รอรักกลับมา
ผู้เขียน:เนย
หมวดหมู่โรแมนติก
รอรักกลับมา
“ได้!”
ในที่สุดซูป้านเซี่ยก็ยิ้มออกมา
ซูป้านเซี่ยนอนพัก และตื่นมาอีกครั้งก็แสงอาทิตย์ก็กำลังจะลับขอบฟ้าไปแล้ว เธอลุกขึ้นเลือกชุดเดรสสายเดี่ยวสีแดงพลางแต่งหน้าอย่างสวยงาม
เธอมองตัวเองทาปากแดงในกระจก
หลังจากแต่งงานเข้าขอบครัวไฮโซ คนในตระกูลมู่ก็เตือนให้เธอระวังคำพูดและการกระทำของเธอเสมอ เธอเองก็ปฏิบัติตามที่ตระกูลมู่ต้องการ แม้แต่เสื้อผ้า และเครื่องประดับนั้นก็ไม่สามารถเลือกเองได้ เพราะต้องให้เหมาะสมกับฐานะของคุณนาย ห้ามมีอะไรผิดพลาดเด็ดขาด
สามปีที่ผ่านมา เธอได้แต่ทำตามที่มู่หนานจือต้องการ ไม่มีชีวิตเป็นของตัวเองเลย ชีวิตที่เป็นอยู่นั้นก็ไม่เหมือนตัวเธอเลย
สวยมันก็สวยอยู่หรอก แต่ไม่มีจิตวิญญาณ
จากนี้ไปเธอจะมีชีวิตเพื่อตัวเธอเอง
อันหรานรู้สึกทึ่งเมื่อเห็นเพื่อนของเธอ เธอรู้สึกว่าเพื่อนเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน “เดี๋ยวถ้าไปถึงคลับ คนมีหนุ่ม ๆ มองเธอตาไม่ขาดมายเป็นแน่”
“เธอก็เว่อร์ไป” ซูป้านเซี่ยไม่คิดว่าตัวเองสวย เธอแค่รู้สึกโล่งอกที่รู้ว่าเงาที่อยู่บนหัวของเธอมาตลอดสามปีนั้นได้หายไปแล้ว
อันหรานขับรถพาเธอไปที่ ลั่วเซ่อ คลับ
ตอนนั้น
ในห้องส่วนตัวของ ลั่วเซ่อ คลับ มีควันจาง ๆ และเสียงแก้วไวน์กระทบกัน
ผู้ชายที่แต่งตัวหรูหลายคนล้วนมาจากครอบครัวไฮโซ มีสาวสวยสูงยาวเข่าดีนั่งล้อมรอบพวกเขา และมีนักร้องสาวคนนึงร้องเพลงคลอเบา ๆ อยู่ใกล้ ๆ แสงไฟสลัว ๆ สะท้อนเข้าไปในแววตาของมู่หนานจือ และหายไปราวกับจมดิ่งลงไปในทะเล
“นี่กี่โมงแล้วเนี่ย นายน้อยตระกูลมู่ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ ฉันได้ยินมาว่าเมียของนายรอให้นายกลับบ้านไปนอนทุกวัน แถมยังโทรเช็ค และเร่งให้นายกลับบ้านตลอดด้วย” ฉูเฉิงเป็นพวกเพลย์บอย เขาเลิกคิ้วและแซวขึ้นมาทันทีที่มีโอกาส
คนที่อยู่ตรงนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันกับมู่หนานจือ ถึงแม้ว่ามู่หนานจือกับซูป้านเซี่ยจะไม่ได้จัดงานแต่งงานกัน แต่เรื่องที่เขาแต่งงานนั้น ทุกคนต่างก็รู้ดี
และก็รู้ด้วยว่าทำไมซูป้านเซี่ยถึงแต่งเข้ามาในตระกูลมู่ คนที่ร่ำรวยและมีอำนาจแบบนี้ ต้องดูถูกผู้หญิงแบบซูป้านเซี่ยอยู่แล้ว คำพูดของฉูเฉิงนั้นก็เต็มไปด้วยคำพูดเยาะเย้ย
“ตระกูลซูมีแค่เปือก ถ้าไม่มีมู่หนานจือคงแย่ไปแล้ว ไม่งั้นจะให้ซูป้านเซี่ยแต่งเข้ามาในตระกูลมู่ทำไมกัน? ฉันขอพูดหน่อยเถอะ ป้านเซี่ยคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้คิดที่จะมาคุมหนานจือมันอ่ะ? ก็เป็นแค่เครื่องมือในการปั้มลูกไม่ใช่รึไง?” หลังจากดื่มไวน์ไปหลายแก้ว ตู้เนี่ยนเชิงก็พูดแรงขึ้น
“พอได้แล้วน่า อย่าพูดอะไรที่มันไม่ดีเลย” เกาหยางเพื่อนสนิทที่สุดของมู่หนานจือโบกมือ “แม้ว่าตระกูลซูอย่างนั้นก็เถอะ แต่ป้านเซี่ยก็ไม่ได้ทำตัวไม่ดี แต่งงานมาสามปีเธอก็ทำหน้าที่ภรรยาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเธอก็มีงานทำของเธอเอง ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นป่ะวะ”
ซูป้านเซี่ยเป็นมัณฑนากร ก่อนหน้านี้ตอนที่เกาหยางกำลังจะรีโนเวทบ้าน เขาได้พบกับซูป้านเซี่ยโดยบังเอิญ ในมุมมองของเขา เขาเห็นเธอเป็นคนอ่อนโยน นิสัยดี เขาได้ไปที่บ้านตระกูลมู่หลายครั้ง เขาเห็นซูป้านเซี่ยทำอาหารเอง และชวนเขาอยู่ทานอาหารเย็นด้วยกัน พวกเขาพูดคุยกันในห้องทำงาน ซูป้านเซี่ยชงชามาให้เขา และก็ไม่ได้มารบกวนอะไรเขา
ตอนที่เขาจะกลับ ข้างนอกฝนตก ซูป้านเซี่ยก็กางร่มไปส่งเขา เพราะกลัวว่าเขาจะเป็นหวัด
เขามีความประทับใจที่ดีกับป้านเซี่ย เขาคิดว่า ถ้าอีกหน่อยตัวเองมีภรรยา แล้วเธอเป็นเหมือนซูป้านเซี่ย เขาก็พอใจแล้ว
เพราะงั้นเกาหยางเลยโน้มน้าวมู่หนานจืออยู่บ่อย ๆ ให้เขาดีกับซูป้านเซี่ย และใช้ชิวิตคู่กันอย่างสงบ
“ก็แค่มัณฑนากร มีอะไรดีนักหนา” ฉูเฉิงพูดอย่างเหยียด ๆ “หนานจือ คืนนี้ไม่เมาไม่กลับนะเว้ย”
สีหน้าของหนานจือเคร่งขรึม
‘ป้านเซี่ยเป็นคนว่านอนสอนง่ายงั้นเหรอ?’
พอนึกถึงตอนที่ซูป้านเซี่ยตบเขา และตอนที่เธอลากกระเป๋าเดินทางออกไปอย่างไม่ลังเล เขาก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
“อืม คืนนี้เธอไม่อยู่ ฉันจะอยู่กับพวกนายเอง”