Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ท่านประธานคลั่งรักสาวน้อยข้างบ้าน

ท่านประธานคลั่งรักสาวน้อยข้างบ้าน

B.J.BEN

4.8
ความคิดเห็น
5.5K
ชม
15
บท

คนที่กำลังดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติขณะนั่งจิบกาแฟไปด้วยถึงกับสำลัก ไอติดกันหลายครั้งจนต้องยกมือขึ้นตบอกเมื่อเห็นสาวน้อยวัยสะพรั่งผิวพรรณผุดผ่องกำลังนุ่งกระโจมอกออกมาอาบน้ำที่โอ่งข้างบ้าน ให้ตายดิ้นสิ!!! เขาคิดว่าอากาศค่อนข้างเย็น แต่เธอท้าลมหนาวด้วยการพาผิวกายผุดผ่อง ออกมาอาบน้ำเย้ยฟ้าท้าดินให้เขาได้เห็น ชลธารหายใจหนักๆ ลมหายใจของเขาสะดุดเมื่อเธอราดรดน้ำไปบนเนื้อตัวแล้วผ้าถุงผืนบางก็เปียกน้ำแนบไปกับเรือนร่างของเธอ จนเขาได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนสาวอย่างชัดเจน เธอกำลังฟอกสบู่ เลยถลกผ้าถุงขึ้นมาจนเขาได้เห็นขาอ่อนนวลเนียนที่น่าสัมผัสเป็นที่สุด ชลธารรู้สึกเหมือนเลือดกำเดาของเขาจะไหล แล้วไอ้ความโป่งพองของกางเกงที่สวมใส่อยู่ก็ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความทรมาน มือหนาเอื้อมมาสัมผัสกับแก่นกายที่กำลังตื่นตัวแข็งคึก เขารูดรัดและช่วยเหลือมันให้หายทรมาน ในจังหวะที่เขากำลังจะเสร็จสม วิมานกลางอากาศของเขาก็หยุดลง “โอ๊ย!” ชลธารร้องเสียงหลงยกมือขึ้นกุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้อย่างตกใจ เมื่อโดนกระสุนจากหนังสติ๊กยิงเข้าให้ ทำเอาเขาถึงกับหัวปูดโนไปเลย พอเหลือบไปมองสาวน้อยที่กำลังอาบน้ำอยู่ ก็เห็นว่าเธอกำลังง้างหนังสติ๊กค้าง และแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา โอ้... แม่เจ้า เขาถูกเธอเห็นเข้าให้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลามไปถึงใบหู เขาทั้งอารมณ์ค้าง ทั้งเจ็บจากกระสุนหนังสติ๊กจนตอนนี้หน้าเขียวหน้าเหลืองไปหมด แล้วสาวน้อยตัวแสบก็รีบวิ่งหนีเข้าบ้านไปโดยเร็ว เขาผิดอะไร ใครก็ได้บอกเขาที เธอเองไม่ใช่เหรอมาอาบน้ำโชว์ขาอ่อนขาวๆ เนียนๆ ให้เขาดู ชลธารพาตัวเองเดินเข้าบ้านพักอย่างหมายมาด คอยดูเอาเถอะ เจอกันแล้วจะแกล้งเสียให้เข็ด

บทที่ 1 1

ชลธาร ศิริวัฒนกุลทรุดนั่งลงตรงระเบียงหน้าบ้านเพื่อรับลมเย็นๆ จากต้นไม้มากมายในหมู่บ้านที่โชยมาปะทะกับเรือนร่างสูงสง่าของเขา

เขาเป็นหนุ่มวัยสามสิบเจ็ดที่หล่อเหลาคมเข้มและยังโสดสนิทเพราะยังไม่ถูกตาต้องใจสาวคนไหน นอกเสียจากสาวน้อยวัยใส นักศึกษาปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยชื่อดังนามว่าแก้มใส กันต์พิพัฒน์

เธอเป็นสาวน้อยข้างบ้านของเขา รู้จักกันมานานหลายปีแล้ว ด้วยว่ามารดาของเธอพาเธอย้ายมาอยู่หมู่บ้านหลังนี้ หลังจากได้รับมรดกจากสามีที่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงทำให้สองแม่ลูกไม่ลำบากมากนัก และอนงค์เองก็เป็นคนใช้จ่ายอย่างประหยัด ขยันทำงาน และเน้นดำรงชีวิตอยู่ด้วยการพึ่งตนเอง ปลูกผักและเลี้ยงไก่ไข่เอาไว้บริโภคเอง

หมู่บ้านแห่งนี้วิวทิวทัศน์งดงาม ด้านหลังติดภูเขาและแหล่งน้ำ ขับรถไม่นานก็เข้าตัวเมืองใหญ่ของจังหวัด เขาย้ายมาดูแลบริษัทประจำสาขาที่จังหวัดแห่งนี้ก็นานหลายปีแล้ว และไม่คิดอยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่แต่อย่างใด ด้วยว่ารักความสงบเป็นอันมาก

คนที่กำลังดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติขณะนั่งจิบกาแฟไปด้วยถึงกับสำลัก ไอติดกันหลายครั้งจนต้องยกมือขึ้นตบอกเมื่อเห็นสาวน้อยวัยสะพรั่งผิวพรรณผุดผ่องกำลังนุ่งกระโจมอกออกมาอาบน้ำที่โอ่งข้างบ้าน

ให้ตายดิ้นสิ!!!

เขาคิดว่าอากาศค่อนข้างเย็น แต่เธอท้าลมหนาวด้วยการพาผิวกายผุดผ่อง ออกมาอาบน้ำเย้ยฟ้าท้าดินให้เขาได้เห็น

ชลธารหายใจหนักๆ ลมหายใจของเขาสะดุดเมื่อเธอราดรดน้ำไปบนเนื้อตัวแล้วผ้าถุงผืนบางก็เปียกน้ำแนบไปกับเรือนร่างของเธอ จนเขาได้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของเรือนสาวอย่างชัดเจน

เธอกำลังฟอกสบู่ เลยถลกผ้าถุงขึ้นมาจนเขาได้เห็นขาอ่อนนวลเนียนที่น่าสัมผัสเป็นที่สุด

ชลธารรู้สึกเหมือนเลือดกำเดาของเขาจะไหล แล้วไอ้ความโป่งพองของกางเกงที่สวมใส่อยู่ก็ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความทรมาน

มือหนาเอื้อมมาสัมผัสกับแก่นกายที่กำลังตื่นตัวแข็งคึก เขารูดรัดและช่วยเหลือมันให้หายทรมาน

ในจังหวะที่เขากำลังจะเสร็จสม วิมานกลางอากาศของเขาก็หยุดลง

“โอ๊ย!” ชลธารร้องเสียงหลงยกมือขึ้นกุมหน้าผากของตัวเองเอาไว้อย่างตกใจ เมื่อโดนกระสุนจากหนังสติ๊กยิงเข้าให้

ทำเอาเขาถึงกับหัวปูดโนไปเลย พอเหลือบไปมองสาวน้อยที่กำลังอาบน้ำอยู่ ก็เห็นว่าเธอกำลังง้างหนังสติ๊กค้าง และแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา

โอ้... แม่เจ้า เขาถูกเธอเห็นเข้าให้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลามไปถึงใบหู เขาทั้งอารมณ์ค้าง ทั้งเจ็บจากกระสุนหนังสติ๊กจนตอนนี้หน้าเขียวหน้าเหลืองไปหมด

แล้วสาวน้อยตัวแสบก็รีบวิ่งหนีเข้าบ้านไปโดยเร็ว

เขาผิดอะไร ใครก็ได้บอกเขาที เธอเองไม่ใช่เหรอมาอาบน้ำโชว์ขาอ่อนขาวๆ เนียนๆ ให้เขาดู

ชลธารพาตัวเองเดินเข้าบ้านพักอย่างหมายมาด คอยดูเอาเถอะ เจอกันแล้วจะแกล้งเสียให้เข็ด

เธอไปฝึกงานที่บริษัทที่เขาย้ายมาดูแลอยู่ที่นี่นานหลายปี

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร คิดเหรอว่าเขาจะปล่อยให้เธอลอยนวลไปได้ง่ายๆ

ชลธารต้องช่วยตัวเองอีกหน นึกจินตนาการไปถึงสาวน้อยวัยใสแล้วหยาดน้ำรักของเขาก็กระฉูดออกมาเต็มหน้าขา เขาหอบหายใจอย่างรุนแรง

ก่อนจะรีบอาบน้ำแต่งตัวออกไปทำงาน เขาขับรถไปจอดเทียบหน้าบ้านของหล่อน ก่อนจะลงไปยกมือไหว้มารดาของแก้มใสที่ตอนนี้กำลังตัดแต่งต้นไม้อยู่ตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน

พออนงค์เห็นชายหนุ่มอันเป็นเพื่อนบ้านเข้าก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะได้ฝากฝังบุตรสาวเอาไว้กับชลธาร

“แก้มใสแต่งตัวเสร็จหรือยังครับคุณน้า” ชลธารเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพอ่อนน้อม

“แต่งตัวเสร็จแล้ว เห็นบ่นๆ กับน่าว่ามีพวกชีกอมาแอบดูเขาอาบน้ำแน่ะ ใครก็ไม่รู้สงสัยเด็กวัยรุ่นแถวนี้ แต่ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เห็นบอกว่าเอาหนังสติ๊กยิงใส่แล้วล่ะ”

“แค่กๆๆ” ชลธารถึงกับสำลักเมื่อได้ยินประโยคนั้นของอนงค์

“เราเป็นอะไร จู่ๆ สำลักน้ำลายตัวเอง ดูสิหูตาแดง หน้าแดงไปหมดแล้ว”

“เปล่าครับ ผมก็ไม่คิดว่าจะมีใครไปแอบมองแก้มใสน่ะครับ” เขาตบอกตัวเองไปมา สำลักน้ำลายตัวเองอย่างหนัก

เขานี่แหละมองเธอ ไม่ได้แอบมองเลย เขาสาบาน เขามองตรงๆ นี่แหละ ก็เธอมาอาบน้ำให้เขาดูเองนี่นา

“นั่นสิคะคุณแม่ สงสัยเป็นพวกตาแก่หัวงู หาเมียไม่ได้แถมยังเป็นโรคจิตชอบถ้ำมองอีกค่ะ” เสียงใสๆ ของแก้มใสดังขึ้น ชลธารหันไปมอง เธออยู่ในชุดนักศึกษาที่ดูยังไงก็ทำให้เขาอยากจับปล้ำเสียจริงๆ

“เราก็พูดไปเรื่อย”

“หนูไปก่อนนะคะคุณแม่” แก้มใสยกมือไหว้มารดา เธอไม่ได้อยากติดรถไปกับชลธารหรอก แต่มารดาเป็นคนค่อนข้างขี้เหนียว การติดรถชลธารไปทำงานทำให้ประหยัดค่าโดยสารไปได้มาก เธอไม่อยากขัดใจเพราะกลัวโดนบ่นเลยต้องไปทำงานกับเขาทุกวัน ตอนไปเรียนก็เหมือนกัน เขาก็ไปรับส่งทำตัวเป็นผู้ปกครองเธออยู่ตลอดหลายปีที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัย

มารดาของเธอชอบชลธารมากเพราะมีน้ำใจ จึงฝากฝังเธอเอาไว้ให้ชลธารช่วยดูแล มีกับข้าวหรือขนมอะไรก็จะทำให้เขากินทุกวันเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

“แล้วหัวเราไปโดนอะไรมาล่ะนั่นนูนเขียวเชียว”

“ผมตัดหญ้าในสนามน่ะครับ หินเลยกระเด็นใส่” เขาโกหกคำโต

“คิกๆ” เสียงหัวเราะของแก้มใสดังขึ้นเมื่อได้ยินประโยคนั้นของชลธาร

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

ไฟรักมาเฟียร้าย [เจ้านาย VS เลขา]

สนพ. อิ่มรัก
4.8

ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”

พี่เขยคลั่งสวาท

พี่เขยคลั่งสวาท

กาสะลอง
5.0

“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ