Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เพลิงรักหัวใจเถื่อน รีไรท์

เพลิงรักหัวใจเถื่อน รีไรท์

มณีน้ำเพชร

5.0
ความคิดเห็น
685
ชม
49
บท

待补充

บทที่ 1 บทนำ1

“น้องดา ไหว้พี่ภูสิลูก” กำนันมิตร โพธิ์วิจิตรบอกบุตรสาวในวัย 6 ขวบ ที่กำลังน่ารักน่าชังในสายตาของผู้ใหญ่ เด็กหญิงมธุรดามองเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้าอย่าสงสัย ก่อนพนมมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยงดงาม ทำให้เด็กชายภูผา ชัยเชษฐ์ในวัย 10 ขวบ ต้องยกมือขึ้นรับไหว้ และส่งยิ้มอ่อนโยนให้น้องตัวน้อย

“ภู...นี่น้องดา คนที่ภูจะต้องดูแลไปตลอดชีวิต เมื่อภูมีอายุครบ 28 ปีนะลูก” นายหัวภูศิษฐ์บอกลูกชาย

“ดูแลตลอดชีวิต หมายความว่ายังไงครับพ่อ” เด็กชายภูผาไม่เข้าใจในคำพูดของบิดาเท่าไรนัก จึงถามอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ

“ภูไม่ต้องไปหาเจ้าสาวที่ไหนแล้วไงลูก พอภูอายุครบ 28 ปี ภูจะมีเจ้าสาวที่ชื่อมธุรดาหรือน้องดาคนนี้” นายหัวภูศิษฐ์อธิบาย

ในเวลานั้นเด็กชายและเด็กหญิงยังไม่เข้าใจผู้ใหญ่นัก แต่ความที่ถูกชะตากันของทั้งคู่ ทำให้พี่ภูและน้องดาสนิทสนมกันเรื่อยมา และเป็นบ่อเกิดของความรักแต่หาใช่ความรักระหว่างชายหญิงไม่ แต่กลับเป็นความรักระหว่างพี่ชายกับน้องสาว

“แม่ครับ คำว่าเจ้าสาว หมายถึงผู้หญิงที่ต้องแต่งานกับผู้ชายคนหนึ่ง และคนทั้งคู่รักกันด้วยใช่มั้ยครับ” เด็กชายภูผาถามมารดาขึ้นในวันหนึ่ง

“ใช่จ้ะ” รสรินมารดาของภูผาตอบ

“แล้วคนไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้มั้ยครับ”

รสรินถอนหายใจยาว ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าบุตรชายถามเพราะอะไร แต่เรื่องระหว่างเพื่อนรักคือสามีของเธอกับกำนันมิตรนั้น เป็นเรื่องที่เธอเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ได้ เพราะตอนที่เธอแต่งงานกับภูศิษฐ์ กำนันมิตรและคุณถนอมซึ่งเป็นภรรยายังไม่มีบุตร และได้พูดกับคู่บ่าวสาวคู่ใหม่ว่า

“ถ้านายมีลูกสาว นายต้องยกลูกสาวนายให้ลูกชายเรานะภูศิษฐ์” กำนันมิตรบอก

“ได้สิเพื่อนรัก และถ้านายมีสาว นายก็ต้องยกลูกสาวให้ลูกชายเราด้วยนะมิตร” และภูศิษฐ์ก็ตอบรับอย่างยินดี

มันเป็นเหมือนคำมั่นสัญญาที่เพื่อนรักให้ไว้ต่อกัน และคำพูดของลูกผู้ชายที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคง เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาของคนทั่วไป ทำให้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขคำพูดนั้นได้

รสรินมองน้องลูกชายที่จ้องมองมาตาแป๋วอย่างอยากรู้ ก็ย่อตัวลงและลูบศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่

“ถึงจะยังไม่รักกัน แต่หลังจากแต่งงานกันแล้ว ก็ต้องรักกันเข้าสักวันหนึ่งนะลูก” นั่นเป็นคำตอบที่รสรินคิดว่าดีที่สุดในเวลานั้น

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว บัดนี้เด็กชายภูผาเติบโตขึ้นจนอายุ 25 ปี ร่างสูงกำยำดูสง่าผ่าเผยและรูปงามยิ่งนัก เขาเป็นที่หมายปองของสาวๆ มากมาย แต่ยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่เธอไม่คิดจะมองภูผาอย่างหมายปองมากกว่ามองด้วยความชื่นชมและภูมิใจในตัวพี่ชายคนนี้

“พี่ภูคะ น้องดาว่าเราน่าจะหากุหลาบดินมาปลูกแถวนี้นะคะ เหมืองชัยเชษฐ์จะได้ดูมีสีสันขึ้นมาหน่อย”

“ก็แล้วแต่น้องดาสิครับ อีกหน่อยน้องดาก็จะมาอยู่ที่นี่ในฐานะของนายหญิง น้องดาอยากทำอะไรก็ทำได้ตามใจชอบ”

“พี่ภูขา...” มธุรดาเรียกชายหนุ่มเสียงหวาน

“ว่าไงครับ” ภูผาเองก็ตอบรับเสียงนุ่มเช่นกัน

“พี่ภูไม่มีคนรักเหรอคะ น้องดาเห็นสาวๆ ตบแถวเรียงหน้ากระดานเข้าหาพี่ภูตั้งเยอะ ไม่ชอบใครสักคนเลยเหรอคะ”

ภูผาชะงักไปนิด ก่อนมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยของมธุรดานิ่ง เขายังไม่คิดจะรักใคร เพราะยังอยากใช้ชีวิตอิสระให้คุ้มค่าก่อน และอีกไม่กี่ปีภาระหน้าที่ที่จะต้องดูแลผู้หญิงตรงหน้าก็จะเริ่มขึ้นแล้ว มธุรดาเป็นผู้หญิงที่น่ารักอ่อนหวาน เขาคิดว่าสักวันคงจะรักเธอได้ไม่ยาก ตามที่มารดาเคยพูดเอาไว้

“แล้วน้องดาล่ะ มีคนรักหรือยัง เอ...แต่ใครน๊อ จะมาชอบผู้หญิงขี้แยแบบนี้ ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ” ภูผาถามกลับและกระเซ้าด้วยคำพูด จนหญิงสาวหน้าแดงที่ถูกล้อ

“เชอะ...ไม่ต้องมาล้อเค้าเลยนะ สักวันเค้าก็ต้องมีคนรักอยู่แล้วล่ะ” มธุรดาทำปากยื่นและแลบลิ้นปลิ้นตาให้ภูผา

จากนั้นไม่นานภูผาก็ถูกบิดาส่งไปเรียนต่ออเมริกาด้านธรณีวิทยา เพื่อกลับมาดูแลกิจการเหมืองแร่ต่อจากผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 3 ปี ในขณะนั้นมธุรดาก็มีผู้ชายมากหน้าหลายตามาจีบ แต่เธอกลับไม่ชอบใครสักคนเลย จนกระทั่งภูผากลับมา

มธุรดาไปรอรับที่สนามบิน ภูผาในวันนี้ดูเป็นหนุ่มใหญ่ ร่างสูงสง่างามนั้นน่าเกรงขาม ใบหน้าคมเข้มที่เปื้อนยิ้มให้เธอได้ตลอดเวลาก็ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“สวัสดีค่ะพี่ภู ยินดีต้อนรับกลับเมืองไทยนะคะ ไหนๆ มีสาวๆ ตามมาบ้างหรือเปล่าเอ่ย...” มธุรดาแกล้งชะโงกหน้าไปด้านหลังของภูผา ทำทีเป็นหาสาวตาน้ำข้าวที่อาจจะตามติดมา เพราะพี่ภูของเธอในวันนี้หล่อเหลากว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วมาก

“ยัยบ๊อง พี่ยังนิยมของไทยจ้ะ ไม่นิยมของนอก แล้วเราล่ะ เจอคนถูกใจรึยัง” ภูผาจิ้มนิ้วชี้เข้าที่หน้าผากมน และยิ้มกว้าง

“เฮ้อ...ยังเลยค่ะ พี่ภูคงต้องมีน้องดาเป็นเจ้าสาวจริงๆ แล้วล่ะค่ะ”

“พี่น่ะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ยังไม่ได้รักใคร แต่น้องดาน่ะสิ ถ้าเราแต่งงานกันแล้ว น้องดาไปเจอคนถูกใจเข้าจะทำยังไง พี่ก็คงปล่อยให้น้องดามีความสุขกับคนที่รัก” ภูผาบอกอย่างปลงตก ถ้ามธุรดาไม่มีคนรัก วันหนึ่งเธอกับเขาคงจะรักกันได้อย่างแน่นอน ภูผาถอนหายใจออกมาแรงๆ

“ขอบคุณนะคะพี่ภูที่เข้าใจ น้องดาโชคดีที่สุดที่มีพี่ชายอย่างพี่ภู”

และวันแต่งงานของทั้งคู่ก็มาถึง งานแต่งงานของภูผาและมธุรดาจัดว่าเป็นงานแต่งงานที่โด่งดังที่สุดในจังหวัดระนอง เพราะบิดาและมารดาของเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สังคม ฉะนั้นแขกเหรื่อที่มาร่วมงานในวันนี้จึงแน่นขนัด ลานกว้างของเหมืองชัยเชษฐ์แทบจะต้อนรับแขกที่มาร่วมงานไม่พอเลยทีเดียว จนกระทั่งถึงเวลาส่งตัวเข้าห้องหอและบิดามารดาทั้งสองฝ่ายเข้าไปให้ศีลให้พรและกลับออกไปแล้วนั่นแหละ

“เหนื่อยจัง” มธุรดาบ่นออกมาทันทีที่ประตูห้องหอปิดสนิท

“เหนื่อยก็ไปอาบน้ำแต่งตัวและเข้านอนซะ”

“อ้าว...แล้วพี่ภูล่ะคะ นอนที่ไหน”

ภูผาพยักเพยิดไปที่ประตูเล็กๆ ด้านขวามือ

“นั่นเป็นประตูเข้าไปห้องข้างๆ พี่จะไปนอนห้องโน้น ส่วนน้องดาก็นอนห้องนี้แล้วกัน ไม่ต้องกลัวว่าใครจะจับได้ เพราะกุญแจห้องข้างๆ นั่นอยู่ที่พี่คนเดียว คนอื่นไม่มีเก็บไว้ เพราะเป็นห้องของพี่ตอนเด็กๆ”

“ขอบคุณนะคะพี่ภู” มธุรดาซาบซึ้งในน้ำใจของภูผา เพราะเขาไม่คิดจะล่วงเกินเธอ และทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเรื่อยมา แม้กระทั่งแต่งงานกันแล้วแบบนี้ เขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง แต่เขาก็ไม่ทำเหตุผลง่ายๆ คือ ภูผาไม่ได้รักมธุรดานั่นเอง

หลังจากงานแต่งงานผ่านพ้นไปเพียง 1 ปี ข่าวร้ายที่สุดในชีวิตของภูผาก็เกิดขึ้น เมื่อนายหัวภูศิษฐ์และนายหญิงรสรินที่กำลังเดินทางไปท่องเที่ยวไกลถึงสวิตเซอร์แลนด์ก็ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก ทำให้ทั้งคู่เสียชีวิตลงพร้อมกัน ภูผาเศร้าโศกเสียใจมาก แต่ยังได้รับกำลังใจจากมธุรดาเป็นอย่างดี และภาระหน้าที่ดูแลกิจการเหมืองชัยเชษฐ์ก็ตกมาถึงมือภูผา ชายหนุ่มตรากตรำทำงานหนักจนแทบไม่ได้หลับได้นอน และแทบไม่ได้เจอกับมธุรดาเลยด้วยซ้ำ จนหญิงสาวต้องดักรอด้วยความเป็นห่วงในเช้าวันหนึ่ง

“พี่ภูขา...พักซะบ้างนะคะ เดี๋ยวล้มป่วยลงไปอีกคน”

“ขอบใจน้องดาที่เป็นห่วงพี่ แต่พี่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ว่าแต่น้องดาเถอะ พี่ไม่มีเวลาคุยด้วยเลย ถ้าอยากกลับบ้านหรือออกไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ก็ให้คนขับรถพาไปนะจ๊ะ”

“ค่ะ พี่ภูไม่ต้องห่วงน้องดาหรอกค่ะ ห่วงตัวพี่เองดีกว่า พี่ภูผอมลงไปเยอะเลยนะคะนี่”

“หึ หึ ขอบใจจ้ะ พี่ต้องเข้าเหมืองแล้ว ไปก่อนนะจ๊ะ” ภูผายกมือยีผมของมธุรดาอย่างหยอกเย้า ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน

มธุรดามองตามแผ่นหลังกว้างของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทางนิตินัย ก่อนคิดว่าวันนี้จะกลับไปหาบิดาที่บ้านและอาจจะออกไปหาซื้อข้าวของเครื่องใช้ในตลาดด้วยเลย

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ มณีน้ำเพชร

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ