Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ทาสสวาทนางบำเรอท้ายครัว

ทาสสวาทนางบำเรอท้ายครัว

เสาวรัจ

5.0
ความคิดเห็น
2.2K
ชม
16
บท

นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีเจตนาที่จะพาดพิงใคร แต่งเพื่อให้ผู้อ่านได้รับความสนุกสนาน คลายเครียดเท่านั้น เธอเป็นเพียงลูกสาวแม่บ้านที่ไร้เดียงสา ที่ถูกคนที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างเขาข่มเหงรังแกและต้องยอมมาเป็นนางบำเรอ จนเมื่อมีใครอีกคนเข้ามาในชีวิต เขาก็ทอดทิ้งเธอให้อยู่เพียงลำพังกับสิ่งมีชีวิตน้อยๆ ที่อยู่ในท้องของเธอ พงศ์ตะวัน ชายหนุ่มวัย30ปี รูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา ร่ำรวย บุตรชายคนเล็กของตระกูล นิสัยเอาแต่ใจ เผด็จการ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ต้องตกมาเป็นทาสสวาทของความบริสุทธิ์ของเธอ ม่านมุก หญิงสาววัย22ปี หน้าตาสะสวย น่ารัก ดวงตากลมโตเหมือนกวาง เธอเพียงลูกสาวของแม่บ้าน ที่ถูกเขาคนที่เเี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายข่มเหงรังแกในคืนนั้น และเหตุการณ์ในคืนนั้นทำให้เธอต้องยอมมาเป็นนางบำเรอให้กับเขา ม่านเมฆ ม่านฟ้า เด็กแฝดวัย3ขวบ ที่แสนน่ารัก ผู้ที่จะทำให้พ่อกับแม่รักกัน คืนนั้น....... พงศ์ตะวันดื่มกับเพื่อนจนดึก เขารู้สึกว่าตัวเองเริ่มเมาจึงขอตัวกลับก่อน โดยมีคนขับรถของอินทัชมาส่ง ชายหนุ่มเดินมาที่ห้องทำงาน ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่าม่านมุกยังทำงานอยู่ “ดึกแล้ว ทำไม่เธอยังทำงานอยู่ล่ะ” เขาถามพลางเดินเข้ามาใกล้ “เอ่อ…ฉันจะเคลียร์งานให้เสร็จก่อนค่ะ” ม่านมุกรู้สึกประหม่า เมื่อเขาเดินเข้าดูงานบนโต๊ะ โดยลักษณะคร่อมตัวเธอไว้ การที่เขาอยู่ใกล้เธอเช่นนี้ทำให้ได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ที่เธอฉีด พงศ์ตะวันที่ขาดเรื่องเซ็กส์มานานรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมา ประกอบกับความมึนเมาทำให้อารมณ์ของเขาพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างยากที่จะระงับ ชายหนุ่มรวบร่างบางของหญิงสาวเขามากอด ก่อนที่จะก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากอวบอิ่มทันที ม่านมุกรู้สึกตกตลึง เธอยืนนิ่งตัวสั่น รู้สึกหวาดกลัวไม่กล้าขยับตัวไปไหน พงศ์ตะวันสอดลิ้นเข้าไปหาความหวานในโพรงปากสาว หญิงสาวที่ไม่เคยผ่านมือชายใด ถึงกับหมดแรง ชายหนุ่มประคองร่างของเธอไว้ ความอดทนของเขาเริ่มหมดลง ร่างกายของม่านมุกช่างนุ่มนิ่ม ใบหน้าหล่อเหลาซุกไซร้ซอกคอขาวระหง มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปทั่วตัวของเธอ บีบเค้นเนินอกอวบอิ่มสองข้างสลับกันไปมา เขาอุ้มร่างของหญิงสาวมาวางไว้ที่โซฟาแล้วก็จัดการถอดเสื้อผ้าของเธอออก ชายหนุ่มเอื้อมมือปลดตะขอบราเซีย เผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่มที่ชูชันอยู่ตรงหน้า พงศ์ตะวันกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปหมด เหลือแต่ความใคร่และความปรารถนา เมื่อเห็นความสวยงามที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า หน้าท้องที่แบนราบ เนินสวาทที่โหนกนูนงดงาม “เธอสวยมากม่านมุก” ชายหนุ่มกระซิบบอกเสียงแหบพร่า ก่อนจะรีบจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองออก ก่อนที่จะคลุกเคล้ากับร่างกายอันงดงามของเธอที่ตอนนี้เป็นสีแดงระเรื่ออย่างคลั่งไคล้ ห้ามลอกเลียน ดัดแปลงหรือนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด ขอบคุณที่ติดตามนะคะ🙏💗

บทที่ 1 นั่นใคร

ตอนที่1

“นั่นใคร” เสียงห้าวดังขึ้น เมื่อหางตาหันไปเห็นร่างเล็กของใครคนหนึ่งวิ่งออกไปทางด้านหลังบ้าน

“อ้อ หนูม่านมุกค่ะ” เสียงป้าสร้อยหัวหน้าแม่บ้านที่ยืนคอยตอบคำถามผู้เป็นเจ้านายที่พึ่งกลับมาจากเมืองนอก

พงศ์ตะวัน ชายหนุ่มวัย30ปี รูปร่างสูงใหญ่ แข็งแรงกำยำ สมชายไทย หน้าตาหล่อเหลา เย็นชาเขามีนิสัย ถือตัว หยิ่งยโส เอาแต่ใจ เด็ดขาด เขาเป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูล มีพี่ชาย1คน บิดาและมารดาได้เสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุ เขาพึ่งกลับมาจากเยอรมัน หลังจากไปเรียนต่อปริญญาโทและอยู่เที่ยวเล่น จนพี่ชายได้บอกให้เขากลับมาช่วยบริหาร เพราะงานล้นมือมากจนทำเองคนเดียวไม่ไหว เขาเคยผิดหวังในความรักกับหญิงสาวคนหนึ่งที่คบกันมา4ปี เนื่องจากหญิงสาวคนนั้นจะต้องไปแต่งงานกับคนที่ครอบครัวหาให้ การที่เขาผิดหวังในความรักก็ยิ่งทำให้กลายเป็นคนเย็นชาและไร้หัวใจ ไม่ศรัทธาในความรักอีกเลย

“หือ” พงศ์ตะวัน ยังจำภาพของเด็กผู้หญิง สูงผอม หน้าตาจืดๆ ที่ดูหวาดกลัวเขาเมื่อ10ปี ก่อนที่จะไปเรียนต่อได้ดี เขาเห็นเธอมาตั้งแต่เด็กๆได้เล่นด้วยกันบ้างในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วเธอมักจะเล่นกับภูตะวัน ผู้เป็นพี่ชายของเขามากกว่า เพราะพี่ชายของเขาไม่ได้ดูน่ากลัวเหมือนเช่นเขา

“เรียนจบหรือยัง”

“จบปวส.ค่ะ”

“อ้าวทำไมไม่ให้เรียนปริญญาต่อล่ะ” ชายหนุ่มถามอย่างแปลกใจ

“คือ แกหัวอ่อนน่ะค่ะ เลยไม่อยากให้ให้ไปเรียนไกลๆ” ป้าสร้อยตอบ ม่านมุก เป็นลูกสาวของแม่บ้านเก่าแก่คนหนึ่งที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมกับเจ้าของบ้าน พวกแม่บ้านจึงช่วยเลี้ยงกันมา จนโตเป็นสาว หญิงสาวเป็นคนหัวอ่อนซื่อๆ เธอจึงเป็นห่วง เลยให้เรียนแค่นั้นและมาช่วยงานด้านบัญชีเพราะหญิงสาวเรียนจบด้านนี้

“แล้วให้ทำงานอะไรล่ะ”

“ดูแลบัญชีบ้านเช่าค่ะ” ธุรกิจของครอบครัวพงศ์ตะวัน เป็นธุรกิจอพาร์ทเม้นท์ บ้านเช่า และตลาดใหญ่ประจำจังหวัด ซึ่งพงศ์ตะวันก็ต้องมาดูแลธุรกิจนี้ ส่วนธุรกิจโรงงานต่างๆพี่ชายของเขาเป็นคนดูแล

“เดี๋ยววันนี้ฉันจะพักก่อน พรุ่งนี้เช้าเรียกทุกคนพร้อมกันที่ห้องอาหารนะ” พูดจบเขาก็เดินเข้าบ้านไปทันที

ป้าสร้อยถอนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก คลายความอึดอัดออกมา ก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนคนรับใช้ที่อยู่ติดอยู่กับบ้านของเจ้านายนั่นเอง

“ป้าจ๋า ทำไมนายหน้าดุจัง” ม่านมุกถามขึ้นเมื่อเห็นป้าสร้อยเดินเข้ามาในบ้าน

“นายก็หน้านิ่งแบบนั้นแหละ แล้วหนูวิ่งทำไมล่ะ” ป้าสร้อยถาม

“ก็หนูกลัวนายนี่คะ” หญิงสาวพูดอย่างหวาดๆ

“เห้อ! มุกโตขนาดนี้แล้วหนูยังกลัวนายอีกหรือ กลัวไปหมดทุกอย่างเลยนะเรา” เธอพูดพลางลูบศีรษะหญิงสาวอย่างเอ็นดู

“ป้า ป้าสร้อย” เสียงเรียกของเด็กรับใช้คนหนึ่งดังขึ้นจากทางหน้าบ้าน

“มีอะไรนางริน เอะอะโวยวายมาแต่ไกล”

“ป้า หนูได้ยินคนงานพูดกันว่า นายกลับมาแล้ว จริงมั้ยป้า” เด็กรับใช้ ที่ชื่อว่า ริน ถามขึ้นทันที

“จริง”

“นายใจดีมั้ยป้า”

“ก็ดีมั้ง ฉันจะไปรู้มั้ยล่ะ”

“เขาบอกว่านายหล่อขึ้นมาก จริงมั้ยป้า”

“โอ๊ย นางริน ฉันแก่แล้วจะไปรู้ได้ยังไง ถามยัยมุกนู่น เป็นสาวเหมือนกัน”

“ไงจ๊ะ พี่มุก นายหล่อขึ้นจริงมั้ย” เมื่อไม่ได้คำตอบจากป้าสร้อย เด็กสาวก็หันมาหาคนที่เปรียบเสมือนพี่สาวของเธอทันที ตามคำแนะนำของป้าสร้อย

“เอ่อ พี่คิดว่า ก็หน้าตาดี” ม่านมุกตอบไปตามความคิด เพราะเธอเห็นเขาไม่ค่อยชัด จึงไม่รู้ว่าหล่อมากมั้ย

“ฉันอยากจะเจอนายแล้วล่ะสิ”

“จริงด้วย พรุ่งนี้น่ะ นายเรียกพบทุกคนนะ ที่ห้องอาหาร มากันให้ครบด้วยล่ะ” ป้าสร้อยบอกทุกคนที่อยู่ในที่นั้นให้รับรู้ ก่อนที่ทุกคนจะรับทราบ

เช้าวันต่อมา……

คนงานทุกคนก็พากันมาที่ห้องอาหารตามคำสั่งของพงศ์ตะวัน เมื่อมากันครบเขาก็จัดการมอบหมายงาน หน้าที่ให้ทุกคนตามคำแนะนำของป้าสร้อย

นายชาญ มีหน้าที่ในการทำสวน สามีป้ามณี

นายเพชร ลูกชายป้าสร้อย เป็นคนขับรถให้กับพงศ์ตะวัน

ป้ามณี แม่ครัว

ป้าสร้อย หัวหน้าแม่บ้าน

นางองุ่น ลูกสะใภ้ป้าสร้อย ทำความสะอาดบ้าน

นางริน ทำความสะอาดบ้าน

ม่านมุก ทำบัญชี จัดการเอกสารต่างๆ

“แล้วก็หาคนทำความสะอาดอีก2คนมาด้วยนะป้าสร้อย” พงศ์ตะวันหันไปสั่ง

“ค่ะ นาย” เมื่อป้าสร้อยรับคำ เขาก็ลุกเดินออกไปทันที

“นายดูเย็นชาจังเลยเนอะพี่มุก” รินหันมาหาม่านมุก

“นั้นสิ นายน่ากลัวจัง” ประโยคหลังเธอพึมพำออกมาเบาๆ

“อะไรนะ พี่มุก” สาวน้อยถาม เพราะได้ยินไม่ถนัด

“เปล่าๆ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนดีกว่า”

ม่านมุกเดินกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ที่เรือนคนรับใช้ ขณะที่เธอกำลังจัดเรียงเอกสารอยู่นั้น ป้าสร้อยก็เข้ามาในห้อง

“มุก นายเรียกพบ”

“นายจะดุหนูมั้ยจ๊ะป้า”

“ไม่หรอก อย่ากลัวไปเลย นายไม่ได้ใจร้ายอะไร เอาเอกสารไปด้วยนะ”

“จ้ะ ป้า”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

 ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ท่านประธานขาพาหนูลงจากเตียง เอ๊ย! คานที

ผลิกา(เลอบัว)
4.8

เพราะประกาศิตจากแม่และยายให้เธอกลับไปแต่งงานกับคนที่หาไว้ ทางรอดสุดท้ายคือเธอต้องหาผู้ชายที่เพียบพร้อมกว่ากลับไปฝาก แต่ทุกอย่างก็ดันผิดแผนไปหมด เมื่อเธอดันสะเพร่าเข้าผิดห้อง สุดท้ายใครจะคิดว่าชีวิตของ แวววิวาห์จะเปลี่ยนไปตลอดกาล เพราะคีย์การ์ดใบเดียวแท้ๆ เลยที่ทำให้ชีวิตเธอพลิกผันถูกภาคิน ประธานบริษัทจอมเผด็จการและเอาแต่ใจที่สุดในสามโลกคอยกดขี่ข่มเหง ใช่! เขาทั้งกด ขี่ แล้วก็ขย่ม เอ๊ย! ข่มเหงจนเธอแทบไม่ได้ลงจากเตียง “จูบห้าพัน แต่ถ้าจูบดูดดื่มรุกล้ำหมื่นนึง” “กอดห้าพัน แต่ถ้ากอดลูบไล้ล้วงลึกก็หมื่นนึง ถ้าคุณไม่จ่าย ฉันจะถือว่าคุณหลงเสน่ห์ฉัน และเราต้องแต่งงานกัน” “แล้วถ้ามากกว่านั้นล่ะ” เสียงเขากระเส่าพลางโน้มใบหน้าลงไปถามใกล้ๆ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ภัคร์ภัสสร
5.0

+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ