Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ยัยเฉิ่มเบ๊อะกับยมทูตสุดหื่น

ยัยเฉิ่มเบ๊อะกับยมทูตสุดหื่น

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
8.9K
ชม
12
บท

ซังฮวา เธอเป็นสาวแว่นอวบอึ๋มที่เพิ่งเรียนจบหมาดๆ โชคชะตาของเธอมีแต่เรื่องร้ายๆทั้งโดนแฟนทิ้งทั้งโดนผู้ชายในแอพหลอกฟัน เธอตัดสินใจจบชีวิตตัวเองด้วยวัยเพียง22ปี ทว่าเธอเฉิ่มเบ๊อะเสียจนฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ เป็นหน้าที่ของยมทูตแล้ว เขาจะพาเธอไปปรโลกหรือจะเก็บไว้ทำเมียก็ไม่อาจรู้ได้ ในเมื่อสาวแว่นทั้งขาวทั้งอวบทั้งนมโต เรื่องร่างสุดเซ็กซี่ของเธอผิดกับบุคลิกที่เฉิ่มฉ่ำเสียจริงๆ

บทที่ 1 ฆ่าตัวตาย

ยัยเฉิ่มเบ๊อะกับยมทูตสุดหื่น

ตอน ฆ่าตัวตาย

หลังจากที่โดนแฟนที่คบกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมทิ้งซังฮวาก็เฮิร์ทหนักจนโดนไล่ออกจากงานแรกในชีวิต

พอทำใจได้เธอก็โดนผู้ชายในแอพพลิเคชั่นนัดเดทหลอกฟันแล้วทิ้งถึงสามรายติดๆ

คิดดูสิ การโดนผู้ชายหลอกอึ๊บสามคนติดๆในเวลาไม่ถึงเดือนมันเป็นยังไง ต่อให้เผลอสนุกไปกับรสรักแต่เรือนร่างและจิตใจของเธอกลับมาบอบช้ำหนักอีกคน

"ป่าป๊า หม่าม๊า หนูขอโทษจริงๆนะ หนูอยู่ไม่ไหวแล้ว" สาวสวยจุดธูปไหว้รูปพ่อกับแม่ก่อนจะก้าวขึ้นเตียง

เธอนอนเปลือยกายขาวโพลน เรือนร่างอิ่มอวบแผ่หราอยู่บนเตียงนอนอย่างอ่อนล้า

ร่องสวาทยังบวมแดงเมื่อมองจากบนห้องลงไปเห็นสองกลีบและเนินหน่าวแดงช้ำ ผู้ชายเมื่อวานฟันเธอแล้วหนีหายติดต่อไม่ได้เลย

เคราะห์ซ้ำกรรมซัดหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบได้ เมื่อสาวคนนี้มีเรือนร่างที่ขาวโพลนยั่วยวนน่าฟัดชวนให้ผู้ชายคิดต่ำตมกับเธอเกือบทุกคน ไม่มีคนไหนคิดจะรักและดูแลเธอเลย

เพราะลุคของเธอน่าเอาแต่ไม่น่ารักอย่างนั้นหรือ?

มือน้อยๆถอดแว่นที่หนาเตอะออกจากใบหน้างาม สองแก้มใหญ่ยุ้ยตุ๊บป่องน่าหยิกเหลือเกิน

"อื้อ ต้องกี่เม็ดนะ" ซังฮวาแหงนไปบนหัวเตียงแล้วมองกระปุกยาสามอันบนหัวอย่างหมดอาลัยชีวิต

วันก่อนเธอไอหนักจนเจ็บคอเลยต้องพึ่งยาแก้ไอ แถมยังป่วยบ่อยจนต้องกินวิตามีนซีเสริม แต่วันนี้เธอจะจบการทรมานทั้งหมดนั้นด้วยยานอนหลับกระปุกใหญ่

แกร๊ก ๆ ๆ เธอหยิบขวดยามาเทใส่กำมือแล้วกรอกเข้าปากตัวเอง

"ฮือ! ๆ ๆ เราจะได้พบกันแล้วใช่ไหมคะ ป่าป๊า หม่าม๊า" หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้มป่อง ริมฝีปากเรียวบางสั่นเทา

ดวงตากลมแป๋วค่อยๆปิดลง สติดับวูบลงไปช้าๆพร้อมๆกับความเจ็บปวดทั้งหมดที่มี เรือนร่างเบาหวิวราวกับโลกนี้ไร้ซึ่งแรงดึงดูด วิญญาณกำลังล่องลอยไป

"ผีมีจริงๆยังงั้นเหรอ"

"ตายแล้วเราจะไปไหนกันแน่นะ"

"ขอให้ได้เจอป๊ากับม๊าสักครั้งเถอะ"

ความคิดมากมายแล่นเข้ามาในหัวซังฮวาขณะที่หัวใจของเธอเต้นแผ่วลง

หิ! ๆ

หิ! หิ! หิ! หิ!

หนุ่มตัวสูงนั่งอยู่บนตู้เสื้อผ้ามองลงมาหาร่างเปลือยบนเตียง เขาหัวเราะราวกับว่ากำลังสุขใจเมื่อเห็นคนตาย

"อีกหนึ่งดวงวิญญาณแล้วสินะ ข้าคงได้บุญเพราะยัยนี่เยอะเลย" หนุ่มสูทดำแกว่งเท้าห้อยลงมาจากตู้พลางพูดพร่ำพรรณณา

"ว่าแต่ยัยนี่ไม่น่าตายเลย ขาวสวยอวบอึ๋มแบบนี้นะ ถ้าข้าเป็นคนน่ะจะจีบทำเมียแล้วเอาทุกวันๆ อูยเสียวชิ๊บบบ" หนุ่มสูทดำเลียปากแผล๊บๆ

"ทำไมนานจัง ยาไม่ออกฤทธิ์ซักที" ซังฮวาคิดในใจ

กรุบ! ๆ ๆ เธอกรอกยาขวดเดิมเข้าในปาก คราวนี้เธอไม่ได้กลืนในทันทีแต่เคี้ยวก่อนเพื่อให้ยาออกฤทธิ์ไวๆ

สองมือกอดขวดเปล่าไว้บนอกเต้าขาวๆ

แค่ก! ๆ ๆ สาวสวยสำลักน้ำลายฟูมปากออกมาเป็นสีส้ม

แหวะ! "นี่มันวิตามีนนี่" ซังฮวาร้องอุทาน เธอลุกวิ่งลงจากเตียงแล้วไปหยิบขวดน้ำดื่มซดพร่วดๆ

"อียัยบ้า เธอกินวิตามีนซีทำไม" หนุ่มร่างเงาบนตู้ร้องลั่นแต่กลับไม่มีใครได้ยิน

"ช่างเถอะ ไว้วันหลังก็ได้ ขอดูซีรี่ย์ก่อนตายอีกซักเรื่องเถอะ" ซังฮวาคลานขึ้นมานอนคว่ำหน้าเปิดดูหนังโน๊ตบุ๊คบนเตียง

ว๊ากกกก! โว๊ยยย! อะไรกันว๊าาาา! หนุ่มวิญญาณสูทดำร้องลั่นห้อง

"ดี ถ้าไม่ยอมตายฉันจะออกแบบวิธีตายให้เธอเอง แต่ยังไงวันนี้ฉันขอดูเธอโป๊ไปก่อนก็แล้วกัน" หนุ่มหล่อหายตัวแว๊บลงมานอนตะแคงอยู่ข้างๆร่างขาวโพลนที่นอนคว่ำอยู่

ฟุ่บ! ๆ ๆ เขาเอามือลูบแก้มก้นที่นูนสูงขึ้นมาราวกับภูเขา มือใหญ่ๆบีบขยำแก้มก้นที่นุ่มนิ่มแดงเป็นปื้น

"อุ๊ยมดกัด" สาวแว่นสุดเฉิ่มหันมาเกาตูดเสียอย่างนั้น

"หิ! ๆ ๆ หรือฉันจะจับเธอไว้ทำเมียดีนะ บ่องตงฉันไม่อยากให้เธอตายเลยจริงๆ" หนุ่มหล่อกระซิบหูแล้วแลบลิ้นยาวๆเลียแก้มซังฮวาแผล๊บๆ

ฟ่อดดด! เขาสูดกลิ่นหอมบนซอกคอของเธออย่างกับสูดดมดอกไม้ที่หอมหวน

ว่ากันว่าเมื่อคนเราตายไปไม่ลงนรกก็ขึ้นสวรรค์

ใช่สิทำดีขึ้นสวรรค์ทำชั่วลงนรก แล้วถ้าดีกับชั่วมันก้ำกึ่งกันล่ะ

ก็เป็นแบบชายในชุดสูทดำตัวผอมสูงชะลูดคนนี้ไง เขาไม่ใช่นักร้องบอยแบนด์ที่ไหนหรอกนะ เขาคือยมทูตที่ต้องทำงานอีกร้อยปีเพื่อเก็บแต้มบุญรอขึ้นสวรค์

งานของเขาก็ง่ายๆแค่รับวิญญานคนตายใหม่ๆมาส่งที่ปรโลก แต่ถ้าคนที่ถึงฆาตแต่ไม่ตายล่ะเขาจะทำยังไง

ก็คิดค้นออกแบบวิธีการตายให้คนๆนั้นยังไงล่ะ อ๋อลืมบอกไปเขาชื่อว่าคิม

คิมมินนัม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

Thacher
5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ