5.0
ความคิดเห็น
14.8K
ชม
46
บท

บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น

บทที่ 1 ปฐมบท

ควันไปลอยอ้อยอิ่ง อยู่บนกองเถ้าถ่านเศษไม้เศษซากของบ้านตระกูลจู ที่ถูกเผาจนเหลือเพียงเถ้าถ่าน จูจื่อหรานชันเข่าทอดอาลัยต่อสิ่งที่เห็น น้ำตาเพิ่งจะเหือดแห้งไป สาวใช้ข้างกายลากตัวจูจื่อหรานออกจากตระกูลจู ที่บัดนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นกบฏไปเสียแล้วการประหารในทันทีจึงไม่อาจรีรอ สาวใช้จับตัวจูจื่อหรานเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชาวบ้าน ทั้งๆ ที่กำลังร้องไห้ฟูมฟายเมื่อภาพตรงหน้าคือมารดาที่ถูกกระบี่เสียบเข้ายอดอกจนทะลุ

“กรี๊ด ท่านแม่ ท่านแม่ ท่านแม่" ถูกลากถูลู่ถูกังออกมาจากตรงนั้นจากภาพบาดตาไม่มีคำสั่งเสียและอำลาแม้แต่คำเดียว

“ฝ่าบาทบัญชาให้ประหารทุกคนในตระกูลอย่าให้เหลือรอดแม้แต่คนเดียว”เสียงองครักษ์เกราะทองที่มีเพื่อฆ่าล้างตระกูลจูออกคำสั่ง

สาวใช้นางหนึ่งยอมสละชีพแทนจูจื่อหราน สวมอาภรณ์ของจูจื่อหรานหลอกล่อพวกทหารไปเสียอีกทางก่อนจะโดนฆ่าตายในทันทีเช่นนั้นยคถุณหนูบ้านจูจูจื่อหรานจึงตายไปเสียแล้ว

“คุณหนู หนีไปเถิด อย่า รั้งอยู่ที่นี่เลยมันอันตรายไม่น้อย”ฮุ่ยหนิงที่เติบโตมาพร้อมกันกล่าวออกมาด้วยความห่วงใยในเมื่อทุกคนตายแล้วทางเดียวที่ทำได้ตอนนี้คือหนีไปเสีย

“ฮุ่ยหนิงปล่อยข้าไว้ที่นี่เถิดเจ้าหนีไปเสีย” สาวใช้ส่ายหน้าไปมา

"มีชีวิตอยู่เท่านั้น นายท่านสั่งฮุ่ยหนิงว่าให้คุณหนูมีชีวิตอยู่ จะต้องเป็นอย่างคำของนายท่านนายท่านสั่งเสียเช่นนั้นคุณหนูกลฃ้าขัด”ปาดน้ำตา ที่ไหลอาบแก้ม

“ อย่างนั้นให้ข้าได้พบท่านแม่กับท่านพ่ออีกสักครั้ง ข้าอยากกล่าวลาพวกเขาก่อนที่จะไม่ได้พบกันอีก”สาวใช้พยุงให้ลุกขึ้น เนื้อตัวผมเผ้ารุงรัง ไม่น่ามองอีกทั้งอาภรณ์ที่สวมใส่ก็ขาดวิ่นไร้ราศี

เสียงฝีเท้าม้าควบตะบึงมาแต่ไกล

“ฝ่าบาท ระวังขอรับที่นี่ไม่ปลอดภัย”

เสียงตะโกนตามหลังมา ฮุ่ยหนิงรีบกดศีรษะของจื่อหรานให้หมอบลงกับเศษซากของบ้านที่ถูกเผาราบ ฝีเท้าม้าหยุดลง ไม่ไกลนัก

“ไม่ทัน เรามาไม่ทัน”

น้ำเสียงเศร้าสร้อย เสียงฝีเท้าม้าจากไปจูจื่อหราน ลุยกองเถ้าถ่านหาร่างไร้วิญญาณของบิดาและมารดา ไม่มีอะไรเหลือล้วนเป็นจุณไปเสียแล้ว

ทุกอย่างเงียบหายไปราวกับสายลม

หลายเดืนต่อมา

จื่อหรานยืนแหงนหน้ามองประตูวังหลวงที่สูงตระหง่าน ฮุ่ยหนิงยืนอยู่ข้างๆสุดลมหายใจเข้าลึกๆที่ผ่านมาได้ทุกวันเพื่อรอวันนี้วันที่จะได้มายืนอยู่ตรงนี้

“คุณหนูแน่ใจแล้วหรือเจ้าค่ะ”

“แน่ใจเป็นเพียงวิธีเดียวที่จะคืนความเป็นธรรมให้ตระกูลจูอีกทั้งยังเป็นที่ที่ข้าจะมีชีวิตรอดอย่างที่ท่านพ่อต้องการ แต่มิใช่แค่มีชีวิตรอดอย่างเดียวจะต้องทวงความเป้นธรรมคืนให้ตระกูลจู” ทหารยืนอารักขาหน้าประตู จื่อหรานก้าวขาไปข้างหน้าอย่างมั่นคงไร้ซึ่งความกลัวต่อจากนี้จะต้องอาศัยความกล้าทเท่านั้น

“คุณหนูมาจากตระกูลใดกัน”เสียงขันทีคัดกรองจากหน้าประตูวังถามขึ้น

จื่อหรานหยิบตราประจำตระกูลของตระกูลจ้าวส่งให้ขันที

ก่อนหน้านั้น

“ท่านลุงจื่อหราน ขอร้องท่านรับรองจื่อหรานในฐานะคนของตระกูล เห็นแก่ความสัมพันธ์เก่าก่อนด้วยเถิด”ใต้เท้าจ้าวลูบเครายาวขึ้นลง

“จื่อหรานไม่มีสิ่งใดทำลายความสัมพันธ์ของเราสองตระกูล นับจากนี้เป็นตายไม่หวั่นนี่คือตราของตระกูลจ้าว บอกพวกเขาว่าเจ้าเป็นหลานของใต้เท้าจ้าว เพิ่งเดินทางมาจากแคว้นเหลียงนามจ้าวจื่อหราน”

จื่อหรานคุกเข่าลงกับพื้นซ่อนหยาดน้ำตาไว้จนมิดต่อไปนี้ไม่มีแล้วหยาดน้ำตาที่จะไหลรินออกมาให้ใครเห็น ลุงจ้าสวไม่ถามสักคำว่าจื่อหรานจะเข้าไปทำไมในวังหลวงหากทิ้งความสงสัยไว้แค่นั้น

“เข้าไปได้ ใต้เท้าจ้าวให้คนส่งข่าวแล้วว่าคุณหนูจะมา สาวใช้ให้ตามได้อย่างน้อยสองคนคุณหนูต้องการเพิ่มจำนวนสาวใช้หรือไม่”

จื่อหรานส่ายหน้าร่างบางระหงเชิดตัวตรง ก้าวเดินด้วยท่าทีมั่นคง ไม่ว่อกแว่กต่อจากนี้เป็นตายไม่หวั่นเพื่อทวงความเป็นธรรมและแก้แค้น

“เพล้ง”ฮ่องเต้โจวเหวินหรง ปาจอกชาลงตรงหน้าเสียงดังสนั่นขันทีรีบคุกเข่าตัวสั่นเทา

“ชาเย็นชืดเช่นนี้ เจ้าเอาไว้ดื่มเอง”

ขันทีนางในวิ่งจนแทบจะชนกันก้าวเท้าออกมาหน้าตำหนักใหญ่ ใบหน้าเฉยชาไม่แสดงอารมณ์ทั้งๆ ที่เพิ่งจะระเบิดอารมณ์ออกมา

เบื้องล่างบันไดลงไปชั้นล่างสุดบนลานกว้าง บรรดาผู้ที่สมัครเข้ามาคัดตัวเป็นนางในปีนี้รวมทั้งจื่อหรานเดินผ่าน เป็นแถวยาว

“นางคือใคร ไปสืบมา”ชี้มือไปยัง จื่อหราน ขันทีมองตามมือ ก่อนจะประสานมือไม่มีทีท่าว่าจะถามว่าเพราะอะไรใครกล้าสงสัยกัน

ที่พำนักของเหล่าผู้คัดตัวนางใน

“คุณหนู คืนนี้นอนพักเอาแรงเสียหน่อยพรุ่งนี้คงต้องพบกับบทเรียนมากมาย”ฮุ่ยหนิงปัดกวาดแท่นนอนให้จนสะอาดสะอ้าน

ยังไปทันจะหย่อนกายลงไป ร่างอรชรของใครอีกคนก็ทิ้งตัวลงนอนบนแท่นนอนทันที

“นี่มันที่นอนของข้า เจ้า ไม่รู้หรือไร”จื่อหรานขมวดคิ้ว

“ข้ามาถึงก่อนและจับจองห้องนี้ไว้ก่อน”

“ใครบอกเจ้าเช่นนั้นห้องนี้ทำเลดีที่สุดสามารถออกไปเข้าแถวได้เร็วกว่าผู้ใด เจ้ารู้ไหมข้าคือน้องสาวของตี่กุ้ยเหรินปีนี้อายุครบคัดตัวนางใน เจ้าคงไม่เกรงใจไม่ได้เสียแล้ว”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จันทร์ส่องแสง

ข้อมูลเพิ่มเติม
มนตราฟาโรห์

มนตราฟาโรห์

โรแมนติก

5.0

.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

ทางเดินใหม่ของหัวใจ

Viv Thauer
5.0

เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”

พ่ายเกมสวาท

พ่ายเกมสวาท

พาวิจิตร
5.0

เมื่อความเสียใจมันทำให้เธออยากลอง!!! "เรามาลอง...กันไหมค่ะ" ประโยคบ้าระห่ำที่ฉันพูดกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ฉันไม่นึกว่ามันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต... เส้นทางชะตาชีวิตที่เล่นตลก เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียว... การโดนทรยศ และ การเจอกันโดยบัญเอิญ จนทำให้เกิดการเดิมพันท้าทายเล่นเกมบ้าๆ กันขึ้นมา โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่า...มันจะนำพาให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ ...เธอจำต้องอยู่ต่อไป หรือ ตายเพื่อชดใช้เวรกรรม...ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องย่อ: เอลิซ : หญิงสาวแสนสวยที่แสนซื่อจนถูกคนที่รัก "หักหลัง" จนทำให้ชีวิตของเธอปัดเป๋ และเพียงเพราะเธอแค่ต้องการที่จะประชดชีวิตเท่านั้น แต่การกระทำนั้นก็ดันพาเธอหลงเข้าไปยังเกมสวาทที่เธอเป็นผู้เดิมพัน เซฟ : ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เจ้าของธุรกิจทั้งขาวและเทา เบื้องหลังเขาคือมาเฟียอันดับหนึ่ง เขาที่โชคชะตานำพามาให้เจอกับหญิงสาวคนนั้นแถมยังถูกท้าทายจากเกมเดิมพันอันล่อแหลม และมีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะยอมปฏิเสธ ฝากกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ⚠️คำเตือน⚠️ เนื้อเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีฉากติดเรท เนื้อหาไม่เหมาะสม ความรุนแรงเพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น!!!

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ลำนำเดียวดาย
1

บทที่ 1 ปฐมบท

06/09/2024

2

บทที่ 2 ทุกอย่างล้วนมีที่มา

06/09/2024

3

บทที่ 3 ถุงหอม

06/09/2024

4

บทที่ 4 แสร้งว่า

06/09/2024

5

บทที่ 5 ปลอม

06/09/2024

6

บทที่ 6 หนีไม่พ้น

06/09/2024

7

บทที่ 7 ความเจ็บปวด

06/09/2024

8

บทที่ 8 ฮองเฮา

06/09/2024

9

บทที่ 9 ตำหนักเคียงจันทร์

06/09/2024

10

บทที่ 10 กุ้ยเหริน

06/09/2024

11

บทที่ 11 กันคำครหา

06/09/2024

12

บทที่ 12 นายท่านผู้นั้นแตกต่าง

06/09/2024

13

บทที่ 13 ตัวล่อเป้า

06/09/2024

14

บทที่ 14 ตำแหน่งไหน

06/09/2024

15

บทที่ 15 คนที่กำลังจะตาย

06/09/2024

16

บทที่ 16 แผนตื้นๆ

06/09/2024

17

บทที่ 17 แผนของเจ้าหรือ

06/09/2024

18

บทที่ 18 คราวหลังไม่ต้องทำแบบนี้

06/09/2024

19

บทที่ 19 อย่างไรก็สนม

06/09/2024

20

บทที่ 20 ตำหนักเคียงฟ้า

06/09/2024

21

บทที่ 21 คนกำลังจะตายเพิ่มอีกคน

06/09/2024

22

บทที่ 22 จางอี้เซียว

06/09/2024

23

บทที่ 23 เมื่อไหร่จะตื่นพร้อมกัน

06/09/2024

24

บทที่ 24 ซู่จาง

06/09/2024

25

บทที่ 25 ยื้อแย่ง

06/09/2024

26

บทที่ 26 เจ้าเป็นของข้า

06/09/2024

27

บทที่ 27 มีตัวช่วย

06/09/2024

28

บทที่ 28 หมดเวลาจางอี้เซียว

06/09/2024

29

บทที่ 29 ลาก่อนอี้เซียว

06/09/2024

30

บทที่ 30 บาดเจ็บ

06/09/2024

31

บทที่ 31 ปิด

06/09/2024

32

บทที่ 32 กระจ่าง

06/09/2024

33

บทที่ 33 ลำบากแล้ว

06/09/2024

34

บทที่ 34 ความจริงที่ไม่อาจปิดบัง

06/09/2024

35

บทที่ 35 อภัย

06/09/2024

36

บทที่ 36 เข้าใจกัน

06/09/2024

37

บทที่ 37 เอาคืน

06/09/2024

38

บทที่ 38 เอาคืนอีกครั้ง

06/09/2024

39

บทที่ 39 ไม่อาจควบคุม

06/09/2024

40

บทที่ 40 ผลกรรม

06/09/2024