Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ด้วยมนตราแห่งรัก

ด้วยมนตราแห่งรัก

มณีน้ำเพชร

5.0
ความคิดเห็น
81.4K
ชม
97
บท

“เจ้านายอย่าคิดว่า ความคิดความรู้สึกของเจ้านายนั้นถูกหมดทุกอย่างนะคะ” สาวน้อยเริ่มไม่พอใจ ที่เขาหาเรื่องรวนเธอ ชวนนท์ยืนขึ้น ก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานมาหยุดอยู่หน้าหญิงสาว ห่างกันแค่มือเอื้อมถึง ความสูงใหญ่ของเขาทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยิ่งเล็กลงไปอีก “เธออย่าปฏิเสธฉันเลยดลลดา ตั้งแต่วันแรกที่เธอเข้ามา ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าเธอกลัวฉัน” “ดิฉันไม่มีเหตุผลอะไรต้องกลัวคุณ” หญิงสาวเชิดหน้าตอบ “แน่ใจเหรอ” “ค่ะ” แล้วลำแขนเรียวกลมกลึง ก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าหาตัวชายหนุ่ม จนทรวงอกนุ่มหยุ่นแนบชิดกับอกกว้างแข็งแรงของเขา ดลลดาขืนตัวเอาไว้เต็มกำลังที่มี แม้จะเหลืออยู่น้อยนิดก็ตาม ดวงตาคู่สวยมองสบดวงตาคมกริบด้วยความหวาดกลัว “นั่นไง เธอกลัวฉันจริงๆ” ชวนนท์เห็นความกลัวในดวงตาของหญิงสาว “เจ้านาย ปล่อยค่ะ” เสียงใสๆ นั้นสั่นระรัว

บทที่ 1 1 1

ร่างบอบบางในชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ยืนตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายอยู่ด้านหน้าตึกสูง 25 ชั้น ของบริษัท อัครเดชไพศาล(กรุ๊ป) จำกัด (มหาชน) นางสาวดลลดา ฤทธาภิวัฒน์ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ อยู่ 3 ครั้ง ก่อนจะก้าวขาเรียวสวย ภายใต้กระโปรงสีดำ จีบรอบตัว ยาวแค่เข่า เข้าไปด้านใน สาวน้อยตรงไปจุดที่มีป้ายบอกว่าเป็นประชาสัมพันธ์ทันที

“ขอโทษนะคะ ดิฉันมาจากมหาวิทยาลัย... ขอเข้าพบฝ่ายบุคคลค่ะ”

ดลลดา แจ้งให้พนักงานสาวสวยให้ทราบว่าเธอมาจากไหน และต้องการพบใคร

“ไม่ทราบว่าต้องการพบด้วยเรื่องอะไรคะ”

ประชาสัมพันธ์สาวสวยถาม

“คือว่า ดิฉันถูกส่งตัวมาจากมหาวิทยาลัย เรื่องที่บริษัท อัครเดชไพศาล(กรุ๊ป) จำกัด ได้ตอบรับการรับนักศึกษาเข้าฝึกงานค่ะ และดิฉันก็เป็นนักศึกษาคนนั้นค่ะ”

“อ๋อ รอสักครู่นะคะ”

ดลลดา รออยู่สักพัก พนักงานสาวก็บอกทางให้เดินไปห้องฝ่ายบุคคล

“ขอบคุณค่ะ”

สาวน้อยกล่าวขอบคุณพนักงานสาวเบาๆ

ดลลดา เดินไปตามทางที่พนักงานสาวบอก ตลอดทางเดิน สาวน้อยมองสำรวจไปทั่ว ตึกอัครเดชไพศาลนี้กว้างใหญ่นัก ภายในปูพรมมีลวดลายสวยงาม เน้นสีน้ำตาลปนดำตลอดทางเดิน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฐานะทางการเงินของเจ้าของนั้นมั่นคงขนาดไหน ความสะอาดก็เป็นเลิศแม่บ้านคงเช็ดถูทั้งวันแน่ เงาวับจนแทบจะส่องกระจกได้อยู่แล้ว เดินสำรวจโน่นนี่จนเพลิน พอหันหน้ามาอีกทีก็พบห้องหนึ่ง ที่มีป้ายบอกว่าเป็นห้องฝ่ายบุคคล สาวน้อยยกมือเคาะประตูอยู่ 3 ครั้ง และก็ผลักเข้าไปพบหญิงอายุประมาณ 40 ปี ใส่แว่นตาหนาเตอะ มองมาที่หล่อน และมีพนักงานหญิงนั่งทำงานอีก 4 คน

“นั่งสิ”

หญิงวัย 40 บอก

“ชื่ออะไร”

พอดลลดานั่งลงปุ๊บ น้ำเสียงเข้มงวดก็เอ่ยถาม

“ดลลดา ฤทธาภิวัฒน์ ค่ะ”

“อืม… ต้องการฝึกงานด้านเลขานุการรึ”

“ค่ะ”

เมื่อสาวน้อยตอบไปแล้ว สายตาภายใต้แว่นตาอันหนาเตอะ ก็มองจ้องมาที่ใบหน้าหวานนิ่งอยู่พักนึง

“ถ้าจะถามว่าเธอสามารถทนต่อสภาวะความกดดันได้ดีแค่ไหน เธอคงตอบไม่ได้เพราะยังไม่เคยผ่านงาน เอาเป็นว่าตลอดเวลา 3 เดือน ที่เธอต้องทำงานที่นี่ ฉันขอให้เธอพยายามอดทนต่อความกดดันที่เกิดขึ้น งานเลขานุการขึ้นตรงกับเจ้านายใหญ่โดยตรง และคนที่แบกภาระอันหนักอึ้ง มีความรับผิดชอบสูง และเป็นเจ้านาย ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์บ่อย ฉันหวังว่าเธอคงทนให้ได้จนครบ 3 เดือน แล้วกันนะ”

“ค่ะ” ถึงแม้ ดลลดาจะไม่ค่อยเข้าใจกับคำเตือนนั้น แต่สาวน้อยก็รับคำ

“ฉัน พิจิตรา ยินดีต้อนรับเธอร่วมงานกับเรา เดี๋ยวเธอขึ้นไปชั้น 25 พบกับคุณ อรอนงค์ เขาเป็นเลขาฯ ของคุณชวนนท์ เธอจะต้องเรียนรู้งานจากคุณอรอนงค์ ขอให้โชคดี”

ดลลดาเพิ่งจะรู้ว่าบุคคลที่นั่งคุยและเตือนเธอนั้นชื่อ พิจิตรา แล้วสาวน้อยก็ขึ้นไปชั้น 25 ตามที่คุณพิจิตราบอก

ชั้นที่ 25 นี้ มีเพียงโต๊ะทำงานซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของเลขานุการเพียงตัวเดียว และมีห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องผู้บริหารอีก 3 ห้อง เท่านั้น

“น้องที่มาฝึกงานกับพี่ใช่ไหมคะ ดีใจจังเลยค่ะที่พี่จะมีเพื่อนแล้ว ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็เถอะ”

อรอนงค์ ส่งยิ้มต้อนรับอย่างยินดีมาให้สาวน้อย ดลลดายิ้มตอบ เริ่มรู้สึกคลายกังวลไปมาก เมื่อได้คุยกับอรอนงค์

“เดี๋ยวน้องรอสักครู่นะคะ พอดีว่าพี่ป่วยเลยหยุดงานไป 2 วัน โต๊ะของน้องก็เลยยังไม่มีใครยกมาให้ เดี๋ยวพี่จะให้ยามยกขึ้นมาให้นะคะ”

อรอนงค์บอก และเมื่อพนักงานรักษาความปลอดภัย 2 คน ยกโต๊ะขึ้นมาให้พร้อมเก้าอี้เรียบร้อย อรอนงค์ก็ให้ ดลลดานั่งทำงานที่โต๊ะตัวนั้น ทั้งบอกอีกว่า วันนี้คงไม่ค่อยมีงานอะไรมาก เพราะเจ้านายไม่อยู่ ทั้งสองเลยได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น

ดลลดาพอใจในอัธยาศัยไมตรีของอรอนงค์ ที่เป็นคนร่าเริงและคุยสนุก พอได้เวลาเที่ยงอรอนงค์ก็พาดลลดาลงไปทานอาหารในโรงอาหารที่จัดไว้ให้สำหรับพนักงาน และทราบอีกว่า อาหารกลางวันมีไว้บริการแก่พนักงานทุกคนฟรี ถือเป็นสวัสดิการแก่พนักงาน

“ดีจังเลยนะคะ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ” ดลลดาบอก ส่งยิ้มหวานให้อรอนงค์

“พวกเราโชคดีที่ได้ทำงานที่นี่จ้ะ เงินเดือนที่ได้รับก็มากพอสมควร แถมได้กินข้าวฟรีอีกด้วย เอาไว้ถ้าดรีมจบการศึกษาแล้ว ก็เข้ามาทำงานที่นี่ได้นะ เพราะดรีมได้เข้ามาฝึกงานที่นี่แล้ว”

“ดีเลยค่ะ เอ... แต่ว่าไม่รู้ว่าดรีมจะผ่านการทดลองงานรึเปล่าน่ะสิคะ”

“อย่าเพิ่งกังวลเลย เพิ่งเข้ามาวันแรก แต่พรุ่งนี้เจ้านายกลับมา ดรีมกับพี่คงหัวฟูไม่ได้มีโอกาสมานั่งคุยกันสนุกแบบนี้หรอก”

“ค่ะ ดรีมจะตั้งใจทำงาน ช่วยพี่อรให้ดีที่สุดค่ะ”

“จ้ะ”

เช้าวันที่สองของการทำงาน วันนี้ดลลดามาถึงที่ทำงานสาย เพราะรถติดซึ่งเป็นปัญหาโลกแตกของกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร เท้าบางๆ ในรองเท้าหุ้มส้น วิ่งเข้าบริษัท ตรงไปที่ลิฟต์ซึ่งประตูกำลังจะปิดพอดี

“เดี๋ยวค่ะ รอด้วยค่ะ ขอไปด้วยคน”

เสียงใสๆ บอกผู้ที่อยู่ในลิฟต์ พร้อมกับมือบางที่ยื่นเข้าไปในลิฟต์ เมื่อเห็นว่าประตูจะปิดแล้ว และคนที่อยู่ในลิฟต์ก่อนแล้วคงจะไม่ได้ยินเสียงเธอ ทำให้ข้อมือบาง โดนประตูหนีบก่อนที่ประตูจะดีดตัวออกจากกันเมื่อเจอสิ่งกีดขวาง

“โอ๊ย!” ดลลดาอุทาน เมื่อรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ

ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ข้อมือข้างเดิมก็ถูกมือใหญ่กระชากเข้าไปในลิฟต์ ด้วยความตกใจ ทำให้สาวน้อยเงยหน้าขึ้นมองคนที่ฉุดข้อมือตน ด้วยความฉุนกึก

แต่แล้วคำพูดที่กำลังจะถูกส่งผ่านออกมาจากริมฝีปากอิ่มนั้น ก็ต้องถูกกลืนลงไปในลำคอทันที เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ทำอุกอาจกับตน ดวงตากลมโตสีดำสนิทส่งประกายสดใสราวนิลน้ำดีเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากอิ่มเผยอออกอัตโนมัติ ไม่ใช่ว่าสาวน้อยกำลังเห็นภูตผีปีศาจหรอกนะ แต่เป็น...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มณีน้ำเพชร

ข้อมูลเพิ่มเติม
อาเขยจอมเถื่อน

อาเขยจอมเถื่อน

โรแมนติก

5.0

เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”

เพลงกาม

เพลงกาม

โรแมนติก

5.0

เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ