สตรีผู้นี้มิได้มีนามว่าถงหลานเฟย
หญิงชราตกใจเป็นอย่างมาก เพราะบุรุษที่ยืนสวมชุดเกราะอยู่ด้านหลังของประตูคือเจิ
กายกำยำหน้าประตูไม่ได้ ยืนมองดูเขาด
งเพราะกลัวจะเกิดปัญหาขึ้น ถงหลานเฟยในตอนนี้ไม่ได้เหมือนปกติ เธอจำอะไรไม่ได้ ซ้ำยังเอาแต่พูดเรื่องถอนหมั้นมาตลอดตั้งแต่รู้เ
ชายหนุ่มพูดย้ำ เพื่อให้หญิงชราร
รื่องต้องบอกกับท่านแม่
นทางเขาไม่ได้อยู่ดูถงหลานเฟย ทั้งที่มีบ่าวรับใช้ไปบอกเรื่องที่นางตกบ่อน้ำแล้ว ทำให้รู้สึกผิดต่อคู่หมั้นในเรื่องนี้ ตลอดการเดินทางไปชายแดน เ
เขารับรู้เรื่องนี้มาจากเจินลี่หลัวก่อนแล้ว ทั้งยังถูกพี่สาวต่อว่า
เจ้าสักครู่” คราวนี้ชุนเหยียนจำต้องยอมเดินออกจากเรือนไป
้ที่กลางศีรษะ ใบหน้าคมผิวเข้มกร้านแดด กับคิ้วหน้าที่ทำให้ใบหน้าของเขาดูดุดั
กการแต่งตัว และรูปพรรณสัณฐานของเขา อีกทั้งท่าทางเฉยชาที่
้ยินมาจากพี่สาวว่าคนตรงหน้าจมหายไปนานจนทุกคนที่ไปช่วยกันงมหา ต่างก็คิดว่านางสิ้นใจไปเสียแ
ไม่น่าจะเป็นได้ เพราะถงหลานเฟยไม่ใช่คนที
ตัวเองสบายใจเท่านั้น ว่านางไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เพราะเกิดถงหลานเฟ
ท่าจะเดินออกไปที่ประตู เสียงหวานขอ
อย่า
ไป ท่านช่วยพิจารณาเรื่องนี้ให้ข้าได้หรือไ
ดของถงหลานเฟย ที่เขาไม่เ
บอก เพราะข้าก็จำชื่อคนบอกไม่ได้เช่นกัน” คนพูดคิดคำพูดพวกนี้มาหมดแล้ว เธอต้องการจะเอาคืนคนทำผิด และเลี่ยงไ
รับปากแม้จะไม่ได้แสดงอารมณ์ใดเลยตอนพูด แต่น้ำเสียงก็หนักแ
ความจริงแล้วตอนที่เจินลี่หลัวรู้ว่าหนิงเซียงมาระรานว่าที่น้องสะใภ้ น
วช่วยจัดการให้ เพราะอย่างไรหนิงเซียงก็ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของเขา ส่วนเรื่องที่ไปรั
่าเชื่อถือ แต่หากไม่มีพยานหรือหลักฐาน จะไปว่ากล่าวกันลอย ๆ ก็คงจะไม่ได้เช่นกัน เพราะคราวก่อนหากไม่มีเจินลี่หลัวมาช