ความคิดเห็น
ชม
บท

บทที่ 1 ตอนที่ 1

“นั่งลงสิ บัวชมพู”

เสียงห้าวลึกและทรงอำนาจของเจ้านายคนใหม่ดังขึ้น

บัวชมพูค่อยๆ หย่อนกายที่สั่นเทาไปทั้งร่างลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานไม้ขนาดใหญ่ที่เจ้าของชื่ออิศรา

หล่อนไม่เข้าใจเลยว่าทำไมอคิราห์ถึงต้องการให้หล่อนมาทำงานกับอิศรา ถึงเหตุผลที่แจ้งมาจะบอกว่าเพราะอิศราขาดเลขาฯ กะทันหัน แต่ผู้ชายที่มีอำนาจล้นมืออย่างเขาสามารถซื้อตัวเลขาฯ เก่งๆ คนไหนมาทำงานด้วยก็ได้ ไม่จำเป็นต้องโยกหล่อนที่เป็นเลขาฯ ของอคิราห์มาแบบนี้

“เอ่อ... สวัสดีค่ะคุณเล็ก”

“พี่ใหญ่คงบอกเธอแล้วใช่ไหม”

“ค่ะ”

หล่อนก้มหน้าไม่กล้าสบตากับอิศรา มือเล็กที่ประสานกันบนตักบีบกันแน่นเพื่อควบคุมสติสตังของตนเอง

“งั้นต่อจากนี้ไป เธอก็คือเลขาฯ ส่วนตัวของฉัน”

“แต่... ชมพูมาทำหน้าที่ชั่วคราว...”

“ม่าย...”

อิศราเอ่ยยานคาง ขณะลุกขึ้นยืน เท้าสองแขนกับโต๊ะไม้ และยื่นหน้าชะโงกข้ามโต๊ะเข้ามาใกล้ๆ

กลิ่นลมหายใจของอิศราทำให้หล่อนรู้สึกมึนเมาและอุ่นซ่านไปทั้งตัว

“เธอต้องทำหน้าที่เลขาฯ ของฉัน จนกว่าฉันจะสามารถหาเลขาฯ ที่ถูกใจได้”

“ก็คง... ไม่น่าจะนานสักเท่าไหร่ใช่ไหมคะ...” บัวชมพูพึมพำเสียงเบาหวิว

“ถ้าเป็นเรื่องงาน ฉันเป็นคนที่เลือกเยอะ เลือกมาก กว่าจะถูกใจก็คงต้องใช้เวลาสักพัก... ไม่เหมือนเรื่องบนเตียง ที่ฉันไม่ค่อยจนสนใจความสามารถสักเท่าไหร่ แค่ลีลาเด็ดเป็นใช้ได้”

บัวชมพูรู้สึกใจคอไม่ดีเลย แววตาคมกริบที่

อิศราใช้มองมานั้นมันแฝงไปด้วยอันตรายน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน

“วันนี้เธอก็นั่งศึกษางานในส่วนที่ฉันรับผิดชอบไปก่อนนะ อ้อ... แล้วเย็นนี้ฉันมีงานเลี้ยงที่จำเป็นต้องไป และเธอต้องตามฉันไปด้วย"

“คะ?”

“เดี๋ยวสักบ่ายสองฉันอนุญาตให้เธอกลับบ้านไปแต่งตัว ค่ำๆ ฉันจะไปรับ”

“เอ่อ... คุณเล็ก... ชมพูว่า...”

อิศราแค่นยิ้ม ขณะมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาดูแคลน

“แต่งตัวแบบคืนนั้นก็ได้นะ ที่ฉันเห็นเธอในไนต์คลับน่ะ”

สองพวงแก้มนวลร้อนผ่าว ดวงตากลมโตเบิกกว้างตื่นตระหนก

“เพราะนั่นคงเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ ใช่ไหมล่ะ บัวชมพู”

“เอ่อ...”

“เอาล่ะ กลับไปโต๊ะทำงานของเธอได้แล้ว ถ้าฉันมีอะไรจะเรียกเข้ามาก็แล้วกัน”

บัวชมพูไม่อาจจะเอื้อนเอ่ยคำใดออกไปได้ นอกจากรีบเดินออกไป

ดวงตาคมกริบของอิศรามืดลึกลง เมื่ออยู่ตามลำพัง เขาหย่อนกายใหญ่โตลงนั่งบนเก้าอี้ ภาพของบัวชมพูในค่ำคืนนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ

“ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอจะเด็ดสักแค่ไหน บัวชมพู”

เขาอยากได้หล่อนมาเป็นของเล่นบนเตียง และเขาจะเอาให้ได้ด้วย แม้ว่าจะต้องโยนเศษเงินให้หล่อนมากกว่าผู้หญิงคนอื่นก็ตาม

บัวชมพูต้องหยุดนิ้วมือที่กำลังกดแป้นพิมพ์ลง เมื่อโทรศัพท์มือถือดังขึ้น

เสียงริงโทนแบบนี้ เป็นสายของใครไปไม่ได้นอกจากมารดา

หญิงสาวรีบเปิดลิ้นชัก หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับด้วยความร้อนใจ

ถ้าสายของมารดาเรียกเข้ามา แสดงว่าจะต้องมีเรื่องอย่างแน่นอน

“จ้ะแม่ มีอะไรเหรอจ๊ะ”

“นังชมพู... พ่อแก่ชักอีกแล้ว”

ใบหน้านวลของบัวชมพูซีดเผือด ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความตกใจ

“แม่... เรียกรถพยาบาลก่อนเลยนะ เดี๋ยวชมพูรีบตามไปที่โรงพยาบาลจ้ะ”

“โรงพยาบาลไหนล่ะนังชมพู”

“โรงพยาบาลเดิมก็ได้จ้ะแม่” หล่อนละล่ำละลักตอบออกไปเสียงตื่นตระหนก ห่วงบิดาจับใจ

“แต่มันแพงนะนังชมพู ข้าว่าส่งไปโรงพยาบาลรัฐดีกว่า”

“ไม่ได้นะแม่ พ่ออาการไม่ดี ชมพูไม่อยากเสี่ยง ส่วนเรื่องเงินแม่ไม่ต้องกังวลนะ ชมพู... พอจะมีจ้ะ”

“โอเค งั้นเอ็งรีบตามมานะนังชมพู ข้าจะพาพ่อเอ็งไปก่อน”

“จ้ะแม่ อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง ชมพูจะไปถึงโรงพยาบาลจ้ะ แม่... เรียกรถพยาบาลเลยนะจ๊ะ” หล่อนรีบย้ำมารดา เพราะเป็นห่วงบิดาเหลือเกิน

“ได้ๆ แค่นี้นะ ข้ารีบไปเรียกรถพยาบาลก่อน พ่อเอ็งกำลังแย่แล้ว”

“จ้ะแม่”

บัวชมพูรีบวางสายจากมารดา หัวใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าบิดาจะเป็นอะไรไป

หล่อนรักบิดา...

รักมาก...

ท่านเลี้ยงดูหล่อนกับแม่มาอย่างดี จนกระทั่งท่านล้มป่วยเมื่อต้นปีที่แล้ว ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองอุดตัน นั่นก็ทำให้ครอบครัวที่เคยสงบสุขของหล่อนแปรเปลี่ยนไป

หลังจากผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว และรับยามาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน แต่หลายครั้งพ่อก็เกิดอาการชักขึ้น หล่อนกับแม่ต้องพาพ่อกลับเข้าไปในโรงพยาบาลใหม่ มันวนลูปแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนหล่อนต้องย้ายพ่อมาเข้าโรงพยาบาลเอกชน เพื่อที่พ่อจะได้รับการรักษาที่รวดเร็วขึ้น คุณหมอพยายามหาสาเหตุที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังหาไม่เจอ

บัวชมพูคว้ากระเป๋าสะพายขึ้นมาวางบนโต๊ะ มือเล็กหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาซับน้ำตาที่ไหลล้นออกมา

หล่อนรีบเดินไปหยุดที่หน้าห้องทำงานของเจ้านายคนใหม่นั้นก็คืออิศรา

ก๊อก ก๊อก

“คุณเล็กคะ ชมพูขออนุญาตเข้าไปนะคะ”

“เข้ามา”

หล่อนดึงบานประตูให้เปิดออกด้วยความรีบร้อน และก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าของผู้ชายตัวสูงเจ้าของห้องทำงานกว้าง

ดวงตาคมกริบที่ล้อมกรอบไปด้วยแพขนตาดกและยาวปานอิสตรีจ้องมองมา ก่อนที่ริมฝีปากหยักสวยจะเคลื่อนไหว

“มีอะไรหรือ”

“เอ่อ... ชมพูต้องขอลางานครึ่งวันได้ไหมคะ พอดีชมพูมีธุระสำคัญมากน่ะค่ะ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

ธิดาแค้นต้องเอาคืน

Casey Haag
5.0

ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ