Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
วิวาห์ในคืนหวาม

วิวาห์ในคืนหวาม

ปรียาดา

5.0
ความคิดเห็น
9K
ชม
23
บท

สินีที่อกหักจากเจ้านายที่พ่วงตำแหน่งคู่ขา กับ พชรที่อกหักจากรุ่นน้องที่ดันไปรักกับเจ้านายของสินี เมื่อคนอกหักสองคนมาเจอกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของเราสองคนจึงเริ่มต้นจากเซ็กซ์และความผิดหวัง

บทที่ 1 บทนำ 1

เสียงดนตรีดังกระหึ่มกับความพลุกพล่านของบรรดานักท่องราตรีที่บ้างกำลังนั่งดื่มสังสรรค์กับบรรดาพวกพ้อง บ้างกำลังออกสเต็ปลีลาวาดลวดลายกันอย่างสนุกสนานอยู่กลางฟลอร์ในสถานบันเทิงชื่อดัง ไม่ได้นำพาให้หญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงบาร์เครื่องดื่มด้านในได้ใส่ใจเลย

สินีเป็นหญิงสาวที่มีรูปร่างหน้าตาดีเข้าขั้นว่าโดดเด่น อีกทั้งเสน่ห์สาวของหล่อนยังเปี่ยมล้นจนใครต่อใครต่างต้องเหลียวมอง ซึ่งบางคนถึงกับส่งสายตาให้หล่อนเพื่อหวังที่จะสานสัมพันธ์กันต่อไป แต่ใบหน้าของหล่อนในยามนี้ติดจะเรียบเฉยมากและไม่ชายสายตาแลใครทั้งสิ้น ในมือของหล่อนถือแก้วใสที่บรรจุแอลกอฮอล์ฤทธิ์ร้อนแรงอยู่ หล่อนยกมันขึ้นจิบเป็นระยะ พอหมดก็เติมเป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ การที่หล่อนทำเพียงแค่จดจ่ออยู่กับแก้วของเหลวในมือเท่านั้น ทำให้หล่อนดูค่อนข้างที่จะถือตัวและหยิ่งยโส แต่ใครจะรู้เลยว่าภายในนั้นหล่อนซ่อนความชอกช้ำไว้มากเพียงไร

เขาพอลเจ้านายของหล่อน ทำเอาหัวใจหล่อนพังยับเยินไม่มี ชิ้นดี แต่จะไปโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะเป็นหล่อนเองที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบนั้นตั้งแต่ต้นทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่รักแรกและผู้ชายคนแรกของหล่อน แต่เขาเป็นคนที่หล่อนพูดได้เต็มปากว่ารัก

สินีรู้จักกับพอลตั้งแต่ตอนที่หล่อนเรียนจบใหม่ๆ ครานั้นหล่อนเปลี่ยนที่ทำงานมาสองสามที่ สุดท้ายมาลงตัวที่บริษัทของพอล เขาวางตัวเป็นเจ้านายที่ดีมาตลอด ทั้งเขายังใจเย็นช่วยสอนงานให้กับเด็กไม่ประสาอย่างหล่อน จนกระทั่งทุกวันนี้หล่อนสามารถเรียกได้ว่าเป็นเลขามือทองที่มีความสามารถรอบด้านก็เพราะได้เรียนรู้จากเขาทั้งสิ้น ความอ่อนโยนของเขาทำให้หล่อนตกหลุมรักเจ้านายตัวเองโดยไม่รู้ตัวแม้ว่าอายุของเขากับหล่อนจะห่างกันถึงสิบกว่าปี

พอลเจ้านายของหล่อนเป็นชาวฝรั่งเศสแท้ที่อายุล่วงเข้าวัย เลขสี่แล้วแต่ยังดูดีทุกกระเบียด ที่สำคัญเสน่ห์แบบหนุ่มใหญ่ของเขายิ่งขับให้เขาดูดีและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นไปอีก จึงไม่แปลกอะไรที่สาวน้อยสาวใหญ่จะหลงเสน่ห์เขาได้โดยง่ายแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อหม้ายที่มีลูกโตถึงขั้นเรียนในระดับมหาวิทยาลัยแล้วก็ตาม และเขาเองก็ไม่เคยทำให้ใครต่อใครผิดหวัง เขามักมีน้ำใจกับบรรดาสาว ๆ ที่เข้ามาติดพันเขาเสมอ แต่เขาเองก็มีกฎก่อนที่จะเริ่มผูกสัมพันธ์กับพวกหล่อนอยู่เหมือนกันคือ การคบหากับเขาจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายที่ต่างฝ่ายต่างพอใจกันทั้งสองฝ่ายเท่านั้น และแม้ว่าเขาจะตั้งกฎเช่นนี้ขึ้นมา บรรดาผู้หญิงต่างก็ยอมเพียงเพื่อที่จะได้มีสัมพันธ์รักกับเขาสักครั้ง สินีที่เป็นเลขาของเขามานานนั้นเข้าใจดี เพราะต้องคอยจัดระเบียบผู้หญิงของเจ้านายบ่อยๆ

มีหลายครั้งหล่อนนึกถอดใจ แต่การที่ต้องทำงานร่วมกัน พบปะพูดคุยเห็นหน้ากันทุกวัน ความรู้สึกของหล่อนจึงมีแต่เพิ่มพูนมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหล่อนตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง ด้วยหล่อนคิดว่าตนเองไม่มีอะไรที่จะต้องมาเสียอีกแล้ว เพราะหล่อนเสียมันไปตั้งแต่รักครั้งแรกในวัยเรียนไปแล้ว ดังนั้นสถานะของหล่อนกับเขาจึงเพิ่มขึ้นมาอีกสถานะหนึ่งซึ่งเขาเรียกมันว่าคู่ขา

หล่อนอาศัยความใกล้ชิดและใช้เสน่ห์สาวที่หล่อนมั่นใจเต็มเปี่ยมเพื่อยั่วยวนเขา ซึ่งตัวพอลเองก็เข้าใจความหมายที่หล่อนต้องการสื่อได้เป็นอย่างดี ในเมื่อฝ่ายหญิงเสนอเขาจะไม่สนองได้อย่างไร แต่กระนั้นเขาก็ย้ำกับหล่อนเพื่อความมั่นใจถึงข้อตกลงต่าง ๆ ซึ่งหล่อนเองก็ยอมรับมันทุกประการ และสุดท้ายแม้ว่าเขาจะเปลี่ยนคู่ควงหรือคู่นอนบ่อยแค่ไหน แต่หล่อนก็เป็นคนที่รู้ใจและถูกใจเขาที่สุดเสมอ

สินีและพอลดำรงสถาะเจ้านายกับเลขาพ่วงด้วยคู่ขามาเกือบๆ สองปี นับได้ว่านานกว่าผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่พอลควงอย่างมากสุดก็แค่สามเดือน สิ่งนี้ทำให้หล่อนวางใจและพอใจกับความสัมพันธ์เช่นนี้ของเขา หล่อนพยายามทำตัวเองให้เป็นผู้หญิงในลักษณะที่เขาชอบโดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่หล่อนจะใช้ผูกกับเขาได้ แม้ว่าหล่อนไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่ก็ไม่เจนจัดนัก แต่เพื่อเขาจึงต้องหัดที่จะใช้เสน่ห์แห่งเรือนกายให้เป็นประโยชน์ หล่อนเรียนรู้เทคนิคและวิธีการ รวมถึงการดูแลตัวเองอย่างดีที่จะรองรับอารมณ์ร้อนแรงกับเขา จนทำให้หล่อนกลายเป็นสาวร้อนแรงไปโดยปริยาย แม้กระนั้นแล้วสุดท้ายที่หล่อนทุ่มเทไปทั้งหมดกลับสูญเปล่าเพียงเพราะเขาดันไปไปหลงเด็กสาวรุ่นลูกและจริงจังถึงขั้นตัดสัมพันธ์กับผู้หญิงทุกคนรวมถึงตัวหล่อนเอง ด้วยเหตุนี้เองหล่อนจึงต้องมานั่งดื่มปลอบใจตัวเองอยู่อย่างนี้

“ขอวิสกี้หนึ่งแก้ว”

ขณะที่นั่งลำลึกถึงความหลังอยู่นั้น เก้าอี้ด้านของสินีก็ถูกเลื่อนออกพร้อมกับร่างสูงของใครบางคนที่นั่งลงมาแล้วสั่งเครื่องดื่มที่ตนต้องการ

สินีไม่ได้ใส่ใจนักเพียงแค่เหลือบตามองเล็กน้อย แต่พอเห็นใบหน้าด้านข้างที่ดูคุ้นๆ คิ้วของหล่อนก็ขมวดเป็นปมขึ้นมาทันที แม้หล่อนจะดื่มไปมากแต่ก็ยังไม่ได้เมาจนถึงขนาดจำไม่ได้ว่าเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะนั่งลงด้านข้างนั้นเป็นคนเดียวกับที่หล่อนเคยเห็นว่าเต้นรำกับยัยเด็กสาวที่เจ้านายของหล่อนกำลังหลงรักหัวปักหัวปำ ดังนั้นเองสินีจึงจับตา มองคนด้านข้างอย่างเงียบๆ

หลังจากที่ถูกปฏิเสธจากรุ่นน้องที่เขาหมายปอง ตอนแรกพชรคิดว่าเขาจะทำใจได้ แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย ความรู้สึกแรกในตอนที่ถูกปฏิเสธด้วยการที่เธอบอกว่าคิดกับเขาแค่พี่ชาย เขาเพียงรู้สึกถึงความชาหนึบในหัวใจ และคิดว่าการอกหักครั้งนี้มันไม่สาหัสเท่าไหร่ แต่เมื่ออาการชานั้นจางหายไปความเจ็บปวดกลับเข้ามาแทนที่ เขาไม่สามารถทำใจให้ลืมขวัญข้าวรุ่นน้องที่เขาอุตส่าห์ค่อย ๆ สานสัมพันธ์สร้างความสนิทสนมได้ คราแรกเขายังคิดว่าเขาพอมีความหวัง จากสถานะพี่ชายอาจจะเลื่อนขึ้นเป็นสถานะอื่นได้ แต่ในวันนี้ที่เขาพบเจอกับหล่อนโดยบังเอิญ ความจริงที่ประจักษ์เหมือนหมัดน็อกเข้าเต็ม ๆ รุ่นน้องที่หมายตาปฏิเสธเขาแต่หันไปเลือกผู้ชายที่แก่คราวพ่อ และที่สำคัญชายคนนั้นยังเป็นบิดาของเพื่อนสนิทของหล่อน ความรู้สึกผิดหวังและพ่ายแพ้ทำให้เขาตัดสินใจใช้แอลกอฮอล์เพื่อบำบัดอาการอกหักเจียนตายของเขาในขณะนี้ อย่างน้อยฤทธิ์ของมันก็ช่วยให้เขาลืมได้ในขณะหนึ่ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ปรียาดา

ข้อมูลเพิ่มเติม
พลั้งรักคุณหมอคาสโนว่า

พลั้งรักคุณหมอคาสโนว่า

สมัยใหม่

5.0

เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ

กองหัวใจไว้ตรงรัก / กักหัวใจไว้ใกล้รัก

กองหัวใจไว้ตรงรัก / กักหัวใจไว้ใกล้รัก

โรแมนติก

5.0

เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น เธอเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ที่สำคัญเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างเธอนั้นลูกเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นภาระกิจตามจีบแม่ของลูกจึงเริ่มขึ้น ‘กักหัวใจไว้ใกล้รัก’ เป็นเรื่องต่อจาก ‘กองหัวใจไว้ตรงรัก’ เขาเลขาฯ สายโหด เนื่องจากต้องช่วยเจ้านาย เขาจึงได้ทำลายผู้หญิงเลว ๆ คนหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ เขากลับมาพบภายหลังว่าเธอยังบริสุทธิ์ ผิดกับทาทางร่านร้ายที่เธอแสดงออกภายนอก และความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายด้วยน้ำมือเขาเอง เธอกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอถูกตัดขาดจากครอบครัว ทว่าวันหนึ่งกลับต้องมาเจอคนที่คิดว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนก็ไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว คนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อค้นพบความจริงบางอย่าง การตกหลุมรักจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาจึงเริ่มปฏิบัติการตามจีบแม่ของลูก เธอคิดว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ แต่ผิดแล้ว เขาต้องการทั้งแม่และลูก และจะกักหัวใจท้องสองไว้กับเขาตลอดไป

มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง

มู่หรงเยว่ชิง ท่านหญิงตำลึงทอง

โรแมนติก

5.0

ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

บทรักมาเฟียร้าย

บทรักมาเฟียร้าย

จิรัฐติกาล
5.0

“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว

nugkeanransawat
5.0

จับลูกเลี้ยงมาทำผัว แนวคุณแม่ยั่วลูกชาย(ลูกเลี้ยง) มุตาคุณแม่สาวใหญ่วัย38ปี เธอเป็นอดีตนางงามที่สวยไม่สร่างซา เธอแต่งงานกับนักธุรกิจใหญ่ที่ร่ำรวยทว่าเธอกลับไม่สามารถมีลูกให้เขาได้ เมื่อเธอและสามีรับเด็กกำพร้ามาเลี้ยงดูจนโตเป็นหนุ่มหล่อวัย19ปี มุตากลับหวั่นไหวเพราะความหล่อเหลาของลูกชายตัวเองจนเกิดเป็นความใคร่อยากที่ไม่อาจฝืนทน บวกกับสามีที่เอาแต่เที่ยวสังสรรและติดเด็กสาวๆ ความแค้นเคืองในใจยิ่งเป็นแรงผลักดันให้มุตายั่วยวนลูกชายสุดหล่อ มาร่วมลุ้นกันว่ามุตาจะปลุกอารมณ์ของหนุ่มน้อยให้เขาคิดลึกกับเธอได้หรือไม่ คุณแม่ที่โหยหาจะได้ลิ้มลองรสชาติของลูกเลี้ยงที่ตัวเองเลี้ยงมากับมือได้หรือเปล่า และเธอต้องใช้มารยาเบอร์ไหนกว่าจะได้เขามาเป็นผัว ผัวที่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ