Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เสียวซ่านสะท้านทรวง

เสียวซ่านสะท้านทรวง

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
6.1K
ชม
16
บท

เธอแอบลักหลับคุณอาข้างบ้านตอนเขาเมา

บทที่ 1 1

นวินดารีบหลบสายตาของคุณอาหนุ่มข้างบ้านในทันทีที่เจอหน้ากัน หัวใจของเธอหล่นวูบไปที่ตาตุ่มเพราะกลัวเขาจะรู้ความจริงเข้า กรกานต์ไม่ใช่แค่เจ้านายของเธอแต่ยังเป็นเพื่อนสนิทรุ่นน้องของบิดาที่เธอมักเรียกติดปากว่าอากานต์

บิดามารดาฝากฝังให้เธอทำงานกับกรกานต์ตั้งแต่เรียนจบเพราะฐานะทางครอบครัวนั้นค่อนข้างระส่ำระสายด้วยว่าพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ประจวบเหมาะกับเธอเรียนจบพอดีจึงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการหาเงินจุนเจือครอบครัว และส่งน้องๆ อีกสองคนเล่าเรียน

กรกานต์ได้รู้จักกับบิดามารดาตอนไปเที่ยวทะเลทางปักษ์ใต้ ตอนนั้นบิดาเปิดรีสอร์ทเล็กๆ ให้พัก อีกทั้งยังทำธุรกิจร้านอาหารและขายของที่ระลึกอีกด้วย กรกานต์ถูกทำร้ายแล้วบิดาของเธอก็เข้าช่วยเหลือเอาไว้ทำให้เขารอดชีวิตมาได้

กรกานต์ซาบซึ้งบุญคุณของบิดาเป็นอันมากจึงนับถือกันเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไปมาหาสู่กันตลอดหลายปี บิดาของเธอนั้นอายุมากกว่ากรกานต์หลายปี แก่กว่ากรกานต์ถึงยี่สิบปี กรกานต์จึงเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่บิดารักมากคนหนึ่ง เขาเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาสะอาดสะอ้านในวัยสามสิบห้า ในขณะที่บิดาของเธออายุห้าสิบห้าในปีนี้

เธอสอบเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ จึงย้ายเข้ามาเรียนที่นี่โดยความช่วยเหลือของกรกานต์ เขาแบ่งบ้านอีกหลังข้างๆ ให้เธอได้เช่า ซึ่งเป็นบ้านหลังเก่าที่รีโนเวทใหม่ทั้งหมดเพราะเจ้าของคนเดิมย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับบุตรสาวจึงขายให้กรกานต์ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้กันในราคาย่อมเยาว์ด้วยว่าเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันมาหลายปี

“นดา” เสียงเรียกของกรกานต์ทำให้นวินดาสะดุ้งสุดตัว

“คะ? อากานต์” เธอมีท่าทีเหลอหลาก่อนจะหลบสายตาของเขาวูบใหญ่เมื่อเขากำลังจ้องมองเธอคล้ายมีคำถามมากมายอยากจะถาม

“เมื่อคืนใครเปลี่ยนเสื้อผ้าให้อาเหรอ” กรกานต์เอ่ยถามสาวน้อยหน้ามน

เขารับอาสาดูแลบุตรสาวของเพื่อนรุ่นพี่หรืออีกนัยหนึ่งคือผู้มีพระคุณมานานหลายปี เขาเป็นลูกชายคนเดียวที่บิดามารดาเสียชีวิตไปหมดแล้ว ทิ้งมรดกเอาไว้ให้ดูแล คือบริษัทจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ติดอันดับต้นๆ ของประเทศกับพอร์ตหุ้นและเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงบ้านเช่าและทองคำอีกจำนวนหนึ่งซึ่งฝากไว้กับธนาคาร ทำให้เขาอยู่ได้โดยไม่ลำบากหากขยันก็จะยิ่งร่ำรวยมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

“คุณอาเปลี่ยนเองหรือเปล่าคะ” คนปากแข็งเอ่ยถาม จะให้เธอบอกเขาไปได้ยังไงว่าเขาเมากลับมาเพราะไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดของบรรดาเพื่อนๆ แล้วเธอเข้าไปเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จนได้เสียกัน ด้วยว่าแอบรักกรกานต์มานานหลายปี อยากอยู่ใกล้ๆ เขาจึงพยายามสอบเรียนต่อที่กรุงเทพฯ ให้ได้ ทั้งยังยินดีที่บิดาฝากงานให้ทำกับเขาอีก เธอจึงยอมทอดกายทอดใจให้เขาเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ

“อย่างนั้นเหรอครับ อาเมาถึงขนาดเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยตัวเองเลยเหรอ ไม่น่าเชื่อว่าอาทำแบบนั้นแล้วจะจำไม่ได้” วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ กรกานต์นั้นมีวันหยุดให้ตัวของเขาเองและพนักงานทุกวันอาทิตย์และวันจันทร์ ส่วนวันอังคารถึงวันเสาร์ก็จะเปิดบริษัท ทุกวันเธอจะไปทำงานกับเขา แล้วก็แอบเนียนเข้ามาในบ้านของเขาเพื่อช่วยเหลือทำความสะอาด ทำอาหารอร่อยๆ ให้ และพาตัวเองมารับประทานอาหารกับเขาแทบจะทุกวัน นอกเสียจากว่าเขาจะออกไปข้างนอก เธอถึงต้องรับประทานอาหารคนเดียว

กรกานต์โสดและไม่มีหญิงข้างกาย เธอมาอยู่ที่บ้านของเขาตอนเรียนอยู่ระดับมหาวิทยาลัย ไม่เคยเห็นเขาพาหญิงสาวคนใดมาที่บ้านหรือควงไปไหนมาไหนเลย แถมยังชอบบอกใครๆ ว่าโสด เธอเห็นว่ามีแต่สาวๆ เข้าหาและเขาก็ไม่เคยตัดสินใจคบกับใครอย่างจริงจัง

เธอเคยรู้สึกใจแป้วไปพักหนึ่งคิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะมีเพื่อนผู้ชายเยอะแยะ แต่เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาเธอเพิ่งตระหนักว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด

รั้วบ้านของเขากับเธอนั้นไม่มีเพราะกรกานต์สั่งให้คนทุบทิ้งไปตั้งแต่ที่เขาซื้อบ้านจากเจ้าของคนเดิมก็คือหลังที่เธออยู่นั่นเอง

ร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อยืดสีครีมกับกางเกงขายาวสีเทาเข้มเดินเข้ามาหา กรกานต์เป็นหนุ่มหล่อร่างสูง ผิวค่อนข้างขาวและสะอาดสะอ้าน เขาดื่มบ้างแต่ไม่สูบ แม้ว่าเขาจะแต่งตัวธรรมดาแค่ไหนในเวลานี้แต่ก็ทำให้หัวใจของเธอสั่นสะท้านได้ทุกครั้งที่ได้สบตากันและกัน

นวินดาก้าวถอยหลังหลบสายตาวูบ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ กรกานต์เดินเข้าหาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบใบไม้แห้งที่ติดอยู่ตรงผมออก ในขณะที่เธอหลับตาปี๋

“ช่วงนี้อากาศร้อน ใบไม้แห้งเยอะไปหมด” นวินดาลืมตาขึ้น ทำท่าว่าเก้อเล็กน้อย เธอคิดว่าเขาจะทำอะไรกันล่ะ หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ใบหน้าร้อนผ่าวแก้วแดงก่ำลามไปถึงใบหู

“อายังไม่ได้กินอะไรเลย” เขาลูบหน้าท้องของตัวเองไปมา ก่อนจะเอ่ยบอกเธอ

“คะ?” ท่าทีของเขาทำให้เธอหลุดอุทานออกมาแล้วเงยหน้ามองใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อย นวินดาแก้มร้อนผ่าวที่ได้สบตากับคุณอาหนุ่มข้างบ้าน เหมือนเขาจะรู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่ยอมบอก ความอึดอัดใจตกมาอยู่ที่เธออีกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ได้ยินเสียงฉันไหม

ได้ยินเสียงฉันไหม

Star Attraction
4.4

เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ