Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เมียบำเรอจอมทมิฬ

เมียบำเรอจอมทมิฬ

พวงชมพู

5.0
ความคิดเห็น
84.9K
ชม
27
บท

“ทะ…ทำไมคุณไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยล่ะคะ” คนได้ยินไม่ได้นึกตำหนิอะไรคนช่างถาม เขายิ้มก่อนจะเอ่ยตอบไปตามความจริง “จะต้องใส่ให้เสียเวลาทำไมล่ะครับ เพราะอีกเดี๋ยว…ก็ต้องถอดออกอยู่ดี” คำตอบที่มาพร้อมจูบหนักๆ ที่แก้มขวาทำเอาคนที่ยังเตรียมใจรับกับสิ่งเหล่านี้ไม่ไหว ย่นคอหลบหนีความซาบซ่านพัลวัน “คะ…คุณลูซคะ คะ…ว่าภัส…”

บทที่ 1 จุดเริ่มต้น

ปฐมบท

ภายในบ้านจักรเทพเต็มไปด้วยความโกลาหลครั้งใหญ่เมื่อคุณหนูเพียงคนเดียวของบ้านอย่าง ‘สุวิมล’ หนีตามแฟนหนุ่มไปต่างประเทศก่อนจะถึงวันนัดหมายระหว่างแม่เธอและใครบางคนที่มีศักดิ์เป็น ‘เจ้าหนี้รายใหญ่’ ของครอบครัว ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดนั้นมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อศักดิ์ชัย พ่อของหญิงสาวที่แอบไปกู้เงินกับเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์หนุ่มเอาไว้จำนวนหนึ่งจนกระทั่งเขามาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ตายไปและแน่นอนว่าหนี้สินทั้งหมดนั้นจึงตกเป็นของคุณหญิงกานดาผู้เป็นแม่ที่แทบจะล้มทั้งยืนยามเมื่อได้เห็นหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับหนี้สินจำนวนสี่ล้านบาทระหว่างสามีของนางและเจ้าหนี้หนุ่มเข้าในวันเผา ที่เพิ่งผ่านมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้

ซึ่งนางและทุกคนภายในบ้านหลังนี้คงถูกไล่ออกไปจากบ้านแล้วหากนัยน์ตาคู่นั้นของลูเซียสไปเหลือบไปเห็นสุวิมล ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนางเข้า ก่อนที่เขาจะหยิบยื่นข้อเสนอบางอย่างให้..

‘ผมยินดีให้คุณหญิงผลัดเรื่องการชำระหนี้สินไปก่อนหากคุณหญิงยอมให้ลูกสาวไปอยู่กับผมในฐานะนางบำเรอหนึ่งเดือน! ลองเอากลับไปคิดดูก่อนก็ได้นะครับ ผมเองก็เป็นผู้ชาย ไม่ผิดที่จะอยากได้สาวๆ สวยๆเช่นลูกสาวของคุณหญิงมานอนกกคลายเหงา ผมให้เวลาคุณหญิงแค่สามวันเท่านั้น คุณหญิงลองกลับเอาไปคิดดูให้ดีก็แล้วกันนะครับ อีกสามวันผมจะกลับมาที่นี่อีกเพื่อรับคำตอบ’

นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ลูเซียส บาเนอร์ เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพท์รายใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศ ฝากเอาไว้ให้คิดและติดสินใจ ก่อนที่เขาจะขอตัวกลับไปและปล่อยให้การตัดสินใจในเรื่องนี้เป็นของลูกหนี้ ซึ่งคุณหญิงกานดาเองก็จนปัญญาด้วยรู้ดีว่าสามีของนางนั้นแทบไม่ได้ทิ้งอะไรเอาไว้ให้กันเลยนอกจากบ้านหลังนี้กับหนี้สินจำนวนมหาศาล ที่นางต้องรับช่วงการชดใช้ต่อจากสามี

นางจำต้องบอกถึงจุดประสงค์ของเจ้าหนี้แก่ลูกสาวไปและขอร้องให้สุวิมลยอมตกลงทำตามคำขอร้อง ซึ่งอีกฝ่ายก็กรีดร้องลั่นบ้านทันทีก่อนจะยืนกรานว่าไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมไปเป็นนางบำเรอของใครให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอย่างแน่นอน ซึ่งใครเลยจะคาดคิดว่าหลังจากคำพูดนั้นของสุวิมลจบลงเพียงไม่กี่วันเจ้าตัวก็มาแอบหนีตามดนัย แฟนหนุ่มไฮโซของตัวเองไปไกลถึงนิวยอร์กและไม่ยอมเปิดช่องทางให้ใครติดต่อเธอได้สักคนเดียว ซึ่งมันสร้างความวุ่นวายใจให้แก่ผู้เป็นแม่มากเพราะหนทางเดียวที่จะต่อยอดลมหายใจของครอบครัวไปได้อีกสักหน่อย ตอนนี้กลับมาหนีออกจากบ้านไปดื้อๆ

“อีกเดี๋ยวคุณลูซเขาก็จะมาเอาคำตอบแล้ว! ยัยมลนะยัยมลทำอะไรไม่คิดถึงหัวอกของแม่บ้างเลย! แล้วนี่ฉันจะทำยังไงต่อไปดีล่ะเนี่ย! ไอ้ผัวเฮงซวย! ขนาดว่าตายไปแล้วก็ยังสร้างเรื่องทิ้งไว้ให้ ฉันล่ะอยากจะบ้าตาย!!” คุณหญิงกานดาตวาดลั่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะแผดเสียงใส่ทุกๆ คนที่อยู่ใกล้อย่างไม่ไว้หน้า หากวันนี้นางไม่มีคำตอบที่น่าพอใจไปให้เขาคนนั้นล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งบ้านและทุกๆ สิ่งที่สร้างมาจะต้องถูกยึดเอาไปจนหมดสิ้นแน่นอน ซึ่งนางจะไม่มีวันยอมให้เป็นแบบนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันยอมอย่างเด็ดขาด!

ร่างอวบอิ่มเกินวัยในชุดแม่บ้านสีชมพูอ่อนมอซอค่อยๆ เดินลัดเลาะมาตามถนนฟุตบาทมุ่งหน้าสู่บ้านจักรเทพที่ตนเองอาศัยอยู่มาตั้งแต่จำความได้อย่างไม่คิดเหน็ดเหนื่อย ประภัสสรยกมือปาดเหงื่อที่ขมับบนใบหน้าของตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะรีบเร่งฝีเท้ากลับบ้านทันทีที่จ่ายตลาดเสร็จ ด้วยรู้ดีว่าถ้ากลับช้าจะต้องเจออะไร

หญิงสาวที่ตอนนี้อายุได้ยี่สิบห้าปีเต็มแล้ว หากแต่เธอมีวาสนาได้เรียนแค่เพียงมัธยมปลายเท่านั้นเพราะเจ้าของบ้านที่เธออาศัยอยู่สั่งห้ามไม่ให้เธอเรียนต่อมหาลัยแม้ว่าจะพยายามขอร้องท่านสักแค่ไหนคำตอบที่ได้กลับมาก็คือคำว่าไม่อนุญาตเสมอ หญิงสาวที่ถูกนำมาทิ้งเอาไว้ที่หน้าบ้านหลังงามหลังนั้นตั้งแต่ยังแบเบาะจำต้องยอมทำตามผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเธอเอาไว้ แม้จะในสถานะคนรับใช้กินเงินเดินหลักพันไม่ได้มีชีวิตที่ดีงามอะไรเลยสักอย่าง แต่อย่างไร ทั้งคุณหญิงและคุณท่านต่างก็มีบุญคุณต่อเธอด้วยกันทั้งคู่

เพราะฉะนั้นไม่ว่าท่านสั่งให้ทำอะไรต่อให้มันยากเย็นแค่ไหนเธอก็ต้องทำ เพื่อตอบพระคุณอันใหญ่หลวงที่ท่านมีให้กันเสมอ

ทว่าอีกแค่เพียงไม่กี่อึดใจจะถึงที่หมายนั้นหญิงสาวกลับต้องกรีดร้องด้วยความตกใจเมื่อรถคันหนึ่งขับผ่านหน้าเธอไปแถมยังเหยียบเอาแอ่งน้ำข้างทางอย่างแรงจนมันกระเด็นสาดใส่กัน ไม่นานจากนั้นรถคันหรูก็ถูกเบรกกะทันหันพร้อมกับร่างใหญ่โตของชายชุดดำคนหนึ่ง ที่เดินลงมาจากรถด้วยสีหน้าที่แสดงให้เห็นถึงความตกใจ

“ขอโทษครับคุณผมไม่ทันเห็น คุณเป็นอะไรมากรึเปล่าครับ” จารอปเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงทันทีที่เห็นว่าตนเองนั้นเผลอขับรถเหยียบน้ำจนทำให้มันกระเด็นใส่เธอเข้าอย่างจัง เขาเองก็ไม่ทันมองด้วยว่าจะมีใครสักคนเที่ยวมาเดินทำอะไรในย่านที่เต็มไปด้วยบ้านคนรวยเช่นนี้ เพราะส่วนใหญ่คนที่จะซื้อมันได้คงไม่มีใครมาเดินเตร่ให้คนอื่นขับรถเหยียบน้ำใส่เหมือนหญิงสาวนัยน์ตาสวยตรงหน้านี้แน่ อย่างไรก็ต้องขอโทษเพราะตนเป็นคนผิด

“มะ…ไม่ค่ะ ฉันแค่เปียกนิดหน่อยเท่านั้น ไม่เป็นอะไรมาก” ประภัสสรเอ่ยตอบเสียงสั่น ไม่บ่อยนักที่จะได้คุยกับคนแปลกหน้าเพราะโดยปกติแล้วเธอจะถูกสั่งให้อยู่แต่ในครัวเสียมากกว่าที่จะได้ออกไปไหน นี่นับว่าเป็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่เธอมีโอกาสได้ทำมัน

ซึ่งวันนี้มันคงต้องเป็นแบบนั้นหากป้าหยกที่มักจะรับหน้าที่ออกมาจ่ายตลาดด้วยตัวเองไม่ดันเท้าเจ็บขึ้นมาซะก่อน หน้าที่ที่ว่านั้นเลยตกมาเป็นของเธอแทบจะทันทีที่จำต้องออกมาจ่ายตลาดซื้อของสดเพื่อนำกลับไปทำอาหาร หญิงสาวคิดกับตัวเองในใจก่อนจะเงยหน้ามองคนตรงหน้าอีกครั้งหนึ่งซึ่งมันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่กระจกข้างจากด้านหลังของรถคันหรูก็ถูกเลื่อนลงเสียก่อนพร้อมกับเสียงก้องกังวานของใครอีกคนที่ดังตวาดขึ้นเหมือนกำลังไม่พอใจอยู่

“นายมัวทำบ้าอะไรอยู่จารอป! ถ้าหล่อนมากเรื่องนักก็รีบจ่ายๆ เงินไป!” หญิงสาวตาโตเมื่อขึ้นได้คำดูถูกดูแคลนของคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนรถจนทำให้เห็นหน้าของเขาไม่ชัดเท่าไหร่ แต่ดูจากคำพูดดูถูกคนอื่นเขาคงเป็นคนที่มารยาทแย่มากๆ

อะไรกันคนๆ นี้ เขาคิดว่าตัวเองรวยนักหรือไงกัน!!

“เก็บเงินของคุณไว้ไปเรียนมารยาทเพิ่มเถอะค่ะ เพราะว่าฉันไม่ต้องการมัน! สำหรับบางคนเงินก็ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตหรอกนะคะที่คุณเที่ยวจะนำมันมาหาดหัวให้กับใครที่ไหนก็ได้!” จารอปอ้าปากค้างกลางอากาศอย่างหวาดหวั่นยามเมื่อได้ยินคำตอบที่หญิงสาวตรงหน้า โต้กลับเจ้านายของเขาอย่างไม่คิดเกรงกลัวอีกฝ่ายเลย

ซึ่งมันก็ได้ผลชะงักเมื่อใบหน้าดุดันของคนในรถเงยขึ้นก่อนจะจ้องมองแม่คนปากเก่งอย่างเอาเรื่องกับปากกล้าๆ ของเธอ ไม่นานร่างสูงใหญ่ในชุดสูทเรียบหรูสีเทาก็รีบพาตัวเองเดินลงมาจากรถประจันหน้ากันด้วยท่าทีคุกคามจนอีกคนต้องถอยร่นหนีเพื่อระมัดระวังตัวเอง ยิ่งเมื่อได้เห็นเขาชัดๆ รังสีความหล่อเหลาก็ทะลุเข้าตาจนหญิงสาวค้างไปหลายนาที แต่เท้าก็ยังคงทำหน้าที่ของมัน..

“เมื่อกี้เธอว่าอะไร! เธอกำลังจะบอกว่าฉันเป็นคนไม่มีมารยาทอย่างนั้นใช่ไหม!!” ลูเซียสตวาดถามกลับก่อนจะจ้องมองหญิงสาวที่ไม่รู้ว่าชะตาของเธอกำลังขาดอย่างเหยียดหยาม ดูจากชุดที่ใส่ ข้าวของพะรุงพะรังที่ถืออยู่คงจะหนีไม่พ้นสาวใช้จากบ้านหลังไหนสักแห่งในย่านนี้ไม่ผิดแน่ๆ ตัวรึก็เป็นเพียงสาวใช้ต่ำต้อยแต่ริอาจปากดีต่อปากต่อคำกับเขา ไม่รู้ว่าแม่คุณไปขุดขนเอาความกล้าที่ไม่มีใครสักคนเคยทำนี้มาจากที่ไหนกันถึงได้กล้าทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำกับเขามาก่อน อย่าว่าแต่เขาเลยที่ตกใจ แม้แต่จารอปคนสนิทเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันเท่าไหร่ อีกฝ่ายดูเหมือนจะช็อกไปเลยด้วยซ้ำ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ พวงชมพู

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ