Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
249.9K
ชม
137
บท

ความแค้นของกัลป์ฝังรากลึก เขาออกตามล่าตัวต้นเหตุที่ทำให้น้องสาวกลายเป็นคนเสียสติ แต่คนที่ต้องรับกรรมคือ น้องสาวของตัวการ "เธอเลือกเอาเองว่าจะนอนกับฉันคนเดียว หรือให้ลูกน้องฉันร่วมสนุกด้วย" ... “คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...ฮือ...ฉันไหว้ล่ะ...อย่าทำอะไรฉันเลย” ขวัญข้าวขอร้องทั้งน้ำตา ยกมือไหว้กัลป์ ทำท่าจะก้มลงกราบ “ถึงเธอจะกราบเท้าฉัน ฉันก็ไม่มีวันเปลี่ยนใจ กล้วยไม้น้องสาวของฉันก็คงทำแบบเดียวกับเธอ แต่พี่ชายเธอไม่มีความเมตตาปรานี แล้วฉันจะมีให้เธอได้ยังไง” ชื่อเล่นที่ดังจากปากชายน่ากลัวตรงหน้า ทำให้ขวัญข้าวตกใจอีกรอบ เพราะชื่อนี้เป็นชื่อเดียวกันกับหญิงสาวที่เธอส่งข้าวส่งน้ำให้นานเป็นสัปดาห์ มองดูเธอคนนั้นเผชิญชะตากรรมโหดร้าย แต่ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วย ขวัญข้าวช่วยไม่ได้ต่างหาก “ฉัน...” ขวัญข้าวพูดไม่ออก “เธอรู้ไหมว่า ตอนนี้น้องสาวของฉันเป็นยังไง กล้วยไม้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จำใครไม่ได้แม้กระทั่งตัวเอง พ่อกับแม่ของฉันต้องเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสภาพลูก ร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหล ฉันเป็นพี่หัวใจแทบสลาย ไม่มีหลงเหลือแล้วกับคำว่าครอบครัวอบอุ่น ความสุขที่เคยมีกลายเป็นความทุกข์แสนสาหัส ทุกคนในบ้านเหมือนตกนรกทั้งเป็น กล้วยไม้ต้องหมดอนาคตเพราะพี่ชายสุดชั่วของเธอ แบบนี้ฉันจะเมตตาปรานีเธอได้ยังไง เธอตอบฉันมาสิว่า ฉันควรจะเมตตาเธอหรือเปล่า” กัลป์กล่าวเสียงเดือด ระเบิดน้ำเสียงจนเส้นเอ็นตรงลำคอขึ้น ดวงตาลุกโชนจากแรงโทสะที่โหมเข้าสู่จิตใจ นึกถึงสภาพของพรรณพฤกษาในกระท่อม อารมณ์ของเขาเพิ่มทวีคูณ อยากจะแล่เนื้อขวัญข้าว แล้วเอาเกลือทามองดูเธอตายอย่างช้าๆ ให้หายคับแค้นใจ แต่ถ้าทำเช่นนั้นดูเหมือนจะไม่สะใจมากพอ ครอบครัวของเธอจะต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายเช่นเดียวกับตน “ฉันขอโทษ...ฮือ...ฉะ...ฉันขอโทษ...ฉัน” ขวัญข้าวเอ่ยคำขอโทษ รู้ทั้งรู้ว่า คำๆ นี้เขาอาจไม่ต้องการ แต่เธอก็อยากจะขอโทษที่ช่วยเหลือน้องสาวเขาไม่ได้ กัลป์ไม่สนคำขอโทษ เขาก้าวเดินมาหาขวัญข้าวราวกับราชสีห์จ้องเหยื่อ ก่อนจะกระชากแขนเธอสุดแรง ขวัญข้าวลุกขึ้นยืนตามแรงฉุด ไม่กี่อึดใจต่อมา ร่างอรชรถูกเหวี่ยงไปบนเตียงนอน พอแผ่นหลังขวัญข้าวสัมผัสกับที่นอน เธอรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง กระเถิบตัวหนีกัลป์ ใบหน้าสวยหวานอาบไปด้วยความหวาดกลัว น้ำตาไม่เคยห่างหายไปจากแก้ม ปากสั่น ตัวสั่น “เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก ฉันจะให้ลูกน้องสนุกกับเธอจนเธออิ่ม รับรองสำลักความสุขแน่ๆ เธอจะต้องโดนเหมือนที่กล้วยไม้โดน” กัลป์พูดเสียงเยียบเย็น กระตุกยิ้ม ก่อนจะตะโกนเรียกลูกน้องที่อยู่นอกห้องให้เข้ามาด้านใน “พวกมึงสนุกกันให้เต็มที่ แต่ระวังหน่อยนะ ระวังเธอจะตายคาเตียง” ขวัญข้าวเบิกตากว้างมองกลุ่มชายฉกรรจ์สี่คนที่เดินเข้ามาในห้อง ความกลัวพล่านในหัวใจ มองซ้ายมองขวาหาทางหนี แต่เธอจะหนีไปที่ใดได้ ไม่มีทางไหนที่จะหนีออกไปจากห้องนี้ได้เลย นอกจากประตูห้องบานนั้น ซึ่งมันก็อยู่ไกลในความรู้สึกของเธอเหลือเกิน ทั้งที่มันห่างแค่ไม่กี่เมตร ขวัญข้าวตระหนักวินาทีนี้เองว่า ความกลัวของกล้วยไม้เป็นอย่างไร ไม่แปลกที่กล้วยไม้สติจะหลุดลอย ผลกรรมที่คชาทำไว้กับน้องสาวของคนออกคำสั่ง กำลังส่งผลถึงเธอ ทั้งที่ขวัญข้าวไม่ได้เป็นคนกระทำ “ไม่นะ อย่าทำฉัน อย่าเข้ามา” ขวัญข้าวไม่เคยกลัวอะไรเช่นวินาทีนี้มาก่อน เธอกระโดดลงมายืนข้างเตียงอีกฝั่งหนึ่ง มองไปยังชายสี่คนที่เดินอ้อมเตียงมาทางตน ส่วนกัลป์ยืนกอดอกแล้วยิ้ม มองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสาแก่ใจ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง รอดูผลงานเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น “อย่าเข้ามา อย่า...กรี๊ด” ขวัญข้าวกรีดร้องเสียงดังลั่นห้อง เมื่อหนึ่งในสี่กระชากร่างเธอมากอด แล้วเหวี่ยงไปบนเตียง เธอแทบจะกลั้นใจตาย เพราะรู้ดีว่า ไม่อาจรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาได้ เรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเธอกำลังจะเกิดขึ้น เหมือนกับพรรณพฤกษาไม่มีผิด...

บทที่ 1 1

1

“กรี๊ด” เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่วบ้านหลังใหญ่ หลังสิ้นเสียงนั้น เสียงฝีเท้าของชายรูปร่างสูงใหญ่ก็ดังขึ้นตาม เขาวิ่งมายังห้องต้นเสียงด้วยเวลาอันรวดเร็ว พอมาถึงหน้าห้องกัลป์รีบเปิดประตูห้องนอนของน้องสาวทันทีโดยไม่คิดเคาะประตู

“กล้วยไม้ไม่เป็นอะไรแล้วนะ พี่อยู่นี่ อย่าร้องนะคนดี”

กัลป์กอดปลอบน้องสาวอันเป็นที่รัก ที่ยังคงส่งเสียงกรีดร้อง สีหน้าแสดงถึงความหวาดกลัว ตื่นตระหนก น้ำตาไหลอาบแก้ม

“กรี๊ด...ไม่นะ อย่าเข้ามา อย่ามากอดฉัน ออกไป กรี๊ด!” พรรณพฤกษาผลักไสพี่ชาย ดวงตาหวานปนเศร้าตื่นตระหนกคล้ายกับว่ากำลังหวาดกลัวบางสิ่งบางอย่าง เป็นความกลัวฝังรากลึกในจิตใจ แล้วไม่รู้ว่าชาตินี้จะสลายความทุกข์โศกนี้ได้หรือไม่ “ปล่อยนะปล่อย อย่าทำฉัน อย่า...ไป...ออกไป...ฮือ”

มือเล็กพยายามดันร่างของพี่ชายให้ออกห่าง น้ำตาแห่งความกลัวไหลพราก ฟันแหลมคมขบกัดบ่าของกัลป์เต็มแรง หวังจะให้ลำแขนใหญ่คลายออก แต่ทว่าพี่ชายที่แสนดีข่มความเจ็บปวดไว้เต็มกำลัง หาได้ปล่อยร่างของคนตกอยู่ในอาการหวาดกลัว เขายังคงกอดแนบแน่นแม้ว่าฟันของพรรณพฤกษาจะขบกัดแรงขึ้นและแรงขึ้น

“กล้วยไม้ พี่เอง พี่กัลป์ไงครับ ไม่มีใครทำอะไรกล้วยไม้ของพี่แล้วนะ พี่จะปกป้องกล้วยไม้เอง”

ความเจ็บปวดที่กัลป์ได้รับ น้อยกว่าความเจ็บปวดทางกายและใจของพรรณพฤกษา โลกอันแสนสวยงาม อนาคตที่ดีของเธอถูกลบเลือนจากคนชั่วกลุ่มหนึ่งที่กระทำย่ำยีพรรณพฤกษาอย่าง ไร้ความปรานี พวกมันความโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน

เขายังจำวันนั้นได้ไม่เคยลืม แม้เวลาจะผ่านมาสองปี พรรณพฤกษาถูกลักพาตัวไปร่วมสองสัปดาห์ กัลป์ทำทุกทางเพื่อที่จะตามตัวน้องสาวกลับคืนมา จนกระทั่งวันหนึ่งวันที่เขารอคอยก็มาถึง เมื่อมีคนปริศนาส่งข้อมูลสถานที่ที่พรรณพฤกษาถูกจับไปขังไว้ กัลป์กับครอบครัวเดินทางไปที่นั่นทันที และภาพที่เห็น ทำให้ครอบครัวอันแสนสุขของเขาพังทลาย กลายเป็นความข่มขื่น ปวดร้าวและทรมาน

บ้านไม้ชั้นเดียวกลางสวนยางแห่งหนึ่งในจังหวัดชุมพรคือ สถานที่ที่พรรณพฤกษาอยู่ ทันทีที่เห็นสภาพของเธอ วชิราภรณ์ผู้เป็นแม่เป็นลมล้มพับอยู่ในอ้อมกอดของธัญญ์ สามีสุดที่รัก ธัญญ์ผู้เป็นพ่อกัดฟันกรอด อารมณ์โกรธแค้นสุมอก หัวใจของธัญญ์เหมือนมีใครควักออกมาแล้วกระทืบซ้ำๆ จนไม่มีชิ้นดี

กัลป์รีบถลาไปหาน้องสาวที่นั่งกอดเข่าร้องไห้ ดวงตาเบิกกว้างและตื่นตกใจแฝงไว้ด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดแสน เธอกวาดไปมารอบๆ บ้านราวกับว่ารอบข้างมีแต่สิ่งน่ากลัว และเมื่อกัลป์กอดน้องสาว เสียงกรีดร้องก็ดังลั่น มือเล็กผลักไสร่างของกัลป์ ร้องขอให้ปล่อยเธอ พรรณพฤกษาจำใครไม่ได้ แม้กระทั่งตัวเอง

“ไม่นะ อย่า อย่า ปล่อยฉัน ปล่อย ปล่อย กรี๊ด!” คนถูกกระทำกรีดร้องต่อเนื่อง

”กล้วยไม้ พี่เอง พี่กัลป์ไง พี่กัลป์พี่ชายของกล้วยไม้ไงครับ”

กัลป์เรียกสติน้องสาวที่ไม่รู้ว่า จะกู่กลับมาได้หรือไม่ เพราะมันนานกว่าหกเดือนแล้วที่เธอเป็นเช่นนี้ และไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นเลย

“กัลป์ กัลป์ไหน ไม่มี ฉันไม่มีพี่ชาย กรี๊ด ปล่อย ปล่อย อย่าทำฉัน ฮือๆๆ”

ความหวาดกลัว ความทุกข์ทรมานและสิ่งที่พรรณพฤกษาต้องเผชิญมาตลอดระยะเวลาที่อยู่ในบ้านกระชากสติสัมปชัญญะของเธอให้ขาดกระจุยไม่หลงเหลือชิ้นดี เธอจำใครไม่ได้เลยแม้แต่ครอบครัวที่ให้ความอบอุ่น ความรักกับเธอมาตั้งแต่เกิด หรือตัวเธอเอง สิ่งที่สาวแสนดีจำได้มีเพียงเรื่องเดียว เป็นความทรงจำอันแสนเลวร้ายมากที่สุดในชีวิต

“อย่ากลัวนะคนดี เรื่องมันผ่านไปแล้ว พี่สัญญาว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายกล้วยไม้ของพี่ได้อีก และพี่ก็สัญญาว่าจะจับไอ้คนชั่วที่มันทำกับกล้วยไม้มาลงโทษให้ได้”

คนอย่างกัลป์ แม็คควีน ตัณติยานนท์ ไม่ปล่อยให้ชายชั่วกลุ่มนั้นลอยนวลเด็ดขาด ใครที่ทำให้น้องสาวของเขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานทางด้านจิตใจ มันจะต้องได้รับโทษอย่างสาสมจากเขา

และต้องมากกว่าร้อยเท่าพันเท่า…

จังหวัดชุมพร

“ขวัญทำกับข้าวเสร็จหรือยังลูก พ่อกับพี่ช้างมาถึงแล้วนะ” บัวรินเดินเข้ามาถามบุตรสาวที่กำลังสาละวนอยู่กับการทำอาหารในครัว คนถูกถามเงยหน้ามองมารดาแล้วยิ้ม

“เสร็จพอดีจ้ะแม่ แม่ออกไปคอยที่โต๊ะเลยนะ เดี๋ยวขวัญยกสำรับไปเอง”

“ให้แม่ช่วยดีกว่านะ พ่อกับพี่ช้างอารมณ์ไม่ดี ขืนขวัญยกไปช้ามีหวังโดนดุแน่ๆ”

บัวรินรู้นิสัยสองพ่อลูกดีว่าเป็นอย่างไร ชอบกดขี่ พูดจาไม่ดีขวัญข้าวมากแค่ไหน ดุได้เป็นดุ ตวาดได้เป็นตวาด บางครั้งไม่มีเหตุผลของการกระทำนั้นด้วย บ่อยครั้งที่ขวัญข้าวตกเป็นเบี้ยอารมณ์ของบิดาและพี่ชาย ซึ่งนางเองก็ยื่นมือเข้าช่วยเหลือมากไม่ได้ หากทำนางก็ต้องถูกหางเลขไปด้วย

สองแม่ลูกช่วยกันยกสำรับไปวางบนโต๊ะอาหารกลางบ้าน ที่มีร่างของคนโมโหหิวนั่งหน้าหงิกรอทานอาหาร พอเห็นหน้าขวัญข้าว ปัญญาเปิดฉากต่อว่าทันที

“รู้อยู่ว่ากูจะกลับบ้านเวลานี้ ทำไมถึงทำกับข้าวช้า มึงจะกวนตีนกูใช่ไหม”

“ไม่ใช่นะพ่อ ขวัญก็ทำตามเวลาปกติ วันนี้พ่อกับพี่ช้างกลับมาเร็วกว่าทุกวัน ก็เลยมองว่าขวัญทำกับข้าวช้า” ขวัญข้าวไม่ได้มีเจตนาโต้เถียงบิดา เธอเพียงแค่อธิบายให้ปัญญาเข้าใจ ทว่าคนอารมณ์ไม่ดีไม่ได้คิดเช่นนั้น

“อ้อ…มึงหาว่ากูผิดที่กลับบ้านเร็วใช่ไหม มึงนี่วอนขึ้นทุกวัน” ปัญญาหยิบช้อน ตั้งท่าจะปาใส่ลูกสาว แต่เสียงของบัวรินดังห้ามเสียก่อน

“พี่หิวข้าวไม่ใช่เหรอ รีบกินดีกว่านะ วันนี้ขวัญทำต้มยำโป๊ะแตกของโปรดพี่ด้วย กำลังร้อนๆ เลย รีบกินดีกว่านะ”

บัวรินรีบตักข้าวสวยใส่จานให้สามี ก่อนจะหันไปตักให้บุตรชายที่วันนี้ไม่ผสมโรงต่อว่าน้องสาวเหมือนเคย จากนั้นจึงหันมาตักให้ตนเองและขวัญข้าว

“พรุ่งนี้กูกับไอ้ช้างต้องไปทำงานให้นายที่ยะลา จัดกระเป๋าให้ด้วย” ปัญญาสั่งบัวริน

“ไปกี่วันพี่”

“ยังไม่รู้เลยว่างานจะเสร็จเมื่อไหร่ จัดไปหลายๆ ชุดก็แล้วกัน” งานที่ได้รับมอบหมายมาเป็นงานใหญ่ กำหนดวันกลับจึงไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับว่างานจะเสร็จวันไหน

“ขวัญ พรุ่งนี้ไปร้านเฮียกวงให้พี่ด้วยนะ พี่สั่งกระสุนปืนไว้ พี่ไม่ว่างไปเอาเอง เอ็งช่วยไปเอาให้หน่อย ไปเอาเสร็จก็เอาไปไว้ที่ห้องพี่ล่ะกัน” คชาไว้วานน้องสาว

“จ้ะพี่ช้าง” เธอรับคำอย่างว่าง่าย เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไปเอาสิ่งของให้พี่ชาย เธอไปเอาให้นับครั้งไม่ถ้วน บางครั้งไปเอาอาวุธปืนเถื่อนก็ยังเคย การสนทนาของพวกเขายุติลง ทั้งหมดนั่งทานอาหารกันอย่างเงียบๆ เช่นเคย พอท้องอิ่ม ปัญญากับคชาก็เดินออกไปจากบ้านเพื่อไปทำงานรอบดึก ส่วนสองแม่ก็ช่วยกันทำความสะอาดจาน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซีรี่ย์.ชุด ลุง

ซีรี่ย์.ชุด ลุง

วรดร
5.0

เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

Rascal
5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ