Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
พี่รหัสที่ฉันชอบคือท่านประธานพันล้าน

พี่รหัสที่ฉันชอบคือท่านประธานพันล้าน

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
3
ชม
20
บท

เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!

บทที่ 1 1

“โอ๊ย! เจ็บ” นิลินีร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนสองพี่น้องจอมแสบแกล้งแทบจะทุกวันเพราะเธอเป็นเด็กนักเรียนทุนที่แสนยากจน แต่ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนชื่อดังแห่งนี้

“โอ๊ย! วันนี้ฉันจะสู้ตายแล้วนะ” กวีที่เป็นเพื่อนของนิลินีเอ่ยขึ้น แม้จะอ้อนแอ้นไปหน่อยตามชายใจหญิงแต่ก็อยากจะฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง

“ฉันก็สู้เหมือกัน แกล้งกันทุกวัน เป็นไงเป็นกัน ไม่กลัวโว้ย!” นิลินีเองก็ไม่ไหวแล้ว ตอนแรกก็พยายามไม่อยากมีเรื่องด้วย แต่ตอนหลังกลับโดนแกล้งหนักขึ้นกว่าเดิมเสียอีก ในเมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าไม่สู้ก็ยิ่งแกล้ง เธอกับเพื่อนอย่างกวีเลยต้องสู้หัวชนฝา เป็นไงเป็นกัน ถ้าจะไม่ได้ทุนเพราะโต้ตอบกลับอันธพาลประจำโรงเรียนอย่างแก้วตาและกันต์ ก็ให้มันรู้ไปสิวะ!

สองเพื่อนซี้พุ่งตัวเข้ามา แต่กระเด็นกลับมาเพราะแก้วตากับกันต์พวกเยอะกว่า ทำเอาสองเพื่อนถึงกับเละ เหมือนเช่นทุกวัน

“หยุดนะ!” เหมือนเสียงสวรรค์หรือจะเรียกว่าพระเอกขี้ม้าขาวก็ย่อมได้ เสียงของพี่รหัสของเธอนั่นเอง

พฤกษ์ กิจไพบูลย์วิวัฒน์ พี่รหัสสุดหล่อของเธอ ได้ข่าวว่าเขาไม่สบายหลายวันเธอกับเขาจึงไม่ได้เจอกัน แต่ที่เธอรู้จักเขาก็เพราะว่าเพื่อน ๆ ในห้องต่างกรี๊ดเขาด้วยกันทั้งนั้น

“พี่พฤกษ์!” สองพี่น้องเรียกพฤกษ์อย่างตกใจ ไม่ใช่แค่ความหล่อแต่พฤกษ์เป็นนักเรียนผู้ทรงอิทธิพลและประธานรุ่น ใคร ๆ ก็ต่างเกรงใจ เรียนเก่ง กีฬาเด่น หน้าตาดี สุภาพบุรุษสุด ๆ นิลินีได้เห็นตัวจริงพี่รหัสก็ถึงกับตาโตอ้าปากค้าง เธอเพิ่งเข้ามาเรียนมอ.สี่ได้แค่ไม่กี่วันจึงยังไม่ได้เจอเขาตัวเป็น ๆ

เธอมาเรียนมอ.สี่ที่นี่ก็มีพี่รหัสมอ.หกที่สุดแสนจะเพอร์เฟค นี่ใช่ไหมจึงเป็นที่หมั่นไส้ของสาว ๆ หลายคนในโรงเรียน หาว่าเธอไม่คู่ควร

“นิลินีเป็นน้องรหัสของฉันใครกล้าแตะ” พฤกษ์ประกาศกร้าว ทำเอาทุกคนหัวหด

“ไม่ใช่ว่าห้ามรังแกน้องรหัสของฉัน แต่ทุกคนพวกเธอก็ห้ามรังแก เคยเตือนแล้วใช่ไหม ถ้าไม่ฟังก็อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน” เพียงไม่นานพฤกษ์ก็ลากคอเสื้อกันต์ นักเรียนมอ.ห้ากับก๊วนเพื่อนและแก้วตาน้องสาวซึ่งอยู่มอ.สี่ไปที่ห้องปกครอง ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโรงเรียนเมื่อพฤกษ์ไม่ได้รังเกียจน้องรหัสที่จนแสนจนอย่างนิลินีแถมยังปกป้องอีกฝ่ายอย่างเต็มที่

“จากนี้ไปใครกล้ารังแกน้องรหัสฉันอีก ฉันจะคิดบัญชีรายตัว” ใครรังแกโดนขึ้นบัญชีดำ ทำเอาทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะแตะนิลินีแม้แต่ปลายก้อย

“โหย... พี่รหัสของแกอย่างเท่ห์เลยว่ะนิล ตอนกระโดดมาขวางพวกนั้นฉันนี่ปลื้มสุด ๆ อยากจะกรี๊ดให้ลั่นโรงเรียน” กวีซึ่งโดนรังแกด้วย แต่พอเป็นเพื่อนสนิทกับนิลินีน้องรหัสของพฤกษ์ ทำเอาไม่มีใครกล้ารังแกหรือบูลลี่ว่าเป็นยาจกเด็กทุน ริจะมาเรียนโรงเรียนดังอีกเลยหลังจากนั้น

“เท่จริงๆ นั่นแหละ” นิลินีทำหน้าฝันหวาน พี่รหัสของเธอทั้งหล่อทั้งเท่

เรียกว่าเท่สุด ๆ ไปเลย!

“จะกลับบ้านแล้วเหรอ” พอคิดถึงก็มาเลย ทำเอานิลินีหันไปมองตาโต

คนตรงหน้าคือพี่รหัสสุดหล่อของเธอ อยากจะกรี๊ดแต่ก็เก็บอาการเอาไว้ พฤกษ์เป็นสุภาพบุรุษ เป็นผู้ชายที่น่ารัก เธอจะทำตัวกรี๊ดกร๊าดเกินงามไม่ได้ เอาไว้ค่อยกลับไปกรี๊ดในห้องน้ำที่บ้านก็แล้วกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า!

“ค่ะพี่พฤกษ์”

“กลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหม”

“รอรถประจำทางค่ะ เกรงใจพี่พฤกษ์เปล่า ๆ ไม่ต้องไปส่งหรอกค่ะ”

“ไปค่ะ ให้พี่พฤกษ์ไปส่งสิยายนิล บ้านแกตั้งไกล รอรถก็อีกนาน พี่พฤกษ์อุตส่าห์มีน้ำใจ แกจะทำให้พี่พฤกษ์เสียน้ำใจหรือไง มาเร็วสิ” กวีรีบดึงมือเพื่อนสาวไปขึ้นรถ ในขณะที่นิลินีหน้าตาเหลอหลา

“บ้านพี่เป็นทางผ่านบ้านของเราสองคนพอดี” พฤกษ์เอ่ยขึ้นเมื่อคนขับรถเคลื่อนรถออกไปอย่างระมัดระวัง

“พี่พฤกษ์รู้จักบ้านของเราสองคนด้วยเหรอคะ” กวีเอ่ยถาม

“เคยเห็นลงมาจากรถประจำทางน่ะ” พฤกษ์ตอบเสียงนุ่ม

ท่าทีของพฤกษ์ดูดีทุกระเบียบนิ้ว ก้านนิ้วของเขาเรียวยาวขาวผ่อง น่ามองน่าสัมผัส คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม ไม่สงสัยเลยว่าทำไมสาว ๆ ในโรงเรียนถึงชอบเขา อยากได้เขาเป็นพี่รหัสหรืออยากเป็นหวานใจของเขาด้วยกันทั้งนั้น

นิลินีเหลือบมองแล้วต้องลอบกลืนน้ำลาย อยากจะตบหน้าผากตัวเองแรง ๆ นี่เธอเพิ่งอยู่มอ.สี่นะ แถมยังเป็นนักเรียนทุนอีก จะใจแตกริมีความรักในวัยเรียนไม่ได้

แต่พี่รหัสของเธอ ก็เย้ายวนใจเกินต้านจริง ๆ

ไม่ได้ ๆ นี่คือพี่รหัสนะ เธอต้องให้ความเคารพ ไม่ใช่มาแอบชอบอีกฝ่ายแบบนี้

ความคิดในหัวของนิลินีตีกันให้วุ่นไปหมด จบลงด้วยประโยคคำถามชวนฟินจนนิลินีแทบจะตัวลอย

“โดนรังแกอีกไหม”

“ไม่มีแล้วค่ะ”

“ถ้าใครรังแกบอกพี่ได้เลย พี่จะไม่ยอมให้ใครมารังแกน้องรหัสของพี่เด็ดขาด”

“ค่ะ”

“แล้วเพื่อนน้องรหัสล่ะคะ” กวีเอ่ยถามบ้าง

“เหมือนกันครับ” คำตอบนั้นทำเอากวีกรี๊ดกร๊าด เพราะเขาได้พี่รหัสที่ไม่ค่อยสนใจเขาสักเท่าไหร่ อีกฝ่ายเป็นนักกีฬาโรงเรียนที่โคตรแมนแต่ไม่ชอบชายใจหญิงอย่างเธอเท่าใดนัก ส่วนพี่รหัสมอ.ห้านั้นเป็นผู้หญิง ซึ่งก็รักสวยรักงาม อีกฝ่ายบ้านรวยมาก มีอะไรก็จะนำมาเผื่อแผ่ให้เสมอ กวีจึงปลื้มพี่รหัสมอ.ห้ามากๆ แต่ความทรงอิทธิพลน้อยกว่าพฤกษ์ ทำให้เธอกับเพื่อนรักอย่างนิลินีโดนแก๊งนรกอย่างแก้วตาและกันต์รังแกเอาได้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ