Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.9
ความคิดเห็น
151.9K
ชม
124
บท

เมื่อผิดหวังจากความรักกะทันหัน นวลฉวี ร่ำเมรัยรสหวาน ฟังเพลงของคนอกหัก และสีสันของผับที่เร้าใจ เธอก็ลุกเต้นละติน ด้วยความคึกคะนองสนุกสนาน พร้อมคำประกาศ "คืนนี้ฉันฟรี ใครก็ได้ถึงตัวฉันคนเแรก เราจะไปด้วยกัน" รงค์ หนุ่มสุดหล่อเนี๊ยบ มาทันประกาศของเธอ มีหรือที่เขาจะปล่อยโอกาสผ่านไป เขากระโจนขึ้นไปถึงตัวเธอก่อนใคร และชายหนุ่มกับหญิงสาวในราตรีอันยาวนาน สุดแสนปั่นป่วน เพื่อจะถึงรุ่งอรุณของวันใหม่ และเธอพบว่าเธอไม่ได้เหมือนเมื่อวันวานอีกต่อไป โลกถล่มทลาย... เธอจะต้องเป็นจ้าสาวของเขาหรือ... ข้อเสนอของเขา "มาเป็นเจ้าสาวของผมเถิดนะ นวลฉวี ชั่วคราว...ก็ยังดีกว่าชั่วคืนไม่ใช่หรือ"

บทที่ 1 นวลฉวี

นวลฉวีเงยหน้าขึ้นจากงานเอกสารตรงหน้าเมื่อมีเงาผ่านทาบมาบนแผ่นพาร์ติชั่นที่กั้นอยู่ตรงหน้าเธอ...มันสูงประมาณระดับอกของคนยืนและเธอได้เห็นพนักงานทำงานร่วมแผนก

เธอไม่เรียกคนคนนี้ด้วยคำว่าเพื่อน

แค่คนทำงานด้วยกัน

และรับรู้ว่านี่คงจะเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจแต่เช้าของวันแรกของสัปดาห์

เธอไม่ได้อยู่ออฟฟิศเลยในช่วงเดือนที่ผ่านมา ต้องติดตามเพ็ญพิมพ์ไปทำงานเก็บข้อมูลในพื้นที่ กลับเข้ามาในออฟฟิศก็ไม่ถึงวัน และวันนี้เธอเข้ามาแต่เช้า วันนี้จะได้นั่งทำงานทั้งวัน ทั้งสัปดาห์ยังไม่มีกำหนดการเดินทาง

เธอจะต้องทำรายงานเสนอให้ท่านประธานผู้ยังไม่ปรากฏตัว ยังเป็นบุคคลลึกลับ พูดกันว่าท่านประธานไม่อยากมารับงาน เขาจึงไม่ออกมาปรากฏตัว เขาบ่ายเบี่ยงและเรียกหาข้อมูลของงานจนกว่าเขาจะพอใจและอยากจะทำงาน

เพราะฉะนั้นรายงานของเธอจะต้องกระตุ้นให้เกิดแรงจูงใจสูงสุดให้ได้

แต่ตอนนี้ เธอคิดว่าการเริ่มต้นวันเริ่มแย่เพราะเพื่อนร่วมงานคนนี้

ดาราราย...

สาวสวยที่สุด เปรี้ยวสุด ร้ายสุด เชื่อมั่นสุดในตัวเองอย่างครบรสของแผนก...

มีคนพูดเสมอว่าดารารายนั้นสวยแบบนางร้ายที่หลุดจากจอละครทีวีออกมามีตัวตนอยู่จริง

ดารารายคนงามที่ งามแต่รูป ไม่งามใจ

รอยยิ้มบนหน้าดารารายตอนนี้ดูมากมาย และเหมือนมีรอยยิ้มเยาะอยู่ด้วยจางๆ

แต่เพราะเห็นกันมานาน ไม่ใช่ได้เห็นกันแค่ที่นี่ เพราะที่จริงดารารายเพิ่งจะเข้ามาทำงานไม่เกินหกเดือน ไม่อยากประหลาดใจอีก เธอเลยมองข้าม

เรื่องเธอกับดารารายรู้จักกันมาก่อนนี้ เธอไม่เคยพูด จะพูดไปไย ดารารายเองเป็นคนประกาศตั้งแต่แรกเข้ามาทำงานที่นี่ด้วยการมีเส้นสายฝากเข้ามา

...อย่าบอกใครว่าเราเคยเรียนหนังสือมาด้วยกันนะ นวล

ถึงไม่ได้โดนกำชับเช่นนั้น ดารารายคิดได้อย่างไรกันว่าเธออยากจะบอกคนอื่นๆ ถึงความสัมพันธ์ดังว่านั้น

ไม่น่าจะบอก เพราะบอกไปก็น่าอาย...เพื่อนแบบดารารายมีไปก็ใช่จะดี ไม่น่าเอามาอวด แม้แต่ในความสัมพันธ์ที่ต้องใส่ไว้ในโลกไซเบอร์ที่เป็นโลกเสมือน เธอยังไม่เคยคิดจะใส่

เพื่อนหรือ...ไม่เคยอยากคิดว่าดารารายคือเพื่อน แม้จะเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ตอนมอหนึ่งถึงมอสามเรียนห้องเดียวกัน แต่นวลฉวีได้ประจักษ์ความร้ายกาจของดารารายตั้งแต่หล่อนยังอายุสิบต้นๆ เท่านั้น

แต่ทุกอย่างก็เป็นการแข่งขันกันแบบเด็กๆ ไม่มีการคิดมากอะไร นวลฉวีเป็นคนที่ไม่มีการแข่งขัน ไม่ทะเยอทะยานมาแต่ไหนแต่ไร เธอถูกสอนให้รู้จักเพียงพอเรียบง่าย คนในบ้านยังพูดกันเลยว่ายากนักจะผลักดันเธอให้ไปตะกายฟ้าคว้าดาวหากเธอไม่อยากได้เอง

การแข่งขันมาสูงมากตอนเรียนมอปลาย เมื่อต้องอยู่ห้องเรียนเดียวกัน ดารารายทำตัวเป็นอริกับเธอมากกว่าจะเป็นเพื่อน ไม่ได้แข่งเรื่องการเรียนอย่างเดียว แต่แข่งเรื่องกิจกรรม การเป็นเชียร์ลีดเดอร์

ที่จริงดารารายลงแข่งแต่นวลฉวีถอนตัว

และดารารายเรียกนวลฉวีว่า ‘นังขี้แพ้’ พร้อมกับเอ่ยเย้ยหยันไปทั่วว่าเพราะนวลฉวีสวยสู้หล่อนไม่ได้ เก่งสู้หล่อนไม่ได้ หารู้ไม่ว่าหากความสวยที่จะต้องได้มาด้วยการแก่งแย่งแข่งขันใดๆ นวลฉวีตั้งปณิธานเอาไว้แล้วว่าเธอจะไม่ทำเป็นอันขาด

เธอไม่ขอแก่งแย่งแข่งขันใดๆ เพื่อให้ได้มาในทุกเรื่อง

และอีกเรื่องที่ดารารายได้ขอเอาไว้วันที่เดินเหน้าเข้ามาทำงานที่นี่

...และเธอห้ามบอกใครด้วยว่าเราเป็นญาติกัน...

เรื่องนี้สาบานได้กับวัดทั่วประเทศ นวลฉวีคิดตลอดมา เธอไม่อยากให้ดารารายเป็นญาติของเธอเลย

เธอเคยถามแม่...

...เขามาเป็นญาติของเราได้อย่างไร และอย่างที่เขาเข้ามากับแม่ของเขานั่นเรียกว่าเป็นญาติหรือ...

แม่โมโหมากกับคำอ้างตัวเช่นนั้นของดาราราย คำว่าญาติ และเธอถึงได้รู้ว่าลุงเขยของเธอทรยศต่อป้าด้วยการมีเมียน้อยและรับเลี้ยงดู

ดารารายคือลูกติดมากับเมียผู้หญิงคนนั้น มาเสพสุขกับสมบัติของครอบครัวป้า ที่ไม่ใช่สมบัติของลุง...ลุงเขยร่ำรวยเพราะสมบัติของป้า

และสุดท้ายป้าก็ทนไม่ได้ ป้าขอหย่า แม่ของดารารายจึงได้รู้ว่าผู้ชายที่นางคิดว่ามั่งคั่งร่ำรวยนั้น ที่แท้เขาไม่ได้มีอะไรมากมายดังที่นางเข้าใจแม้แต่น้อย นอกจากทรัพย์สินเศษๆ ที่เมียหยิบยื่นให้เหมือนให้ทานทิ้งไว้ดูแลนางกับลูก แต่นางก็ตามมาด่าทอประจานป้าของนวลฉวีสาดเสียเทเสีย ทั้งที่นางมาทีหลังและอยู่ในฐานะเมียน้อย แต่นางก็ไม่ได้ละเว้น สิ่งที่นางทำนั้นเลวร้ายจนป้าต้องเรียกตำรวจมายุติเรื่องและบอกกับลุงว่าหากยังไม่คุมกันให้ดี แม้แต่บ้านที่ได้ให้อยู่กันฟรีๆ ก็จะเรียกคืน นั่นแหละถึงได้เงียบกันไป

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อาริตา กันยามาส

ข้อมูลเพิ่มเติม
บ่วงเสน่หา

บ่วงเสน่หา

โรแมนติก

5.0

(นิยายทำละคร เกมเสน่หา) เพราะเย่อหยิ่ง ถือตัว และเหยียดทุกคนที่ต่ำต้อยกว่า จึงทำให้ใครๆ ก็มองว่าเธอ "ร้ายกาจ" แต่ทว่า...นั่นเพราะเธอร้ายกาจจริงๆ หรือเพราะเธอสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา เพียงเพราะเธอกำลังเผชิญกับปัญหาบ้านแตก! และความรัก ความเป็นหนึ่งในครอบครัวถูกแย่งชิงจาก "เขา" ผู้เป็น "คนนอก" ครอบครัว เพราะเขาได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากครอบครัวของเธอมากกว่าเธอเสียอีก เธอจึงเกลียดเขาอย่างมากมาย และต้องกดเขาไว้ให้เป็นเพียง "เด็กในบ้าน" อย่าให้เขาเข้ามาชุบมือเปิบ ฮุบทุกอย่างในบ้านของเธอ และเมื่อเธอค้นพบว่า เขาหลงรักเธอ และหมายปองดอกฟ้าอย่างเธอ เธอจึงวางแผนขุดหลุมล่อ วาง บ่วงเสน่หา เพียงเพื่อให้เขาพบกับความผิดหวังและทุกข์ทรมาน โดยที่ไม่รู้เลยว่า เธอเองต่างหาก...ที่จะตกอยู่ในบ่วงเสน่หาที่วางไว้เอง!

สามีตีตรา

สามีตีตรา

โรแมนติก

5.0

กี่ครั้งกี่หน ก็แพ้ก็พ่าย ผู้ชายไม่เคยซื่อสัตย์ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ รูปโฉม กะรัต เทพทัต ไม่อาจนำมาทระนงได้ กี่คราที่ต้องแก้มือใหม่ ถูกตราหน้า ประณามว่าสามผัว มิหนำซ้ำหนสุดท้าย เมื่อเขาตายจากไปมิได้จบกันแค่นั้น แต่ สายน้ำผึ้ง เพื่อนสนิท คบกันมา 12 ปี กลับกลายเป็นเพื่อนสนิท คิดคด อุ้มท้องเยาะเย้ยว่าเป็นเมียหลวง ส่วนเธอคือเมียน้อย กะรัต ผู้แสนฉลาดเลิศล้ำ เฝ้าตรวจสอบปัญหาชีวิตแล้วพลันคิดได้ เธอไม่เคยจับผู้ชายคนไหน ตีตรา ขึ้นทะเบียน เป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย ครานี้ เห็นทีจะต้องให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ พิศุทธิ์ หนุ่มผู้ดี ผู้เกิดมาเป็นอภิชาตบุตรเกินหน้าพ่อแม่ เธอพบว่าเขาเหมาะสมยิ่งอนิจจา... กะรัต เธอมองข้ามสิ่งสำคัญของการครองเรือน เธอลืมความรักแล้วเธอจะรู้ว่าหนนี้ ผู้ชายหรือเธอกันแน่ที่ผิด การตีตราด้วยทะเบียน มันเป็นยันต์ป้องกันชีวิตคู่แตกร้าวได้หรือไม่

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

Nichole Venzo
5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

เพลงกาม

เพลงกาม

มณีน้ำเพชร
5.0

เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เจ้าสาวชั่วคราว
1

บทที่ 1 นวลฉวี

08/04/2022

2

บทที่ 2 ใหญ่เหลือเกินนะ

08/04/2022

3

บทที่ 3 แทบช็อกตาย

08/04/2022

4

บทที่ 4 ขย้ำ

08/04/2022

5

บทที่ 5 เพราะผู้ชาย

08/04/2022

6

บทที่ 6 แววตาตื่นตระหนก

08/04/2022

7

บทที่ 7 ไม่เคยยอมแพ้

08/04/2022

8

บทที่ 8 ความขุ่นมัว

08/04/2022

9

บทที่ 9 พูดหมาๆ

08/04/2022

10

บทที่ 10 รอเจ้าชายขี่ม้าขาว

08/04/2022

11

บทที่ 11 ใจเต้นแรง

08/04/2022

12

บทที่ 12 คาดไม่ถึง

08/04/2022

13

บทที่ 13 ปิดกั้น

08/04/2022

14

บทที่ 14 พูดจริงหรือพูดเล่น

08/04/2022

15

บทที่ 15 แรงกดดัน

08/04/2022

16

บทที่ 16 หลานเขย

08/04/2022

17

บทที่ 17 หวงแหน

08/04/2022

18

บทที่ 18 งานหมั้น

08/04/2022

19

บทที่ 19 เสกสรรโกหก

08/04/2022

20

บทที่ 20 ไร้ประโยชน์

08/04/2022

21

บทที่ 21 หลบภัย

08/04/2022

22

บทที่ 22 ต้องการเงิน

08/04/2022

23

บทที่ 23 อยู่ในสายตา

08/04/2022

24

บทที่ 24 เวอร์จิ้น

08/04/2022

25

บทที่ 25 ชั่วคราว

08/04/2022

26

บทที่ 26 คลายเครียด

08/04/2022

27

บทที่ 27 ไม่ได้หมายจะตีสนิท

08/04/2022

28

บทที่ 28 โลกของเธอได้แตกกระจายลง

08/04/2022

29

บทที่ 29 เป็นแบบแผน

08/04/2022

30

บทที่ 30 ผู้หญิงคนนี้ดึงดูดเขาเข้าหา

08/04/2022

31

บทที่ 31 เป็นที่รักของผม

08/04/2022

32

บทที่ 32 ดาราราย

08/04/2022

33

บทที่ 33 กำลังจะหมั้น

08/04/2022

34

บทที่ 34 คืนนี้ฉันฟรี

08/04/2022

35

บทที่ 35 เมาด้วยอารมณ์

08/04/2022

36

บทที่ 36 สัญญา

08/04/2022

37

บทที่ 37 ความสัมพันธ์

08/04/2022

38

บทที่ 38 รับผิดชอบ

08/04/2022

39

บทที่ 39 สืบชาติพันธุ์

08/04/2022

40

บทที่ 40 ไม่ใช่ผู้ชายของฉัน

08/04/2022