ทัณฑ์เสน่หาอสูร
ง “ฉันเปลี่ยน...เอ่อ...ใจแล้ว ฉันจะกลับ” เสียงสั่นบอกร่างสูงที่ยืนพิง
การเปลี่ยนใจเกิดขึ้นในเมื่อเธอตัดสินใจมาที
่ยนใจไม่ใช่รึไง คุณจะ
อะไรเพิ่มอีก
งสูงย่างสามขุมเข้ามาเหมือนต้องการกักกั้นไม่ให้ตนได้ปฏิเสธได้อุทธรณ์ ทำได้ก็เพียงแหงนหน้ามองชายหนุ่มด้วยความ
งที่ต้องการก็ต้องอึ้งกับ
า คนที่ต้องชดใช้แทนผู้หญิง
โจนหนีแต่เท้าเจ้ากรรมก็แข็งทื่อไปหมด ทว่าแม้ไร้สิ้นทางหนี วินาทีนั้นเสียงในส่
น คม ชวนให้ต้องมนต์ ดูท่าตอนนี้ไม่มีทางที่ชายหนุ่มจะเปิดใจ
หนีเงื้อมืออ
มชั่วโมง ใจเธอทุกข์ระทม ทว่าทุกข์ใจมากมายเพียงไรหญิงสาวก็ไม่เคยมีน้ำตาสักเพียงหยดเดียว เพราะว่าน้ำตามันแห้งเหือดหายไปตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านเลยมา… หายไปตั้งแต่เธอต้องสูญเสียคนที่รักที่สุด นั่นคือพ่อ
ำสนามหญ้าเข้าไปหาบิดา เธอไม่เห็นว่าใบหน้าซึมไร้ความสุขแต่เริ่มแรกปรับเปลี่ยนให้สดชื่น บ้านไม้ชั้นครึ่งอาณาเขตห่างไกลจากคำว่ากว้างขวางทำให้หญิงสาวเดินถึงพ่อซึ่งยืน
กับแม่เองค่ะ” ปิ่นคณางค์ พูดสิ
นผมสีขาวเทา น้ำเสียงแม้จะดูเหมือนอ่อนล้าแต่แววตานั้นอ่อนโยนเต็มเปี่ยมด้วยความรักที่มีให้ลูกสาว ปิ่นคณางค์ ผงกศีรษะ ส่งยิ้มสดใส วงหน้าเซียวของพ
รณ์เลวร้ายได้เข้ามาเยี่ยมเยือน มันมาเร็วมากและมันได้พาพัดความสุขความมั่งมีของครอบครัวให้มลายหายสิ้นไป บิดาโดนคนคนหนึ่งหักหลัง มีการถ่ายโอนหุ้นธุรกิจโรงแรมของครอบครัวมานานหลายปี สุดท้ายกว่าจะรู
แลงานที่โรงแรมเลยสักครั้ง แม่เป็นคนตอกย้ำเรื่องนั้นเช่นเดียวกัน ปิ่นคณางค์หวังเพียงให้แม่พูดดีกับพ่อบ้าง อยากให้แม
ก ดูสิคนที่เคยรักทั้งพี่น้องเพื่อนฝูงหนีหายหมด
สุริยะเกียรติพัฒน์ เศรษฐีหนุ่มหล่อที่หมั้นหมายกับปิ่นคณางค์มานานหลายปีนั้น จะหาที่ไหนได้ดีเท่าผู้ชายคนนี้อีก แต่ในความคิดปิ่นคณางค์นั้น คู่หมั้นห
งขอถอนหมั้นน
เหตุผลจบ โล่งใจด้วยซ้ำที่ปล่อยให้ผู้
่ได้ แต่น้ำตาที่ไหลเพราะเห็นสายตาเศร้ารู้สึกผิดของพ่อนั้นมีมากกว่า ‘พ่อจ๋าอย่าคิดมากเลยนะ’ ปลอบพ่อในใจ เธอทำได้เพียงเท่านั้น แม้ไม่มีงานทำแต่ครอบครัวยังไม่ถึงกับลำบากที่สุดเพราะปิ่นคณางค์มีเงินเก็บก้อนหนึ่งซ
ว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ไม่รู้จักคิด !” พ่อซึ่งไม
วอด...แม่บอกว่าจะไม่อยู่ที่บ้านหลังน้อยอีกต่อไปแม้พ่อจะยื้อยุดขอร้องแต่
น้ำตานองหน้า เดือนต่อมาความทุกข์ก็โหมกระหน่ำ เมื่อต้องสูญเสียพ่อไปตลอดกาล พ่อตรอมใจมากอยู