“วันนั้นอาเมาแต่ไม่ได้สติเลอะเลือนนะ” เธอกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ ไม่จริงใช่ไหม? ใครก็ได้บอกเธอที... รัชต์จำทุกอย่างได้ ในขณะที่เธอปลอบใจตัวเองว่าเขาคงจำไม่ได้ “มีสาวน้อยทิ้งหยดเลือดพรหมจรรย์ไว้ให้ดูต่างหน้า หลังจากสารภาพรักและหลอกฟันอาจนหมดแรง” เหลือเชื่อ! ดูพูดเข้า นาราหน้าแดงซ่านลามไปถึงใบหู เธอนี่นะหลอกฟันเขา บ้าน่ะสิ!
นาราหรือนาง สาวน้อยแสนสวยวัย 23 เธอเพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัย กำลังยืนมองคุณอาหนุ่มข้างบ้านทะเลาะกับแฟนสาว เขาเป็นคุณอาวัย 42 ที่หล่อเหลาและหน้าเด็กกว่าอายุจริงมากๆ
รัชต์เป็นคนใจดี อบอุ่น และรักสุขภาพ เขาชอบออกกำลังกาย และยังเป็นเพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาเธออีกด้วย
นาราแอบเบ้หน้าในหัวข้อที่ทั้งสองทะเลาะกัน รุ้งลดาเป็นผู้หญิงสวยเก่ง แต่ถูกจับได้ว่าหล่อนคบซ้อนหลายคน อารัชต์ของเธอจับได้เลยคุยกันดีๆ แต่อีกฝ่ายพูดจาหาเรื่องชวนทะเลาะ เป็นที่มาของการเลิกรา
เธอคิดว่ารัชต์คงรักรุ้งลดามาก หล่อนสวยเก่งเสียขนาดนั้น
เธอนั้นแอบรักรัชต์ตั้งแต่แตกเนื้อสาว แต่เขามองเห็นเธอเป็นแค่หลาน ลูกสาวของเพื่อนรุ่นน้องเท่านั้น
เธอเห็นเขาชอบออกไปวิ่งในหมู่บ้าน เธอเลยตั้งนาฬิกาปลุกเพื่อจะออกไปวิ่งกับเขาด้วย ทั้งๆ ที่หากไม่มีเรียนเธอจะนอนตื่นสายมากๆ แต่เพราะอยากใกล้ชิดกับคนที่แอบชอบเลยต้องหัดลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกาย กลายเป็นคนรักสุขภาพกับเขาขึ้นมาบ้าง เสียงทะเลาะเงียบหายไปแล้ว เธอมองตำราและสมุดปากกาในมือของตัวเองนิ่งอย่างชั่งใจ
เธอคิดจะเรียนต่อปริญญาโท เลยอยากให้รัชต์ช่วยติวหนางสือให้ เขาเป็นคนเก่งและสอนการบ้านเธอมาตั้งแต่เด็กๆ บิดามารดาไว้ใจเขามาก พวกท่านออกไปทำธุระนอกบ้าน ก็มักฝากฝังเธอเอาไว้กับเขา ฝากให้ติวหนางสือบ้างหรือนอนค้างอ้างแรมด้วย
เขาเป็นผู้ใหญ่ใจดีอบอุ่น เธอไม่เคยนึกชอบเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่เธอชอบคนมีอายุแบบเขา อยู่ด้วยแล้วรู้สึกมั่นคงปลอดภัย เขาเป็นผู้นำ พึ่งพิงได้ เธอเอ่ยปากอันใดเขาจะช่วยเหลือทุกครั้งและไม่เคยปฏิเสธเลย
รัชต์เป็นคนมีน้ำใจ เขาพยายามช่วยเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง แม้ตัวเองกำลังยุ่งขนาดไหนก็ตาม
อารัชต์ของเธอใส่ใจ ดูแล ไม่ว่าจะเวลาไหนหากเธอเอ่ยปาก เขาจะถ่างตาลุกจากเตียงเพื่อช่วยเหลือเธอทันที
เขาเป็นผู้ชายที่มีภาวะความเป็นผู้นำ เป็นผู้ชายที่สมชายชาตรี เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น แต่มักใจอ่อนกับลูกอ้อนของเธอเสมอ
เธอค่อยๆ เดินกอดหนางสือไปที่บ้านข้างๆ อย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก
ใจนั้นคิดว่ายังไงเขาคงไม่มีกะจิตกะใจจะติวหนางสือให้เธอเป็นแน่ เพราะคนอกหัก มันคงไม่มีแรงกายแรงใจจะทำอะไร
เธอเองก็อกหักได้ยังไงไม่รู้ ตอนรู้ว่าเขาเป็นแฟนกับรุ้งลดา เธอร้องไห้เสียใจอยู่หลายวัน ร้องไห้จนตาบวม ใจหนึ่งอยากแช่งให้คนทั้งสองเลิกกัน อีกใจนั้นคิดว่ามันบาป ไปแช่งให้เขาเลิกกัน
ถ้าเป็นเรา มีใครมาแช่งให้เลิกกัน เราก็คงไม่ชอบเหมือนกัน
แต่พอคิดได้ว่าถึงเธอจะแช่งให้เขาเลิกกัน เขาก็ไม่มีวันมาชอบตัวเองหรอก หากที่สุดแล้วเขาไม่ได้ชอบเราแต่แรก เธอก็เริ่มทำใจได้ระดับหนึ่ง
คนบางคนให้วิ่งตามขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คู่กันแล้วก็ย่อมแคล้วกัน ถึงเขาไม่ได้ชอบคนอื่น ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะชอบเธอเสียหน่อยนี่นา
นาราหัวใจห่อเหี่ยวปวดหนึบ ความรักมันเข้าตา แอบรักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง แต่เขาไม่ได้ชอบเรารักเรา มันเจ็บปวดทรมานพอๆ กับเห็นเขาผิดหวังจากคนอื่น
จนอยากจะตะโกนออกไปดังๆ ว่าทำไมเขาไม่รักเธอไม่ชอบเธอบ้าง เธอจะไม่มีวันทำให้เขาผิดหวังเสียใจเหมือนผู้หญิงคนอื่นเด็ดขาด
เด็กสาวมองร่างคุณอาหนุ่มที่นั่งดื่มเหล้าอยู่ที่บาร์เครื่องดื่ม
เธอมองเขาตาปริบๆ ตามประสาเด็ก เพราะจะเดินเข้าไปปลอบก็ไม่กล้า แต่จะเห็นเขานั่งเสียใจอยู่คนเดียว เธอก็ทนไม่ได้อีกเหมือนกัน
“อารัชต์” เธอเรียกเขาเสียงแผ่ว แต่เหมือนเขาไม่ได้ยิน
นาราวางหนางสือลงที่โต๊ะมุมห้อง ก่อนจะเดินไปทรุดนั่งลงใกล้ๆ กับเขา
เขาเงยหน้ามองแต่ไม่พูดอะไร เธอเลยเลือกที่จะเงียบ รินเหล้าให้เขาไม่ปริปากพูดอันใดเช่นกัน
รัชต์ไม่ใช่คนพูดเยอะ เขาค่อนข้างจะพูดน้อย หรือไม่ค่อยพูด แต่การแสดงออกของเขาสำคัญกว่าคำพูด
เธอคิดว่าเขาคงเสียใจเรื่องรุ้งลดาเลยดื่มหนักขนาดนี้ เขาดื่มเหล้าก่อนจะมองเธอไม่วางตา เหมือนอยากพูดอะไรสักอย่าง... แต่ไม่พูด
“ไม่ออกไปกับแฟนเหรอวันนี้” จู่ๆ เขาก็ถามขึ้น เธอสะดุ้งสุดตัว เรื่องแฟนของเธอนะเหรอ
มันเรื่องโกหกทั้งเพ...
วันนั้นเธอรู้ว่าเขาตัดสินใจคบกับรุ้งลดา เธอเลยอยากจะหาใครสักคนมาทดแทนความรู้สึกอกหัก
เลยโกหกไปว่าภัทรพลเป็นผู้ชายที่คบหาดูใจกันอยู่ จริงๆ ภัทรพลเป็นแค่เพื่อนของเธอ แถมยังเป็นเกย์เสียด้วยซ้ำ แต่เธออ้างว่าภัทรพลเป็นแฟนเพื่อจะกันหัวใจตัวเองจากใครบางคน
บางทีเธอคิดว่าเขารู้นะว่าเธอคิดเช่นไรกับเขา สายตาของเธอ อาการของเธอ เขาเป็นผู้ชายเขาน่าจะรู้ แต่เขาก็ทำเหมือนกับไม่รู้
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม