Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นางหน้าพระพักตร์ ห้ามรักฝ่าบาท

นางหน้าพระพักตร์ ห้ามรักฝ่าบาท

จันทร์ส่องแสง

5.0
ความคิดเห็น
1.7K
ชม
26
บท

ขออภัยหากนิยายเรื่องนี้จะทำให้น้ำหมากกระจายน้ำลายก็หก สุดวิสัยจริงๆค่ะใครที่อ่อนไหวต่อ ..เรื่องบนเตียงกรุณาข้ามได้เลยค่ะ... เนื้อหาอาจมีความไม่เหมาะสมกับผู้สูงวัยหรือคนที่กำลังไร้คู่ ต้องขออภัยมาณ.ที่นี่ด้วยอิ_อิ

บทที่ 1 ปฐมบท

“อันอัน อันอันๆๆๆๆ เข้ามานี่เดี๋ยวนี้”

ร่างเล็กในอาภรณ์ดั่งขันทีแต่มิได้สวมหมวกบนศีรษะเหมือนขันที วิ่งเข้ามาข้างในห้องบรรทมของอินจิ๋น ร่างบางของนางในคนหนึ่งกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ดวงแววตาแดงซ้ำถูกผลักเข้าหาอันอัน ที่รับร่างนางไว้ล้มลุกคลุกคลานไปด้วยกัน

“พานางออกไป”ตวาดลั่น

“ฝ่าบาทเหตุใดกัน”

อดที่จะถามไม่ได้ก็นางถูกต้องตามที่อินจิ๋นปรารถนาทุกประการ ฉุกใจเมื่อเห็นรอยน้ำตาหรือว่า ตายแล้วอันอันเจ้าพลาดแล้ว

“ข้าไม่ชอบใจ ทำมาร้องไห้ ต่อหน้าดั่งเช่นข้าจะฆ่าจะแกงนางทั้งๆ ที่ข้าเป็นฮ่องเต้ จะหาความสำราญกับเรือนร่างของนาง แต่นางกลับมาร้องไห้ดุจกำลังไว้ทุกข์”

อันอันถอนหายใจดึงมือนางในที่ยังอ่อนเยาว์ให้ลุกขึ้น ร้อยนางร้อยวัน ไม่เคยพลาดวันนี้อันอันกลับมองผิดไป

“วันนี้เจ้าทำงานพลาดพรุ่งนี้จะต้องหานางในคนใหม่ที่ถูกใจมาปรนนิบัติข้า ปกติเป็นเจ้าที่รู้ใจข้าที่สุดอันอัน อย่าให้บกพร่องเช่นนี้อีก”

น้ำเสียงตำหนิอย่างชัดเจน

อันอันประสานมือในชุดขันทีรุ่มร่ามแม้จะมองขัดตาทว่ากลับกลายเป็นสิ่งที่คุ้นตาของอินจิ๋นไปเสียแล้ว

ดึงมือนางในที่ร้องไห้ไม่หยุดออกมาข้างนอก

“นี่เงินของเจ้าแล้วไปเสีย.. กลับไปใช้ชีวิตนอกวังหลวงกับครอบครัวเสีย ฝ่าบาทไม่ต้องการเจ้าแล้ว”

ไม่อยากพูดคำนี้ปกตินางในที่ผ่านการปรนนิบัติฝ่าบาทแม้ไม่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ก็มักจะได้อยู่ทำงานในวังหลวงด้วยหน้าที่ที่แสนสบายไม่ดูแลสวนดอกไม้ก็เป็นผู้ช่วยในห้องเครื่อง หรือนางในที่คอยดูแลข้าวของมีค่าหรือห้องเก็บตำราแล้วแต่อันอันจะจัดสรร

“กูกู๋ ข้าน้อยอับจนหนทาง อยากทำงานในวังหลวง เพื่อนำเงินจุนเจือครอบครัว”

ยังคงสะอื้นเบาๆ นางในที่พยายามสอบเข้ามาเช่นเดียวกับอันอันมีไม่มากส่วนใหญ่จะด้วยบิดาเป็นขุนนาง

“ข้าก็อับจนหนทางไม่อาจให้เจ้าอยู่ที่นี่ได้ หากเจ้ายอมทอดกายให้ฝ่าบาทอาจได้รั้งตำแหน่งสำคัญในวังหลวง หรือหากฝ่าบาทพึงใจเจ้าจริงๆ บางทีข้าก็ไม่ต้องพาเจ้ามาชาระล้างไม่แน่เจ้าอาจมีเลือดเนื้อเชื้อไขของฝ่าบาท.. ในครรภ์ถึงเวลานั้นหญิงใต้หล้าต้องอิจฉาเจ้า แต่นี่เจ้ากลับร้องไห้จนฝ่าบาทไม่พอพระทัย”

นึกไปก็เป็นอันอันที่พลาดเอง ลืมปลอบประโลมนางก่อนเข้าไปถวายตัวให้นางอยากลิ้มรสอนาคตที่หอมหวาน ยิ่งยากใครๆ ก็อยากจะฟันฝ่า

“ขะขะกลัวก็ข้ายังเพิ่งสิบเจ็ด แม่ฝ่าบาทจะไม่ได้แก่เฒ่าอีกทั้งยังหล่อเหลาราวเทพสวรรค์ แต่กูกู๋ท่านเห็นไหม พรหมจรรย์ของเรายามที่กำลังจะถูกพรากไปมันทำให้ในใจนึกหวั่นไม่น้อย”

อันอันยิ้ม อย่าว่าแต่นางเลยสองปีมานี้อันอันเข้ามาในวังหลวงในตำแหน่งนางหน้าพระพักตร์ของฝ่าบาทมีหน้าที่จัดหานางในมาถวายยามค่ำคืน ยังนึกชื่นชมพวกนางที่ ไม่มีใครแสดงท่าทีหวาดกลัว เมื่อต้องร่วมแท่นนอนกับอินจิ๋น หากเป็นอันอันคงสั่นเป็นเจ้าเข้า แม้จะอายุ20ปีแล้วก็ตามพวกนางเพิ่งจะแตกเนื้อสาวสิบเจ็ดสิบแปดจะต้องมีใครสักคนที่มีอาการเช่นเดียวกับอันอัน

“เอาอย่างนี้ในทุกเดือนเจ้าเข้ามาพบข้า ข้ามอบเงินส่วนหนึ่งให้เจ้าเพียงแค่เจ้าทำงานเล็กน้อยให้ข้า”

สาวน้อยพยักหน้าขึ้นลงแววตาซาบซึ้งใจ

อินจิ๋นไว้ใจอันอันยิ่งนัก เบี้ยหวัดที่มากมายประทานให้เพิ่มขึ้นในทุกเดือน ไหนจะยามที่เขาถูกใจหญิงงามคนใดที่อันอันเลือกเข้ามาปรนนิบัติในค่ำคืนนั้นๆ อันอันก็จะเป็นคนที่ได้รับของกำนัลล้ำค่า นอกเหนือจากที่พวกนางได้รับ อันอันจึงเป็นที่เกรงขามของเหล่านางใน ทั้งใหม่และเก่าขุนนางหลายคนมักจะติดสินบนให้อันอันส่งบุตรีของพวกเขาให้กับฝ่าบาทเพื่อต้องการให้บุตรีตั้งครรภ์กับอินจิ๋นเพื่อหวังตำแหน่งฮองเฮา ที่จนป่านนี้แม้สนมเขายังไม่แต่งตั้ง ฮองเฮาก็ปล่อยให้ว่างเว้น มีเพียงให้อันอันคัดนางในหน้าตาดีถูกใจอินจิ๋นเพื่อปรนเปรอเขายามค่ำคืนเท่านั้น

“นายหญิง”

ขันทีข้างกายอินจิ๋นประสานมือตรงหน้าอันอันด้วยความนอบน้อม

“ว่ามา”น้ำเสียงอ่อนโยน

“ท่านขุนพล ส่งบุตรี เข้ามาในวังหลวงในอีกสองวัน”

“แล้วอย่างไร”แม้จะเข้าใจดี แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เสี่ยวจื้อร้อยวันพันปีไม่ยุ่งเรื่องนี้ขุนพลคนนี้ธรรมดาต้องมาขอร้องอันอันเสียเอง

“ท่านขุนพลเพิ่งถูกฝ่าบาทสงสัยเรื่องความภักดี จึง…ให้ข้าเชิญนายหญิงที่จวนท่านขุนพลในค่ำคืนนี้”

“ข้าไม่รับสินบนหากเรื่องนี้รู้ถึงหูฝ่าบาท ข้ามิต้องตายอย่างไร้ดินกลบฝังหรือไร”

รู้ดีว่าถึงแม้อยากจะรับเพียงใดอันอันก็ไม่มีทางทำผิดต่ออินจิ๋นก็ในเมื่อสิ่งที่ได้มาจากอินจิ๋นมากจนไม่ควรรับจากคนอื่นอีก

“นายหญิง แต่ท่านขุนพล”

อึกอักด้วยความลำบากใจ

“เขาให้เจ้าเท่าไหร่ จึงอาสามาพูดแทนท่านขุนพล ข้าไม่รับสินบนแต่นำคำพูดของข้าไปบอกเขา เผื่อว่าโอกาสหน้าอันอันจะได้ พึ่งพาท่านขุนพลบ้าง”

ขันทีหนุ่มน้อยนามเสี่ยวจื้อก้มหน้ามองพื้น

“ขอรับนายหญิง”

อ้อมแอ้ม

“อืมบอกเขาว่า ฝ่าบาทนิยมหญิงงามที่ชดช้อยยามเยื้องย่างเหมือนไม่ได้ก้าวเดิน สะโพกกลมกลึง แต่ไม่ต้องผายออกจนเกินงาม ถันต้องเต่งตึงดันอาภรณ์ขึ้นมาอวดโฉมและที่สำคัญที่สุด จะต้องอ่อนหวานเขินอายแต่จะต้องปรนิบัติฝ่าบาทด้วยความเต็มใจยิ่ง แค่นี้หวังว่าท่านขุนพลจะจัดการให้บุตรีของเขา เป็นอย่างคำพูดของข้าที่ฝากบอกไป สักวันข้าก็คงส่งนางเข้าปรนิบัติฝ่าบาท หากจัดการตามที่ข้าบอกไม่ได้ข้าเองก็จนปัญญา”

เสี่ยวจื้อถอนหายใจประสานมือ ก้าวเดินจากไปในทันที อันอันถอนหายใจ

หญิงที่ฝ่าบาทนิยม และต้องการในทุกคืนมีบุคลิกคล้ายกันแทบทุกคนแต่ที่สำคัญที่สุดจะต้องมีท่าทียั่วยวนที่ไม่ยั่วยวน อันอันอาศัยสายตาผู้หญิงด้วยกันจึงมองออกว่าใครที่พร้อมจะยั่วยวนฝ่าบาทด้วยความไม่ยั่วยวนของนางพูดง่ายๆ คือแสร้งเดียงสายามอยู่ต่อหน้าอินจิ๋นแต่ต้องไม่เจนจัดหรือเนียมอายจนเกินไปเมื่ออยู่บนแท่นนอน นั่นคือต้องเป็นธรรมชาติที่สุด

อันอันยิ้มให้กับตัวเอง อันอันเคยตกตะลึงกับมัดกล้ามที่อกกว้างของอินจิ๋นเคย ..ลอบกลืนน้ำลายกับริมฝีปากอิ่มที่ขยับขึ้นลงยามที่ยื่นหน้าเข้ามาพูดคุยกับอันอัน บุรุษผู้นี้มิใช่แค่เพียงสูงส่งแต่ทว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างที่แค่เพียงเข้าใกล้กลับรู้สึกว่าใจสั่นระรัว

แต่ดูอันอันสิ หาได้มีสิ่งที่อินจิ๋นนิยมไม่ มีเพียงความรู้ใจเท่านั้นที่อันอันมีให้อันอันรู้ใจอินจิ๋นดีกว่าใครในวังหลวงแห่งนี้ ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เรื่องไหนอันอันก็จัดการได้หมดจด อินจิ๋นเคยเปรยๆ ยามที่เมามายว่าหากไม่มีอันอันอินจิ๋นคงไม่อาจจัดการทุกอย่างได้เพียงลำพัง

“นายหญิงเจ้าขา ฝ่าบาทให้ข้าน้อยมาบอกนายหญิงว่าพรุ่งนี้ราชทูตจากแคว้นฉีจะเดินทางมาถวายเครื่องบรรณาการ นายหญิงจะต้องเขาร่วมแสดงความยินดี และต้อนรับองค์หญิงใหญ่ของแคว้นฉีที่จะมาพร้อมกับขบวนทูต ครั้งนี้ฝ่าบาทให้นายหญิงจัดการเรื่องการต้อนรับ"

อันอันถอนหายใจ งานใหญ่อีกแล้ว

“เข้าใจแล้ว วันนี้ดึกแล้วข้าเหนื่อยเหลือเกินเจ้าไปนอนเสียข้าเองก็อยากจะพัก”

หันหลังเดินเข้าห้องไม่รอให้นางกำนัลย่อกาย ก็นางอายุไล่เลี่ยกับอันอัน ใครบ้างจะไม่เกรงกลัวอันอัน ในเมื่อฝ่าบาทถือหางนางเพียงนั้น

ปิดประตูเบาๆ ปลดอาภรณ์ให้ลงไปกองกับพื้นอาภรณ์ชุดขันทีรุ่มร่ามกับมวยผมที่ต้องเกล้ารวบจนตึงเปรี๊ยะเพื่อความเป็นระเบียบ ใบหน้าที่ขาวซีดไร้การแต่งแต้มดังเช่น หญิงทั่วไปในวังหลวง

วันนี้อากาศไม่เย็นอย่างเช่นทุกวัน อันอันแช่น้ำอุ่นจนพอใจ ก้าวขาขึ้นจากน้ำหมดเวลากับการแช่น้ำอุ่นเสียนาน ดึงผ้าผืนน้อยพันสิ่งสงวนไว้เสีย ประทุมถันที่ดันผ้าผืนน้อยบางเบาออกมายอดประทุมถันที่เต่งตึงสีชมพูระเรื่อ รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ริมฝีปากอันอันรู้ได้ทันทีว่าตัวเองเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง แต่หากยังอยู่ในวังหลวงก็คงหา บุรุษมาชอบพอได้ยาก อาศัยรับใช้ใกล้ชิดอีกหลายปีกว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตนอกวังหลวง เมื่อนั้นร่างกายก็คงโรยรา ไร้คนหมายปอง ทรุดกายลงนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งผมยาวสลวยเปียกชื้นด้วยหยดน้ำเกาะพร่างพราว ใบหน้าซีดขาวแต่ได้รูปริมฝีปากสีชมพู อันอันหยิบสีชาดสีเข้มกว่าริมฝีปากเล็กน้อยที่วางทิ้งไว้เสียนานขึ้นมาขบเม้ม ริมฝีปากกลายเป็นสีชมพูเข้มกลีบดอกเหลียนฮวาในทันที เลือนนิ้วมือไปบนริมฝีปากอวบอิ่ม จับแปรงสางผมขึ้นมาสางผมยาวสลวยไม่ต้องเกล้ามัด ใบหน้างดงามในกระจกเงาริมฝีปากสีชมพูน่ามอง ผมยาวสลวยระอยู่บนไหล่ขาวเนียนและแผ่นหลังขาวผ่อง ลำคอระหง กับดวงตากลมโต

“เจ้าก็งดงามเหมือนกันอันอัน”ยิ้มให้ตัวเองในกระจกก่อนจะลุกขึ้นตั้งใจสวมอาภรณ์ในชุดบางเบาจะได้หลับสบายผ่อนคลายให้สมกับที่เหนื่อยมาทั้งวัน

เสียงประตูเปิดออกทันทีอันอันยังอยู่ในสภาพที่ใช้ผ้าผืนน้อยปิดบังเพียงสิ่งสงวน

หะแรกคิดว่าเป็นนางกำนัลที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อแจ้งข่าวของอินจิ๋นที่มักจะมีข่าวมาแจ้งบอกอันอันไม่ว่าเวลาไหน นางเข้ามาโดยวิสาสะคงเห็นว่าไฟในห้องยังสว่างอยู่

“ อืมป่านนี้เจ้ายังต้องส่งข่าวให้ข้าอีกหรือ”หันหลังหยิบอาภรณ์ พูดไปยิ้มไป แต่ไม่ลืมใช้มือกุมรอยขมวดผ้าผืนน้อยที่อกอิ่มไว้แน่นหมิ่นเหม่ว่ามันจะหลุดเสียให้ได้ นางไม่ได้นอนอันอันก็ยังไม่ได้นอน คิดตำหนิอินจิ๋นที่มักจะมีคำบัญชายามดึกเสมอ คิดได้ตอนไหนก็บัญชาในตอนนั้น คนที่ต้องทำตามคืออันอัน

“.......”ตาคมจ้องมองร่างอวบอิ่มด้านหลังตาไม่กะพริบรอยยิ้มพึงพอใจปรากฏขึ้นที่ริมฝีปาก

“ข้าไม่เคยเห็นเจ้าในแบบนี้”อันอันหันมาอ้าปากค้าง อินจิ๋นเองก็อ้าปากค้างเช่นกันเมื่อเห็นว่าใบหน้างดงามของอันอันที่เขาเคยมองข้าม อีกทั้งริมฝีปากที่เคยเป็นเพียงสีชมพูซีดจางบัดนี้กลับเป็นสีชมพูเข้ม อินจิ๋นเผลอขบเม้มริมฝีปากอย่างลืมตัว เรือนผมยาวสลวยไม่ได้เกล้ามัด ยาวลงมาตัดกับผิวขาวเนียน สายตาคมจ้องมองต่ำลงมายังมือบางที่กุมขมวดผ้าที่อกอิ่ม ยอดประทุมถันดันผ้าผืนน้อยขึ้นมาอวดโฉมสล้างไม่ได้ตกย้อยด้วยอกอิ่มที่หากสัมผัสคงเต็มไม้เต็มมือเต็มปากเต็มคำ ผิวขาวสะอาดตาต่ำลงมาเป็นเรียวขางามที่โผล่พ้นผ้าผืนน้อยที่ปิดไว้เพียงสิ่งสงวน เนื้อเนียนของขาขาวโผล่ออกมาขาวจนอินจิ๋นต้องกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ชุดขันทีรุ่มร่ามที่เคยคิดว่าขัดตา บัดนี้อินจิ๋นกับรู้สึกว่าผ้าผืนน้อยนั่นขัดตายิ่งกว่า หากมีกระบี่ในมือเขาคงฟันมันขาดยับไปแล้ว สะบัดพับผ้าอาภรณ์ในมือห่มคลุมร่างโป๊ให้อันอันเสียก่อนจะเบือนหน้าหนี อันอันใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม

คงอุจาดตาไม่อยากมองจึงทำเช่นนี้ อินจิ๋นเอามือไพล่หลังหันหลังให้อันอัน

“ข้านำอาภรณ์ชุดใหม่มาให้เจ้า เดิมจะให้นางกำนัลนำมาแต่เห็นว่าเรียกหาพวกนางแล้วต่างเงียบงันคงหลับกันจนสิ้น …อีกอย่างข้านอนไม่หลับ”ยิ่งมาเห็นอันอันแบบนี้เขายิ่งนอนไม่หลับ

“อาภรณ์ชุดใหม่”อันอันเลิกคิ้ว จะนอนหลับได้อย่างไรก็คืนนี้ไร้นางในคอยปรนนิบัติให้หลับใหลไปเพราะความอ่อนเพลีย

“ข้าเห็นว่าพรุ่งนี้แขกเมืองจะมาเจ้าก็ไม่แคล้วสวมใส่อาภรณ์ชุดขันทีรุ่มร่าม ข้าขัดนัยน์ตายิ่งนัก”

หันมาเผชิญหน้าอีกครั้ง อันอันพยักหน้ายิ้มบางๆ

“อันอันขอบพระทัยฝ่าบาท”ดึงอาภรณ์ให้รัดกุม ย่อกายลงแทนที่จะประสานมือเหมือนทุกครั้ง อินจิ๋นถอนหายใจกับท่าทีอ่อนหวานที่เขาเพิ่งจะเคยเห็น

“หากไม่มีอะไรแล้ว ข้ากลับก่อน จะเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์เสียหน่อย”ก้าวเดินสวนเข้ามาในห้อง อันอันอ้าปากค้าง

“ฝ่าบาทประตูอยู่ด้านนั้น”อินจิ๋นยิ้มโชว์เขี้ยวสวยสองฝั่งซ้ายขวา

“อืม… ข้าคง… ง่วงแล้วต้องไปนอนแล้วเจ้าก็นอนเสียพรุ่งนี้มีงานใหญ่รออยู่”พูดไปยิ้มไป ก้าวออกจากห้องปิดประตูเบาๆ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ จันทร์ส่องแสง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ