ครั้งหนึ่งข้าเคยเป็นสาวงามอันดับหนึ่ง
ศร้า ถูกถ่ายทอดออกมาแบบไร้ที่ติ แต่ยุคปัจจุบันกลับอดีตมิได้เหมือนกัน ยุคที่เค
เหวินหย
ือกสะดุดหู ท้วงทำนองแฝงไว้ด้วยความอ่อนหวานเย้ายวน แล
หมุนเวลาที่ผ่
มา เรียวปากสีเข้มเม้มเป็นเส้นตรง ทำนองและลายเส้นแบบนี้ เขาแน่ใจว่าเคยฟั
ขึ้นจิบ “ใครบรรเล
เจ้าค่ะ” บ่าวรับใ
นที่ได้ร่ำเรียนมา แม้จินเยว่จะเป็นแค่แม่เล้าที่หอหมู่ตาน แต่ชีวิตที่ผ่านวันเวลามาไม่น้อยนั้นนางสั่งสมประสบการณ์มามากพอสมควร มาก
รุ่งนี้
ยเป็นตำนาน มิมีหอคณิก
งนี่ ไปให้นางคนนั
โต จินเยว่ทั้งเคี่ยวแล้วก็เค็ม แทบไม่มีดรุณีน้อยคนไหนได้ขอ
ษทั้งหนุ่มและวัยชรายืนอออยู่ไม่น้อย เจียอีหลุบเปลือกตาลง ข่มความปร
ใดรือ” เป็นคำถามง่ายๆ ที่บุรุษ
ันได้ตอบคำถามแรก คำถา
ที่ทอดยาวไปยังกลุ่มควันที่รอยปกคลุมทิศตะวันออกของหอหมู่ตาน ตรงนั้นมีอาชาตั
วบางกำเ
บนโลกใบนี้ไม่มีเรื่องบังเอิญเกิดขึ้นซ้ำๆ บุรุษลึกลั
่ถูกซุกไว้ใ
จียอีมั่นใจ ตนเอ
ตัวใหญ่นั่นขยับเยื้องย่างเ
ว่า ห้วงเวลาตอนนี้มีแ
ตรีรูปร่างงดงาม
าเอ่ยชมแบบไม่นึกกระดาก แม้จะเพิ่งพบกันคร
ลอกลืนน้ำลายแล
ทเพลง” เป็นคำขอร้องแสนสุภาพ ซึ่งเจียอีเองก็ไม่ได้คิดจะปฏิเส
ไม่มีข้อผิดพลาดแน่ๆ ในโลกใบเก่า เจียอีสนใจตงเฟยฉี แต่กลับไม่
่อโอกาสมาถึงตร
ได้แต่เ
นองไพเราะบาดหู ทั้งอ่อนโยนและบีบเคล้นในบางครั้ง
้คนของตนเองจั
ยบเหงาก็คราคร่ำไปด้วยผู้คน ท่ามกลางผ้าโปร่งกับกู่เจิงหนึ่งลำ เจียอีนั่งสงบนาง
้ไม่มีผู้