Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
4.8K
ชม
13
บท

เมื่ออยู่ๆ เจ้านายที่สาวๆ หมายปองปรากฏกายต่อหน้าแถมยังให้ไปทำงานใกล้ชิด ตำแหน่ง ช่างเสื้อส่วนตัว แต่หน้าที่ของเธอนั่นเหมือนสาวใช้ส่วนตัวเสียนี่สิ แถมยังมีหน้าที่พิเศษที่ทั้งสุขปนซาบซ่านรออยู่อีกด้วย.... “ก็ได้ ฉันยอมหยุด ออกไปซะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคลายความทรมานให้ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“วันนี้ยอดขายเป็นยังไงบ้าง” เจ้านายหนุ่มหล่อเหลาเดินควงสาวเข้ามายังร้านขายเสื้อผ้าผู้ชาย ถามพนักงานที่จ้างไว้ดูแลเสียงเรียบ พร้อมกายหนาปรากฏต่อสายตาอีกฝ่าย

“เท่าเมื่อวานเลยค่ะ” หญิงขยับลุกขึ้นยืนรายงานเพราะคิดว่าเป็นเพื่อนข้างๆ ร้าน แต่เมื่อเห็นว่าใครก็ต้องรีบปิดปากแน่น

ยอดขายของทุกวันดีอย่างเกินคาด แม้จะเป็นวันธรรมดาเสื้อผ้าแบรนด์นี้ก็ขาย สาขาที่เธออยู่น้อยครั้งนักที่เจ้านายจะเข้ามาตรวจและวันนี้มาแปลกเขาเดินควงสาวสวยเข้ามา ไร้ร่างผู้ชายเหมือนครั้งก่อน

“แล้วมันเท่าไหร่ล่ะ ที่เท่านั่นนะ”

“เจ้านายไม่ได้ดูบัญชีที่หญิงทำให้เหรอคะ”

ถึงได้มาถามเนี่ย เธอต่อคำในใจเพราะยังเกรงๆ เจ้านายหนุ่มหล่อ และโสดแต่ไม่สดคนนี้จะไล่เธอออกจากงาน ดวงหน้าหวานขาวผ่องภายใต้กรอบแว่นสี่เหลี่ยมที่สวมทับดวงตากลมโตสุกสกาวมองหน้าหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่นิสัยเพลย์บอยเจ้าสำราญทำให้เธอไม่อยากเข้าใกล้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูดีมากก็ตาม

“นี่ยอกย้อนฉันเหรอ” กวิน มองพนักงานที่กำลังต่อปากต่อคำไม่ตกฟากด้วยความแปลกใจ

“เปล่าค่ะ หญิงไม่บังอาจ”

“งั้นหล่อนก็รีบรายงานมาสิยะ เสียเวลา” คู่ขาอีกฝ่ายตีฝีปากกล้าต่อว่าแทน

กวินหันมองหน้าเมญ่าแล้วชักสิหน้าไม่พอใจเขาไม่ชอบให้คู่ขาสอดปากสอดคำ “คุณกลับไปได้แล้วเมญ่า”

“มะ..หมายความว่าไงคะ” เมญ่าหน้าเสียที่อยู่ๆ ถูกสั่งให้ไล่กลับเสียอย่างนั้น

“ผมบอกให้กลับไป แล้วไม่ต้องมาหาผมอีก”

“คุณทำแบบนี้กับเมญ่าไม่ได้นะคะ จะไล่เมญ่าแบบนี้ไม่ได้”

“ทำไมไม่ได้ คุณรู้ใช่ไหมผมไม่ชอบผู้หญิงที่สอดปากสอดคำ และกิริยาเต้นเร้าแบบนี้” เสียงห้าวต่อว่าอีกฝ่าย

เขาไม่สนว่าจะมีใครมองอยู่ตอนนี้

“คิคิ” วนิดากลั้นหัวเราะ เมื่อเห็นผู้หญิงที่มาด้วยหน้าถอดสี

“หัวเราะอะไรยะ” เมญ่าหวีดร้อง มองหน้าวนิดาด้วยความไม่พอใจ

“เดี๋ยวหญิงไปเอาน้ำมาให้นะคะเจ้านาย” วนิดารีบเจ้นไปหลังร้านทันทีเพราะเกรงว่าอาการขำสะใจของตนจะไปขัดใจเจ้านายหนุ่มหล่อเหลาเข้าจนถูกไล่ออก

“กลับไปซะแล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก”

“เชอะ คิดว่าตัวเองหล่อ รวยคนเดียวเหรอไง ฉันไม่ง้อก็ได้ ผู้ชายไร้หัวใจ!” ต่อว่าเสร็จก็สะบัดหน้าหนี และเดินออกจากร้านด้วยความขัดใจที่อยู่ๆ ถูกมหาเศรษฐีหล่อ รวยทิ้งกลางคัน

ด้านวนิดาหลังจากรินน้ำเย็นใส่แก้วเสร็จก็เดินออกมา เธอยังเห็นเจ้านายหนุ่มยืนสำรวจร้านเงียบๆ

“น้ำค่ะเจ้านาย” เธอวางมันลงบนโต๊ะแล้วถอนออกมายืนห่างๆ เพราะกลัวจะเข้าไปขัดสายตาของผู้เป็นนาย

หญิงมองชายชาตรีตรงหน้าด้วยความชื่นชม เขาทั้งหล่อเหลา รวยล้นฟ้า และเก่งกาจ เธอแอบหลงรักมานานแล้วอยากเจอตัวเป็นๆ สักครั้ง แต่ตอนนั้นคงได้แค่ฝัน หากเพียงว่าเวลานี้ชายที่เธอหลงรักมายืนตรงหน้า ก่อนจะรีบหลบตาเมื่อชายตรงหน้าหันกลับมาทางตน

“ทำงานที่นี่มากี่ปีแล้ว” กวินถามสาวน้อยตรงหน้า สายคาดุคมมองสำรวจร่างบางอ้อนแอ่นอย่างสนใจ โครงหน้ารูปไข่ผิวกระจ่างใสเนียนอมชมพู ดวงตากลมโตซุกซน และเรียวปากน่าจูบ... อ่า ชักอยากทำอะไรมากกว่ามองแล้วสิ

“เพิ่งทำงานไม่กี่เดือนค่ะ”

วนิดาไม่ได้ตอบว่านานหรือไม่ เธอก้มหน้าหลบตาคู่คมแกร่งนั้นด้วยความประหม่า เคยถูกจ้องมองมาหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่รู้สึกแปลกเท่าครั้งนี้เลย สายตาที่มองมานั้นดูร้อนแรงแฝงไปด้วยความเสน่หาจนหัวใจดวงน้อยในอกซ้ายเต้นแรงเร็ว

ทำไมตื่นเต้นแบบนี้นะ

“อายุเท่าไหร่แล้ว”

กวินยังถามต่อขณะขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น กลิ่นกายหอมๆ ลอยแตะจมูกกระตุ้นความปรารถนาในร่างกายให้วิ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง ความต้องการรุนแรงจนปวดร้าวไปทั่วลำกายทำให้กวินเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย

บ้าจริง แค่ได้กลิ่นก็ต้องการมากแบบนี้ ถ้าได้จับ กอด จูบ ไม่คลั่งเหรอวะ

“ยี่สิบสามปีค่ะ” วนิดาเงยหน้าขึ้นตอบคำถามตามมารยาท กลับต้องสงสัยเมื่อเห็นอีกฝ่ายเบี่ยงหน้าหนี

“มีครอบครัวหรือยัง แล้วที่บ้านอยู่กับใคร”

เขาชักอยากรู้เรื่องของเธอมากขึ้น อยากรู้ทุกอย่าง อาการแบบนี้ไม่เคยเป็นมาก่อน จนตัวเองไม่เข้าใจทำไมต้องสนใจเธอคนนี้มากด้วย

“ที่บ้านอยู่กับพ่อและแม่ค่ะ ส่วนครอบครัวหญิงยังโสดอยู่ค่ะ” วนิดาตอบไปตามตรง เริ่มตื่นเต้นจนหูอื้อ ไม่คิดฝันว่าเจ้านายอย่างเขาจะสนใจพนักงานต่ำต้อยเช่นเธอได้

“งั้นแสดงว่าไม่มีแฟน” ท่าทางครุ่นคิดนั้นทำคนฟังชักตงิดใจ “ดีเลยฉันจะให้เธอย้ายไปทำงานด้วย”

“คะ หมายความว่ายังไง” วนิดาเบิกตาโตมองอีกฝ่ายอย่างตกใจในคำพูด หรือเธออาจแค่หูแว่วไปเองจนต้องถามซ้ำ

“พรุ่งนี้ฉันจะให้เธอไปทำงานกับฉัน เตรียมตัวให้พร้อมพรุ่งนี้จะมารับ” คำสั่งสั้นๆ ห้าว

“เดี๋ยวสิคะ ฉันยังไม่ได้ตอบตกลงเลยนะคะ” วนิดาร้องเสียงหลงไม่ใช่ว่าไม่อยากไปทำงานที่อื่นเพราะเธอเองก็หวังเงินเดือนและความก้าวหน้า แต่นี่มันปุบปับเกินไปจนตั้งตัวไม่ทัน

“เธอทำสัญญาทำงานไว้หนึ่งปีใช่ไหม” กวินมองหน้ากระจ่างใส สองคิ้วย่นเข้าหากัน ด้วยความแปลกใจ เธอคนนี้มีอะไรที่น่าสนใจอยู่มาก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ นามปากกา ญาตา

ข้อมูลเพิ่มเติม
เร้นรักเจ้าสาวจำเป็น

เร้นรักเจ้าสาวจำเป็น

โรแมนติก

5.0

“ทำอะไรกัน” มัลลิกาได้ยินเสียงลูอิสก็พยายามลุกขึ้นเดินไปหาเขา กำเสื้อเชิ้ตไว้ทั้งสองมือ “กลับมาแล้วเหรอคะ” “คุณดื่มเหรอ” ลูอิสก้มลงดมกลิ่นใกล้ ๆ เธอส่ายหน้าหันไปชี้ทางโดมินิกและอลิส “คุณหมอบอกเป็นยาบำรุงร่างกายค่ะ” ลูอิสมองหน้าเพื่อน คว้าเอวคอดไว้เมื่อเจ้าหล่อนทำท่าจะเซล้มไปทางอื่นให้ขยับมาพิงกายตัว แต่คนเมาดื้อยันมือออกห่างแถมยังใจกล้ากำเสื้อเขาไว้ “จริงไหมคะ” “เรื่องอะไรครับ” ลูอิสควงหญิงสาวไปทางโซฟารั้งเธอให้นั่งบนตัก มัลลิกาแกะมือที่จับเอวขยับขึ้นนั่งคร่อมสอดแขนคล้องลำคอมองหน้าเขาอย่างเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังทำให้เก๊กขรึมหลุดภาพลักษณ์ “ก็คุณโดมินิกเล่าว่าคุณแอบซุกกิ๊กไว้ที่บริษัท ที่ให้พลอยอยู่แต่บ้านเพราะตัวเองจะได้มีความสุขส่วนพลอยก็นั่งโง่ ๆ ทำกับข้าวรอสามี รอนอนพร้อมคุณเท่านั้น” เธอชี้ไปทางคนเล่าที่ยกมือขึ้นฉับ ลูอิสมองหน้าเพื่อนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นขยับถอยห่าง “พวกเรากลับก่อนนะ” อลิสลุกขึ้นตามแรงสะกิดส่งยิ้ม “กลับแล้วเหยอ” คนเมาหันไปถามเสียงยาน “แล้วอลิสมาหาใหม่นะคะ” “ค่ะ บ๊ายบาย” มัลลิกาที่เมากรึ่มพยักหน้าโบกมือให้ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง ลูอิสมองอาการขู่เป็นลูกแมวแล้วยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มความเหนื่อยจากการทำงานถูกเธอช่วยชำระล้างอย่างง่ายดายอยู่ทุกวัน เสียงเตือนข้อความเข้า “อลิสบอกว่าวันนี้เหมาะที่สุดสำหรับการปั๊มลูก ฉันเอาใจช่วยนายนะ” มัลลิกาแย่งมือถือเขาแล้ววางไว้ข้างกาย กุมหน้าคมคายให้หันมาสนใจ “จริงไหมคะ” “เรื่องไหน” ลูอิสถามเธอพร้อมกระเตงร่างหญิงสาวขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปห้องนอน ทุกจังหวะการเดินมั่นคงหนักแน่น สายตาก็มองหน้าคนเมาแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง มัลลิกาก็เป็นคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย “ที่ไม่ยอมให้พลอยไปทำงานเพราะจะได้มีความสุขกับพวกหล่อน” มัลลิกาว่าพรางทำแก้มป่องสอดสองแขนคล้องคอ ลูอิสยิ้มชอบใจที่ได้เห็นอาการคล้ายหึงหวงตนจากเจ้าหล่อน ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงพร้อมสองกายเดินเข้ามาด้านใน สะโพกได้รูปถูกวางบนเตียงกายชายกำลังจะถอยออกห่างแต่ถูกแขนที่คล้องคอรั้งไว้ จนเขาต้องตอบเสียงหนักแน่น “ผมมีแค่คุณ”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

Abelard Evans
5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

เมียแต่งท่านประธาน [ตอนง้อเฮียหอนหนักม้าก]

สนพ. อิ่มรัก
5.0

ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ