“พวกคุณนี่... เป็นพวกหมอผี หมอเสน่ห์ด้วยหรือเปล่าคะ? ต้องเล่นเครื่องรางของขลังหรือลงอาคมให้คนรักคนหลงหรือเปล่า? นี่แอบดีดน้ำมันพรายใส่หรือทำอะไรกับหนูหรือเปล่าเนี่ย?” หริณะถามด้วยความสงสัยอย่างแท้จริงเพราะเธอรู้สึกว่าเธอจะไว้ใจพวกเขาเกินคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน สองหนุ่มได้ฟังก็หัวเราะออกมาดัง ๆ พร้อมกัน “โถ! แม่กระต่ายน้อย พวกผมไม่ใช้ของพวกนั้นกับผู้หญิงหรอกนะ พวกผมไม่ได้ขี้ขลาดขนาดนั้น ที่สาว ๆ คลั่งไม่ใช่เพราะอาคมแต่เป็นเพราะพวกผมนี่แหละที่โคตรขลัง” ขาลกล่าวขึ้นก่อน “รูปร่าง หน้าตา เงินทอง ของพวกนี้มันขลังยิ่งกว่าอาคมหรือเสน่ห์ยาแฝดอีกนะครับบันนี่” วาฬเสริมขึ้นมาแล้วยกยิ้มที่มุมปาก
หริณะมองไปรอบ ๆ ห้องใหญ่ที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พื้นห้องปูด้วยแผ่นหินอ่อนสีดำสนิท เครื่องเรือนเป็นไม้สักทองขอบสีทองดูแปลกตาราคาแพง ดูไม่เหมือนบ้านพวกพ่อมดหมอผีเลยสักนิด มันเหมือน... บ้านนักธุรกิจร้อยล้านมากกว่า
สาวน้อยตัวเล็ก วัย 22 ผมยาวสลวยถึงกลางหลัง ดวงตากลมโต หน้าตาน่ารักในชุดนักศึกษายกชาขึ้นมาจิบขณะที่พิจารณาห้องที่ตัวเองกำลังนั่งอยู่แล้วสะกิดไหล่บางของเพื่อนสาวหุ่นนางแบบที่นั่งข้าง ๆ
“เอม... นี่บ้านหมอดูที่เธอจะมาดูดวงแน่เหรอ? ค่าดูเท่าไหร่กัน?” หริณะกระซิบถามเอมิกาเพื่อนสาวเบา ๆ
“ค่าจองคิวแพงมาก เราจองคิวตั้งสามเดือนกว่าจะได้คิว นี่ตื๊อขอคิวแบบดึกดื่นก็จะมาถึงได้คิว อ้อ! แล้วเขาไม่ใช่หมอดู เขาเป็นแบบ... อาจารย์... อย่าเรียกว่าหมอ ให้เรียกว่าอาจารย์ บันนี่ไม่เคยได้ยินเหรอ? อาจารย์วาฬ มหาเสกข์ดังจะตาย”
“หือ? วาฬ? แบบ ‘ปลาวาฬ’ เนี่ยนะ?” หริณะถามย้ำกับเพื่อน
“อืม ใช่ สะกดแบบนั้น”
หริณะกำลังจะอ้าปากถามเพื่อนสาวต่อแต่พ่อบ้านที่อยู่ในชุดสูทสีดำแบบบัตเลอร์ก็เคาะประตูห้องแล้วเดินเข้ามาก่อน
“คุณเอมิกาครับ นายใหญ่เชิญครับ” พ่อบ้านวัยชราไว้หนวดโง้ง ผมสีขาวดอกเลาเอ่ยเชิญเอมิกา
สองสาวนักศึกษารีบพากันลุกขึ้นยืนและเตรียมตัวจะเดินออกไปจากห้องแต่ชายชรากลับเข้ามาขวางก่อน
“คุณคนไหนคือคุณเอมิกาครับ? เวลาจะเข้าขอคำปรึกษาเข้าไปได้แค่คนเดียวครับ ผู้ติดตามต้องรออยู่ที่นี่” พ่อบ้านสูงวัยแจ้งสองสาว
เพื่อนรักสองคนหันมามองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง
“หรือคุณผู้ติดตามจะกลับก่อนก็ได้นะครับ เพราะการปรึกษาอย่างเร็วสุดอาจแค่ 15 นาที แต่หากต้องทำพิธีต่ออาจยาวถึง 2-3 ชั่วโมงก็ได้” พ่อบ้านบอกเสียงเรียบ
“เอมไปเถอะ ถ้ามันนานเกินไปเรารอไม่ไหวเดี๋ยวเรากลับก่อน แล้วเราจะส่งไลน์ไปบอกว่าเรากลับแล้ว” หริณะบอกเพื่อนแล้วพยักหน้าบุ้ยใบ้ให้เอมิกาเดินตามชายชราออกไป
“เออ ว่าแต่... ห้องน้ำไปทางไหนคะคุณลุง? เผื่อระหว่างนั่งรอหนูอยากใช้ห้องน้ำ” หริณะเอ่ยถามพ่อบ้านเสียงใสก่อนที่เขาและเพื่อนของเธอจะจากไป
“ออกไปข้างนอกแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปจนสุดทางครับ กรุณาอย่าเข้าห้องอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตนะครับ” ชายชราตอบเสียงเป็นทางการจากนั้นจึงเดินนำหน้าเอมิกาออกไป
หลังจากเพื่อนสาวของเธอจากไปแล้วหริณะจึงเดินออกไปเข้าห้องน้ำ ระหว่างทางเธอพิจารณาบ้าน... หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ได้... อย่างถ้วนถี่
คฤหาสน์หลังนี้ใหญ่โตมาก ถ้าคุณลุงพ่อบ้านไม่เดินนำพวกเธอเข้ามาพวกเธอคงหลงทางแน่ ๆ แค่ชั้นแรกก็มีราว ๆ สิบกว่าห้องได้แล้วมั้ง แล้วยังมีชั้นสอง ชั้นสาม ชั้นสี่อีก
เจ้าของบ้านต้องรวยขนาดไหน? หมอผีต้องเสียภาษีปีละเท่าไหร่กันนะ?
หริณะคิดระหว่างเข้าไปใช้ห้องน้ำ ขนาดห้องน้ำยังหรูเลิศ พื้นปูด้วยหินอ่อนสีขาวตัดกับนอกห้องที่เป็นสีดำล้วน โถสุขภัณฑ์เป็นสีดำดูแปลกตา ในห้องน้ำมีเตาจุดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นดอกไม้ไทยจุดอยู่ มันกลบทุกกลิ่นไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำจนสิ้นซาก
สาวน้อยใช้ห้องน้ำเสร็จแล้วเดินกลับไปห้องรับแขก เธอไม่กล้าเปิดเข้าไปดูห้องไหนทั้งนั้นเพราะพ่อบ้านสูงวัยเตือนเธอไว้แล้ว
ถ้าทำอะไรของเขาพังคงรับผิดชอบไม่ไหว
หริณะคิดแล้วกลับมานั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง ในใจคาดเดาไม่ออกว่าเอมิกาเพื่อนสาวสวยของเธอมีเรื่องร้อนใจอะไรกันนักกันหนาถึงต้องเสียเงินมากมายมหาศาลเพื่อเข้าพบพวกพ่อมดหมอผี คนพวกนี้จะทำอะไรได้นอกจากหลอกขายเครื่องรางของขลัง ลงนะหน้าทอง สักน้ำมัน ฯลฯ
เงินทองใช่จะหากันได้ง่าย ๆ ตัวหริณะเองแม้ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองนักแต่ไม่เคยคิดจะเสียเงินมากมายเพื่อพึ่งพาเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ที่ตามเอมิกามาก็เพียงเพราะเป็นห่วงเพื่อนกลัวเพื่อนจะโดนหลอก แต่เมื่อมาถึงสำนักอาจารย์วาฬก็ต้องตกตะลึงเมื่อสำนักของจอมเวทมันดูเหมือนคฤหาสน์มากกว่าบ้านผีสิงที่เธอคิดเอาไว้
เอมน่าจะเครียดเรื่องหางาน
สาวน้อยคิดในใจ พวกเธอใกล้เรียนจบแล้ว เอมิกาคาดหวังว่าจะได้ทำงานในวงการบันเทิง เป็นนางแบบ เป็นดารา เพราะเอมิกาเป็นคนสวยจัด สูงยาวเข่าดี ส่วนหริณะเป็นแค่สาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาไม่ได้ขี้เหร่ แต่ก็ไม่โดดเด่น แค่ได้งานเป็นพนักงานธุรการในบริษัทขายอุปกรณ์การช่างเล็ก ๆ ที่เธอเคยฝึกงานก่อนหน้านี้หริณะก็ดีใจแล้วดังนั้นเธอไม่คิดจะทุ่มทุนไปกับเรื่องไสยศาสตร์และเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจเท่าไหร่นัก
กลัวก็แต่เอมจะโดนหลอก ยิ่งเขานัดให้มาหาตอนสองทุ่ม มืด ๆ ค่ำ ๆ ใครเขานัดให้มาหาหมอผีกัน? ข่าวสาวถูกหมอเวทหลอกกระทำอนาจารมีตั้งเยอะตั้งแยะ ยัยเอมก็ช่างไม่กลัวบ้างเลย
สาวน้อยคิดอะไรเพลิน ๆ แล้วเอนตัวลงนอนบนโซฟาเบดเพราะยิ่งนั่งก็เหมือนจะยิ่งง่วง เพื่อนสาวของเธอก็ไม่กลับมาเสียที
หริณะหลับใหลไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ รู้ตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงเด็กน้อยสองคนวิ่งเล่นไปมาในห้องแล้วหัวเราะคิกคัก
“ฮิ ๆ ๆ! แก้ว! มาดูผู้หญิงคนนี้สิ น่ารักจัง หน้าตาแบบที่พ่อใหญ่ชอบเลย” เสียงเด็กชายวัยไม่เกินห้าขวบดังขึ้น
“อุ๊ย! น่ารักจริง ๆ ด้วย แต่พ่อเล็กไม่ชอบแบบนี้ พ่อเล็กชอบแบบ... แบบยัยคนที่เราเห็นวันก่อนอะ” เสียงเด็กน้อยผู้หญิงอีกคนดังขึ้นมา
“ก็เก็บไว้ให้พ่อใหญ่ ไม่ต้องเก็บไว้ให้พ่อเล็ก” เสียงเด็กน้อยคนแรกดังขึ้น
“ทอง! ออกไปกันก่อนเร็ว! พ่อเล็กกลับบ้านแล้ว! พายัยนมโตคนใหม่มาด้วย” เสียงเด็กผู้หญิงดังขึ้น
“แอบในนี้ก็ได้ ฉันอยากดูว่าเขาทำอะไรกัน” เด็กชายที่ชื่อทองบอกออกมา
“เคยดูตั้งหลายหนแล้ว ไม่เห็นมีอะไรเลย น่าเบื่อจะตาย กัดกันไปกัดกันมา แล้วถ้าพ่อใหญ่รู้ว่าเราแอบดู มีหวังพ่อใหญ่ขังเราไว้ในหุ่นนานแน่ ออกไปก่อนเร็ว พ่อเล็กเหมือนจะพายัยนั่นเข้ามาในห้องนี้” เด็กผู้หญิงที่ชื่อแก้วบอกเพื่อน
“แล้วพี่สาวคนนี้ล่ะ?” ทองถามขึ้น
“ก็ช่างพี่เขา ปล่อยเขาหลับไป ปิดไฟให้เขาด้วย เดี๋ยวพ่อเล็กก็จัดการเอง” แก้วพูดด้วยความร้อนรนจากนั้นเสียงเด็กน้อยทั้งคู่ก็หายไปทันที
หริณะได้แต่นิ่วหน้าทั้ง ๆ ที่ยังหลับตาสนิทแล้วคิดอยู่ว่าสิ่งที่เธอได้ยินมันเป็นเพียงความฝันที่เหมือนจริงมากหรือเป็นเสียงเด็กน้อยจริง ๆ ที่เข้ามาวิ่งเล่นในห้องรับแขก สาวน้อยอยากจะลืมตาตื่นขึ้นมาดูแต่หนังตามันหนักจนไม่อาจจะเผยอเปลือกตาขึ้นได้แม้แต่น้อย หริณะจึงได้แต่หลับต่อ
สาวน้อยยังไม่ทันหลับสนิทดีเธอก็ได้ยินเสียงบางอย่างอีกครั้ง...
เสียงเปิดประตูดังแอ๊ด...
เสียงเหมือนมีคนกำลังดูดอะไรสักอย่างดังจ๊วบ ๆ ๆ ไม่หยุด...
ตามด้วยเสียงครางเหมือนคนเจ็บ...
แต่ฟังดูเจ็บแบบแปลก ๆ จัง... เขาครางแบบ... อู๊ยยยย... อู้วววว...
หริณะคิดแล้วขยับตัวพลิกตะแคงหันหลังให้ประตูเพราะอยากหลับต่อ ในใจคิดว่าตัวเองอาจจะแค่ฝันไปจนกระทั่งมีเสียง ‘ตึ้ก’ ดังขึ้น พร้อมกับโซฟาที่เธอนอนอยู่ยวบลงและเหมือนจะมีร่างหนาของใครบางคนนอนหงายทับลงบนร่างเธอ
“ว้าย!” หริณะกรีดร้องทันทีด้วยความตกใจและขวัญเสียที่ตื่นขึ้นมาเพราะมีใครบางคนนอนทับอยู่ท่ามกลางความมืด
“กรี๊ด!” เสียงผู้หญิงอีกคนร้องขึ้นตามมาทันที
“เชี่ย! นี่มันอะไรกันวะ?!” เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังตามมาติด ๆ จากนั้นจึงมีเสียงตึงตังโครมครามดังขึ้นก่อนที่โคมไฟตั้งพื้นใกล้ ๆ โซฟาเบดจะถูกเปิดให้สว่างขึ้นมา
เมื่อแสงไฟสาดส่องหริณะจึงมองเห็นภาพเบื้องหน้าแล้วแทบอ้าปากค้าง
นี่คนหรือผี? ...หรือ... เทพบุตรอะ?
สาวน้อยคิดในใจเพราะใบหน้าหล่อเหลาที่ห่างกับใบหน้าน้อยของเธอแค่ไม่กี่เซนติเมตรมันสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ ทั้งจมูกโด่งสูง ผิวขาวละเอียดจนใบหน้าแทบไม่มีรูขุมขน ปากอิ่ม หยักสีชมพูแลดูเป็นคนสุขภาพดี ดวงตาวาววับเป็นประกาย หางตาชี้ขึ้นเล็กน้อยเหมือนตาเหยี่ยว คิ้วเข้มตัดกับสีผิว เหมือนพวกดาราหนังจีนผิวใส
ที่สำคัญ... กล้ามอกแน่นมาก แบบมากถึงมากที่สุด มือขวาหนูบีบคือไม่นุ่มเลย แข็งโป๊ก... หือ? แล้วไอ้ตรงที่มืออีกข้างหนูจับอยู่นี่อะไรอะ? แข็งกว่ากล้ามตรงอกที่หนูบีบเมื่อกี้อีก แต่มันแบบ... เป็นแท่ง ๆ
“กรี๊ด! ขาลคะ ยัยเด็กนี่ใครกัน? มาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?! ขาลซ่อนผู้หญิงคนอื่นไว้เหรอคะ?!” เสียงหญิงสาวกรีดร้องขึ้นมา
หริณะหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงที่ลุกขึ้นยืนข้างโซฟา เธอเป็นสาวสวย ปากแดง ผมยาวหยักเป็นลอนสุดเซ็กซี่เพราะตอนนี้ชุดเดรสสีแดงสดของเธอหลุดลุ่ยลงมาแทบจะกองอยู่ที่เอวเผยให้เห็นเนินอกเนียนที่มีรอยดูดเป็นจ้ำแดงเต็มไปหมด ในขณะที่หนุ่มหล่อที่ทับหริณะอยู่ก็เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไม่แพ้กัน กระดุมเสื้อเชิ้ตถูกปลดออกหมดเผยให้เห็นหน้าอกแน่นและรอยสักรูปเสือคำรามที่อกซ้าย
“เฮ้ย! ใจเย็นลูกหว้า ยัยเด็กคนนี้เป็นใครผมยังไม่รู้เลย...” หนุ่มหล่อรีบแก้ตัวแล้วหันมาจ้องหน้าคนตัวเล็กใต้ร่างเขา
ขาลเข้าห้องมาพร้อมกับสาวคู่นอน วาสินีผลักเขาลงบนโซฟาเบดแต่พอเขาล้มลงนอนก็เหมือนทับลงไปบนเนื้อนุ่มนิ่มของใครคนหนึ่ง พอพลิกตัวกลับแล้วเปิดโคมไฟถึงเห็นใบหน้าน้อยของเจ้าของร่างที่เขานอนทับอยู่ ถึงแสงจากโคมไฟมันจะสลัวแต่เขาก็เห็นชัดและสัมผัสได้ว่ายัยเด็กคนนี้ ‘ไม่เบา’
หน้าตาใสสะอาด ดวงตากลมโตเหมือนกระต่ายน้อย เนื้อตัวนุ่มนิ่ม ที่สำคัญ... หน้าอกหน้าใจขัดกับหน้ามัธยมของเธอมาก
นมนี่แซงหน้าอ่อน ๆ ไปเยอะหลายกิโลเมตรเลย แม่ง... นมโคตรใหญ่...
คิดแล้วเขาก็แอบบีบเนื้อนิ่มที่มือใหญ่ของเขาประกบอยู่ด้วยความไม่ตั้งใจเบา ๆ พอให้เจ้าของหน้าอกไซซ์สะบึมไม่คิดว่าเขาจงใจบีบทดลองความอิ่มนวลของเนื้อนาง
“ว่าแต่... คุณเป็นใคร? มาทำอะไรในห้องนี้?” หนุ่มหล่อหน้าใสถามสาวน้อยที่ทำตาโตอยู่ใต้ร่าง
“หนู... หนูมาส่งเพื่อนค่ะ คุณพ่อบ้านบอกให้หนูรอที่นี่ ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปหาอาจารย์วาฬกับเพื่อน” สาวน้อยตอบเสียงค่อย มือน้อยข้างหนึ่งยังวางแหมะอยู่ที่แผงอกกว้าง ส่วนอีกข้างก็ยังประกบอยู่ตรงแท่งรักร้อนของหนุ่มหล่อ
“ขาลลุกขึ้นมาก่อนค่ะ จะนอนทับมันอีกนานไหม?” วาสินีรีบดึงตัวคู่นอนสุดหล่อออกมาจากร่างเล็กของสาวน้อยด้วยความขุ่นเคือง
“คุณมาหาไอ้วาฬเหรอ? แต่ห้องนี้ไม่ใช่ห้องรับแขกไอ้วาฬ ห้องรับแขกไอ้วาฬมันห้องถัดไป หน้าอ่อน ๆ ไม่คิดว่าจะปัญญาอ่อนตามหน้า มีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือเปล่า? แล้วไอ้วาฬไม่เคยรับลูกค้าดึกขนาดนี้ นี่มันสามทุ่มแล้วนะ” ขาลพูดเหมือนสอบสวนสาวน้อยแล้วปล่อยให้วาสินีช่วยพยุงเขาลุกขึ้นยืน
ในมือใหญ่ยังเหลือสัมผัสอุ่นของเนินนมสาวติดอยู่จนเขาอดคิดอยากเปิดมันดูให้เห็นเต็มสองตาไม่ได้
เมื่อชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหริณะจึงตระหนักได้ว่าทำไมร่างที่ทับเธออยู่เมื่อครู่ถึงหนักนัก เขาสูงมาก น่าจะเกิน 180 เซนติเมตร
ตัวใหญ่เป็นยักษ์ มิน่า... หนักเชียว ทับลงมาได้
สาวน้อยบ่นในใจแล้วลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
“จะไปไหน?” ขาลถามขึ้นเสียงดัง
“ก็... หนูจะไปรอเพื่อนที่ห้องรับแขกห้องถัดไป”
“แล้วจะเปลี่ยนห้องไปมาทำไม? นั่งรอแล้วก็นั่งไป นั่งลง” ขาลสั่ง แววตาเหมือนมีความสนุกขบขันเจืออยู่
“แต่คุณกับพี่สาวคนนี้... กำลัง... เออ...” หริณะมองใบหน้าหล่อเหลาของขาลสลับกับใบหน้าสวยที่กำลังบึ้งตึงของวาสินีไปมา
“ใช่ค่ะขาล ปล่อยยัยเด็กนี่ไปเถอะค่ะ เด็กมันแค่โง่ ๆ ซื่อ ๆ เรามาต่อกันดีกว่าค่ะ” วาสินีพยายามปรับอารมณ์ให้กลับมาเป็นปกติแล้วเอ่ยเสียงอ้อนกับคู่นอนหนุ่ม
“ไม่อะ มันสะดุดแล้ว ลูกหว้ากลับไปก่อนเถอะ ไว้ผมจะโทรหา” ขาลบอกคู่นอนสาวที่เขาหิ้วกลับบ้านมาด้วยทันที
“หา?! อะไรนะคะ? ขาลจะให้ลูกหว้ากลับเหรอคะ? แต่ว่าวันนี้ลูกหว้า...”
“ไม่มี ‘แต่’ คุณกลับไปก่อน ผมหมดอารมณ์แล้ว ผมมีเรื่องต้องทำ” ขาลตอบวาสินีเสียงห้วนกว่าเดิมทำให้สาวสวยเริ่มรู้ตัวว่าเขาคงไม่คิดจะเล่นรักกับเธอต่อจริง ๆ
เมื่อหมดทางจะยื้อวาสินีจึงจำต้องถอนตัว เพราะรู้อยู่ว่าขาลเป็นคนอย่างไร... เขาเป็นคนเด็ดขาด เมื่อพูดว่าไม่ก็คือไม่ ถึงจะดูเป็นคนขี้เล่น เป็นเพลย์บอยแค่ไหนแต่ในวงการธุรกิจคนต่างรู้กันทั่วว่านายขาล ตั้งทรัพย์บังเกิดเป็นนักธุรกิจเทรดดิ้งที่ใจแข็งที่สุดและโหดเหี้ยมกว่าหน้าตามากนัก
วาสินีจำใจเดินออกจากห้องไปด้วยอาการปั้นปึ่งแต่ไม่อาจต่อว่าขาลได้ ส่วนขาลนั่งลงตรงโซฟาเบดแล้วพยักหน้าให้หริณะนั่งลงข้าง ๆ
“นั่งลงก่อน ผมต้องสอบสวนคุณเสียหน่อยว่าคุณโง่เดินเข้าผิดห้องจริงหรือตั้งใจมารอผมในห้องนี้กันแน่ บ้านนี้มีผู้หญิงแอบย่องเข้ามาตั้งไม่รู้กี่รายต่อกี่ราย ไม่ย่องเข้ามาหาผมก็ย่องเข้ามาหาไอ้วาฬ” ขาลพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ
เสียงหัวเราะออกทุ้มห้าว สำหรับคนอื่นอาจฟังดูมีเสน่ห์แต่สำหรับหริณะตอนนี้มันฟังดูน่าหมั่นไส้มาก
ก็หล่อดีอยู่หรอก แต่หลงตัวเองชะมัด
หริณะคิดแล้วนั่งลงข้างเขาพลางส่งมือน้อยไปติดกระดุมเสื้อให้เขา
“เฮ้ย! คุณทำอะไรน่ะ?! แต๊ะอั๋งผมเหรอ?”
“เปล่าค่ะ จะติดกระดุมให้ มานั่งกึ่งเปลือยแบบนี้จะให้หนูคุยกับคุณรู้เรื่องได้ยังไง? ประสาทหรือเปล่า? หรือเปลือยจนชิน?” หริณะถามพลางติดกระดุมให้เขาไปด้วย
ยัยเด็กนี่แสบกว่าที่คิด นึกว่าจะใส ๆ ซื่อ ๆ ไม่คุ้นมือผู้ชาย ใจกล้าขนาดติดกระดุมให้ผู้ชายได้เชียว มันน่า... จับมาทำเมียมาก!
บทที่ 1 Chapter 1: การพบเจอ
08/05/2022
บทที่ 2 Chapter 2: ผู้หญิงแบบที่พ่อใหญ่ชอบ
08/05/2022
บทที่ 3 Chapter 3: ผูกดวงจิต
08/05/2022
บทที่ 4 Chapter 4: แนะนำตัว
08/05/2022
บทที่ 5 Chapter 5: แต๊ะอั๋งหนู
08/05/2022
บทที่ 6 Chapter 6: ไปนอนห้องพี่
08/05/2022
บทที่ 7 Chapter 7: จูบแรก
08/05/2022
บทที่ 8 Chapter 8: เรื่องแปลก ๆ ของน้อง
08/05/2022
บทที่ 9 Chapter 9: เวลากินข้าว
08/05/2022
บทที่ 10 Chapter 10: แผนการที่เตรียมไว้
08/05/2022