แลกหัวใจด้วยรัก

แลกหัวใจด้วยรัก

aksaramanee

5.0
ความคิดเห็น
395
ชม
10
บท

เธอต้องเข้มแข็งมากแค่ไหนกับการที่ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อชดใช้ความแค้นให้ชาครินทร์ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส เธอไม่เคยรู้อดีตของเขา แต่เมื่อกลายเป็นเจ้าสาวที่ถูกทิ้งเธอก็จะต้องมีชีวิตอยู่เพื่อหัวใจอีกดวง เพื่อที่จะบอกยอดดวงใจของเธอว่า ป๊ะป๋ายังรักหนูน้อยไม่เคยเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“น้องเอ๋ย...ลูกนั่งรอแม่จ๋าตรงนี้นะคะ”

เจ้าของใบหน้ารูปไข่ใต้กรอบเรือนผมยาวดำขลับเป็นมันเงารวบตึงไว้ด้านหลังเผยความงามหมดจดไร้เมคอัพบนแก้มใส นัยน์ตากลมโตเป็นประกาย จมูกเล็กรั้นรับกับริมฝีปากเป็นกระจับเคลือบกลอสสีชมพูอ่อนภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวแต่งระบายและกระโปรงยาวเลยเข่าทำให้ร่างเล็กบอบบางดูเรียบร้อยปราศจากความจัดจ้านก้มลงเอ่ยเสียงนุ่มกับเด็กหญิงตัวน้อยผิวขาวอมชมพูในเสื้อสเว็ตเตอร์เนื้อบางและกางเกงยีนส์ลายการ์ตูนซึ่งทั้งสองยืนตรงโถงทางเดินภายในตึกด้านหน้าห้องติดป้าย ฝ่ายบุคคล เด็กหญิงแก้มอิ่มเงยหน้าขึ้นถามว่า

“แม่จ๋าจะไปไหน?”

“แม่จ๋าจะเข้าไปยื่นเอกสารสมัครงานในห้องนี้ค่ะ”

“อืม...”

หนูน้อยเอามือแหย่รูหูและนิ่วหน้าก่อนหันไปมองบานประตูด้านหลังแล้วหันกลับมายังร่างบอบบางตรงหน้าอีกครั้ง

“เมื่อกี๊ แม่จ๋าก็บอกน้องเอ๋ยแบบนี้”

“แต่ที่นี่เป็นที่ใหม่นะคะ แม่จ๋ามาสมัครงานที่ใหม่ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะคะ”

อัยย์ญาดาย่อตัวลงพลางจับไหล่บอบบางของอรินลดาไว้ หนูน้อยทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจซึ่งเธอก็รู้ดีว่าลูกสาวอายุเพียงสี่ขวบกว่าคงเหนื่อยที่ต้องติดสอยห้อยตามแม่มาสมัครงานตามโรงแรมต่าง ๆ ซึ่งวันนี้เธอตระเวนพาลูกไปด้วยไม่ต่ำกว่าห้าแห่ง แต่มันก็จำเป็นเพราะแม่ของเธอนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องพาลูกไปตามที่ต่าง ๆ ซึ่งมันคงปลอดภัยกว่าการจะทอดทิ้งให้ลูกสาวตัวเล็กอยู่บ้านเพียงลำพัง และสำหรับตัวเธอเองถึงจะเหนื่อยแค่ไหนหากก็ต้องยิ้มเข้าไว้แต่อรินลดาถอนหายใจและทำหน้ามุ่ย อัยย์ญาดาจูบหน้าผากลูกน้อยก่อนบอกว่า

“เสร็จจากที่นี่เราจะกลับบ้านกันนะคะ แม่จ๋าสัญญา”

“แม่จ๋า...น้องเอ๋ยหิวขนม”

“ค่ะ...เสร็จแล้วแม่จ๋าจะพาน้องเอ๋ยไปกินขนมอร่อยๆ แล้วเรากลับบ้านกันนะคะ”

อรินลดาพยักหน้าและวิ่งไปนั่งบนเก้าอี้หน้าห้องนั้นแต่โดยดี อัยย์ญาดายืดลำตัวขึ้นยืนและก้มลงมองซองเอกสารสีน้ำตาลในมือด้วยความหวังเล็ก ๆ หลังตระเวนยื่นใบสมัครงานเป็นเลขานุการมาแล้วหลายแห่งเป็นเวลานับเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่มีที่ไหนตอบรับ บางแห่งสัมภาษณ์แต่กลับไร้วี่แววโทรกลับซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่เธอไม่ได้รับการพิจารณาอาจเป็นเพราะว่าเธอมีเรือพ่วง

อลินลดา หรือน้องเอ๋ย

ลูกสาวคนเดียวและเป็นสิ่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่จากหมอกควันแห่งความรัก เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความผูกพันจากเถ้าถ่านความฝันที่ไม่เคยมอดดับแม้ว่า ใครคนนั้น คนที่ทิ้งเธอไปกลางคันในวันแต่งงานตอนอัยย์ญาดาอายุเพียงสิบแปดจะไม่เคยติดต่อกลับมา ไม่เคยกลับมาให้เห็นหน้าและไม่เคยรู้ว่าได้ทิ้งเชื้อไฟแห่งความผูกพันไว้กับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งทุกคืนวันต้องอยู่ท่ามกลางความเดียวดาย หวั่นกลัวและหัวใจแตกสลายเมื่อถูกว่าที่เจ้าบ่าวทอดทิ้งไป เหลือเพียงโซ่ทองเส้นน้อยที่ยึดเหนี่ยวหัวใจของอัยย์ญาดาไว้เพื่อให้เธอมีลมหายใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อลูกเพียงคนเดียว

ร่างเล็กบางก้าวเข้าไปในห้องทำงานฝ่ายบุคคลซึ่งในขณะนั้นมีผู้หญิงอายุประมาณยี่สิบปลาย ๆ นั่งอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่เพียงคนเดียวเงยหน้าขึ้นมองอัยย์ญาดาที่ยกมือไหว้และเอ่ยว่า

“สวัสดีค่ะ...คือ...ดิฉันมาสมัครงานค่ะ”

“หืมม์?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วและก้มลงดูเวลาบนหน้าจอมือถือ “สมัครงานเหรอคะ...ตอนนี้เกือบห้าโมงแล้วนะคะเนี่ย ออฟฟิศปิดแล้วล่ะค่ะ”

“รบกวนรับใบสมัครงานไว้หน่อยได้ไหมคะ คือว่า...ดิฉันพึ่งมาจากอีกโรงแรมน่ะค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะ”

อัยย์ญาดาหน้าซีดลงขณะพนักงานสาวทำสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดและพิจารณา หล่อนมองคนที่มาสมัครงานตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า และเวลาเดียวกันนั้นเองหน้าห้องฝ่ายบุคคลขณะเด็กหญิงนั่งรอบนเก้าอี้ก็หันซ้ายหันขวาเห็นว่ามารดายังไม่ออกมาจึงล้วงหยิบอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกง มันเป็นลูกแก้วในถุงตาข่ายที่รบเร้าให้แม่จ๋าซื้อให้เมื่อวาน อรินลดาใช้ความพยายามแกะมัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ aksaramanee

ข้อมูลเพิ่มเติม
พิศวาสเถื่อน

พิศวาสเถื่อน

โรแมนติก

5.0

“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด

อ้อมกอดร้าย

อ้อมกอดร้าย

โรแมนติก

5.0

เพราะไม่ได้ตั้งใจได้เธอเป็นเมีย เขาจึงยื่นคำขาดว่าจะทำหน้าที่สามีแค่ปีเดียว แต่เขาเองกลับต้องทบทวนสัญญาใหม่ เพราะดันมีโซ่ทองคล้องใจที่เขาไม่อาจปล่อยเธอได้ในท้ายที่สุด ไตรทศ – หทัยภัทร ไตรทศ พ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อแต่ดุดัน กินเหล้าเมาและเข้าห้องผิดในคืนนั้น ทำให้เขาต้องรับผิดชอบ หทัยภัทร ตามความต้องการของพ่อแม่ฝ่ายหญิง ทั้งที่เขารักกับ รติมา ลูกพี่ลูกน้องของหล่อนมาก่อน เขาจำใจรับเธอเป็นเมียถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตลอดเวลากลับแสดงออกและย่ำยีให้เธอเจ็บช้ำเจียนตาย หทัยภัทรต้องทนอยู่กับความเกลียดชังจากสามีที่ไม่เคยรัก หากแต่เธอยอมจำทนมีชีวิตอยู่เพื่อเยื่อใยสุดท้าย ลูก ข้อโซ่บอบบางที่เธอจะไม่มีวันทำลายอย่างเด็ดขาด

วิมานไร้ใจ

วิมานไร้ใจ

โรแมนติก

5.0

ชีวิตคู่จะเป็นยังไง ถ้าสามีอยู่อย่างไร้หัวใจและพร้อมจะเลือกคนอื่น ดวงฤทัย – ปรัชญ์ ปรัชญ์ นายแพทย์ด้านศัลยกรรมมือหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบต้องอดทนกับชีวิตแต่งงานตามความต้องการของคุณย่าที่อยากให้เขามีลูกกับ ดวงฤทัย เด็กนอกตระกูลที่คุณย่าของเขารับมาเลี้ยง เขาเย็นชาและดีกับทุกคนยกเว้นเมียตัวเอง กระทั่งปรัชญ์ได้รู้จักกับ พิสินี ผู้หญิงที่ทำให้เขาเริ่มเอนเอียงและเกิดความรู้สึกไม่อยากกลับบ้าน ดวงฤทัยคงไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้หากผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่คนไข้ที่เขาต้องคอยดูแลเอาใจ แต่ยังเป็นเพื่อนสนิทของดวงฤทัยที่กลับกลายเป็นมือที่สาม แม้ครอบครัวต้องพังทลายแต่เธอจะไม่ยอมยอมสูญเสียหัวใจดวงน้อย ตัวแทนความรักสุดท้ายที่ ดวงฤทัยพาหลีกหนีไปให้ไกลจากวิมานไร้ใจของเธอ

เมียจองจำ

เมียจองจำ

โรแมนติก

5.0

เธอต้องกลายเป็นเมียที่ถูกกักขังโดยไม่ได้ตั้งใจ มุกดา – หัสดินทร์ มุกดาถูกขอร้องให้นำเงินหนึ่งล้านบาทมาใช้หนี้แทน นที ลูกชายเจ้าสัวผู้มีพระคุณ แต่กลับถูกพ่อเลี้ยงหัสดินทร์ยืนข้อเสนอให้เธอเป็นเมียเก็บแลกกับการไว้ชีวิตนที ที่ทำให้น้องสาวของเขาท้องและแท้งลูกเสียชีวิต เธอจำต้องรับข้อต่อรองเพื่อทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณโดยที่หัสดินทร์ไม่รู้เลยว่าเขากำลังทำผิดอย่างมหันต์ ทั้งกลั่นแกล้ง ข่มเหงน้ำใจและทำให้เธอเจ็บช้ำ ด้วยการบีบบังคับให้เธอท้องกับเขา หัสดินทร์หวังจะเอาคืนด้วยการเก็บลูกเอาไว้แล้วเฉดหัวมุกดากลับไปแต่สุดท้ายเขาต่างหากที่ไม่อาจอยู่ได้โดยปราศจากเธอและลูก

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

เกิดใหม่ในเงามืด

เกิดใหม่ในเงามืด

Orson Erickson
5.0

ครอบครัวเสิ่นเลี้ยงดูเซี่ยซางหนิงเป็นเวลา 20 ปี และเธอเองก็ถูกเอาเปรียบมาเป็นเวลา 20 ปีเช่นกัน วันหนึ่ง พวกเขาตามหาลูกสาวตัวจริงพบ และเซี่ยซางหนิงก็ถูกไล่ออกจากตระกูลเสิ่น ได้ยินมาว่าพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเธอกำลังเผชิญกับความยากลำบากอย่างหนัก แต่ความเป็นจริง พ่อแม่ทางสายเลือดของเธอเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงในเมืองไห่ เป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดที่ตระกูลเสิ่นไม่สามารถเอื้อมถึงได้ ตระกูลเสิ่นที่คอยดูว่าเซี่ยซางหนิงจะต้องตกอับอย่างน่าสมเพช แต่กลับต้องตกตะลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับตัวตนของเซี่ยซางหนิง ผู้มีอิทธิพลในการเงินระดับโลก วิศวกรระดับแนวหน้า นักแข่งรถอันดับหนึ่งของโลก... เธอยังมีความสามารถที่ซ่อนอยู่อีกกี่อย่างกันแน่ คู่หมั้นยกเลิกการหมั้นกับเซี่ยซางหนิง อย่างไรก็ตาม เมื่อเซี่ยซางหนิงไปออกเดทกับพี่ชายฝาแฝดของเขา เขากลับปรากฏตัวขึ้นและสารภาพรักกับเธอ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ