ความคิดเห็น
ชม
บท

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ล้อมดาว รักดี สาวบัญชีหน้าตาเฉิ่มเชย แต่งเนื้อแต่งตัวไม่ต่างจากแม่ชีในโบสถ์ ชีวิตของหล่อนเดียวดาย และอ้างว้าง เพราะหล่อนคือเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติ เติบโตมาในสถานรับเลี้ยงดูเด็กกำพร้า ต้องดิ้นรน ส่งตัวเองเรียนจนสามารถจบชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส) ได้สำเร็จ

และทันทีที่เรียนจบ หล่อนก็ตระเวนหาสมัครงานไปทั่วทั้งเมืองหลวง ใช้เวลาเกือบครึ่งปีกว่าหล่อนจะสามารถหางานทำได้สำเร็จ

หล่อนแยกมาเช่าห้องอยู่ใกล้ๆ กับที่ทำงาน แต่เมื่อถึงวันหยุด หล่อนก็ไม่ลืมที่จะกลับไปช่วยแม่ครูเลี้ยงดูเด็กกำพร้าที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นประจำ

ชีวิตของหล่อนดำเนินเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายเช่นนี้มายาวนาน จนกระทั่งค่ำคืนหนึ่ง บริษัทที่หล่อนทำงานอยู่ได้จัดงานเลี้ยงขึ้นในสถานบันเทิงชื่อดัง ซึ่งแน่นอนว่าหล่อนไม่อาจจะปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงการไปร่วมงานได้

“คืนนี้แต่งตัวให้มันทันสมัยหน่อยนะน้องดาว”

คำพูดของหัวหน้างานดังลั่นในหัวอีกครั้ง ยามที่หล่อนเปิดประตูตู้เสื้อผ้า และพบว่าในตู้ตรงหน้ามีแต่ชุดสีทึมและสีเข้มเกือบทั้งหมด

“เฮ้อออ...”

มือเล็กสีขาวสะอาดค้นๆ ไปสักพักก็ตัดสินใจหยิบชุดหนึ่งออกมา มันคือชุดเดรสพอดีตัวสีดำ ยาวพอดีกับหัวเข่า ซึ่งเป็นชุดที่หล่อนไม่เคยหยิบมาสวมใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ที่ยังเก็บเอาไว้ในตู้เสื้อผ้าก็เพราะว่ามันคือชุดที่เพื่อนสมัยเรียนซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิดนั่นเอง

“วันนี้คงต้องหยิบเจ้ามาใส่แล้วล่ะ”

ล้อมดาวถอนใจออกมาอย่างไม่มีทางเลือก และในที่สุดชุดเดรสสีดำก็ถูกหยิบออกมาจากตู้เสื้อผ้า

หล่อนขยับตัวมาที่กระจกเงาที่ติดอยู่กับบานเปิดของตู้เสื้อผ้า เอาชุดเดรสทาบกับตัวเอง เอียงคอมองด้วยความรู้สึกประหม่า

ชุดนี้สวยมาก แต่หากมันมาอยู่บนร่างกายที่มีไขมันส่วนเกินของหล่อน ความสวยงามของชุดเดรสคงจะลดลงไปมากเลยทีเดียว

หญิงสาวถอนใจแล้วถอนใจอีก แต่ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้

ฐานัส เกียรติก้องไพศาล คุณหมอสูตินารีเวชมืออันดับต้นๆ ของประเทศไทย ชายหนุ่มเป็นทายาทเพียงคนเดียวของ นายชินดนัย เกียรติก้องไพศาล มหาเศรษฐีหม้ายเนื้อหอม

ตระกูลเกียรติก้องไพศาล ทำธุรกิจหลากหลายประเภท แต่ที่เด่นๆ และทำกำไรให้มากที่สุด เห็นจะไม่พ้นกลุ่มงานเกี่ยวกับการบริการสุขภาพ ดังนั้นตระกูลมั่งคั่งนี้จึงเป็นเจ้าของโรงพยาบาลยักษ์ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย และก็มีสาขาทุกจังหวัดเลยทีเดียว

“คุณหมอนัสกลับแล้วเหรอคะ”

คุณหมอหนุ่มที่ขึ้นชื่อลือชาในความหล่อเหลาปานเทพบุตรเดินดินชะงักเท้าเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองนางพยาบาลตัวเล็กที่เดินตามหลังมา

“ครับ”

“เอ่อ... นุ่มเอาคุกกี้มาฝากค่ะ”

เขาระบายยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือไปรับขวดโหลคุกกี้ที่สตรีตรงหน้าบรรจงผูกโบว์สีชมพูมาให้อย่างสวยงามตามมารยาท

“ขอบคุณมากครับ”

เจ้าของคุกกี้บิดตัวไปมาด้วยความขัดเขินเป็นที่สุด เมื่อได้รับรอยยิ้มละไมจากคุณหมอหนุ่มผู้ได้รับสมญานามว่าคุณหมอเทพบุตร

“ด้วยความยินดีค่ะ แล้วถ้าคุณหมอนัสชอบล่ะก็ นุ่มจะทำมาให้ทุกวันเลยค่ะ”

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ แต่ผมไม่ค่อยถูกกับของหวานเท่าไหร่ กินทีไรเมาทุกทีเลยครับ”

“คะ?” คนฟังทำหน้าฉงน จนฐานัสต้องรีบอธิบายเพิ่มเติม

“คือผมน่ะ แพ้นมน่ะครับ”

คู่สนทนาของเขาผงกศีรษะหงึกๆ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสูงลิบ

“อ๋ออออ แบบนี้นี่เอง นุ่มถึงไม่เคยเห็นคุณหมอนัสดื่มนมเลย”

เขาระบายยิ้มบางๆ ออกไป ก่อนจะเอ่ยขอตัว เพราะวันนี้มีนัดกับเพื่อนในผับ

“ผมขอตัวก่อนนะครับ”

“เอ่อ... ค่ะ เดินทางปลอดภัยค่ะ”

“ขอบคุณครับ”

ฐานัสระบายยิ้มให้กับคู่สนทนาอีกครั้งตามมารยาท ก่อนหมุนตัวพาเรือนกายสูงสง่าเดินจากไป

“ขนาดแพ้นมยังสูงล่ำขนาดนี้เลย”

นายิกายกสองมือขึ้นประสานกันเอาไว้ตรงหน้าอก และบิดตัวไปมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ก่อนจะเดินกลับไปยังแผนกของตนเอง

“เป็นไงบ้างล่ะยายนุ่ม” เพื่อนร่วมงานที่รู้ว่าหล่อนไปไหนมาเอ่ยถามทันที

“สำเร็จจ้า...”

นายิกาฉีกยิ้มกว้าง แต่เพื่อนร่วมงานคนที่ถามส่ายหน้าไปมา

“แกอย่าดีใจไปเลย ฉันเห็นคุณหมอนัสรับขนมจากสาวๆ ทุกคนนั่นแหละ แต่จะกินหรือไม่กินนั่น มันอีกเรื่องหนึ่ง”

“นี่แกจะมาดับฝันฉันใช่ไหมเนี่ย”

“ฉันไม่ได้จะดับฝันแก ฉันก็แค่อยากให้แกล้มเลิกความคิดซะ คุณหมอนัสทั้งหล่อทั้งรวยทั้งเก่ง เขาไม่มองนางพยาบาลอย่างพวกเราหรอก”

นายิกาทำหน้าม่อย ก่อนจะถอนใจออกมา เพราะสิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูดมันคือความจริง

“ฉันก็แค่หาความสุขใจเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นแหละ คุณหมอนัสไม่เอาฉัน ฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไร แต่ถ้าเกิดฉันโชคดีคุณหมอดันชอบฉัน นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง จริงไหม”

“เออๆ”

เพื่อนร่วมงานของนายิกาพยักหน้ารับส่งเดช

“มาๆ มาทำงานเถอะ คนไข้เริ่มมากันแล้ว”

“จ้า”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สวี่กงเหมย ดวงใจท่านแม่ทัพ

สวี่กงเหมย ดวงใจท่านแม่ทัพ

Ocean Books
5.0

สวี่กงเหมย บุตรสาวบุญธรรมของปรมาจารย์หมื่นพิษ ต้องคอยเป็นผู้ดูแลและปรุงยาให้กับเขา ท่านแม่ทัพแห่งแดนเหนือ ตั้งแต่อยู่บนหุบเขาหมื่นพิษ แล้วยังต้องตามไปดูแลถึงชายแดนเหนือและในเมืองหลวงจนกว่าจะครบหนึ่งปี เซวียนจางหย่ง แม่ทัพแห่งชายแดนเหนือ ผู้ที่มีศักดิ์และฐานะอันสูงส่ง ในชีวิตนี้ คุณหนูนางใด หญิงสาวคนไหน ที่ว่ามีความเพียบพร้อมในทุกด้าน ตัวเขากลับมิเคยชายตาแล แต่คงใช้ไม่ได้กับสาวน้อยบ้านป่าคนนี้ เจอกันครั้งแรกนางก็หมายยิงเขาด้วยธนูเสียเเล้ว จากนั้นตัวเขาและนางก็กลายเป็นเหมือนน้ำมันกับไฟ ถึงแม้นางจะกลั่นแกล้งเขาไว้มากน้อยเพียงไหนในตอนที่อยู่ในหุบเขาหมื่นพิษ เขากลับมิเคยโกรธ และไม่รู้ว่านานเพียงใด ที่ไม่ว่ายามหลับหรือยามตื่น สายตาของเขาก็มีไว้เพียงมองนางเท่านั้น

แฟนเก่าอย่าหวง(ก้าง)18+

แฟนเก่าอย่าหวง(ก้าง)18+

ซีไซต์
5.0

ก็เลิกกันไปแล้ว ไม่รักกันแล้ว ไม่มีสิทธิ์ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ขุนพลแฟนเก่าของนาเดียพยายามเข้าใกล้เธอเหมือนมีเจตนาแอบแฝง นาเดียไม่ไว้ใจเขาทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้พบหน้า เธอพยายามถอยห่าง เขาพยายามรุกคืบ และการกระทำนั้นทำให้เธอเริ่มสั่นคลอนลงทุกวัน เขายังทำตัวเป็นหมาหวงก้าง และระรานคนไปทั่ว ผู้ชายเฮ็งซวยที่เลิกกันไปหลายปีแล้วกำลังทำให้เธอเจอกับเรื่องยุ่งเหยิงที่ยิ่งแก้ก็เหมือนยิ่งพันตัวเธอจนติดหนึบกับเขา คำแนะนำ นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ หากชื่นชอบรบกวนผู้อ่านทุกท่านกดหัวใจเพื่อเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยนะคะ และซื่อในเว็บหรือแอนดรอยจะราคาถูกกว่า แอปเปิ้ลนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ

รสรักเสน่หา

รสรักเสน่หา

อัญญาณี
4.3

“ตูม” ร่างของอักษราที่ยังไม่ได้สติ แล้วยังจะถูกมัดมือมัดเท้าและปิดปาก ถูกโยนลงมาจากเรือด้วยมือของเจ้าของเกาะ ลูกน้องทั้งสามมองตากันไปมา อยากจะไปช่วยสาวน้อยผู้น่าสงสารใจจะขาด แต่ถ้าช่วยมีหวังพวกเขาต้องโดนบาทาของเจ้านายแน่นอน อักษรารู้สึกตัวเมื่อร่างกายกระแทกกับผืนน้ำ น้ำเค็มๆ ซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามาในปากและจมูกจนเธอเกิดอาการสำลัก เปลือกตาสาวเปิดขึ้นในเวลาต่อมาแต่ก็ต้องหลับลงอีกครั้ง เพราะน้ำทะเลเข้าไปในดวงตาของเธอจนเกิดความแสบ อักษรารีบทะลึ่งตัวขึ้นเหนือน้ำ โดยไม่รู้ว่าเวลานี้ตนเองตกอยู่ในสภาพอย่างไร “อื้อๆ อื้อๆ” ทันทีที่ขาทั้งสองข้างยืนอยู่บนทรายใต้น้ำ และรู้ว่าตัวเองถูกพันธนาการไว้ด้วยเชือกทั้งข้อมือและเท้า ปากก็เช่นกันหาได้มีอิสระถูกปิดทับด้วยผ้าผืนใหญ่ “อ๊าย!” ความที่ข้อเท้าเล็กถูกมัดด้วยเชือก ส่งผลให้เธอยืนได้ไม่ถนัดนัก เสียการทรงตัวจนร่างคะมำลงไปในผืนน้ำ แต่เธอก็พยายามยืนขึ้นอีกแต่สุดท้ายก็เป็นเหมือนเดิม อักษราจึงเลือกที่จะนั่งลงบนผืนทรายใต้น้ำที่มีความลึกประมาณครึ่งเมตร อักษรานั่งมองร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำน่าเกรงขาม ใบหน้าของเขามีหนวดเคราขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบมองมายังเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เขากระโดดลงมาจากเรือเร็วก่อนจะเดินลุยน้ำทะเลมาหาเธอ “ไง ตื่นแล้วเหรอ นึกว่าจะตายเพราะยาสลบซะแล้ว” เสียงห้าวใหญ่พูดขึ้น ในขณะที่มาหยุดยืนเท้าเอวตรงหน้าเธอ อักษราเงยหน้ามองชายหน้าตาน่ากลัวที่จ้องหน้าเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้ออย่างหวาดกลัว ไม่เข้าใจว่าเขาทำเช่นนี้กับเธอทำไม จะถามก็ไม่ได้เพราะปากถูกปิดด้วยผ้าผืนใหญ่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ