สุดสวาทเมียพรหมจรรย์

สุดสวาทเมียพรหมจรรย์

มณีน้ำเพชร

4.9
ความคิดเห็น
428.6K
ชม
90
บท

เพราะรัก...มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟิเรนเซ่ จึงต้องกลายร่างจากเสือมาเป็นแมวตัวผู้ขี้อ้อน เพื่อออเซาะหาไออุ่นจากคนรักผู้แสนเย้ายวน “พี่ราฟ! นอนดีๆ สิคะ แบบนี้จะดูหนังได้ยังไง” “ไม่ดูแล้ว” มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวโต สัมผัสเนื้อแท้ที่เนียนนุ่มและเย็นลื่น “แต่น้ำผึ้งอยากดูนี่คะ กำลังสนุกเลย พระเอกกำลังจะตามหานางเอกเจอด้วยค่ะ” สาวน้อยปัดป้องสุดแรง แต่แรงเท่ามดหรือจะสู้แรงช้างสารได้ “เจอแล้ว พระเอกเจอนางเอกแล้ว นี่ไง...กำลังกอดอยู่นี่ไง” เสียงแหบพร่ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเล็กๆ ก่อนงับติ่งหูนุ่มของคนดื้อรั้นเบาๆ “ไม่...น้ำผึ้งจะดูหนัง พี่ราฟปล่อยน้ำผึ้งเดี๋ยวนี้นะ” “ไม่ปล่อย จนกว่าพี่จะได้กินน้ำผึ้งก่อน หนังน่ะ เอาไว้ค่อยดูทีหลังก็ได้ เสร็จก่อนแล้วค่อยดู นะ...นะ” เสียงออดอ้อนออเซาะที่แหบกระเส่าของราฟาเอลไม่เป็นผล เมื่อมธุรสออกแรงผลักราฟาเอลเต็มแรง ภาพของนางแบบสาวที่ตรงรี่เข้ามาจูบปากราฟาเอล ทำให้สาวน้อยมีแรงฮึดสู้ แรงผลักนั้นทำให้ร่างของราฟาเอลกลิ้งตกโซฟาแต่ร่างบางก็กลิ้งตามลงไปด้วย เพราะชายหนุ่มไม่คิดจะปล่อยร่างบาง “ตุบ” “โอ๊ย...น้ำผึ้งจะดิ้นทำไม เห็นมั้ยว่าพี่เจ็บ” ราฟาเอลโอดครวญ แต่แววตานั้นแพรวพราวจนน่าหยิก

บทที่ 1 1 1

ตอนที่ 1

สาวน้อยหน้าหวานที่อยู่ในชุดกระโปรงรัดติ้วไปทุกสัดส่วนสีแดงเพลิงสุดร้อนแรง กำลังนั่งก้มหน้าที่ถูกแต่งจนเข้มด้วยฝีมือของหญิงร่วมอาชีพเดียวกัน มธุรส พงศ์ศักดา หรือน้ำผึ้ง สาวน้อยที่มีชื่อหวานสมกับใบหน้า กำลังตรองไม่ตกกับอาชีพใหม่ที่ถูกยัดเยียดให้จากแม่เลี้ยงสาว บิดาของเธอเพิ่งจะจากไปเมื่อไม่นานหลังจากที่มารดาบังเกิดเกล้าก็ทอดทิ้งเธอให้อยู่กับบิดาเรื่อยมา มธุรสในวันนี้มีอายุ 20 ปีเต็ม เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ แต่แทนที่สาวน้อยจะมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ กลับต้องมานั่งน้ำตาตกในอยู่แบบนี้แทน

“น้ำผึ้ง แกจะคิดอะไรมากวะ ชีวิตพวกเรามันเลือกไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็อด หรือแกอยากจะกลับไปให้นังแม่เลี้ยงโขกสับ ดุด่าและจิกหัวใช้งานหนักๆ เหมือนเดิม วันดีคืนดียังโดนตบโดนตีซะอีก อีกอย่างนะดีไม่ดีผัวใหม่มันจะรวบหัวรวบหางแกซะด้วยซ้ำ” มณีรัตน์ หรือเม่นบอกอย่างรู้เรื่องของสาวน้อยดี เพราะบ้านอยู่ติดกัน

“แต่ว่า...น้ำผึ้งกลัวน่ะเม่น” มธุรสบอกเสียงสั่นอย่างน่าสงสาร

“น้ำผึ้ง ฉันเข้าใจแกนะ แต่แกอย่าลืมสิว่านังแม่เลี้ยงใจยักษ์ของแก มันรู้จักกับเจ้าของผับนี้ด้วย ถ้าแกไม่ทำงาน มันเล่นงานแกแน่ นอกจากว่าแกจะหนีไป เฮ้อ...แต่ก็นั่นแหละ เงินก็ไม่มีติดตัวจะหนีไปไหนรอด แกก็ต้องสู้กับงานนี้สักตั้ง เสียตัวครั้งเดียว แกก็มีเงินพอจะหนีไปจากนังแม่เลี้ยงได้แล้วนะ”

“เม่น...”

“เชื่อฉันนะน้ำผึ้ง ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้แกทำงานแบบนี้ แต่แกไม่มีทางเลือก ไอ้ฉันเองจะให้เงินแกหนีไป ฉันก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย เพราะเพิ่งจะเริ่มทำงานนี้เหมือนกัน แต่ถ้าแกไปถูกใจเสี่ยคนใดคนหนึ่งเข้า แกก็จะสบายเลยนะ ยิ่งสาวสวยสดๆ ซิงๆ อย่างแก พวกเสี่ยตัณหากลับมันยิ่งชอบ แกจะได้ไม่ต้องไปเปลืองตัวให้คนอื่นอีกไงล่ะ”

มธุรสทอดถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะลุกขึ้นยืน ไม่ใช่ว่าเธอจะคล้อยตามมณีรัตน์ แต่เป็นเพราะเธอไม่มีทางเลือกต่างหาก และครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวที่เธอจะตัดสินใจทำงานนี้ จากนี้เธอจะต้องหนีไปให้ได้ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าทนอยู่แบบนี้

“ตกลงเม่น ครั้งนี้ครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวของน้ำผึ้ง”

มณีรัตน์พยักหน้าให้ และส่งยิ้มน้อยๆ เป็นกำลังใจให้มธุรส ก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปยังห้องที่พวกเธอจะต้องเข้าไปนั่งเรียกแขก

ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มรูปงาม เครื่องหน้าทุกชิ้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ใช่คนไทยแน่นอน ผู้เป็นเจ้าของใบหน้าคมคาย ดวงตาสีฟ้าคู่คมกริบ ขนตายาวหนาเป็นแพแต่ไม่งอนงามเหมือนอิสตรี จมูกโด่งขึ้นสันสวย ปลายคางบึกบึนผ่าเล็กน้อย ประดับด้วยไรเคราที่เริ่มขึ้นเขียว ราฟาเอล โปราซซีนี่ มาเฟียหนุ่มแห่งเมืองฟิเรนเซ่ ประเทศอิตาลี เจ้าของธุรกิจการฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในฟิเรนเซ่และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 6 คน เดินเข้ามาในผับลาลาซ่า

ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามา ทุกคนที่อยู่ในผับต่างก็หันไปให้ความสนใจ เพราะไม่ค่อยเห็นผู้ชายใส่สูทแต่งตัวเต็มยศเข้ามาเที่ยวผับแบบนี้พร้อมกัน 7 คน

“สวัสดีครับท่าน ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ ผับลาลาซ่ามีบริการครบวงจรนะครับ” ผู้จัดการหนุ่มที่พอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ตรงเข้ามาถามทันทีที่ราฟาเอลนั่ง ส่วนบอดี้การ์ดอีก 6 คน เลือกที่จะนั่งบนโซฟาชุดติดกันกับเจ้านาย

“ที่ว่าครบวงจรน่ะ มีอะไรบ้างล่ะ” ราฟาเอลถามเป็นภาษาไทยแปร่งๆ เขาพูดได้ 5 ภาษา และหนึ่งในนั้นก็คือภาษาไทยนั่นเอง

“ก็มีอาหาร เครื่องดื่ม ผู้หญิงพร้อมสถานที่ครับ”

“ผู้หญิงเหรอ ดีเลยฉันกำลังต้องการอยู่พอดี แต่ขอสวยๆ ที่บริการถึงใจหน่อยแล้วกันนะ” ราฟาเอล บอก

“ได้เลยครับท่าน แต่...ท่านจะเข้าไปเลือกเองก็ได้นะครับ เพื่อจะได้ถูกใจท่านที่สุด”

“เลือกได้ด้วยเหรอ ดีจริง เอาสิ...” แล้วราฟาเอลก็เดินตามผู้จัดการร้านเข้าไปด้านใน

ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องกระจก ซึ่งทำที่นั่งเป็นชั้นๆ เหมือนอรรถจรรย์ ในนั้นมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาแต่งตัวยั่วยวน และกำลังส่งสายตาเชิญชวนมาที่เขาเกือบทุกคน ยกเว้น...ผู้หญิงในชุดสีแดงเพลิงที่เพียงแต่ตวัดสายตาขึ้นมองเขาชั่วแวบเดียว แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเอง ราวกับว่ามือของเธอมีนิ้วงอกขึ้นมาอีกนิ้วอย่างงั้นแหละ

ราฟาเอลกวาดตามองร่างบางในชุดสีแดงเพลิงอย่างสนใจ ชุดที่เธอคนนั้นสวมมันช่างน่ารัดรึงยั่วยวนให้เขาเป็นผู้ถอดเสียนี่กระไร ผิวของเธอขาวผ่องตัดกับสีแดงนั้นอย่างงดงาม ราฟาเอลมองเธออยู่นานด้วยความลุ่มหลง แม้หญิงสาวจะไม่ได้ส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนเหมือนคนอื่น แต่เขาคิดว่าสาวน้อยคนนั้นคงจะร้อนแรงเหมือนชุดที่ใส่แน่ๆ

“ฉันเอาผู้หญิงชุดสีแดงเพลิงคนนั้น” ราฟาเอลบอก และชี้นิ้วไปทางสาวน้อยชุดแดงที่นั่งก้มหน้าก้มตาอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

“ได้ครับท่าน แล้วท่านจะใช้บริการสถานที่ของเรามั้ยครับ”

“อืม...ฉันอยากได้ห้องที่มีเตียงน้ำ และมีกระจกล้อมรอบ รวมทั้งบนเพดานด้วยมีมั้ย”

“มีครับ เดี๋ยวผมให้เด็กพาขึ้นไปนะครับ ส่วนผู้หญิงเดี๋ยวผมจะให้เธอตามขึ้นไป” ผู้จัดการหนุ่มรีบบอก และคำนวณรายได้ครั้งนี้ในใจอย่างรวดเร็ว

ราฟาเอลไม่ตอบได้แต่พยักหน้า ผู้จัดการหนุ่มเรียกบริกรมานำแขกพิเศษที่ท่าจะมีเงินถุงเงินถังขึ้นไปยังห้องที่ต้องการ ก่อนจะเรียกสาวน้อยในชุดแดงออกมาจากห้องกระจก

“น้ำผึ้งรับแขก”

มธุรสสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะต้องทำงานนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มธุรสเดินออกมาจากห้องกระจก ขาแข้งของเธอสั่นจนแทบจะก้าวขาเดินไม่ไหว

“ห้อง 3505 บริการแขกดีๆ ล่ะ ถ้าเธอบริการเขาถึงใจ รับรองว่าวันนี้เธอรวยแน่ เพราะแขกคนนี้ดูท่าจะกระเป๋าหนักน่าดูเลยล่ะ” ผู้จัดการหนุ่มบอก

“คะ...ค่ะ”

“เอ้า...อย่าลืมพกถุงไปด้วย แล้วนี่...เธอใช้มันเป็นรึเปล่านี่ ครั้งนี้ครั้งแรกนี่นา”

“ปะ...เป็นค่ะ” มธุรสตอบ ใบหน้าหวานสวยนั้นแดงก่ำ จริงๆ แล้วเธอใช้ไม่เป็นหรอก เพราะไม่เคยใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆ ก็คงไม่ยากหรอก

“ดีๆ เอาไปสัก 3 อัน ถ้าไม่พอกดลงมาบอกจะให้เด็กเอาขึ้นไปให้” ผู้จัดการหนุ่มบอกอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่มธุรสไม่ปกติ หญิงสาวอดหวาดหวั่นไม่ได้ ถ้า 3 อันแล้วยังไม่พอ เธอคงตายแน่ๆ

“ไปๆ อย่าชักช้า เดี๋ยวแขกรอนานแล้วจะอารมณ์เสียซะก่อน” ผู้จัดการหนุ่มบอก และดันหลังมธุรสให้เดินขึ้นไปทันที

หญิงสาวฝืนกายเดินขึ้นไปยังห้อง 3505 ช้าๆ เพื่อเป็นการถ่วงเวลา แต่เพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดลงที่หน้าห้องดังกล่าว สาวน้อยทอดถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง 3 ครั้ง และเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ประตูสู่ห้องพล่าผลาญพรหมจรรย์ของเธอ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มณีน้ำเพชร

ข้อมูลเพิ่มเติม
อาเขยจอมเถื่อน

อาเขยจอมเถื่อน

โรแมนติก

5.0

เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”

ด้วยมนตราแห่งรัก

ด้วยมนตราแห่งรัก

โรแมนติก

5.0

“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว

เพลงกาม

เพลงกาม

โรแมนติก

5.0

เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

ที่แท้เป็นผู้มีอิทธิพลระดับโลก

Odey Jagoe
5.0

เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO

การแต่งงานที่ไม่คาดคิดของฉันกับ CEO

Pumpkin Witch
4.9

เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ