Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รักร้ายของนายพายุ

รักร้ายของนายพายุ

cha.ni.cha

5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
9
บท

เมื่อต้องเจอกับแฟนเก่าที่เคยทิ้งเขาไป แต่วันนี้กลับมาพบเธอในฐานะเลขา ให้กับ ประธานอย่างเขา แถมเธอยังมีลูกติด ที่หน้าตาคล้ายเขาโดยบังเอิญ เขา..ควรจะปล่อยเธอให้เธอมีความสุขกับคนที่รัก หรือ..เขาควรจะทำทุกอย่างให้เธอกลับมาเพื่อแก้แค้น ในเมื่อยิ่งแค้นเธอ กลับยิ่งรักเธอมากขึ้น เขาจะทำอย่างไร กับหัวใจตัวเองดี ------------------------------------------ "เด็กคนนั้น เป็นลูกผมหรือเปล่า" เขาจ้องตาเธอราวกับจะค้นหาคำตอบ ถ้านับจากวันที่มีอะไรกันก่อนจะเลิกรากันในคืนนั้น เขาจำว่าเขาไม่ได้ป้องกัน ถ้าดูจากอายุของลูกชายเธอ ก็นับว่าใกล้เคียงกับที่เขาไปอยู่อเมริกา "ก็บอกว่าไม่ใช่ไง คุณจะมาถามอะไร ปล่อยนะ ฉันเจ็บ" พายุบีบข้อมือของอิงฟ้าจนเธอรู้สึกเจ็บข้อมือ เหมือนเขาจะรู้ตัวว่าบีบเธอแรงไปจึงค่อยๆ ปล่อยมือ "ก็ดี ถ้ามั่นใจว่าไม่ใช่ลูกผม ผมจะได้จีบน้องสาวคุณอย่างสบายใจ" "ฉันบอกให้คุณ เลิกยุ่งกับอิงดาวไง" อิงฟ้าโวยวาย "แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามผม "

บทที่ 1 ตอน เจอกันครั้งแรก

ในวันที่สายลมของฤดูหนาวกำลังจะพัดพาลมหนาวให้เข้ามา ว่ากันว่าฤดูกาลแห่งสายลมหนาวนี้ จะเป็นช่วงเวลาที่เราจะเห็นดวงดาวเต็มฟ้าได้อย่างสวยงามที่สุด

เขา ‘พายุ’ เพิ่งจบการศึกษา MBA มาไม่นาน ตอนนั้นเขาอายุเพียง 24 ปี เป็นช่วงของการเริ่มต้นการเรียนรู้การทำงานเพื่อสานต่อธุรกิจของที่บ้าน สำหรับเขาถือว่ายังใหม่มากในวงการนี้ เขาเองจึงมีแพลนไปเรียนต่อเพิ่มเติมความรู้ในระดับปริญญาโท MBA ที่สหรัฐอเมริกา ในช่วงเวลาก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังอเมริกา เขาจึงขอทางบ้านมาดูกิจการที่เชียงใหม่เพื่อพักผ่อนไปในตัว

ใครเลยจะรู้ว่า การพักผ่อนเดินทางในระยะสั้นๆทำให้เขา ได้พบกับเธอ

‘พราวฟ้า’ นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยชื่อดัง ปีนี้เธออายุเพียง 21 ปี เธอเป็นสาวน้อยที่หน้าตาจัดว่าน่ารักมากคนหนึ่ง นัยน์ตาดวงเล็กแต่ก็ใสราวกับดวงดาว ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนของเธอ ดูช่างรับกับผิวของเธอที่ขาวใส พวงแก้มอมชมพูระเรื่อแบบไม่ต้องแต่งเติม เธอน่ารักและมีเสน่ห์ต่อผู้คนที่ได้พบเจอเธอเสมอ เคยมีคนขอให้เธอไปประกวดดาวคณะตั้งแต่เข้าเรียนใหม่ๆแต่เธอไม่สนใจ เธอไม่มีเวลาว่างสำหรับงานกิจกรรมอะไรเลย เพราะเธอต้องทำงานพิเศษ ยิ่งตอนนี้..

น้องสาวของเธอ ‘อิงดาว’ ใกล้จะจบม.ปลายและจะต้องเข้ามหาวิทยาลัยในเทอมหน้า นั่นก็หมายถึงว่า อิงฟ้า เธอต้องขยันอีกเท่าตัวต้องทำงานพิเศษเพิ่มถึง 2 ที่ และเธอก็ไม่อยากให้น้องสาวต้องมาลำบากเหมือนอย่างเธอ

รถ BMW Z4 สีดำ ของพายุ เลี้ยวเข้ามาจอดในร้านคอฟฟี่เบรค เป็นร้านกาแฟเล็กๆตั้งอยู่เนินเขา

วันนี้ พายุ ได้นัดกับเพื่อนซี้ของเขา วีระกิจ หนุ่มเพลย์บอยจอมกะล่อน ทั้งสองพากันมานั่งคุยอยู่โต๊ะริมหน้าต่าง แต่…ไม่ทันที่เขาทั้งสองคนจะสั่งอะไร

"เฮ้ย พายุมึงดู พนักงานเสิรฟ์คนนั้น โคตรน่ารักเลยว่ะ เสียงเพื่อนชักชวนให้มองสาวเหมือนทุกครั้ง จนพายุถอนหายใจ

“อีกแล้วหรือวะ”

“เออ จริง มึงคนนี้ น่ารักของจริง กูบอกเลยคนนี้กูจอง”

เห็นเพื่อนย้ำหนักย้ำหนาในความน่ารัก จนในที่สุด พายุยอมหันไปมองเธอตามคำชักชวนของเพื่อน

และตอนนั้นที่เขาได้พบเธอครั้งแรก เขาก็รู้สึก…..

“เออ น่ารักดี”

พายุตอบเพื่อน ก่อนที่จะหันกลับมาเปิดเมนูอาหารอ่านต่อ เขาทำท่าเหมือนจะไม่สนใจ แต่สายตากลับหยุดลอบมองเธอไม่ได้

ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้น่ารักอย่างที่เพื่อนเขาบอก ขนาดเธอใส่แค่เชิ้ตสีขาวกางเกงยีนส์ธรรมดา ผมเธอถูกมัดรวบขึ้นไปอย่างง่ายๆ ใบหน้าแทบไม่ต้องแต่งเติมอะไรก็น่ารักอย่างเป็นธรรมชาติ

“ใช่ม่ะ กูบอกแล้ว โคตรน่ารัก”

พายุ ถึงกับส่ายหัวในความกะล่อนของเพื่อน “มึงจะจีบอีกแล้วดิ”

เขาแทบจะชินชาไปซะแล้ว ก็เพื่อนเขา วีระกิจ มักจะชี้ชวนให้เขา หันไปมองสาวๆที่น่ารักแบบนี้เสมอ

แต่...ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งแรกเลยก็ได้มั้ง ที่เขาเจอคนน่ารักสดใสแบบเธอ

"กูจะจีบ พายุ คนนี้กูจีบจริงๆ มึงคอยดู"

"กูก็เห็นมึงจีบมาเป็นสิบแล้วมั้ง ติดสักคนไหม" พายุพูดยิ้มๆเมื่อเห็นเพื่อนบอกจะจีบสาวอีกแล้ว ตั้งแต่เขามาอยู่เชียงใหม่ได้ 3 เดือน เพื่อนจีบหญิงไปแล้ว 10 คน แน่นอนว่า เพื่อนของเขาแห้วทุกราย

ในร้านคอฟฟี่เบรคเล็กๆ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาว พายุ เพิ่งสังเกตว่า ในร้านแห่งนี้กลับมีลูกค้าที่เป็นชายหนุ่มเข้ามาใช้บริการมากว่าผู้หญิงเสียอีก …..คงจะเป็นเพราะรอยยิ้มของสาวน้อยน่ารักคนนี้กระมัง

“จะรับอะไรเพิ่มหรือเปล่าคะ” เธอเดินตรงเข้ามาเอ่ยเสียงใสด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม นึกว่าเขาสองคนชี้เธอเพื่อจะสั่งอาหารเพิ่ม สองมือเธอล้วงหยิบกระดาษและปากกาจากเอี้ยมมาเพื่อเตรียมจดรายการ

“เออ รับอะไรดีคะ” แต่กลับไม่มีใครตอบคำถามของเธอเลยสักนิด

กิจยังคงงนั่งท้าวค้างส่งยิ้มหวานให้กับเธอ ไม่สนใจกับคำถามของเธอเลยแม้แต่น้อย

ส่วนพายุยังคงนิ่ง เขาพลิกเมนูอ่านแบบไม่สนใจแม้แต่จะเงยหน้า

เห็นทั้งคู่ นิ่งอยู่นาน พราวฟ้าจึงตัดสินใจถามอีกรอบ

“คุณสองคน รับอะไรดีคะ”

“ขอรับเป็นเบอร์โทรได้ไหมครับ” กิจได้โอกาสเขารีบหยอดเธอทันที

พราวฟ้า ถึงกับย่นหน้า “ไม่ล้อเล่นแบบนี้สิค่ะ เดี๋ยวฟ้าโดนผู้จัดการเอ็ดเอา” เธอเอ่ยพร้อมหมุนตัวจะหันหลังกลับ รู้สึกไม่ชอบเลยที่ต้องมาเจอลูกค้าขี้หลีแบบนี้ และเธอก็เจอลูกค้าแบบนี้มากซะจนเธอเหนื่อยหน่าย

"อ่อ ชื่อฟ้า น่ารักจัง นางฟ้าชัดๆ"

"อเมริกาโน่ ละกันครับ" พายุเปิดเมนูแล้วเงยหน้าไปมองเธอ พราวฟ้าหมุนตัวกลับมา

และตอนนั้น …ทันทีที่เธอได้สบตากับเขา หัวใจเธอก็เต้นแรงอย่างประหลาด

“ออ ค่ะค่ะ เป็นอเมริกาโน่ ที่หนึ่งนะคะ”

“เหมือนกัน ครับ เหมือนกันเลย” กิจยิ้ม

นั่นคือครั้งแรกที่ เขา ‘พายุ’ ได้พบกับเธอ ‘พราวฟ้า’

“โอ้ย ฟ้า เธอไปรับเมนู โต๊ะ 6 มาใช่ไหม โคตรหล่อเลยเนอะ ยังกับ ฮยอน บิน แค่นั่งเฉยๆยังหล่อ”

เพื่อนร่วมงานของเธอ กรี๊ดกร๊าด นับตั้งแต่เห็น พายุเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเพื่อนของเขา

“เออ ก็หล่อดี” พราวฟ้าตอบ เพราะเธอเองก็รู้สึกเหมือนที่เพื่อนบอก ผู้ชายคนนั้น ตอนที่สบตากันเมื่อครู่ราวกับว่ามีไฟฟ้าช๊อต เล่นเอาเธอใจสั่นไปชั่วขณะหนึ่งอยู่เหมือนกัน เจอลูกค้าหล่อๆมาก็มาก ไม่ยักกะเคยมีความรู้สึกแบบนี้

“ฉันขอไปเสิรฟ์แทนนะ” เพื่อนร่วมงานพราวฟ้าถึงกับอาสาไปเสิรฟ์แทน ทันทีที่กาแฟเสร็จ พราวฟ้าได้แต่พยักหน้ายิ้ม

เธอยังคงง่วงอยู่กับงานตรงเคาน์เตอร์ แต่ก็อดไม่ได้ที่แอบลอบมองเขาไ จู่ๆเขาก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเธอ และ...แค่แว่บเดียวที่มองตากัน หัวใจมันก็….

-โอยยย ใจเต้นอะไรอย่างนี้นะ-

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ cha.ni.cha

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

เมืองแฟนตาซี

5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ประวัติศาสตร์

4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

มหาเศรษฐี

4.9

เมื่อองค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ถูกวางยาปลุกกำหนัดในคืนวันอภิเษกสมรส... จิรัชยาเป็นเพียงลูกของนางบำเรอของอัครมหาเสนาบดีประจำมหานครฟาดิลาห์ หน้าที่ของลูกนอกสมรสอย่างหล่อนก็คือคอยรับใช้ ฮันนา ว่าที่องค์สุลตาน่า ความทุกข์แสนสาหัสเดียวในใจของหล่อนก็คือการแอบหลงรักจ้าวผู้ครองแคว้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วความฝันของหล่อนก็เป็นจริง เมื่อหล่อนได้นอนอยู่ใต้ร่างขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ แต่คืนนั้นมันเป็นคืนแต่งงานของเขากับฮันนา...! “ยังไม่รีบไสหัวลงไปจากเตียงอีกหรือ!” กายสาวบอบช้ำยังไม่ทันได้ขยับลงจากแท่นบรรทมก็ถูกเขาผลักไสแรงๆ จนกลิ้งตกลงมากองกับพื้นห้องไม่ต่างจากเศษขยะสกปรก น้ำตาแห่งความปวดร้าวไหลพรากออกมาราวกับสายฝน “หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...” จิรัชยาพยายามจะอธิบาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดขององค์สุลต่านแผดดังก้องขึ้นเสียก่อน หล่อนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “เธอกล้ามากนะที่วางยาฉัน!” “หม่อมฉัน... ไม่รู้เรื่องนะเพคะ หม่อมฉัน... ไม่ได้ทำ...” หล่อนสะอื้นได้อย่างน่าเวทนา แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าเธอไม่ได้ทำ งั้นก็คงเป็นแม่ของเธอสินะที่ทำ จิรัชยา!”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ