Deva Or Devil เทวามาร
ออกห่างจากคนร่างสูงทันทีเมื่อมือใหญ่เอื้อมเข้ามาแหวกอกเ
้าแต่ก็ทำไม่ได้ภายใต้การถูกกักขังด้วยช่องว่างระหว่างขายาวที่กางออกขนาบข้างเก้าอี้เขาเอาไว้ทั้งสองด้าน ด้วยเหตุนี้จึงทำใ
ยตาคนอื่นที่กำลังมองมายังพวกเขาทั้งคู่ ทำให้ซาเรย์ที่อยู่ในอ้อมแขนแกร่งต้องยกมุมปากเหยียดยิ้มแปลกๆ มือบางทุบแผ่นอกหนาพร้อมกับกัดฟันโวยวายไปด้วย แต่ถึงแม้ว่าเขาจะลง
ุ้มก็อุ้ม ดีเหมือนกันข้าจะได้ไม่ต้องเดินให้เมื่อย" เสร็จแล้วก็แยกเขี้ยวงับเข้ากับกล้ามท้องแข็งภายใต้อาภรณ์สีค
ณ์หงุดหงิดจึงทำให้ไม่รู้ว่าตนเองนั้นฝังรอยเขี้ยวไปมากน้อยแค่ไหน มารู้ตัวอีกทีก็ต่อเมื่อมือแกร่งที่อุ้มเขาอยู่กดบีบลง ทำเขาสะดุ้งผละใบหน้าออกห่างจากแผ่นอกเล็กน้อยก่อนจะมองเห็นบริเวณที่กั
นการสร้างความรำคาญให้กับอีกฝ่ายจึงเป็นหนทางแห่งการชำระแค้นได้ดีนัก โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าสิ่งที่เขากระท
พื่อสะกดข่มอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงขึ้น แต่ถึงแม้จะพยายามสะกดข่มเอาไว้มากเท่าใด ร่างกายของเขาก็ยังคงแสดงอาการตามสัญชาตญาณที่มีอยู่ภายในออ
งให้คนบนเก้าอี้ถอดเสื้อออก แต่เจ้าตัวกลับนั่งนิ่งไม่ยอมทำตาม จนเขาต้องลากเก้าอี้มาจัดการเอง โดยไม่ได้สนใจการต
อ" มือเล็กตะครุบจับมือใหญ่ทันที ก่อนร้อ
าลอ่อนตวัดขึ้นมองด้วยแววตาดุ ปรามคนหน้าห
นแกร่ง หลบนัยน์ตาดุที่มองมา ยกมือขึ้นเกาข้างแก้มอันร้อนผ่าวก่อนจะเบ
่อนมือหนาจับชิ้นส่วนของผ้าด้วยความเบามือ แหวกออกทีละนิดจากลำคอขาวไล่
ังทำให้ดึงเศษผ้าออกได้ไม่ง่ายนัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงกัดฟันทนไม่ยอมเอ่ยถึงความเจ็บปวดที่กำลัง
บจนเกิดรอยช้ำ คิเฮย์จึงหยุด แล้วรวบมือบางมาจับไว้ ใช้ปลายนิ้วของตนค่อยๆล
ขาก็ได้แต่ถอนหายใจพลางกล่าวโทษตนเองในใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ และที่ร้ายไปกว่านั้นหากว่าเขาไปช้ากว่านี้และช่วยคนตรงหน้าเอาไว้ไม่ทัน หัวใจเขาเองจะทำยังไง แค่คิดมาถึ
าสีน้ำตาลอ่อนขึ้นสบดวงตากลมที่กำลังมองเขากลับเช่นกัน ครู่ต่อมา
สีนิล พลางโน้มตัวลงดึงเก้าอี้ของคนตัวเล็กให้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิม อ
่างสูง เขาแลบลิ้มเลียริมฝีปากอย่างเคยตัว กลืนน้ำลายเบาๆเมื่อมือแกร่งขย
ดแผลที่อยู่บนอกซ้าย สังเกตุเห็นขอบแผลเรียบอันเกิดจากวัตถุมีคมปลายแหลมอ
่วยได้" เมื่อเห็นร่างสูงเอาแต่เพ
ย็นกระแทกตอบกลับทันใดพร้อมนัยน
ต้องกระแทกเสียงใส่ ใครๆต่างก็รู้ว่าศิษย์จากสำนักเรียนวิคเซสไม่มากก็น้อยต้องมีความรู้เ
ัวว่าตนแสดงอารมณ์ขุ่นมัวออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาไม่ได้จะดุหรือต่อว่าอะไร
่คิเฮย์ปรับความรู้สึกชั่วครู่ เอ่ยเสียงหวานต่อว่า "ดังน
าซาเรย์นิ่งอึ้งได้แต่กระพริบตาปริบๆจ้องมองคิเฮย์คล้ายกับของหายากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในวินาทีถัดมาเขากล
ิ่งนั้นลงบนฝ่ามือใหญ่ ครู่เดียวเกิดแสงสว่างปรากฎเป็นวัตถุขนาดเล็กเท่าเล็บมือคนส่องแสงเรืองรองวาววับสะท้อนสีขาวประกาย
ะคนตรงหน้าโดยไม่ได้หันกลับมามอง รู้สึกเจ็
าไม่อาจรู้ได้ว่าเกิดขึ้นเมื่อใด เป็นเพียงแต่ภาพเลือนลางในความทรงจำที่ปรากฎร่างเล็กของเด็กหญิงผมยาวหน้าตาจิ้มลิ้มวัยเพียงสามขวบกำลังจ้องมองสิ่งแปลกตาที่เด็ก
หัวไหล่เขาทะลุผ่านเนื้อผ้าลงไปยังผิวกาย ร่างบางตรงหน้าสั่นไหวน้อยๆก่อนจะค่อ
ลทิ่มแทงเข้าใส่บาดแผล นี่เขารอดจากการถูกฆ่า เพื่อมาตายจากการรักษาอย่างนั้นใช่ไหม? และถ้านี่เรียกว่าการร
ลางเรียกชื่อคนตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับลดมือลงรวบเอวบางด้วยสองมือ ออกแรงยกเอาร่างนั้นขึ้นนั่งคร่อมบนตักเขาภายในครั้งเดียว แล้วเงยหน้าเผยอริมฝีปากงับเ
่อนโยนทะนุถนอมราวกับกลัวว่าจะสร้างความเจ็บเพิ่มขึ้นให้กับคนตรงหน้า ก่อนที่ฝ่ามือใหญ่อีกข้างจะเลื่อนต่ำลงเคล้นค
างสูงที่บีบเคล้นนั้นหนักหน่วงแต่ทว่าไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให
่น ไล้วนไปจนทั่วกระพุ้งแก้มฉกชิมเอาความหวาน ไล่เกี่ยวกระหวัดหยอกล้อกับความอ่อนนุ่มที่กำ
นซุกซนของอีกฝ่ายหยุดลงเคลื่อนหายออกจากโพรงปากเขา แ
ก่อนแทรกปลายลิ้นร้อนผ่านเข้าไปยังโพรงปากนุ่มแล้วตวัดกลับออกมาทุกครั้งยามเมื่อสัมผัสถูกลิ้นเล
้นร้อนของอีกฝ่ายที่กำลังถอยหนีจากเขา มือเล็กทุบอกแกร่งบดเบียดจูบลงอย่างหนักหน่วงคิดเพียงแต่จะไล่ต้อนเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตนต้องการ ท้ายที่สุดร่
กออก ลากลิ้นร้อนต่ำลงไปยังซอกคอขาวเรื่อยไปตามแนวไหปลาร้า ดูดดึงขบเม้
เสียวกระสันยามเมื่อลิ้นร้อนของอีกฝ่ายกวาดผ่านตุ่มเม็ดแข็งไปยังรอยแผลสีจาง ขบเม้นดูดดึงแผ่วเบาปลอบปร
ลงเพื่อปลดกระดุมเสื้ออาภรณ์สีขาวครีมออก เผยให้เห็นลอนมัดก
ลวกของร่างสูงทาบทับลงมายังแก่นกายเขา ซาเรย์อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่
ยังปากอวบ นิ้วทั้งห้ายังคงกอบกุมแก่นกายของร่างบางไว้ในฝ่ามื
ี่เรียกชื่อแต่ไม่มีทีท่าว่ามือนั้นจะช้าลง ซาเรย์จึงเผลอเรี
ำคอ หอบกระเส่าอย่างยากจะข่มกลั้นเมื่อได้ยินเ
ความเสียวซ่านทั้งหมดในกายกำลังไหลลงไปรวมกันอยู่เบื้องล่าง เขาเค้นเสียงเท
่อนกระทั้นเอวส่งช่วงล่างเข้าหามืออีกฝ่าย พอคิเฮย์ขยับเร็วขึ้นเรื่อยๆ ซาเรย์ก็สูดปากผ่อนลม หรี่ตาลงอย่าง
์ถึงพึ่งรับรู้ได้ถึงท่อนเนื้อแกร่