Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
Disguise ข่มรักร้ายนายมาเฟีย

Disguise ข่มรักร้ายนายมาเฟีย

JAMBENZ

5.0
ความคิดเห็น
28.5K
ชม
51
บท

มีหลายคนพร่ำบอกผมเสมอว่าอย่ายุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่...แล้วไงใครแคร์ เธอเป็นแฟนของผู้ชายคนนั้น และเธอก็เป็นเมียผมเหมือนกัน ใครกินก่อนคนนั้นก็ต้องได้ ........................................................................ มันมีหลายเหตุผลที่ทำให้ เราสามคนได้พานมาพบเจอกัน ไม่รู้ว่าสิ่งนี้เรียกว่าพรมลิขิตหรือเวรกรรมกันแน่ อีกคนรูปหล่อและเพียบพร้อมดั่งเทพบุตร ส่วนอีกคนช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่ว่าเขาหน้าตาไม่ดีหรืออะไร แต่เขาน่ะ...ทั้งหล่อ ทั้งโหดและโคตรเถื่อน นิสัยแบบนี้เกินที่ฉันจะรับไหวจริงๆ "เลือกเอาว่าจะมีผัว หรือกินลูกตะกั่ว ยอมไม่ยอมไหนตอบให้ชื่นใจ" "ขอกินลูกตะกั่วดีกว่า ท่าทางจะอร่อยกว่านายเยอะเลย" อุ๊ย! โทษที พอดีปากมันพล่อย

บทที่ 1 .

คุณเคยมีความฝันหรือเปล่า?

ฝันว่าอยากมีอนาคตที่สบาย หรือฝันที่อยากจะอยู่กับคนที่คุณรักไปนานๆ

แน่นอนว่าทุกคนล้วนมีความฝันเป็นของตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งก็เหมือนกับผู้หญิงที่ชื่อ ‘เนโกะ’ คนนี้

เธอฝันที่อยากจะเรียนต่อสูงๆ และมีอนาคตที่ก้าวไกล แต่แล้ว...ความฝันของเธอทั้งหมดก็ต้องพังลงด้วยน้ำมือของผู้ชายคนนั้นที่ชื่อว่า ‘วายุ’

“ถอดเสื้อผ้าออกซะ!”

ร่างสูงตรงหน้าเอ่ยสั่งด้วยน้ำเสียงที่ดังลั่น สีหน้าและแววตาของเขาเหมือนเสือร้ายที่พร้อมจะขย้ำเหยื่อได้ทุกเมื่อ

“ฮึก...ไม่ค่ะ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ พ่อฉันติดหนี้พวกคุณเท่าไหร่เดี๋ยวฉันชดใช้ให้เอง”

เธอก็ได้แต่ร้องห่มร้องไห้ออกมาปานจะขาดใจ หยดน้ำตามากมายไหลพรากอาบแก้มเนียนไม่ขาดสาย แต่ผู้ชายตรงหน้ากลับไม่คิดจะสงสารหรือเห็นใจผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอเลยสักนิด

“ก็ชดใช้ด้วยร่างกายของเธอไง ไม่เห็นต้องทำเรื่องง่ายๆ ให้เป็นเรื่องยาก”

เขาบอกว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ งั้นเหรอ? นี่น่ะมันคือเรื่องยากที่สุดในชีวิตของเธอแล้วล่ะ เธอจะไม่รู้สึกเสียใจและเจ็บปวดขนาดนี้ ถ้าหากว่าเธอ...ไม่มีคนรักของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว

ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะยอมมีอะไรกับคนอื่นทั้งที่ไม่ใช่คนรักของตัวเองจริงไหม?

ทำไมเธอต้องมาชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อ และทำไมบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าพ่อต้องส่งเธอมา ‘ขาย’ ให้กับพวกมาเฟียจิตใจโหดร้ายแบบนี้…

ฉันชื่อ ‘เนโกะ’ เป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ตอนนี้ฉันเรียนจบปริญญาตรีแล้ว และกำลังคิดว่าจะไปต่อปริญญาโทที่ต่างประเทศ แต่ทว่าช่วงนี้พ่อของฉันเหมือนจะมีปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ฉันก็เลยไม่รู้ว่าอนาคตของตัวเองหลังจากนี้มันจะดำเนินไปในทางไหนกันแน่

ในขณะเดียวกันเพื่อนๆ ในกลุ่มฉันกลับได้เดินตามความฝันของตัวเองได้อย่างไม่ติดขัด

ฉันว่าจะลองสอบทุนเรียนต่อต่างประเทศดู แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าไหร่ว่าจะทำได้หรือเปล่า เพราะฉันก็ไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้น

แต่ก็ยังโชคดีล่ะนะที่ฉันสามารถพูดได้สามภาษา ทั้งไทย ญี่ปุ่น และภาษาอังกฤษ แบบนี้มันก็พอที่จะทำให้ฉันก้าวหน้าได้เหมือนกัน

“เธอจะเรียนต่อโทที่ไหนเหรอเนโกะ”

‘ขวัญ’ เพื่อนสนิทของฉันเอ่ยถามขึ้นมา ก่อนหน้านี้พวกเพื่อนๆ ของฉันกำลังคุยเรื่องเรียนต่อกันอย่างออกรสชาติ แต่ฉันกลับต้องนั่งฟังเงียบๆ โดยไม่รู้ว่าควรจะแสดงความคิดเห็นยังไง

“ฉันยังไม่รู้เลย พอดีช่วงนี้พ่อมีปัญหานิดหน่อย”

หลังจากที่แม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุเมื่อสองปีก่อนอะไรมันก็ดูย้ำแย่ไปหมด

พ่อของฉันเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคนไปหลายวัน และต่อจากนั้นนิสัยของพ่อก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ถ้าเปลี่ยนไปในทางที่ดีฉันจะไม่ว่าอะไรเลย แต่นี่พ่อเปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง

จากคนที่พูดจาดี และอ่อนโยน กลับกลายเป็นคนโมโหร้ายยิ่งกว่าอะไร บางทีเราก็ถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรง ซึ่งฉันเองก็งงแทบทุกครั้งว่าตัวเองทำอะไรผิดนักหนา

“เก่งๆ อย่างเธอเดี๋ยวก็มีโอกาสเข้ามาหาเองแหละน่า อย่าพึ่งเครียดไปเลย” ‘ข้าว’ ที่เป็นเพื่อนสนิท และยังเป็นฝาแฝดกับขวัญพูดปลอบใจฉัน พร้อมกับเอื้อมมือมาตบที่ไหล่เบาๆ

“ตั้งแต่แม่ฉันเสียไปฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีอะไรขนาดนั้นนะ โอกาสที่เข้ามามันน่าจะเป็นโอกาสแย่ๆ มากกว่า”

ฉันไม่รู้ว่าคิดยังไงถึงพูดออกไปแบบนั้น ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงที่แสดงออกไปมันแอบแฝงไปด้วยความเศร้าสร้อยและหม่นหมอง

โชคชะตาคงไม่เมตตาฉันอีกต่อไปแล้วล่ะ...

“คุยอะไรกันอยู่ครับสาวๆ”

เสียงทุ้มคุ้นหูดังแทรกขึ้นมาแต่ไกล แค่ได้เห็นหน้าเจ้าของเสียงบรรยากาศที่เคยหม่นเมื่อสักครู่ก็กลับมามีสีสันสดใสอีกครั้ง

ผู้ชายคนนี้ชื่อ ‘เต้’ เขาเป็นแฟนของฉันเอง เราคบหากันมาเกือบจะห้าปีแล้ว ความรักของเราไม่เคยจืดจาง และเขาก็เป็นคนเดียวที่อยู่เคียงข้างฉันตลอดมาในยามที่ฉันรู้สึกหมดกำลังใจ

ดูๆ แล้วความสัมพันธ์ของเรามันเหมือนจะดีใช่ไหมล่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอก เพราะครอบครัวของเขาไม่ค่อยชอบฉันเท่าไหร่

นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่อาจรู้ได้ว่าในอนาคตเรื่องระหว่างเรามันจะเป็นเช่นไร

ฉันเห็นมานักต่อนักแล้วที่หลายคู่มักจะเลิกลากันเพราะปัญหานี้ แต่ก็ช่างมันเถอะ บางทีเราสองคนคงไม่จบกันด้วยปัญหานี้หรอก อุตส่าห์คบกันมาได้นานขนาดนี้แล้วหนิเนอะ

จริงๆ แล้วเต้เป็นผู้ชายที่ดีมาก ตลอดเวลาที่คบหากันเขาทั้งสุภาพบุรุษและให้เกียรติฉัน ไม่เคยล่วงเกินอะไรฉันเลย ทำได้มากสุดก็แค่จับมือกับหอมแก้ม

ซึ่งฉันก็พอใจที่เขาเป็นแบบนี้ มันทำให้ฉันรู้ว่าเขาเห็นคุณค่าของความรักมากกว่าร่างกาย

มาคิดๆ ดูแล้วฉันคงหาผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์และเพียบพร้อมเหมือนอย่างเขาไม่ได้อีกแล้วล่ะ

“คุยกันเรื่องทั่วๆ ไปน่ะค่ะ แล้วนี่เต้ไปทำธุระให้แม่เสร็จแล้วเหรอ”

ฉันขยับที่เพื่อให้เต้นั่งลงข้างๆ ใบหน้าหล่อเกลี้ยงเกลาส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ ก่อนจะนั่งลง

“เสร็จแล้วครับ”

“ไหนๆ เต้ก็มาแล้วงั้นฉันกับข้าวขอตัวก่อนนะ เหม็นกลิ่นความรัก”

ขวัญพูดแซวยิ้มๆ มือบางเอื้อมไปคว้าข้อมือข้าวฝาแฝดของเธอ แล้วพากันเก็บของชิ่งหนีไปโดยที่ฉันปริปากพูดอะไรแทบไม่ทัน

“เพื่อนหนีไปแล้ว งั้นเราไปหาอะไรทานกันมั้ยเนโกะ”

“ค่ะ” ฉันรีบพยักหน้าตอบรับพร้อมรอยยิ้มหวาน นานๆ ทีเราสองคนถึงจะมีเวลาไปไหนด้วยกัน เพราะเต้ไม่ค่อยว่างเท่าไหร่ เนื่องจากเขาต้องไปคอยคุยเรื่องธุรกิจให้กับครอบครัว

เต้เป็นลูกครึ่งไทย-จีน ธุรกิจทางบ้านของเขาเลยมีทั้งสาขาไทยและจีน ด้วยเหตุนี้เต้เลยมักจะบินไปที่จีนบ่อยๆ เขาไม่ค่อยมีเวลาว่างให้ฉันมากนัก ซึ่งฉันก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะเข้าใจเขาดีว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน จึงไม่แปลกที่เขาจะต้องสานต่อธุรกิจของครอบครัว และไม่แปลกที่พ่อกับแม่ของเขาจะหวงเขามากขนาดนี้

และฉันก็เชื่อว่าอีกไม่นานต้องมีการหาแฟนให้กันแน่ๆ

เต้พาฉันเดินไปขึ้นรถยนต์ของเขาที่จอดอยู่ ก่อนจะเปิดประตูเพื่อให้ฉันเข้าไปนั่ง

วันแรกเขาสุภาพกับฉันแบบไหนวันนี้เขาก็ยังคงสุภาพไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่ากาลเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานแค่ไหน เต้ก็ยังคงทำตัวเสมอต้นเสมอปลายกับฉัน

แล้วแบบนี้จะให้ฉันปล่อยผู้ชายดีๆ อย่างนี้ไปได้ยังไงล่ะ...

“ธุรกิจที่บ้านเป็นยังไงบ้างคะ ช่วงนี้เราเห็นเต้ไปคุยธุระให้แม่บ่อยมากเลย เหนื่อยหรือเปล่า”

ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย ขณะที่เต้ก็กำลังสตาร์ทรถเพื่อขับเคลื่อนออกไปบนท้องถนน

“นิดหน่อยครับ แต่พอได้ยินเนโกะถาม เต้ก็หายเหนื่อยแล้ว”

รอยยิ้มเล็กๆ กระตุกขึ้นที่มุมปากหนา ซึ่งก็ไม่ต่างกับฉันที่กำลังนั่งอมยิ้มเขินอายเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว

“แล้วนี่เต้ต้องบินไปดูสาขาที่จีนบ้างหรือเปล่าคะ”

“อืม...เต้ลืมบอกไปเลย”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดูผ่อนคลายสบายๆ ในตอนแรกแปรเปลี่ยนมาเคร่งเครียดในฉับพลัน จนฉันต้องหันไปมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขา

“อะไรคะ?” คิ้วของฉันเลิกขึ้นสูง ท่าทีแบบนี้ของเต้ทำให้ฉันรู้ล่วงหน้าได้เลยว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดี

“เต้ต้องไปดูแลสาขาที่จีนเป็นเวลาหนึ่งปีน่ะ พอดีจะมีคนมาร่วมหุ้นด้วย พ่อกับแม่ก็เลยอยากให้เต้เข้าไปดูแลแบบใกล้ชิด”

“พ่อกับแม่ทำถูกแล้วล่ะค่ะ เต้เข้าไปดูแลเองน่ะดีแล้วธุรกิจจะได้รุ่งเรืองขึ้น และไม่มีอุปสรรค์อะไร”

เต้เป็นคนเก่งและฉลาด หัวของเขามีพรสวรรค์ในด้านบริหารงาน ฉันว่ายังไงถ้าได้เขาเข้าไปดูแลทุกอย่างเองมันก็ย่อมส่งผลดี

“เนโกะเข้าใจเต้ใช่มั้ยครับ เต้ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ JAMBENZ

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ