Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อาเขยจอมเถื่อน
5.0
ความคิดเห็น
167.3K
ชม
94
บท

เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”

บทที่ 1 1 1

หญิงสาวสวยสะคราญด้วยวัยเพียง 21 ปี มีเรือนร่างเพรียวระหงในชุดรัดกุมทะมัดทะแมงด้วยเสื้อเชิ้ตสีหวานเก็บชายสอดใต้เอวกางเกงยีนส์สีเข้มรัดรูปร่างอวบอรชร สวมรองเท้าบู๊ธครึ่งแข้งมีหมวกหนังปีกกว้างแบบหมวกคาวบอยครอบทับศีรษะทุยสวยที่ถักผมเป็นเปียเดี่ยวไม่ให้หลุดรุ่ยลงมาเกะกะใบหน้า เธอมุดช่องว่างของรั้วไม้ที่เกิดจากการผุพังบวกกับฝีมือของตนเองในวัยเด็กเข้ามาในไร่องุ่นกว้างใหญ่ไพศาลที่อยู่ติดกันอย่างชำนาญ

พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ ทายาทเพียงคนเดียวของไร่รุ่งโรจน์ ซึ่งเป็นไร่องุ่นที่อยู่ติดกันกับไร่อิงฟ้าที่เธอกำลังยืนอยู่ เธอลอดรั้วเข้ามาแล้วหันไปมองไร่ของตนก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ไปตามเส้นทางภายในไร่อิงฟ้า ร่างระหงวิ่งฝ่าเปลวแดดไปถึงบ้านไม้ซุงหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเตี้ยๆ รายล้อมไปด้วยดงดอกกุหลาบหลากสีสัน เธอหยุดเพื่อสูดความหอมของกลิ่นกุหลาบนับพันดอก กุหลาบพวกนี้จะส่งกลิ่นหอมค้างอยู่บนต้นจนร่วยโรยไปเอง มีคนงานคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอทุกวันตามความต้องการของเจ้าของ

ดรัณ พัชรอัมรินทร์ หรือพ่อเลี้ยงดรัณ ผู้เป็นเจ้าของไร่องุ่นอิงฟ้าและยังเป็นผู้มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของจังหวัดลำปาง เป็นเจ้าของที่หวงแปลงกุหลาบแสนสวยแปลงนี้มาก

หญิงสาวพาตัวเองก้าวผ่านแปลงกุหลาบสุดหอมเข้าไปในบ้านไม้ซุงหลังงาม บ้านไม้ซุง 2 ชั้น ตกแต่งด้วยความทันสมัยและโปร่งสบายเหมาะสำหรับการตื่นขึ้นมาสูดโอโซนในตอนเช้าของทุกวัน พลับพลึงเห็นทุกอย่างเงียบกริบผิดปกติ ก็เดินเข้าไปในห้องครัวแล้วถามหาเจ้าของบ้านกับแม่ครัวเสียงหวาน แน่นอนว่าความน่ารักของเธอเข้าตาทุกคนทั้งชายหญิง ไม่มีคนไหนจะมองข้ามเสน่ห์อันเย้ายวนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเธอได้

“ป้าเบียบจ๋า”

“คุณหนูพลับ เข้ามาหาป้าถึงในครัวแบบนี้คงจะหิวสินะคะ”

ป้าเบียบ หรือระเบียบศรีของทุกคน เป็นคนหนึ่งที่หลงรักพลับพลึงหัวปักหัวปำ ป้าเบียบกอดคุณหนูพลับแล้วหอมแก้มซ้ายขวาประดุจผู้ให้กำเนิด คุณหนูพลับทายาทตระกูลดังตระกูลหนึ่งของจังหวัดนี้ไม่เคยถือเนื้อถือตัวหรือออกอาการรังเกียจคนที่ด้อยกว่า แม้ฐานะจะต่างกันราวฟ้ากับดิน คุณหนูพลับก็ยังยิ้มให้อย่างอ่อนหวาน พูดจาไพเราะเสนาะหู ไม่มีการแบ่งชนชั้น

“พลับตื่นสายโด่งตะวันส่องก้นขนาดนี้ คงไม่มีอะไรเหลือให้พลับทานหรอกมั้งคะ” พลับพลึงบอกแล้วเดินไปเปิดตู้หม้อที่วางอยู่บนเตา

“มีสิคะ วันนี้มีต้มจับฉ่ายของโปรดคุณหนูด้วยนะคะ”

กลิ่นต้มจับฉ่ายหอมฉุย พลับพลึงสังเกตว่ายังไม่พร่องไปเลยสักนิดก็นิ่วหน้า

“ยังไม่มีใครทานเลยหรือคะ แหม...อย่างกับว่าจะรอให้พลับเปิดซิงก่อนอย่างงั้นแหละ” ว่าแล้วเธอก็คว้าช้อนตักน้ำต้มจับฉ่ายขึ้นมาซด “โห...ร้อน” โอดครวญเล็กน้อยเมื่อความร้อนลวกปาก

ป้าเบียบส่ายหน้ายิ้มๆ กำลังจะอ้าปากเตือนแต่ไม่ทันความเร็วปานจรวดของคนหิว

“เป็นยังไงบ้างคะ ทีหน้าทีหลังต้องเป่าให้หายร้อนก่อนนะคะ ลิ้นพองกันพอดี”

“แหะๆ นิดหน่อยค่ะ แต่อร่อยแบบนี้ทำไมยังไม่มีใครทานล่ะคะ พลับเห็นมีเต็มหม้อเลย”

“พ่อเลี้ยงออกไปไร่ตั้งแต่เช้ามืดแล้วล่ะค่ะ ป่านนี้ยังไม่กลับเข้ามาเลย สงสัยอาหารเช้าของป้าคงเป็นม่ายแล้วล่ะค่ะ”

พลับพลึงปิดฝาหม้อต้มจับฉ่าย อาหารชนิดนี้ไม่ใช่ของโปรดของเธอคนเดียว แต่ยังเป็นของโปรดปรานของ ‘อารัณ’ ด้วย ถ้าเขารู้ว่าป้าเบียบทำไว้ก็คงรีบมาทานแล้ว แต่นี่คงไม่รู้สินะ

“อารัณออกไปไร่ทำไมกันแต่เช้ามืดคะ ไม่รู้จะขยันไปถึงไหน แค่นี้ก็รวยอื้อซ่าอยู่แล้ว”

“พ่อเลี้ยงก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่คุณอิงเสียล่ะค่ะ จากคนเคยร่าเริง สรวลเสเฮฮาตลอดเวลา น่ารัก น่าคบหา กลายเป็นคนเงียบขรึม เย็นชา บางครั้งก็ใจร้ายเลยด้วย อุ้ย! เดี๋ยวป้าตักข้าวให้คุณหนูทานดีกว่าค่ะ” ป้าเบียบรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นสีหน้าของพลับพลึงเปลี่ยนไป รู้ตัวว่าพูดมากไปนิดนึงแล้วต้องเงียบปากขยับตัวไปตักข้าวใส่จานแล้วตักต้มจับฉ่ายของโปรดให้คุณหนูทาน

พลับพลึงยังคงมีรอยยิ้มให้ป้าเบียบเหมือนเดิม แต่รอยยิ้มของเธอหนนี้ไม่แจ่มใสเหมือนเก่า เธอกำลังสงสารเห็นใจดรัณ และนึกเป็นห่วงเขาสุดใจ จะทำอย่างไรอารัณของเธอจึงจะหายเศร้าโศกเสียใจสักที

เมื่ออาหารเช้าจบลงในตอนส่ายโด่ง หญิงสาวก็รวบช้อนแล้วเอ่ยขอตัวกับป้าเบียบ เธอพาตัวเองออกมายืดเส้นยืดสายด้วยการบิดตัวไปมาให้อาหารย่อย แต่เมื่อท้องตึงหนังตาก็หย่อนเลยต้องหาอะไรทำให้ตาสว่าง เธอเดินเข้าไปในห้องฟิตเนสส่วนตัวของดรัณ ในห้องนี้มีอุปกรณ์การออกกำลังกายหลากหลายชนิด ครบเท่าที่มีในฟิตเนสตามคลับหรู วันนี้เธอแต่งตัวไม่เหมาะจะขึ้นไปวิ่งบนลู่วิ่ง รองเท้าของเธออาจจะทำให้ลู่วิ่งเสียหายเพราะไม่ใช่รองเท้าผ้าใบ ตากลมสีน้ำตาลหวานจึงมองไปยังลูกบอลกลมๆ ลูกใหญ่สีฟ้าใส หรือที่เรียกว่า ‘ฟิตบอล’

เดินไปหยุดใกล้แล้วคิดถึงเจ้าของลูกบอลตัวจริง ฟิตบอลลูกนี้ไม่ใช่ของดรัณ แต่เป็นของอิงฟ้าหรืออาอิงของพลับพลึง อิงฟ้าเป็นน้องสาวคนเดียวของคุณพ่อรุ่งโรจน์แล้วก็เป็นอาสาวคนเดียวของเธอด้วย เธอคิดถึงอาอิง ป่านนี้อาอิงคงมีความสุขอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ร่างบางนั่งบนฟิตบอล ขยับไปมาให้พอเหมาะพอดีแล้วเอนตัวพาดโค้งไปกับลูกบอลนุ่มหยุ่น เธอดัดตัวเองเป็นสะพานโค้งอย่างที่มักจะทำเป็นประจำ ยืดเส้นยืดสายออกเต็มที่ หมุนตัวพลิกเปลี่ยนไปมาเท่าที่จะทำได้อย่างสนุกสนาน โดยไม่รู้ตัวว่าบัดนี้มีใครบางคนยืนกอดอกขบกรามแน่นมองดูอยู่

พ่อเลี้ยงดรัณในวัย 35 มองหญิงสาวร่างบางอรชรที่กำลังสนุกสนานกับลูกฟิตบอล เขาหวงและอยากไล่เธอไปให้ไกลจากฟิตบอลของอิงฟ้า ทว่า...เขากลับถอนสายตาไปจากเธอไม่ได้ ร่างอรชรอิ่มเอิบที่ทอดโค้งอยู่บนฟิตบอลเผยให้เห็นสัดส่วนความเป็นสาวแทบทุกสัดส่วน อกอวบพุ่งชันดันเสื้อเชิ้ตที่แนบตึงไปกับเรือนร่าง สะโพกงอนเบียดแนบกับความนุ่มหยุ่นของลูกบอลสีสวย และยิ่งไปกว่านั้นสายตาคมกล้าดำสนิทราวนิลเนื้อดีก็ยังจับจ้องจุดที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุด จุดที่มีเนื้อนุ่มเบียดกันชิดนูนเด่นดันเป้ากางเกงยีนส์รัดรูปออกมาชัดเจน

คนเย็นชาและใจร้ายอย่างดรัณต้องกลืนน้ำลายลงคอบ่อยๆ จนรู้สึกว่าน้ำบ่อน้อยมีไม่พอดับความแห้งผากที่เกิดขึ้นมาฉับพลัน ลำคอของเขาแห้งผากเป็นผุยผงจนอยากหันหน้าหนีแล้วพาตัวเองไปให้พ้นจากตรงนี้ แต่เขาทำไม่ได้ ขามันก้าวไม่ออกเหมือนถูกมัดตรึงให้อยู่กับที่

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ มณีน้ำเพชร

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ