Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เพลิงรักไฟมธุรส

เพลิงรักไฟมธุรส

ปูริดา

5.0
ความคิดเห็น
15.5K
ชม
71
บท

“อ๊ะ...อย่างเพิ่งดีใจไปค่ะคุณภีมะ โทษของคุณยังไม่หมดนะคะ นี่ก็เป็นเพียงบทลงโทษแรกที่คุณจะได้รับจากการหลอกลวงดิฉัน ที่ดิฉันก็ยังจำได้อีกว่าคุณได้ทำความผิดอะไรไว้บ้าง” โรสรินทร์ยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายสดชื่นแจ่มใสมากขึ้น “เอ๊ะ...หรือว่าแค่นี้คุณภีมะไม่กล้า ไม่เป็นไรค่ะดิฉันก็คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียว” หญิงสาวพูดจาหมิ่นแคลน เธอยันกายลุกขึ้นจากตักชายหนุ่ม “ได้ครับได้ พี่ภีมจะทำทุกอย่างที่หนูโรสต้องการ” ภีมะรีบลุกเดินไปที่ชายหาด เพื่อทำตามที่หญิงสาวต้องการ “เดี๋ยวซิคะพี่ภีมขา” โรสรินทร์ร้องเรียกเสียงหวานเชื่อม “พี่ภีมนั่งลงก่อนซิคะ” ภีมะได้แต่ทำตามความต้องการของโรสรินทร์อย่างสงสัย ตกลงหญิงสาวโกรธเขาจริงๆ หรือว่ามีอะไรแอบแฝงอยู่ แต่ยังไงซะเขาก็มีความผิดจริงๆ นั่นแหละที่วางแผนการหลอกลวงเธอไป ยังไงก็ต้องยอมรับการลงทัณฑ์เพื่อที่หลังจากนี้เขาและหญิงสาวก็จะได้ครองคู่ครองรักกันอย่างมีความสุข โรสรินทร์ยิ้มกว้าง พลางขึ้นขี่หลังภีมะ “เอาล่ะทีนี้ก็ไปได้แล้วค่ะพี่ภีม” ระหว่างการเดินทางโรสรินทร์ไม่ยอมให้ภีมะอุ้มเฉยๆ เธอพยายามที่จะบั่นทอนกำลังเขาทุกทาง สองขากระดิกไปมาอย่างคนอยู่ไม่สุข มือเรียวไล้ไปตามใบหน้าลำคอและยังจะยื่นไปบีบจมูกเขาเสียอีก พอเขาทักท้วงเธอก็จะยกเรื่องที่เขาทำผิดไว้มาขู่ เมื่อถึงชายหาด ภีมะก็วางโรสรินทร์ลงและมองหน้าหญิงสาวอย่างออดอ้อน ก็เขาอายอายที่จะต้องมาทำอะไรเหมือนเด็กๆ อย่างที่เธอต้องการ “หนูโรสจะลงโทษพี่อย่างนี้จริงๆ หรือคะ”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ตอนที่ 1

ปัง!!

โรสรินทร์เดินลงส้นเท้าปังๆ ใบหน้าบูดบึ้ง ดวงตาเปล่งประกายวามวาวด้วยเพลิงโทสะ หายใจเข้าออกอย่างรุนแรงเพราะระงับอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายในอกไม่ได้ ด้วยในหูยังอื้ออึงจากคำพูดที่ได้ฟังจากป้านุ่มคนรับใช้เก่าแก่ของบ้านดังก้องหู

ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านยังพอทำใจได้ แต่ถึงขั้นย้ายไปอยู่ในห้องนอนของบิดามารดา แบบนี้มันหยามกันเกินไป ไอ้คนไร้มารยาทย่ำยีหัวใจกันมากเกินไป เธอรับไม่ได้!

โรสรินทร์เดินจ้ำอ้าว ชนิดไม่ดูไม่สนสิ่งใดเข้ามาไปในห้องทำงานของชายหนุ่มนามว่า ภีมะ ซึ่งอยู่ชั้นสองของอาคารใหญ่ที่ด้านล่างเป็นที่ตั้งของกาสิโน โดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามของใคร แม้แต่พงศ์เทพ ทนายความที่เธอเคารพรักเหมือนกับบิดาคนที่สอง

“ไอ้เลวภีมะ” โรสรินทร์ร้องเรียกชายร่างสูงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าไม่ไกล เธอพุ่งปรี่ไปยกมือฟาดใบหน้าชายผู้ที่สร้างความโกรธเกรี้ยวเต็มๆ แรงถึงสองครั้งด้วยกัน

เพี๊ยะ!! เพี๊ยะ!!

ขนาดว่าตบไปเต็มแรงจนอีกฝ่ายหน้าหันแล้วนะ แต่โรสรินทร์ก็ยังไม่หายโมโห เธอก้มตัวลงไปดึงเอารองเท้ามาหวังใช้ตบหน้าภีมะให้สุดแรงอีกสักหลายๆ ครั้ง

เธอกลับบ้านด้วยความยินดี หากเมื่อมาถึงกลับได้ฟังถ้อยคำเป็นเชื้อเพลิงให้เจ็บปวดระคนเคียดแค้นจากคนรับใช้เก่าแก่ซะนี่

“คุณหนู...คุณหนูโรสของป้า ป้าคิดถึงคุณหนูที่สุดเลย คุณหนูจะกลับมาอยู่กับป้าแล้วใช่ไหมคะ”

น้ำตาไหลอาบใบหน้าหญิงชรา แขนอวบๆ โอบรอบร่างโรสรินทร์ที่กอดตอบกายป้อมๆ อย่างแสนจะคิดถึงเช่นกัน

“กลับมาอยู่บ้านเราแล้วใช่ไหมคะคุณหนู ป้าดีใจจังเลยที่คุณหนูกลับมา”

ป้านุ่มจูงมือโรสรินทร์พาเดินเข้าไปในบ้าน อีกมือก็ยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าด้วยความปลื้มปีติ ที่เห็นคนซึ่งนางเลี้ยงมาแต่เด็กทำในสิ่งที่ตัวเองปรารถนาสำเร็จ

“ป้ารู้ว่าถ้าบอกไปคงทำให้คุณหนูทุกข์ใจ แต่ถ้าไม่บอกก็เห็นว่าจะเป็นการไม่สมควร” ไม่ได้จะเล่าเรื่องร้อนให้โรสรินทร์ฟังตั้งแต่มาถึง แต่ถ้าไม่บอกในตอนนี้ ถ้าหญิงสาวรู้ในภายหลังจะยิ่งโกรธ จนใครก็เข้าหน้าไม่ติด

โรสรินทร์รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของคนเก่าคนแก่ ที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็กๆ รักเธอดั่งเช่นลูกในอุทร

“มีอะไรคะป้า”

“ป้าจะเล่าให้ฟังยังไงดี...พอคุณหนูไปเรียนได้ไม่ถึงสามเดือนดี คุณภีมก็ขนย้ายข้าวของมาอยู่ในบ้านเราค่ะ”

“ป้าว่าอะไรนะคะ ใครย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเรา” ถ้าเป็นคนอื่นย้ายเข้ามา ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่กับภีมะ...ก็เหมือนกับใครเอามือไปแหย่รังแตน เพียงรู้ว่าคนที่ไม่ชอบหน้าเข้ามาพำนักในบ้าน มันเหมือนถูกใครขยี้พริกใส่ มันร้อนรนอยากจะเอารองเท้าฝาดใบหน้าเฉยชาไม่ยินดียินร้ายให้ยับอย่างกับหมูถูกสับ

“นายภีมะค่ะคุณหนู” ป้านุ่มเปลี่ยนสรรพนามเรียกคนที่กล่าวถึงใหม่ เพื่อไม่ให้โรสรินทร์จับผิดได้ว่านางไม่ได้โกรธเกลียดภีมะ แต่กลับรู้สึกดีๆ กับชายหนุ่มผู้ที่กล้าต่อกรกับคุณหนูผู้เอาแต่ใจ

จากตอนแรกเธอมีความสุขที่ได้กลับบ้าน กลับแปรเปลี่ยนเป็นโมโหจนควันแทบออกหู หญิงสาวสะกดกลั้นน้ำเสียงที่ออกจากปากให้นุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า บ้านเราออกจะใหญ่ ห้องหับมีตั้งเยอะแยะ ห้องคนสวนก็ยังว่างอยู่ ให้คนไร้ที่พึ่ง ไร้บ้านมาอยู่ด้วยอีกคน ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่คะ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะซิคะคุณหนู คือนายภีม เขา...”

“มีอะไรอีกคะป้า” ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ การพูดการจ้าก็อ้ำอึ้งของคนรับใช้เก่าแก่ทำให้หัวคิ้วโรสรินทร์ขมวดเข้าหากัน

“คือ...นายภีมเขาพักอยู่ห้องคุณพ่อคุณหนูนะคะ”

“อะไรนะคะ ป้าว่าอะไรนะ” โรสรินทร์แผดเสียงถาม

“นายภีมพักอยู่ห้องของคุณพ่อคุณหนูค่ะ”

“อะไรนะ...ป้าว่าไอ้บ้านั่นอยู่ห้องไหนนะคะ” โรสรินทร์ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาไม่มีอะไรผิดพลาด

“ป้าบอกหนูโรสใหม่อีกครั้งได้ไหมคะว่า ไอ้บ้านั่นย้ายเข้าไปอยู่ห้องไหน”

การที่ภีมะย้ายข้าวของมาอยู่ในบ้าน เธอพอจะเดาออกนานแล้ว เพราะบิดาเป็นปลื้ม...กับอีตาหน้าเป็นจอมหยิ่งภีมะนานแล้ว ไม่แค่เอ่ยชม ยังจะเปรยๆ ว่าอยากได้มาเป็นลูกชายด้วยซ้ำ แต่เมื่อไม่ได้ ถ้าเป็นลูกเขยก็คงดี

โรสรินทร์กำหมัดจนปลายเล็บยาวและแหลมทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ เพราะรับไม่ไดและเจ็บใจที่มาช้าไป

“นายภีมะยังสั่งให้คุณทนายตามคุณหนูให้กลับมาบ้านด้วยค่ะ” ป้านุ่มฟ้องต่อ มือเหี่ยวจับแขนเรียวลูบไปมา เพื่อให้นายสาวคลายความร้อนใจที่มีลงบ้าง

“แล้วไอ้บ้านั่นมันยังทำอะไรอีกคะป้า” โรสรินทร์กัดฟันถาม ดวงตาวาวโรจน์

“สำหรับเรื่องอื่นป้าไม่รู้ค่ะ คุณหนูต้องไปถามคุณทนายเอง เพราะป้าเห็นนายภีมะเรียกคุณทนายมาคุย จนดึกจนดื่นเกือบทุกวันเลยค่ะ”

คำตอบของป้านุ่มยิ่งเติมความโกรธให้กับโรสรินทร์ที่ไม่รอฟังสิ่งใดอีกแล้ว หญิงสาววิ่งไปคว้ากุญแจรถคันโปรดที่บิดาซื้อให้เป็นของขวัญในวันรับปริญญาตรีขับออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อไปถึงบ้านพงศ์เทพทนายความประจำตระกูล ทำเอาเธอถึงกับลมจับ เมื่อได้ยินทนายความวัยชราพูดถึงเรื่องหนี้สินของบิดาที่มีกับภีมะ

“ขอโทษนะครับคุณหนู แต่คุณพ่อคุณหนูเป็นหนี้คุณภีมะอยู่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท และคุณพ่อของคุณหนูยังบอกให้คุณภีมะเป็นคนจัดการเรื่องราวในบ้านและเรื่องของธุรกิจที่ท่านเป็นเจ้าของทุกอย่างด้วยครับ”

“ไม่จริงใช่ไหมคะลุงพงศ์ ไอ้ภีมะบ้านั่นโกงพ่อของโรสใช่ไหมคะ”

โรสรินทร์ถามเสียงสั่น อย่างไม่รู้ว่าตกใจหรือโกรธคนที่ถูกกล่าวถึงกันแน่ หญิงสาวถึงกับเข่าอ่อนจนทรุดลงบนโซฟาอย่างหมดเรี่ยวแรง ใบหน้านวลแดงสลับซีด ดวงตากลมโตมองชายชราว่า สิ่งที่เธอได้ยินนั้นมันไม่ใช่ความจริง

“ไม่ใช่ครับ คุณพ่อคุณหนูติดการพนัน ถึงกับเอาหุ้นที่มีและธุรกิจทุกอย่างเป็นเดิมพัน ตอนแรกคุณภีมะก็ไม่อยากจะยุ่งด้วย แต่คงเห็นว่าถ้าไม่รับเอาไว้เอง คุณพ่อคุณหนูก็คงจะเอาไปขายให้กับคนอื่น ไม่แค่แพ้จนหมดเนื้อหมดตัว แต่ยังเป็นหนี้คุณภีมะอีกก้อนโต้ด้วยครับ” ทนายความวัยชราผมสีดอกเลาบอกกับลูกสาวเจ้านายเก่าที่เขารักเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่งเสียงออกความกังวลใจ

“ไม่...ไม่จริง! พ่อไม่ใช่คนเล่นการพนัน จะต้องเป็นเพราะไอ้ภีมะบ้านั่น ใช่...ไอ้บ้าภีมะหลอกลวงพ่อ…โกงพ่อหนูโรสด้วย”

โรสรินทร์พูดอย่างเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เธอคิดนั้นเป็นความจริง ภีมะจะต้องใช้เล่ห์กลโกงเอาชนะบิดาที่รู้ไม่เท่าทัน หญิงสาวกัดฟันกรอด

“หนูโรสหนูโรสจะเอาเรื่องไอ้บ้านั่นให้ถึงที่สุด จะเอาธุรกิจของพ่อที่โดนโกงกลับมาให้ได้”

“เดี๋ยวครับคุณหนูโรส” พงศ์เทพเรียกเอาไว้ก่อนโรสรินทร์จะผลีผลามวิ่งไปให้ภีมะเชือดเพราะคุมอารมณ์เอาไว้ไม่ได้

“มีอะไรอีกค่ะลุงพงศ์”

“คุณภีมะไม่เป็นแค่คนดูแลทรัพย์สินทุกอย่าง ท่านยังฝากฝังให้คุณภีมะจัดการเรื่องคนที่จะมาเป็นสามีคุณหนูด้วยครับ”

“อะไรนะคะ” โรสรินทร์แผดเสียงดังลั่น

“ไม่จริง...ลุงพงศ์โกหกหนูโรส” จากที่ตะเบงจนเจ็บคอ ตอนนี้เสียงที่ออกมากลับเป็นครางแผ่วๆ ในลำคอ

“เรื่องทุกอย่างเป็นฝีมือไอ้ภีมะบ้าคนเดียว ถ้าวันนี้หนูโรสไม่ได้เอาเลือดหัวมันออก หนูก็ไม่ใช่โรสรินทร์ รันตะบดินทร์แล้วละคะ” หญิงสาวเค้นเสียงพูดด้วยความคั่งแค้น เกลียดชังในตัวภีมะจนร้อนไปหมดทั้งทรวง แล้วถ้าไม่ได้ทำอะไรระบายความโกรธแค้นที่มีละก็...เธอไม่วันมีความสุขได้

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ปูริดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ