Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย l YAOI

ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย l YAOI

ElGSi

5.0
ความคิดเห็น
1.6K
ชม
13
บท

“เจ้าชายผู้สง่างาม ซ่อนความเร่าร้อนไว้ใต้รอยยิ้ม” “มาเฟียผู้โหดเหี้ยม กลับอ่อนโยนเพียงกับเจ้าชายในคราบเจ้าสาว” “รักต้องห้ามที่ผลิบาน ท่ามกลางไฟสงครามและเงาดำของอำนาจ” “เมื่อรัชทายาทผู้เลอโฉม ต้องสลับตัวกับเจ้าสาวมาเฟีย ชะตากรรมของทั้งคู่จึงพลิกผัน” “หนึ่งคือเจ้าชายผู้เรียบร้อย อีกหนึ่งคือมาเฟียผู้โหดเหี้ยม รักครั้งนี้จะเป็นไปได้หรือไม่?” “ติดตามเรื่องราวความรักสุดอลหม่าน ชวนให้ลุ้นระทึก ไปพร้อมกับความฟินจิกหมอน ใน ‘ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย’”

บทที่ 0 Prologue

งานรื่นเริงที่ไม่ได้เห็นบ่อยนัก เพราะสถานที่จัดงานไม่ใช่สถานที่ที่ตาสีตาสาจะเข้ามาวิ่งเล่นได้ ต่อให้มีเงินเป็นแสนล้านก็ถูกโยนออกไปได้ง่ายๆ

วงออร์เคสตรามือหนึ่งกำลังบรรเลงเพลงแจ๊สพอให้ได้เต้นรำหรือขยับตัวเล็กน้อย แสงไฟสว่างทำให้เห็นความหรูหราของเครื่องใช้และสถานที่ระดับลักชัวรี่ที่ประดับตกแต่งด้วยสีเขียวอ่อน ผู้คนที่มียศถาบรรดาศักดิ์ทั้งหญิงชายแต่งกายด้วยชุดสูทชุดราตรีสีไข่ไก่และสีใบตอง

ห้องโถงโอ่อ่าตามแบบพระราชวังตะวันตก ตามพนังมีตราสัญลักษณ์ ธงชาติสีเขียวล้วนมีรูปหนังสือกางออกสีน้ำตาลตรงกลางเป็นเครื่องแสดงเอกราชของ 'รัฐซูส’

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…” เจ้าของเสียงนุ่มถือไมค์โครโฟนด้วยท่าทีสง่างามสมกับที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

บันไดวนที่มีทางแยกสองทางด้านบน จุดดึงดูดสายตาติดป้ายต้อนรับการกลับมาขององค์รัชทายาทจากอังกฤษ ณ จุดกึ่งกลางบันไดปรากฏร่างเจ้าของผมดำเงา ระดับความยาวเหนือใบหู ดวงตาเล็กแบบคนจีนสีดำประกาย จมูกเล็กที่ไม่ค่อยมีสันแต่ก็รับกับใบหน้ารูปไข่ได้อย่างเหมาะเจาะ ปากจิ้มลิ้มสีเชอร์รี่ที่เป็นทรงเด่นชัด ผิวขาวเนียนละเอียดอมชมพูราวกับกินคอลลาเจนแทนข้าวเป็นอาหารหลัก เสื้อผ้าแบรนด์เนมสไตล์เจ้าชายที่ถูกตัดเย็บมาเป็นอย่างดีทั้งเสื้อเชิ้ตด้านในสีครีมขาวและเสื้อกั๊กตัวนอกสีตองอ่อน กางเกงทรงกระบอกสีนวลที่ถูกรีดให้เรียบจนขึ้นเส้น กับรองเท้าขาวขัดเงา และนาฬิกาข้อมือเรือนหลายร้อยล้าน บ่งบอกว่าผู้สวมใส่ไม่ธรรมดา

“ขอให้ทุกท่าน…” องค์รัชทายาทพูดไปยิ้มไปเห็นฟันขาวเรียงสวย สะกดทุกสายตา

“เจ้าชาย!!!” เสียงแหลมของแขกสาวนิรนามที่ยืนมองอยู่ด้านล่าง ตะโกนโพล่งขึ้นมากลางวง ไม่สนใจว่าเจ้าของงานจะกล่าวจบไหม

กึก!

บรรยากาศอันน่าภิรมย์ในงานเลี้ยง แปรเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ ทหารและองครักษ์น้อยใหญ่โดยรอบ จับจ้องเจ้าของเสียงแผดแหลมเป็นตาเดียว

“ไม่สิ องค์รัชทายาท ‘กรีน’ ...” สาววัยกลางคนในชุดราตรีขาว รอยยิ้มแสยะร้ายยกขึ้นเหนือริมฝีปากแดง

……

กรีน พาร์ท

“เราขอขอบใจพวกท่านทั้งหลายที่พร้อมใจกันมาเพื่อต้อนรับเราในวันนี้…”

ดูๆ ดูทำหน้าเข้า สายตาที่จับจ้องมาที่ผมอย่างชื่นชมกว่าร้อยคู่ อ่าห์ ผมรับรู้ได้ถึงความสุขของการยืนบนจุดสูงสุดซะแล้ว เพิ่งเริ่มงานแท้ๆ

มีคำกล่าวจากอดุซ นักปราชญ์ชาวนีโอลีนกล่าวว่า ความสุขของคนซื้อไม่ได้ด้วยเงินแต่เป็นอำนาจและบารมี ก็นะ ถึงสุดท้ายนักปราชญ์คนนี้จะอดตายข้างถนนก็เถอะ

แต่แล้วยังไงล่ะ! ความสุขมันก็ดีอย่างนี้จริงๆนั่นแหละ

พวกผู้รากมากดีที่วันวันเอาแต่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ต่างซ่อนสายตาชื่นชมเปรมปรีภายใต้หน้ากากเหล่านั้นไม่มิด ยังไม่ต้องยิงฟ้ายิงตะวันให้พวกเขาดูผมยังฟินสุดๆ

ไมค์โครโฟนในมือจับมั่นไม่มีร่วง วาจาเปล่งออกฉะฉาน อย่า...อย่าเพิ่งชื่นชมอิจจากันนะครับ มันเป็นแค่เรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วย เลยล่ะ

ก็นะ ผมยังจำฝันร้ายอันยาวนานจากบรรดาวิชาบุคลิกภาพได้ดี ผมอยู่กับมันมากกว่าวิชาเช็ดก้นอย่างวิชาบริหารเสียอีก

.

.

.

8ปีที่แล้ว...

“หลังตรงเพคะ”

คุณนายท่านทูตที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระราชาให้เป็นคนสอนวิชาบุคลิกได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง จากแปดขวบจนถึงตอนนี้ ผมเห็นนรกเลยล่ะ

"ยัยป้าโหด" ผมบ่นพึมพำ หลังจากที่ถูกฝึกมากว่าสองชั่วโมง

"องค์ชายตรัสว่ากระไรนะเพคะ"

"..." ยิ้มน้อยๆ แล้วส่ายหัวด้วยสีหน้าเด็กน้อยใสซื่อ

"หลังตรงเพคะ"

“ครับ” หน้าเชิด ยืดหลังยืนตรง แววตามุ่งมั่นสะท้อนผ่านตาคมในกระจกบานใหญ่

“ยิ้มมากกว่านี้เพคะ รอยยิ้มห้ามตกเพคะ”

ยัยป้าโหดไม่ต้องยืนซ้อนหลังเหมือนจะสิงผมก็ได้นะ แค่ฝึกปราศัย ป้ามองจากกระจกสะท้อนบานใหญ่ข้างหน้าก็ได้ไหม

“ครับ”

ฟุ่บ!

“เฮ้อ…”

นี่สิบสี่หรือสี่สิบ ขาผมทรุดลงไปกองกับพื้นแล้ว กว่ายัยป้าโหดจะปิดประตูเดินออกจากห้องไป เกือบตาย ผมว่าหน้าผมก็ดูเหนื่อยอยู่นะ ยัยป้านั่นมองไม่ออกหรือไม่มีหัวใจกันแน่

โหดเกินไปแล้ว

“วิชาบุคลิกภาพจบตอนบ่ายสอง วิชากฎหมายตอน สี่โมงเย็น งั้นก็แปลว่า…”

โอ้โหหัวแล่นเลยครับ ตาผมนี่เป็นประกายวิ้งๆ หน่งเหนื่อยอะไร ไม่มีหรอก ผมนี่พลังช้างศาลรีบลุกวิ่งออกไปจากห้องด้วยความเร็วแสง แต่...ก็ต้องหันขวับๆดูลุ่ทางด้วยนะ

หมับ!

โอ้โห สุดยอด

ถึงผมจะหอบแหกๆอยู่หลังเสาปูนต้นใหญ่ แต่สถานการณ์ที่ลานกว้างกลางแดดมันยั่วยวนจนน้ำลายแทบใหล ชายฉกรรจ์สิบกว่าคนกำลังส่งเสียงอย่างห้าวหาญ กล้ามอกแน่นๆที่เปลอะเปื้อนไปด้วยเม็ดเหงือใต้ชุดเกราะนั่นอีก

“ทุกคนจับคู่สอง ฝึกด้วยดาบจริง ใครแพ้หรือมีรอยขีดข่วน งดข้าวเย็น!” ครูฝึกตะโกน

“รับทราบครับ!” เหล่าองครักษ์ตอบรับเสียงแน่น ก่อนจะแยกกันไปฝึกตามคำสั่ง

"หึหึ เรียนที่นี่จริงๆ ด้วย เรานี่จำแม่นจริง นั่นไง...สมกับที่เราแอบตั้งฉายาให้ว่าครูฝึกตุ๊ต๊ะ ขนาดสอนฟันดาบ ไขมันรอบเอวยังออกมาวิ่งเล่นเลย ฮ่าๆ" ทำสีหน้าสิ้นหวัง "ว่าแต่...เราจะมีโอกาสได้เรียนวิชาพวกนี้บ้างไหมน้า~"

บอกเลยว่าตารางเรียนต่อสู้กับฟันดาบของพวกองครักษ์ผมจำได้แม่นเสียยิ่งกว่ากฎหมายกับข้อมารยาทเสียอีก ขอแค่มีเวลาสักแว๊บรับรองไม่มีพลาด

ผมเองก็อยากเรียนฟันดาบบ้างจังเลย อย่างเท่!

.

.

.

“ขอให้ทุกท่าน…”

เพิ่งถึงรัฐซูสไม่กี่ชั่วโมงต้องถ่อมาปั้นหน้าในงานเลี้ยงอีกแล้ว มิน่าล่ะ เจ้าน้องชายที่จะเรียนจบปีหน้ามันถึงทิ้งท้ายคำลาว่า โชคดีนะพี่

ผมมองบรรยากาศในงานและผู้คนแปลกหน้าเกินครึ่งที่ไม่ได้รู้จักมักจี่แต่อย่างใด

มาทำไมกันก็ไม่รู้ ไม่เห็นรู้จักสักคน มาเดินลอยหน้าลอยตาเป็นงานรับถุงยังชีพไปได้

ยังไงผมก็เก่งมากที่เก็บอารมณ์ได้ดี แค่ยิ้มตามที่เรียนมา พูดจาตามมารยาท ต้อนรับและเฟรนลี่กับทุกคน แค่นี้ก็เรียบร้อย อ่าห์...ยังในสายตาชื่นชมเหล่านั้นก็ไม่ได้แย่ เป็นการปลอบประโลมใจที่ดีมากจริงๆ

เอ๊ะ...ทำไมตาขวากระตุกถี่ๆ

กึก!

“เจ้าชายกรีน!"

ว่าแล้วว่าทำไมตาขวากระตุกดิ้กๆ

หญิงสาวในชุดราตรีสีไข่ไก่ แต่กระเป๋าที่มือขวากำลังถืออยู่สีแดงสด ราวกับไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มกำลังมองซ้ายมองขวาอย่างภูมิอกภูมิใจ

คนกำลังฟิน มาขวางทำไมเนี่ย

"ไม่สิ…ตอนนี้องค์รัชทายาทกรีนก็จบการปกครองจากอังกฤษแล้ว องค์รัชทายาทมีแพลนจะทำสิ่งใดต่อไปหรือเพคะ”

ผมยิ้มสงบอย่างเป็นมิตร รับฟังอย่างผู้ดีมีมารยาทดีเลิศ ไม่แย่งพูด ไม่โต้แย้ง รับฟังอย่างใจเย็น แม้จะแอบจิกนิ้วโป้งตัวเองอยู่ก็ตาม

ยัยป้า ยัยมนุษย์ป้า เบ้าหน้าอย่างกับขูดแป้งทั้งโลกไปพอกไว้ แต่งตัวไม่เหมาะกับวัยเลยนะป้า คิดว่าตัวเองเป็นสาวสวยเหรอ แล้วปากกับมารยาทแย่ๆ นั่นน่ะ รับหมัดซ้ายกับหมัดขวาเป็นการสั่งสอนหน่อยไหม เผื่อนิสัยจะดีขึ้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ElGSi

ข้อมูลเพิ่มเติม
เบียร์จะกินไวน์

เบียร์จะกินไวน์

นิยายวาย

5.0

ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

ท่านอ๋องสามีข้าเป็นบ้า

โรแมนติก

5.0

เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

ก็บอกว่าไม่ใช่พระรองไงฟ้ะ

นิยายวาย

5.0

เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

Devy Tseko
5.0

พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ถึงป๋าดุ(ดัน)หนูก็ไหว

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เมื่อผู้หญิงที่เพื่อนๆ ตั้งสมญานามว่าแม่ชีอย่างเธอจับพลัดจับผลูต้องมาเจอกับผู้ชายหน้านิ่งที่เอะอะกอด เอะอะจูบอย่างเขา อา…แล้วพ่อคุณก็ดันเป็นโรคนอนไม่หลับ จะต้องนอนกอดเธอเท่านั้นด้วย แบบนี้เธอจะเอาตัวรอดได้ยังไงล่ะ “ชอบอาหารเหนือไหม” “ชอบมากเลยคุณ ให้กินทุกวันยังได้เลย” “มากพอจะอยู่ที่นี่ไหม” “แค่กๆๆ” …………… …………………………………………………………………………………………………………………………. “คุณ! เอากระบอกไฟฉายออกไปวางที่อื่นก่อนได้ไหม มันดันหลังฉัน ฉันนอนไม่หลับ” คนที่ใกล้จะหลับบอกเสียงอู้อี้ “เอ้อ! ไม่มีนี่” เขาบอกเสียงอึกอัก “มันจะไม่มีได้ไง ก็มันดันหลังฉันอยู่เนี่ย” เธอมั่นใจว่ามีแน่ๆ ก็หลักฐานมันทนโท่ขนาดนี้ “อืม! นอนเถอะ ไม่มีหรอก” “จะไม่มีได้ไง ก็นี่ไง” คุณเธอยืนยันด้วยการคว้าหมับเข้าให้ พร้อมหันกลับมา หวังงัดหลักฐานที่อยู่ในมือมาพิสูจน์ให้ได้เห็นกันจะๆ คาตา แต่… ตึก ตึก ตึก อา…! ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คาตา แต่ยังคามือเธอด้วย เธออ้าปากตาค้างราวกับกำลังตกตะลึงสุดขีด ก่อนจะก้มมองไอ้ที่คิดว่าเป็นกระบอกไฟฉายในมือสลับกับเงยหน้ามองเขา จากนั้นก็… “กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับยื่นเท้าถีบออกไปสุดแรง ตุบ! คนไม่ทันตั้งตัวร่วงตุ้บลงไปบนพื้น ครั้นพอจะลุกขึ้น คุณเธอก็ตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมาอีก “หยุดอยู่ตรงนั้นเลยนะไอ้คนลามก คนเลว คุณมันทุเรศที่สุด คุณให้ฉันจับไอ้นั่นของคุณ มัน…อี๋…! เธอพูดพลางทำท่าขยะแขยง แล้วมาส่องกระบอกไฟฉายพ่อเลี้ยงพร้อมกันนะคะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ