ขณะที่หร่วนฉิงกำลังเอามือเท้าคางอย่างเบื่อหน่าย เธอมองเห็นหร่วนฟังผิงที่กำลังเก็บของกองโต เธอทำได้เพียงเงยหน้าขึ้นเเล้วถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
“ลูกถอนหายใจทำไม?” “ที่แม่ทำทั้งหมดก็เพื่อลูกนะ” พอพูดจบ ฟังผิงก็ค่อย ๆ เอาธูปเทียนเเละ กระดาษเงินกระดาษทองที่เตรียมไว้ใส่ลงในกระเป๋า แล้วไม่ลืมที่จะหันกลับมามองลูกสาวของเธอ
(*TN: กระดาษเงินกระดาษทอง คือแผ่นกระดาษที่นำมาเผาในพิธีไหว้บรรพบุรุษแบบจีนดั้งเดิมเป็นพิธีที่ทำในช่วงวันหยุดในโอกาสพิเศษ )
การกลับบ้านเกิดครั้งนี้ คงจะต้องค้างที่นั่นสักสองวัน หร่วนฉิงไม่อยากกลับไปพร้อมกับฟังผิง แต่เมื่อเห็นว่าแม่ของเธอเก็บของใกล้จะเสร็จแล้ว เธอก็เก็บโทรศัพท์มือถือและที่ชาร์จแบตยัดใส่ลงไปในกระเป๋าสีน้ำตาลอ่อนของเธออย่างยอมรับชะตากรรม
ในระหว่างทางที่กลับบ้านเกิด ขณะที่หร่วนฉิงมองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างรถบัสอยู่นั้น แม่ของเธอก็พล่ามเกี่ยวกับการนัดเดทของเธอ
เนื่องจากคืนก่อนมีฝนตก จึงทำให้ถนนในหมู่บ้านค่อนข้างลื่น แม้ว่าหร่วนฉิงจะไม่ได้เต็มใจกลับมาบ้านเกิดกับแม่ แต่หลังจากที่พวกเขาลงจากรถบัส เธอก็ช่วยเเม่ถือกระเป๋าอีกมือหนึ่งก็ควงเเขนเเม่เอาไว้
“หร่วนฉิง แม่ขอโทษ ที่แม่ทำอย่างนี้ก็เพราะว่าแม่ไม่มีทางเลือก ลูกดูความรักของลูกสิ ไม่ว่าจะเป็นความรักในมหาวิทยาลัยหรือการนัทเดท มีครั้งไหนบ้างที่จบด้วยดี ลูกทำให้แม่ไม่กล้าสู้หน้าใครจริง ๆ ดูเหมือนว่าฟังผิงจะไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูดเลย
ทุกครั้งที่ฟังผิงนึกถึงเรื่องราวความรักของลูกสาว เธอก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาทุกที มักจะมีคนนินทาลับหลังเธอเสมอ
เช่น “นั่นไง!แม่ของนางตัวซวยนั่น!”
สองปีที่ผ่านมา หร่วนฉิงมีนัดบอดอยู่หลายครั้ง เขาเคยคบกับผู้ชายดี ๆ ที่เธอใฝ่ฝันหลายคน แต่ทุกครั้งเมื่อความสัมพันธ์ของหร่วนฉิงเริ่มพัฒนาขึ้น ก็มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา
มีผู้ชายสองคนประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน สองคนยางแตกกลางทาง ยังมีอีกสองคนพบว่าเป็นโรคร้ายแรงก่อนแต่งงาน
แม้ว่าความบังเอิญทำนองนี้อาจเกิดขึ้นกับคนอื่น ๆ เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าอุบัติเหตุเหล่านั้นได้เกิดขึ้นกับหร่วนฉิงเห็นจะบ่อยเกินไปจนผิดปกติ
หลังจากเห็นความโชคร้ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครกล้าที่จะเป็นแม่สื่อให้หร่วนฉิง เพราะทุกคนกลัวตัวเองจะเดือดร้อน
“แม่หยุดพูดเรื่องนี้ได้ไหมคะ? สังคมสมัยนี้ มีการนัดบอดหลาย ๆ ครั้งมันเป็นเรื่องปกติมากน่ะ บนโลกใบนี้ในทุก ๆ ชั่วโมง ทุก ๆ นาที และทุก ๆ วินาที มันสามารถเกิดอุบัติเหตุและโรคร้ายต่าง ๆ ขึ้นได้ จะมาโทษหนูอย่างนี้ไม่ได้นะคะ”
ความบังเอิญเหล่านี้ มันไม่ใช่เพราะเธอไม่มีวาสนาที่จะได้แต่งาน แต่นี่คือโชคชะตาของเธอ แต่อย่างไรก็ตาม เธอเชื่อว่าสักวันหนึ่งเธอจะเจอคนที่ใช่
ในขณะที่เหลือบมองหร่วนฉิง ฟังผิงก็คว้ากระเป๋าจากมือของเธอและพูดว่า “เด็กคนนี้นี่! ถ้าลูกไม่หาวิธีไล่ความโชคร้ายนี้ออกไป แม่ก็อาจโดนลูกสาบแช่งไปด้วยในเร็ว ๆ นี้
ขณะที่พูดอยู่นั้น พวกเขาก็เลี้ยวและมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา
หร่วนฉิงยักไหล่แล้วเดินตามหลังแม่ของเธอไป เธอได้ยินเสียงรถที่ขับผ่านมา เมื่อหันมองกลับไป เธอก็เห็นรถเมย์บัคสีดำสุดหรูซึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าที่อยู่ถัดจากบ้านของพวกเขาออกไป
“โอ้ พ่อหนุ่มไฮโซ รวยอะไรขนาดนี้!” “เขาขับรถหรูแบบนี้บนถนนที่เต็มไปด้วยโคลนได้ยังไง ไม่กลัวรถติดโคลนแล้วออกไม่ได้หรือไง?”
เธอบ่นงึมงำพลางมองรองเท้าที่เปื้อนโคลนของเธอ แล้วมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเก่าของพวกเขา
หมู่บ้านเซียงหวยเป็นหมู่บ้านโบราณ มีประวัติศาสตร์มานานกว่าสามร้อยปี ที่นี่มีอาคารเก่าแก่หลายแห่งที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะวัดเก่าแก่แห่งนี้ ได้รับการทำนุบำรุงป็นอย่างดี และเต็มไปด้วยผู้แสวงบุญอยู่เสมอ ธูปเครื่องหอมสักการะภายในวัดไม่เคยดับลงจนถึงปัจจุบันนี้
“คุณเฮ่าชวน คุณรีบหน่อยได้ไหมคะ? คุณท่านรอนานแล้วค่ะ ท่านบอกว่า 9 โมงเช้า คือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการถวายเครื่องหอม
หน้ากระจกกรอบทองแดงบานหนึ่ง ชายคนหนึ่งกำลังจัดเสื้อของเขาให้เรียบร้อย เขาขมวดคิ้วพลางมองไปที่แม่บ้านด้วยสายตาที่เย็นชา
นัยน์ตาสีเข้มของเขาคล้ายกับท้องฟ้าที่มืดมน เขากวาดสายตาที่แสนเย็นชาไปยังแม่บ้านแวบหนึ่ง ทำให้แม่บ้านหยุดพูดทันที เมื่อสบสายตากับเขา
“ผมไม่ชอบเนคไทนี้” “เอาเส้นอื่นมาให้ผม”
พอเขาพูดจบ เขาก็โยนเนคไททิ้งไป