เจ้าสาวจำยอม
มู่เฉินหรี่ตาลง แล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “กล้านักไม่ใช่เหรอ?” “ทำไม นึกกลัวขึ้นมาหรือไง!”
“ฉัน ฉันมีเรื่องอยากจะขอร้องคุณค่ะ” หย่าหยิงยังคงก้มหน้าอยู่ แล้วพูดออกมาเบา ๆ
“ถ้าจะพูดเรื่องไปเรียนล่ะก็ หยุดคิดไปได้เลย” มู่เฉินไม้เชื่อว่าเธออยากจะไปเรียนจริง ๆ เขาคิดว่าเธอก็แค่หาข้ออ้างที่จะออกจากบ้านก็เท่านั้น
หย่าหยิงยืนตัวแข็งทื่อ นี่เธอจะไม่ได้ไปเรียนแล้วงั้นเหรอ? อีกสองปีเธอก็จะเรียนจบแล้ว นี่เธอจะต้องถอดใจไปตอนนี้จริง ๆ เหรอ?
เมื่อเห็นว่าหย่าหยิงไม่ได้พูดอะไร มู่เฉินก็เดินเข้าห้องน้ำไป แต่หย่าหยิงก็ยังคงยืนรอเขาอยู่อย่างนั้น ‘นี่เธอคิดจะลองดีกับฉันเหรอ?’
หย่าหยิงเม้มปากแน่น หันหลังเพื่อที่จะเดินออกไป
“เดี๋ยว!” มู่เฉินเรียกเธอไว้
หย่าหยิงหันหลังกลับ แล้วมองไปยังโซฟา เห็นเขาจุดบุหรี่ขึ้นสูบ ทำให้เธอคิดว่าเมื่อครู่นี้เธอคงจะหูแววไป
เขาสูบบุหรี่ไปจวนจะหมดมวน แต่ทั้งสองก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา หย่าหยิงหันไปมองเขา แล้วเธอก็รู้สึกกลัว เธอกลัวว่าเหตุการณ์เมื่อคืนจะย้อนกลับมาอีก เธอจึงคิดที่จะเดินหนีไป
“เธออดทนได้แค่นี้เองเหรอ?” หลังจากเห็นเธอหันหลังไป มู่เฉินก็พูดขึ้น เสียงของเขาทำให้เธอหยุดชะงัก
หย่าหยิงหันมาหาเขา แล้วเอ่ยถามขึ้นว่า “คุณตกลงแล้วใช่ไหมคะ?”
มู่เฉินลุกขึ้นยืน เดินไปข้างหน้าเธอ แล้วยื่นมือไปจับคางเธอยกขึ้น เพื่อให้เธอหันมาสบตากับเขา “มีผู้ชายสักกี่คนที่รอเธออยู่ข้างนอกนั่น เธอถึงระริกระรี้จะออกไปให้ได้ฮึ?” น้ำเสียงของมู่เฉินเต็มไปด้วยความสงสัย
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ!” “ฉันจะไปเรียนจริง ๆ ” ถึงแม้คำพูดของเธอจะดูไม่น่าเชื่อถือเลยก็ตาม แต่เธอก็อยากจะลองดูสักตั้ง
นิสัยของฉินหย่าหลินนั้น เธอเองก็รู้ดี เธอต้องมาแต่งงานกับผู้ชายคนนี้แทนหย่าหลิน นั้นก็เพื่อปกป้องตระกูลฉิน และปกป้องพ่อบุญธรรมที่เลี้ยงเธอมาอย่างฉางชุน
ใช่...เพื่อตอบแทนบุญคุณ ทั้งหมดที่เธอทำในตอนนี้ก็เพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่เธอต้องแลกมันมาด้วยศักดิ์ศรีของเธอ
“เธอจำไว้ว่าฉันเกลียดคนโกหก!” แล้วมู่เฉินก็พูดถึงเงื่อนไขของเขา
หย่าหยิงพยักหน้ารับ เธอจะไม่โกหกเขา
“ถ้าเธอคิดจะมาหลอกฉัน!เธอก็น่าจะรู้ดีว่าเธอจะต้องเจอกับอะไร!” มู่เฉินอยากรู้ว่าฉินหย่าหยิงคิดจะทำอะไรกันแน่ เธอจะมาไม้ไหนอีก?
“ค่ะ!ฉันจะไปวิทยาลัยเท่านั้น ฉันจะไม่ไปเถลไถลที่ไหน” เธอให้คำมั่นกับเขา แต่ต่อไปเธอคงไม่ได้ไปทำงานพิเศษอีก แล้วเธอจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าเทอมล่ะทีนี้?
มู่เฉินหันไปมองเธอ แล้วพูดขึ้นว่า “ลงไปได้แล้ว!” เขาไม่อยากให้ห้องของเขาแปดเปื้อน เพราะผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ
เธอพยักหน้าเบา ๆ “ขอบคุณค่ะ คุณเหลิ่ง” เธอพยายามอยู่ให้ห่างจากเขา ไม่คิดที่จะล้ำเส้น
ที่นี่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากบ้านตระกูลฉินที่เธอเคยอยู่ การถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทอดทิ้ง ทำให้เธอต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปชั่วชีวิต เธอทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง และต้องการที่จะทำตามฝันของตัวเอง
มู่เฉินไม่ได้พูดอะไรอีก เขามองเธอเดินออกจากห้องไปจนลับสายตา
หย่าหยิงถูกจัดให้อยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่ชั้นหนึ่ง ในห้องมีเพียงแค่เตียง และโต๊ะสำหรับเขียนหนังสือเท่านั้น ถึงห้องจะเล็กแต่ก็มีหน้าต่างบานใหญ่ซึ่งรับแดดได้เป็นอย่างดี เธอรู้สึกพอใจห้องนี้มาก สำหรับเธอแล้วถ้าเทียบกับบ้านตระกูลฉินแล้วที่นี่ดีกว่ามาก เว้นเสียแต่ความอิสระของเธอที่หายไป
“คุณฉินคะ คุณผู้ชายสั่งมาว่า ถ้าเขาไม่ได้สั่งอะไรก็ให้คุณอยู่แต่ในห้องนี้ ถ้ามีปัญหาอะไรก็มาหาฉันนะคะ” น้าเหอพูดกับเธอ
“ขอบคุณค่ะ น้าเหอ” หย่าหยิงนั่งเหม่ออยู่ในห้อง ของใช้ส่วนตัวของเธอยังอยู่ที่บ้านตระกูลฉิน และมีของใช้บางอย่างอยู่ที่วิทยาลัย
เธอควรจะออกไปหาซื้อของใช้ที่จำเป็นสักหน่อย แต่เธอออกไปไม่ได้
สักพักน้าเหอก็นำของใช้จำเป็นมาให้เธอ เธอมองของที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ‘นี่ฉันต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริง ๆ แล้วใช่ไหม?’
หย่าหยิงอาสาเข้าไปช่วยน้าเหอในครัว ทำให้น้าเหอรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมาก เดิมทีเธอได้ยินมาว่า เจ้านายของเธอจะแต่งงานกับคุณหนูไฮโซที่ทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเธอ นอกจากจะมีออร่าของคุณหนูไฮโซแล้ว เธอก็ไม่เห็นว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นอย่างที่เขาว่ากันเลย
น้าเหอเห็นหย่าหยิงล้างผัก และหันผักอย่างคล่องแคล่ว น้าเหอจึงถามขึ้นว่า “คุณฉิน คุณทำอาหารเป็นด้วยหรือคะ?”
“ค่ะ แต่ฉันทำได้แค่อาหารง่าย ๆ ไม่กี่อย่างเองค่ะ” เมื่อก่อนตอนที่เธออยู่บ้านตระกูลฉิน เธอต้องทำทุกอย่างเอง และเธอก็หัดทำอาหารมาจากคนใช้
“ถ้างั้นอาหารกลางวันของคุณผู้ชาย คุณเตรียมล่ะกันนะคะ?” น้าเหอเสนอ น้าเหอมองดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ากำลังเตรียมอาหารอย่างคล่องแคล่ว ดูอย่างไรเสียก็ไม่เหมือนคุณหนูนิสัยเสียอารมณ์ร้ายอย่างที่ว่าเลย
“แล้วคุณเหลิ่งเขาจะไม่ว่าเอาเหรอคะ?” หย่าหยิงเอ่ยถาม ขณะกำลังยืนล้างผัก เธอไม่อยากทำให้มู่เฉินไม่พอใจ เธอกลัวเขาจะยกเลิกข้อตกลงที่อนุญาตให้เธอไปเรียนได้
“ไม่หรอกค่ะ คุณผู้ชายไม่ค่อยมีเวลา บางครั้งอาจจะดุไปบ้าง แต่ก็เข้ากับคนง่าย ท่านไม่ค่อยเลือกทานด้วยค่ะ น้าเหอเป็นแม่บ้านของที่นี่มาหลายปี เธอรู้จักนิสัยของเจ้านายเธอเป็นอย่างดี
‘ไม่ดุอย่างนั้นเหรอ?’ แต่เวลาที่เธอมองตาเขา มันทำให้เธอตัวสั่นทุกครั้ง และเธอก็ไม่เคยคิดว่าผู้ชายคนนั้นจะเข้ากับคนง่าย
เขาเย็นชา แค่สายตาที่เขามองมาก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตกอยู่ในเมืองน้ำแข็ง
ขอแค่เขาไม่จงใจกลั่นแกล้งเธอ เธอก็จะทำหน้าที่ของเธอให้ดีที่สุด เธอจะพยายามอยู่ที่นี้ให้ได้ ถ้าเขาต้องการอะไรเธอก็จะทำตามที่เขาต้องการ เพราะว่ายังไงแล้วเธอก็ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาที่เขาเสียเงินซื้อมา