icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
KEEP IN CAGE! l ล่ามรัก!

KEEP IN CAGE! l ล่ามรัก!

Coffe'

5.0
ความคิดเห็น
9K
ชม
51
บท

จงแสดงวิธีที่ทำให้คนคนหนึ่งอยู่กับเราไปตลอดกาล... สำหรับ คิรินทร์ มันก็เรื่องง่าย ๆ อยากให้อยู่ด้วยตลอดไปก็แค่จับล่าม! จับขัง! แค่นั้นก็พอแล้ว

บทที่ 1 KEEP IN CAGE l INTRO

KEEP IN CAGE

INTRO

เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือดังรอบที่สาม... สี่ หรือห้า ก็ไม่แน่ใจ

‘กองทัพ’ ทำแค่ปรายหางตาไปมอง หน้าจอโทรศัพท์ของเขาโชว์รูปน่ารัก ๆ ของเด็กผู้ชายวัยเดียวกันเต็มจอ แน่นอนว่านั่นคือแฟนของเขาเอง ช่วงนี้กองทัพกับปั้นจั่นไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยครั้งสักเท่าไหร่ สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะว่า ปั้นจั่นย้ายที่อยู่ใหม่ บ้านของพวกเขาเลยห่างใกล้กันมากกว่าเดิม... ส่วนสาเหตุรอง ๆ เขาไม่อยากพูดถึงมันนัก

กองทัพคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ มันคงดีแล้วล่ะมั้งที่ห่างกัน... อยากรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเบื่อหน่ายมันจะจางหาย เลือนลางไปบ้างหรือเปล่า... ตอนนี้มั่นใจว่าเขาเบื่อ ๆ แต่แน่นอนว่ายังรู้สึกรัก ตามประสาคนเคย ๆ นั่นเอง...

กลางดึกภายในคลับ @Alanholic สุดหรู... ชั้นที่กลุ่มกองทัพเลือกนั่งอยู่คือชั้นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มครบครัน ช่วงที่เบื่อหรือเครียดกลุ่มพวกเขามักจะมานั่งดื่มกันที่นี่ กลิ่นแอลกอฮอลล์ละควันบุหรี่ลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด แสงสว่างวูบวาบบนโต๊ะปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงริงโทนที่เริ่มดังบ่อยจนน่ารำคาญ

“ไม่รับสายเหรอคะ ทัพ...” สาวสวยที่นั่งอยู่ข้างกายเขาเอ่ยถาม กองทัพแค่นยิ้มเหยียด ก่อนจะใช้สายตาบอกเธอว่าไม่ควรยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เจ้าหล่อนแกล้งยิ้มเจื่อน ๆ กองทัพคือผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเอาการคนหนึ่ง แต่การใช้สายตาเหยียดหยามกันเขาก็โคตรถนัดเลยจริง ๆ ไม่นานเกินรอกองทัพก็คว้าโทรศัพท์แล้วลุกเดินออกไป เขาหาที่สงบ ๆ ได้ก็เลื่อนหน้าจอเพื่อรับสายของปั้นจั่นทันที

“...”

‘ทัพ!’

“มันดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก” เขาตัดปัญหาดื้อรั้นของปั้นจั่นด้วยการยอมรับสายสักครั้ง ตอนนี้ก็แค่หลับตาแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถ้าคำตอบมันน่าพึงพอใจ สาบานว่าไกลแค่ไหนเขาก็จะไปหาปั้นจั่นตอนนี้ เวลานี้เลย!

‘นอนเหรอ! จะให้เราหลับลงได้ยังไง ทัพก็รู้เราร้อนใจอยู่!’

“ถ้าจะพูดเรื่องวินล่ะก็... เงียบไปเลยเหอะ” แต่สุดท้าย...ปั้นจั่นก็ไม่เคยแสดงความรักที่มีต่อกันสักครั้ง แค่คำว่าคิดถึงง่าย ๆ ก็ไม่เคยพูดมัน กองทัพถอนหายใจออกมาขับไล่ความรู้สึกน่าหงุดหงิด ช่วงนี้ไม่ว่าจะคุยกันเมื่อไหร่ ปั้นจั่นก็มักจะขอให้เขาตามหาเพื่อนอีกคนที่ชื่อ ‘วินเนอร์’ ตลอด...

‘กองทัพ! เราขอร้อง ทัพรู้จักผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ? เราคิดว่าเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าพี่เฟียสจับวินไปซ่อนไว้ที่ไหน ทัพช่วยเราหน่อยนะ... นะ...’

“…”

‘นะ... ทัพ...’

“หึ อยากจะช่วยเพื่อนมาก ๆ ว่างั้น!? แน่ใจเหรอปั้นจั่น ที่จะพาตัวเองไปพัวพันกับไอ้เวรคิงส์!”

‘ใช่! เราไม่กลัวมันหรอก อีกอย่าง เรายังมีทัพอยู่นี่...’ และต่อให้กองทัพภาวนาให้ปั้นจั่นตัดใจเรื่องวินเนอร์เท่าไหร่ แต่คำพูดที่ได้ยินเต็มสองหูก็คือความเป็นจริงอยู่วันยังค่ำ ฝ่ามือหนาเต็มไปด้วยเส้นเลือดในแบบฉบับของผู้ชายกำเข้าหากันแน่น กองทัพแค่แค่นหัวเราะในลำคอออกมาเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้... มุมปากเขาแสยะยิ้มร้ายกาจ น่ากลัว แต่ผิดกันตรงที่คนในสายมองไม่เห็นความร้ายของมันสักนิด

“ได้สิ... ถ้าปั้นอยากเจอมันมากนัก ทัพจะพาไปหามันให้ถึงที่เลย”

เวลาผ่านไปไม่นานนัก...

‘ปั้นจั่น’ เด็กผู้ชายหน้าหวาน สวยราวกับผู้หญิงก็มายืนอยู่หน้าสถานที่ที่ไม่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องมาเหยียบมันสักครั้ง มันทั้งเสียงดัง อึกทึก วุ่นวายเต็มไปด้วยควันรถ ฝุ่นละออง แถมยังเหมือนแหล่งมั่วสุมของเหล่าวัยรุ่นวัยคึกคะนองอีก ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะชอบมาเพราะมันช่างท้าทายและเผลอ ๆ อาจจะได้ของเดิมพันที่ทำให้สบายไปทั้งชาติอีกด้วย!

“ทำไมทัพยังไม่ถึงอีกนะ...” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง พร้อมทั้งยกมือมาลูบแขนคลายความหนาวไปด้วย หน้าสนามแข่งรถก็ยังมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หลายคนมองมาที่เขาและใช้สายตาน่ารังเกียจมองกัน ปั้นจั่นไม่โอเคกับคนแบบนี้สุด ๆ เขาคงอุ่นใจมากกว่านี้ถ้ามีกองทัพอยู่ข้าง ๆ พอก้าวเท้าเข้ามาเหยียบหลังรั้วเหล็กสูง ๆ แล้ว เสียงเพลงและเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้นมา เด็กน้อยยกมือมาปิดใบหูตัวเองและเบ้หน้ายุ่งเหยิง ที่ยอมมาที่แบบนี้ก็เพราะว่ากองทัพบอกว่าจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้นหรอกนะ

ผู้ชายที่เจอกันกลางร้านอาหารวันนั้น

ผู้ชายที่ดูเหมือนเป็นนักเลงหัวไม้และสามารถห้ามฟีรอสได้ด้วยประโยคเดียว!

“บ้าจริง!” ปั้นจั่นพูดเบา ๆ อีกครั้ง เมื่อหันไปเจอผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังจับจ้องมาที่ตนเอง พวกมันแกล้งแซวนั่นนี่และดูท่าว่าจะมีอีกคนเดินเข้ามาหากัน เด็กคนนั้นรีบหันหลังเดินหนี แต่พอเดินไปได้เพียงแค่สามสี่ก้าวก็โดนกระชากต้นแขนจนเซถลากลับมาที่เดิม

“อ๊ะ!”

“ทัพบอกให้รอข้างหน้าไง” ปั้นจั่นถอนลมหายใจออกมาเมื่อหันกลับมาเจอ กองทัพ แต่แล้วก็ต้องย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเหล้า แถมยังมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอ่อน ๆ อีก...

“ทัพ...!”

“อือ ก็ทัพน่ะสิ คิดว่าใครงั้นเหรอ?” ผู้ชายร่างสูงก้มหน้าลงมาถาม คำพูดเขาดูปกติแต่ปั้นจั่นคิดว่าสีหน้าและแววตาเขาต่างหากที่แปลกไป ตั้งแต่นาทีแรกที่สบตากัน อยู่ ๆ ความกลัวก็แล่นพล่านขึ้นมาดื้อ ๆ คงเพราะว่าวันนี้กองทัพใส่ชุดสีดำไปทั้งตัวด้วยล่ะมั้ง...

“ไงวะ วันนี้ว่างเหรอมึง...” เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาจากด้านหลังของปั้นจั่นทำให้กองทัพละสายตาจากใบหน้าสวยแล้วมองผ่านศีรษะปั้นจั่นไปราวกับว่ากำลังเจอคนที่อยากเจออยู่พอดิบพอดี เสียงผู้ชายคนนั้นมาพร้อมกับควันบุหรี่ซึ่งลอยออกมาจากริมฝีปากของเขา ปั้นจั่นอยากหันไปมองบ้างแต่กองทัพกลับโอบไหล่เขาเอาไว้แน่น แล้วกดศีรษะให้จมแผงอกแกร่งทันที

“อืม ได้ข่าวว่ามึงมาแข่งรถสนามนี้ก็เลยแวะมาว่ะ”

“มาเฉย ๆ?”

“ได้ไงวะ มึงจะแข่งกับกูอีกไหมล่ะ คราวนี้ถ้ามึงชนะ...อยากได้ของกำนัลเป็นอะไรก็บอกมาได้เลย” ปั้นจั่นมุดรอดจากวงแขนกองทัพแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา แววตาสีเข้มเลื่อนมาปะทะที่ร่างเด็กตัวเล็กทันที เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอาจเพราะจำปั้นจั่นไม่ได้ ถึงแม้จะเคยเจอกันมาแล้วก็ตาม...แต่พอเห็นใบหน้าดุดัน แต่โคตรจะสวยของเด็กในอ้อมแขนของศัตรูคู่อริ ใบหน้าเจ้าเล่ห์ก็แผลงฤทธิ์ในทันที

“ว้าว ใครวะ...โคตรน่ากิน”

“ไอ้บ้า! มีสิทธิ์อะไรมองคนอื่นด้วยสายตาบะ... อื้อออ!!” ฝ่ามือหนายกขึ้นมาปิดริมฝีปากคนตัวเล็กตรงหน้าทันทีก่อนที่ปั้นจั่นจะทำเสียเรื่องมากไปกว่านี้

‘คิรินทร์’ ยกยิ้มมุมปากราวกับเจอของถูกใจ สายตาคมกริบมองแค่ใบหน้าแสนดื้อของปั้นจั่นเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่ากองทัพกำลังจะพูดข้อตกลงอะไร สิ่งเดียวที่เขาต้องการคืนนี้... ก็คือเด็กขี้พยศตรงหน้าคนเดียวเพียงเท่านั้น!!!

“เอาแบบนี้แล้วกัน” คิรินทร์อมยิ้มแล้วเงยขึ้นมาพูดกับกองทัพที่กำลังยืนยื้อรั้งกับปั้นจั่นอยู่แบบนั้น กองทัพเงยขึ้นมามองหน้าเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้ตอบโต้อะไร

“…”

“ถ้าครั้งนี้กูชนะมึง เอาเด็กคนนี้เป็นของเดิมพัน” คำพูดของคิรินทร์ทำเอาปั้นจั่นชะงักกึก! ดวงตาเรียวตี่ ๆ เท่าเมล็ดถั่วเบิกกว้างมากเท่าที่มันจะกว้างได้ ปั้นจั่นจับฝ่ามือของกองทัพที่ทาบบนริมฝีปากเขาทันที คนตัวเล็กกว่าส่ายหน้าหวืดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองคนรักด้วยสายตาขอร้องปนอ้อนวอน แต่ทว่า กองทัพกลับเหยียดยิ้มส่งให้แทน จากนั้นเขาก็เลื่อนสายตาไปมองอีกฝ่ายที่ยืนกอดอกอมยิ้มอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

“เอาสิ ถ้ามึงชนะ... กูยอมยกเมียให้มึงเลย”

“!!!”

วินาทีนั้น...ปั้นจั่นเหมือนโดนคนที่รักมากที่สุดคนหนึ่ง ใช้ปลายเท้าขยี้หัวใจของเขา ให้จมไปกับพื้นดินเลย!

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ Coffe'

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ