Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
6.3K
ชม
23
บท

“ถ้าลียอมหย่า…ฮึก พี่สินธุ์จะให้อภัยลีสักครั้งได้ไหมคะ” คำถามที่เต็มไปด้วยน้ำตาของภรรยาสะกดใจคนฟังจนปวดหนึบ ทว่ากลับไม่มีคำตอบใดหลุดออกจากริมฝีปากหนาแม้แต่คำเดียว “ได้! ฉันจะยกโทษให้เธอ” แต่สุดท้ายทิฐิที่มีอยู่ในใจก็เอาชนะทุกสิ่ง ทำให้สินธุ์ตัดสินใจตอบกลับไปก่อนจะเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า “ถ้าอย่างงั้นเราสองคนมาหย่ากันเถอะค่ะ ลียอมแพ้แล้ว” บราลีเอ่ยขึ้นเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะยอมปล่อยมือจากเขาด้วยการหย่า แม้หัวใจของเธอจะแตกสลายก็ไม่เป็นไร เธอเชื่อว่าเวลาจะเยียวยาหัวใจของเธอให้กลับมาเข้มเข็มได้อีกครั้งในสักวัน… ชีวิตคู่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรัก… คนที่ปล่อยมือก่อน…มักเจ็บปวดน้อยกว่า

บทที่ 1 บทนำ

บทนำ

ภาพร่างสูงโปร่งแสนคุ้นตาที่กำลังถูกคนเก่าคนแก่ของบ้านพยุงเข้ามาในบ้านเป็นภาพที่ใครบางคนเห็นจนชินตา หญิงสาวจำต้องรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกมาช่วยลุงมั่นพยุง ‘สามี’ เข้าบ้านอย่างทุลักทุเล

“ฉันต้องการหย่า!” คำพูดเดิมๆ ที่ดังขึ้นไม่ได้สร้างความตกใจให้แก่ภรรยาสาวที่อดหลับอดนอนเฝ้ารอการกลับมาของเขาอยู่เลยแม้แต่น้อย เพราะว่านี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเอ่ยมันออกมา คำพูดที่มันทำให้เธอรู้สึกเจ็บเจียนตายทุกครั้งที่ได้ยิน

“ผมว่าเรารีบพาคุณสินธุ์ขึ้นไปนอนข้างบนเถอะครับคุณลี” บราลี กิ่งกมล พยักหน้ารับลุงช่วย คนเก่าคนแก่ของไร่พร้อมรอยยิ้มก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันประคับประคองคนเมาขึ้นห้อง กระทั่งเมื่อมาถึงที่หมาย หญิงสาวจึงกล่าวขอบคุณชายชราเพียงสั้นๆ รอเมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายออกไปจากห้องแล้วถึงได้หันกลับมาจัดการกับสามีของตัวเองต่อไป หญิงสาวเริ่มต้นจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าให้โดยไม่มีท่าทีรังเกียจกลิ่นเหล้าและกลิ่นอ้วกของเขาเลยแม้แต่น้อย จนเมื่อทุกอย่างถูกถอดออกจากร่างกายกำยำ เธอจึงค่อยๆ เริ่มต้นเช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือ

“ฉันเกลียดเธอบราลี! เมื่อไหร่เธอจะไปให้พ้นๆ ชีวิตฉันสักที!!” เพียงแค่สัมผัสเสียงตวาดก็ดังขึ้นจากริมฝีปากหนา

มันกัดกินใจคนฟังจนน้ำตาซึมเมื่อเห็นชัดแล้วว่าแม้จะอยู่ในห้วงอารมณ์ที่ขาดสติ แต่ความเกลียดชังที่เขามีต่อเธอนั้นยังคงอยู่ ต่อให้เธอจะพยายามชดใช้ให้เขาสักแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

เรื่องราวชีวิตคู่ระหว่างเธอกับ สินธุ์ มันเริ่มต้นจากความรักข้างเดียวที่เธอมีต่อเขานับตั้งแต่วันแรกที่ตามบิดาเข้ามาทำงานเป็นคนสวนภายในไร่แห่งนี้ วันนั้นเองที่เธอได้รู้จักกับคุณย่านวลผู้แสนจะมีเมตตา ท่านมักจะคอยเรียกให้เธอเข้ามาหาที่บ้านใหญ่อยู่บ่อยครั้งทำให้เธอมีโอกาสได้สนิทสนมกับเขามาตั้งแต่เด็ก จนกระทั่งพ่อของเธอตายไป

แม้ว่าจะไร้พ่อแต่ความสนิทสนมระหว่างเธอกับสินธุ์นั้นยังคงอยู่ เธอมีสิทธิ์เข้าออกที่นี่ได้อย่างที่ต้องการด้วยคำสั่งของย่าของเขา กระทั่งเมื่อเติบโตขึ้นคุณย่านวลก็บังคับให้แต่งงานกัน ความฝันที่จะได้ใช้ชีวิตคู่กับเขาจึงได้เริ่มต้น ทว่าความเป็นจริงกับความฝันนั้นมันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เพราะพี่สินธุ์คนเดิมของเธอหายไป เหลือไว้แต่คุณสินธุ์คนใจร้ายที่ยอมแต่งงานกับเธอก็เพราะต้องการทำให้คุณย่าของเขานอนตายตาหลับเท่านั้น เมื่อท่านจากไปอย่างสงบสิ่งแรกที่เขาทำคือขอหย่า แต่เธอก็ไม่อาจให้สิ่งที่เขาต้องการได้

“สัญญากับย่าสิลี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามหย่ากับสินธุ์ สัญญากับย่าได้ไหม…”

“พี่สินธุ์เขาเกลียดลีคะคุณย่า”

“เชื่อย่า สักวันมันจะรักหนู นะลีอย่าทิ้งพี่เขานะลูก สัญญากับย่า”

นั่นคือคำสั่งเสียสุดท้ายของคุณย่านวลที่ทิ้งไว้เมื่อหกเดือนก่อน แน่นอนว่าเธอรักและเคารพท่านมากกว่าใครๆ จึงไม่แปลกที่เธอจะรับปากท่าน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นจนถึงวันนี้เธอก็ทำตามคำสัญญามาโดยตลอด แม้ว่าสามีจะทำทุกทางเพื่อให้เธอยอมหย่า แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่มันจะสำเร็จ ไม่ใช่เพราะคำสัญญาแต่เพราะเธอรักเขา รักทั้งที่รู้ว่าเขาเกลียด

แต่เธอก็ยังรักเขาอยู่ดีกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้คนที่หลับสบายมาตลอดคืนค่อยๆ ลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่ได้เห็นคือผ้าห่มผืนหนาที่ถูกคลุมร่างกายเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ ถัดไปไม่ไกลมีชุดทำงานตัวเก่งถูกแขวนเอาไว้ให้ที่หน้าตู้เสื้อผ้า ทุกๆ สิ่งคือภาพความเคยชินที่สินธุ์ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เขาออกจะรำคาญด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่าทุกๆ สิ่งที่มองเห็นนั้นมันเป็นฝีมือของใคร

ชายหนุ่มสะบัดผ้าห่มออกจากตัวก่อนจะเดินตรงเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่าชุดที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ถูกยัดกลับเข้าไปที่เดิมเหมือนเช่นทุกวันก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นชุดที่ยับยุ่ง แต่นั่นมันกลับไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลยสักนิด เพราะว่าสิ่งที่เขากำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ต่างหากที่มันสะใจ

บราลีหลบซ่อนความเสียใจเอาไว้เมื่อเห็นว่าสามีไม่ได้สวมใส่ชุดที่เธอเตรียมเอาไว้ให้ มันเป็นแบบนี้ทุกครั้ง แต่เธอก็ยังตั้งใจทำหน้าที่ภรรยาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แม้ว่าทุกสิ่งที่ทำจะถูกเขามองข้ามมาตลอดก็ตามที

“เย็นนี้ตั้งโต๊ะเผื่อคุณสร้อยด้วย ฉันจะพาเขากลับมาดินเนอร์ที่นี่”

“ค่ะคุณสินธุ์” หญิงสาวรับคำเพียงสั้นๆ ก่อนจะตักข้าวต้มที่ตื่นมาทำให้สามีตั้งแต่เช้าอย่างใจเย็น

ด้วยรู้ว่าทุกอย่างที่เขาทำหวังเพียงอยากเห็นความเจ็บช้ำในใจเธอเท่านั้น ซึ่งเขาก็ทำมันสำเร็จแทบจะทุกครั้งไป แต่จะมีเพียงอย่างเดียวที่เขาจะไม่มีวันทำสำเร็จนั่นคือการทำให้เธอยอมหย่า เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอให้เขาไม่ได้ต่อให้เขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

อย่างไรก็ให้เขาไม่ได้จริงๆ

บราลีทำหน้าที่เดินออกไปส่งสามีไปทำงานเหมือนทุกวัน ภายนอกทั้งสองอาจดูเป็นสามีภรรยาทั่วไป จะมีก็แต่คนในเท่านั้นที่รู้ว่าทุกสิ่งมันก็แค่การแสดงละครเท่านั้น ไม่มีความสุขวนเวียนรายล้อมอยู่ในชีวิตคู่ของทั้งสองเลย

“ฉันล่ะสงสารคุณลีเธอจังเลยป้า ไม่รู้ทำไมคุณสินธุ์ถึงได้จงเกลียดจงชังเธอ เมียก็ออกจะแสนดีปานนี้ ผิดกับอีพวกลิงข้างบ่างชะนีริมทางที่อยากจะจับนายของเราทำผัวจนตัวสั่น!” เสียงแว่วๆ ที่ดังผ่านสายลมมาให้ได้ยิน ทำให้คนที่ตั้งใจจะเข้าไปเก็บโต๊ะได้แต่ยิ้มเยาะในโชคชะตาตัวเอง

“เรื่องเจ้านายอย่าเข้าไปสอดนังเงาะ ไปล้างจานนู้นไป!” ซึ่งนางเวียนเอ็ดหลานสาวเสียงแข็ง แม้ว่าจะรู้สึกเห็นด้วยกับอีกฝ่ายแทบทุกคำ

แต่ด้วยสถานะคนใช้จึงไม่อาจทำอะไรได้…

นอกจากจะทำหน้าที่ดูแลทุกอย่างภายในบ้านแล้ว บราลียังมีอีกหนึ่งหน้าที่ที่สำคัญนั่นคือดูแลเด็กๆ ผู้ยากไร้ หญิงสาวใช้เวลาว่างในแต่ละวันขับรถคันเก่าที่สามียกให้ไว้ใช้สอยมาสอนหนังสือเด็กๆ ที่พ่อแม่ไม่มีเงินทองมากพอที่จะส่งเข้าโรงเรียน มันจึงเป็นความสุขเดียวที่พอจะทำให้เธอยิ้มได้ หลังจากต้องนอนซมจมน้ำตามาทั้งคืน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ พวงชมพู

ข้อมูลเพิ่มเติม
ร้อยรัก ถักทอหัวใจ

ร้อยรัก ถักทอหัวใจ

โรแมนติก

5.0

“ฉันตั้งใจจะบอกเรื่องลูกในวันที่แกวิ่งหน้าตาตื่นมาบอกฉันว่าคุณป่านตอบตกลงจะแต่งงานกับแก!” ความจริงที่ได้รู้กลับกลายเป็นธเนศเสียเองที่พูดอะไรไม่ออก เขายังจำภาพของเอื้องทรายที่กอดเขาร้องไห้ปานจะขาดใจในวันนั้นที่ว่าได้ดี แต่เพราะมัวหลงดีใจมากไปเลยไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเธอไม่ได้ร้องไห้เพราะดีใจที่เขาสมหวังกับอดีตคนรัก แต่มันคือความเสียใจ...ความเสียใจที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยจนกระทั่งวันนี้ที่ต้องมารับฟังมันจากปากของเธอเอง ความโกรธก่อนหน้าค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียใจในที่สุด

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ภัคร์ภัสสร
5.0

+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ม่านราคีหัวใจ
1

บทที่ 1 บทนำ

23/02/2022

2

บทที่ 2 ทางที่เดิน

23/02/2022

3

บทที่ 3 ผิดเรื่องเดียว

23/02/2022

4

บทที่ 4 เพียงหนึ่งในใจ

23/02/2022

5

บทที่ 5 อดีต

23/02/2022

6

บทที่ 6 ความผิดที่ทำ

23/02/2022

7

บทที่ 7 เส้นทาง

23/02/2022

8

บทที่ 8 เหนื่อยเกินจะทนรับไหว

23/02/2022

9

บทที่ 9 พอแล้ว

23/02/2022

10

บทที่ 10 เจ็บ

23/02/2022

11

บทที่ 11 ปล่อยวาง

23/02/2022

12

บทที่ 12 คนในอดีต

23/02/2022

13

บทที่ 13 เจ็บอีกเท่าไหร่

23/02/2022

14

บทที่ 14 ไม่ทนอีกแล้ว

23/02/2022

15

บทที่ 15 เหนื่อยที่จะรัก

23/02/2022

16

บทที่ 16 ไม่ปล่อย

23/02/2022

17

บทที่ 17 เพิ่งรู้ตัว

23/02/2022

18

บทที่ 18 เลือกสักทาง

23/02/2022

19

บทที่ 19 ผิดที่รู้ตัวช้า

23/02/2022

20

บทที่ 20 โอกาส

23/02/2022

21

บทที่ 21 ตัดสินใจ

23/02/2022

22

บทที่ 22 จบด้วยดี

23/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนจบ สุดท้ายก็คือรัก

23/02/2022