางแขนของเก้าอี้ไม้ “ดูเหมือน... ยาจะเริ่มคลายฤทธิ์ลงแล้วสินะ ดีเลย!” ปิศาจในเงามืดพูดพลางหยิบมีดพกแบบทหารขึ้นมา กวัดแกว่งมันไปมาพร้อมกับก้าวเท้าเข้าไปหาเหยื่อที่แม้ฤทธิ์ยาจะค่อยๆ เสื่อมลงแล้วแต่ก็ยังยังไร้หนทางพาตัวเองออกจากพันธนาการของเชือกเส้นใหญ่ “มาดูกันว่าคนที่มีความพยายามเป็นเลิศอย่างเธอจะอดทนได้นานกว่านังแพศยาคนอื่นๆ ที่ฉันเคยฆ่าหรือเปล่า?”

ตรวนลวง บ่วงดวงมาน

ตรวนลวง บ่วงดวงมาน

มหาเศรษฐี

5.0

‘ให้ตายเถอะ! นี่เขาจะต้องแต่งงานกับยัยจิตป่วนนี่จริงๆ หรือไง?!!’ นั่นคือสิ่งที่เกเบรียล แมคไรลีย์ ดีไซเนอร์หนุ่มที่พ่วงตำแหน่งรองประธาน บริษัทอาร์ทิสติกแอทแทร์ จำกัดมหาชน ผู้มีโลกส่วนตัวสูงครวญในใจ เมื่อถูกพ่อบังคับแกมข่มขู่ให้แต่งงานกับ มารียา รัตนาวัฒน์ หญิงสาวที่ดูเป็น working woman แต่จริงๆ ซ่อนความป่วนและเพี้ยนเอาไว้มากมาย แถมภรรยาจำเป็นของเขายังหลงรักพี่ชายแท้ๆ ของเขาจนหมดหัวใจ ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอคิดว่าเขาเป็น ‘เกย์’ เลยคิดจะแต๊ะอั๋งเขายังไงก็ได้เสียอีก! มารียา ดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทอย่างเวนเดล แมคไรลีย์ ขอร้องให้เธอแต่งงานกับบุตรชายของตนด้วยเหตุผลบางประการ เธอคิดว่าเธอจะได้แต่งงานกับเคลวิน แมคไรลีย์ คนที่เธอแอบหลงรักมานานหลายปี แต่ทุกอย่างกับผิดคาดไปหมด! เพราะเธอต้องแต่งงานกับ (คนที่ตนคิดเองเออเองว่าเป็น) เกย์หนุ่มเซ็กซี่ขยี้ใจแทนเสียนี่! แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการใช้เกเบรียลเป็นสะพานไปหาจ้าวหัวใจอย่างเคลวินให้ได้! แต่ทั้งคู่คงไม่รู้ว่าการแต่งงานลวงโลกนี้จะกลับกลายเป็นตรวนรักที่ร้อยรัดดวงมานของคนทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกัน ตรวน... ที่ทั้งสองจะไม่มีวันหนีไปไหนได้ แต่จะทำอย่างไร... เมื่อเวลาที่มีร่วมกันช่างจำกัดนัก? ติดตามเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ใน “ตรวนลวงดวงมาน” “ลืม?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม ดวงตาของเขามีแววเยาะหยัน ไม่รู้ว่าหยันตัวเขาเองหรือว่ากำลังเหยียดหยันเธอกันแน่? “เธอลืมได้หรือ? ลืมได้เหรอว่าเธอขอร้องฉันว่าอะไร? ลืมได้หรือว่าเธอสัมผัสฉันอย่างเร่าร้อนแค่ไหน? ลืมได้เหรอว่าเธอตอบสนองสัมผัสของฉันอย่างกระตือรือร้นแค่ไหน? ลืมได้หรือว่าเธอเองที่เป็นคนอยากเรียนรู้และขอให้ฉันสอนทุกอย่างที่เธออยากรู้ให้!?” “ไม่! หยุด! หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” มือบางยกขึ้นปิดหูตัวเองไว้ พร้อมทั้งร้องบอกให้เขาหยุดคำพูดที่ชวนให้คิดถึงเรื่องราวในคืนนั้นเสียที แต่เขาไม่หยุด! เขาจะไม่ยอมให้เธอหนีความจริงอีกต่อไปแล้ว! “เธอยังจำได้ไหมว่าเธอกรีดร้องด้วยความสุขมากแค่ไหน เวลาที่เราฉันสอดประสานเข้าไปในตัวของเธอ และผลักดันให้เธอพุ่งทะยานไปถึงจุดสุดยอด? ยังจำได้ว่าเธอกรีดร้องเรียกชื่อฉันอย่างแว่วหวานแค่ไหน ตอนที่เธอกระโจนถึงสวรรค์ที่ฉันพาเธอไป!?” ปกติแล้วเกเบรียลไม่ใช่คนที่จะเอาเรื่องบนเตียงมาพูดให้ผู้หญิงได้อับอาย แต่กลับคนหัวดื้ออย่างมารียา ถ้าพูดด้วยคำพูดสุภาพ...พูดด้วยคำพูดตะล่อมอย่างที่เขาชอบใช้คงไม่ได้ผล มันต้องยกเหตุผลและความเป็นจริงมาพูดอย่างนี้แหละ เธอจึงจะหาทางปฏิเสธความจริงไม่ได้!

กรงสวาท ทาสพยัคฆ์ (Love Cage)

กรงสวาท ทาสพยัคฆ์ (Love Cage)

โรแมนติก

5.0

“เร็วๆ สิ! มาแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าคนอย่างเธอมีดีอะไร ถึงได้มีผู้ชายมาขอแต่งงาน... ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเธอน่ะมันสำส่อน ไม่ต่างจากโสเภณีนักหรอก!” ‘รุจาภา วรลักษณ์’ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาถูกจับขังในกรงวิวาห์กับผู้ที่เป็นเหมือนไม้เบื่อไม้เมาที่เจอกันทีไรเป็นต้องทำร้ายกันไม่ด้วยการกระทำก็คำพูดอยู่ร่ำไป เพียงเพราะเธอต้องการจะปกป้องคนที่เธอรัก กลับกลายเป็นต้องตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาไปเสียนี่ ‘พยัคฆ์ พิตตินันท์’ ไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้ต้องพบเจอกับผู้หญิงปากร้ายปากคมยิ่งกว่ามีดผ่าตัด แถมร้ายกาจจนเหลือรับ แต่เสือร้ายอย่างเขามีหรือจะนอนนิ่งๆ ให้เธอกระตุกหนวดเอาได้ง่ายๆ? ขืนทำอย่างนั้นก็เสียชื่อเสือหมดน่ะสิ! งานนี้เห็นทีต้องทำการปราบพยศ ‘ยัยเด็กแสบ’ สักหน่อยแล้วล่ะสิ แต่จะมีวิธีไหนเอาคืนได้สะใจไปกว่าการทำให้เธอตกเป็นทาสสวาทพยัคฆ์ร้ายอย่างเขาได้เล่า? “เธอจะต้องไปอยู่ในไร่กันตา...” “ในฐานะอะไรไม่ทราบ?” หญิงสาวถามทันควัน เขาอยากให้เธอไปอยู่ในไร่กับเขาในฐานะอะไรกัน? เมีย... งั้นหรือ? มีหวังปิ่นแก้วได้อาละวาดไร่แตกแน่ๆ! “ทาสไงล่ะ”

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

ติวสวาท ปิศาจร้อนรัก

มหาเศรษฐี

5.0

“คุณช่วยสอนเรื่องอย่างว่าให้ฉันได้ไหม?” “ห๊ะ?!” ทันทีที่เธอพูดจบ ออสตินก็อย่างตกใจจนเกือบจะพลัดตกเก้าอี้แล้วด้วย ไม่คาดคิดว่าเธอจะพูดเรื่องนี้กับเขา ออสติน เบรเดน ปิศาจหนุ่มผู้เจนจัดในเรื่องเริงรัก ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ยินคำขอสุดพิศดารพันลึกจากปากของดรัลพร แก้วกานต์ เมื่ออยู่ๆ เธอก็บุกมาถึงห้องทำงานแล้วขอให้เขาช่วยรับหน้าที่ “ติวเตอร์” เพื่อสอน “บทเรียนพิศวาส” ให้เธอเป็น “ผู้หญิงเร่าร้อน” ในแบบที่เขาชอบ และเขาคงจะรับหน้าที่ดังกล่าว หากว่าเธอไม่ใช่น้องสาวของเพื่อนสนิท และเป็นคนที่เขาพยายามเก็บไม้เก็บมือให้อยู่ห่างจากเธอมาตลอด เพราะเขาดันรู้สึกอยากครอบครองเธอตั้งแต่เธออายุได้เพียงสิบสามปีเท่านั้น! ทว่าคนอย่างดรัลพรผู้มุทะลุมีหรือจะยอมให้เขาปฏิเสธคำขอเธอง่ายๆ เมื่อเธอยั่วยวนเขาด้วยท่าทีไม่ประสีประสาจนเขาต้องหลวมตัวตกปากรับคำว่าจะเป็น “คุณครูกิตติมศักดิ์” สอนบทเรียนแสนพิเศษนั้นให้กับเธอ เพียงแต่เธอต้องจ่ายค่าเล่าเรียนแพงลิบลิ่ว ด้วย “พรหมจรรย์” ที่เพียรรักษามานานของเธอ “คราวหลัง... อย่าได้คิดจะอ่อยผู้ชายคนอื่นอีก เข้าใจไหม?!” เขาถามเมื่อฟาดแส้ลงมาอีกครั้ง “แยกขาออกเดี๋ยวนี้!” “อื้อ!” ดรัลพรร้องอีกครั้งเมื่อเขาฟาดแส้ลงมาเพื่อเป็นการทำโทษและตักเตือนถึงผลของการขัดคำสั่งของเขา

รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

มหาเศรษฐี

4.5

“สิ่งที่ฉันอยากได้...” เฟลิกซ์ลากเสียงบอกอย่างช้าๆ วางมือข้างหนึ่งค้ำยันที่ผนังข้างๆ ศีรษะของเธอ มืออีกข้างยื่นออกไปใช้ปลายนิ้วแตะเข้าที่ข้างลำคอเล็กๆ เนียนละเอียดของเธอ “อุ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้ง ความร้อนจากปลายนิ้วที่สัมผัสเข้าที่ลำคอและกำลังลากช้าๆ ไปตามแนวลำคอระหงบาดเข้าไปในผิวเนื้อของเธอจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด “ก็... เธอไงล่ะ” ทันทีที่ได้สานสบกับดวงตาแสนหวานของเธอ ‘เฟลิกซ์ เวอซินี’ ก็รู้ว่าภายใต้คราบสุขุมเย็นชาของเธอ ซุกซ่อนผู้หญิงที่ร้อนแรงราวกับไฟเอาไว้ และเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก ชายหนุ่มจึงพยายามทำทุกทางเพื่อที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากหญิงสาวผู้แสนงดงามและน่าค้นหาผู้นี้ให้ได้ แม้กระทั่งใช้ตำแหน่งอำนาจที่มีมากว่า ดึงรั้งเธอให้มาพัวพันด้วยคำว่า ‘หน้าที่การงาน’ ซึ่งเธอไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเขาคือ ‘เจ้านาย’ ส่วนเธอเป็นเพียง ‘พนักงานระดับล่าง’ ‘ลินิน พรหมพิริยะ’ หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับนางอัปสร เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน แต่เธอกลับใช้ความเย็นชามาสร้างกำแพงป้องกันไม่ให้ใครหน้าไหนได้เข้าใกล้ เพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์เร่าร้อนแสนฉาบฉวยของชายหญิง ตามคำสั่งสอนของผู้เป็นยาย เธอใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับกฎเกณฑ์เหล่านั้น และเธอทำมันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด... แม้จะรู้ตัวดีเสมอว่าเธอเองก็อยากลิ้มลองรสชาติแสนหอมหวานและเร่าร้อนของรสสวาทดูสักครั้ง จนกระทั่งมาพบกับผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ แถมเจ้าเล่ห์จนเธอตามเกมเขาไม่ทัน ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นทรงเสน่ห์ล้ำลึกจนเธอหลงใหล แม้พยายามจะห้ามใจ แต่ก็ถูกเขารั้งเอาไว้ด้วย ‘บ่วงปรารถนา’ จนได้ แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยืดยาวได้อย่างไร ในเมื่อเขามองเธอเป็นเหมือน ‘กระต่ายป่า’ ที่หายากและนายพรานอย่างเขาก็สนุกกับการล่า ส่วนเธอเองกลับหลงรักผู้ชายร้อนแรงเจ้าของฉายา ‘คาสโนวาแห่งปารีส’ เข้าเต็มหัวใจ รสสวาทที่เขาทิ้งไว้ กลายเป็นบ่วงปรารถนาจองจำหัวใจของเธอให้หยุดอยู่ที่เขาแต่เพียงคนเดียว แล้วเขาล่ะ... พร้อมที่จะหยุดอยู่ที่เธอหรือเปล่า? “พะ...พอก่อนค่ะ ไม่เล่นแล้วนะคะ ฉันมีเวลาไม่มาก ต้องรีบลงไปทำงานต่อ” “ก็เพราะมีเวลาไง ถึงต้องรีบทำ” คำพูดมีนัยยะของเขาเล่นเอาคนฟังหน้าแดงเถือกไปจนถึงคอ “มะ...ไม่เอานะคะ” เธอร้องห้ามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก พยายามหยุดมือใหญ่ที่สอดมาตามรอยแยกกระโปรงยูนิฟอร์มของเธอที่ผ่าสูงขึ้นมาเหนือเข่าด้านหนึ่ง “รีบพูดธุระของคุณมาเถอะค่ะ” “ก็นี่แหละธุระของฉัน ฉันต้องการเธอจนแทบคลั่งอยู่แล้ว ไม่รู้สึกบ้างเหรอ?”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

Happy ที่โสดอีกครั้ง

Happy ที่โสดอีกครั้ง

STARMOON PTE. LTD.
4.9

แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

หนี้รักหมอสาว

หนี้รักหมอสาว

ปีศาจชอนซา
5.0

บทนำ หมอพุฒตาล ศัลยแพทย์ทั่วไป เรียนจบด้วยเกรดนิยมอันดับหนึ่ง เธอกลายเป็นหมอผ่าตัดมือหนึ่งของโรงพยาบาล ด้วยชีวิตที่คิดอุทิศให้กับวงการแพทย์ ทำให้หมอพุฒตาลไม่เคยข้องแวะกับชายใด แม้จะมีหนุ่มเข้ามาจีบไม่เว้นวัน เมื่อบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เพราะการผ่าตัดที่ล่าช้า เนื่องมาจากช่วงเวลานั้น ขาดหมอเฉพาะทาง เหตุผลนี้จึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เธอตั้งใจเรียนศัลยแพทย์ จนฝีมือด้านการผ่าตัดการวินิจฉัยโรคของหมอพุฒตาล เป็นที่ยอมรับของเพื่อนหมอ และคนไข้ที่มารับการรักษา เมื่อเธอทำงานได้สองปีสิ่งที่ไม่คาดฝันกับชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อมารดาเข้ามาหาเธอถึงห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาล สิ่งที่มารดาต้องการคือการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อน เมื่อนางกู้ยืมเงินเขามาส่งเสียให้เธอเรียน ใครเล่าจะรู้ว่าหมอมือหนึ่งอย่างเธอ จะต้องมาแต่งงานใช้หนี้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เงินสิบล้านกับดอกเบี้ยอีกเท่าตัวทางเลือกของหมอพุฒตาล คือการแต่งงานกับชายแปลกหน้าเพียงเท่านั้น เตชิน หนุ่มไฮโซรูปหล่อ เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องบำเรอ เขามองความรักเป็นแค่เรื่องล้อเล่น เที่ยวเตร่ไปวันๆ ส่วนธุรกิจของครอบครัวเขาทิ้งให้เตชิต พี่ชายเพียงคนเดียวรับผิดชอบ ความอดทนของผู้เป็นมารดาได้สิ้นสุดลง เมื่อเตชินเที่ยวเตร่ไม่เอาการเอางาน นางจึงยื่นคำขาดด้วยการให้เขาแต่งงานกับหมอพุฒตาล เตชินฟังแค่ชื่อของเธอ เขาถึงกับขำออกมา ชายหนุ่มไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงเฉิ่ม ๆ แบบนั้นเป็นอันขาด ที่สำคัญเขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เมื่อมารดายื่นคำขาดคือการริบทรัพย์ ทั้งบัตรเครดิตและรถสปอร์ตคันหรู เมื่อไม่มีทางเลือก ชายหนุ่มจำใจยอมตกลงแต่งงาน ซึ่งแน่นอนผู้หญิงคนนั้นต้องทนเขาไม่ได้ และเธอต้องขอหย่าภายในสามเดือน เขาจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เธอดู เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรวิ่งเข้ามาในกองเพลิง ที่เขาก่อเอาไว้ เพราะมันพร้อมที่จะเผาเธอให้มอดไหม้ไปในพริบตา!! ************************* ฝากภาค 2 รุ่นลูก ด้วยนะคะ บำเรอรักคุณหมอจ้า*************

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
บ่วงเสน่ห์ เล่ห์ดวงใจ
1

บทที่ 1 Prologue

17/01/2022

2

บทที่ 2 Chapter 1

17/01/2022

3

บทที่ 3 Chapter 2

17/01/2022

4

บทที่ 4 Chapter 3

17/01/2022

5

บทที่ 5 Chapter 4

17/01/2022

6

บทที่ 6 Chapter 5

17/01/2022

7

บทที่ 7 Chapter 6

17/01/2022

8

บทที่ 8 Chapter 7

17/01/2022

9

บทที่ 9 Chapter 8

17/01/2022

10

บทที่ 10 Chapter 9

17/01/2022

11

บทที่ 11 Chapter 10

31/01/2022

12

บทที่ 12 Chapter 11

31/01/2022

13

บทที่ 13 Chapter 12

31/01/2022

14

บทที่ 14 Chapter 13

31/01/2022

15

บทที่ 15 Chapter 14

31/01/2022

16

บทที่ 16 Chapter 15

31/01/2022

17

บทที่ 17 Chapter 16

31/01/2022

18

บทที่ 18 Chapter 17

31/01/2022

19

บทที่ 19 Chapter 18

31/01/2022

20

บทที่ 20 Chapter 19

31/01/2022

21

บทที่ 21 Chapter 20

31/01/2022

22

บทที่ 22 Chapter 21

31/01/2022

23

บทที่ 23 Chapter 22

31/01/2022

24

บทที่ 24 Chapter 23

31/01/2022

25

บทที่ 25 Chapter 24

31/01/2022

26

บทที่ 26 Chapter 25

31/01/2022

27

บทที่ 27 Chapter 26

31/01/2022

28

บทที่ 28 Chapter 27

31/01/2022

29

บทที่ 29 Chapter 28

31/01/2022

30

บทที่ 30 Chapter 29

31/01/2022

31

บทที่ 31 Chapter 30

31/01/2022

32

บทที่ 32 Chapter 31

31/01/2022

33

บทที่ 33 Chapter 32

31/01/2022

34

บทที่ 34 Chapter 33

31/01/2022

35

บทที่ 35 Chapter 34

31/01/2022

36

บทที่ 36 Chapter 35

31/01/2022

37

บทที่ 37 Chapter 36

31/01/2022

38

บทที่ 38 Chapter 37

31/01/2022

39

บทที่ 39 Chapter 38

31/01/2022

40

บทที่ 40 Chapter 39

31/01/2022