Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ดื้อรัก (เด็กดื้อ)

ดื้อรัก (เด็กดื้อ)

Honey Orapim

5.0
ความคิดเห็น
7.3K
ชม
66
บท

“โอ๋ๆ เจ็บหรอ งั้นทีหลังต้องเป็นเด็กดี ห้ามเถียงรู้มั้ยคะ หืม...” นิรดาสอนเด็กโข่งเสียงอ่อนเสียงหวาน ก่อนจะจับแก้มสากหันไปมาแรงๆ แววตาสะใจสบกับแววตาโกรธแค้นของชายหนุ่มอย่างไม่ยี่หระ ----------------- “ก็หนูชอบว่าพี่โรคจิตหื่นกามไม่ใช่เหรอ พี่ก็อยากลองเป็นแบบที่หนูว่าอยู่เหมือนกัน หนูไม่ชอบคนใจดีนี่ ใช่ไหม” เขาย้อนถาม ---------------- “นุ่มจ๋า...” “อาราย นุ่มง่วงแล้วน้า...” ว่าเสียงยานคาง พร้อมทั้งปัดป่ายมือบางไปมาบนอกแกร่ง “หม่ำๆ ทีสิคะ” “หือ!” นิรดาตาสว่างขึ้นมาทันใด ความงัวเงียหายไปเป็นปลิดทิ้ง “ไม่เอา!” “น่านะ นิดเดียว” “ไม่เอา นุ่มขี้เกียจ” หญิงสาวพลิกกายหนีไปอีกด้านอย่างคนงอแง แม้ในใจกำลังลุ้นระทึกตึกๆ อยู่ก็ตาม “นิดเดียวนะ ให้พี่หม่ำหน่อย” “เดี๋ยวก็เป็นตาแก่บ้ากามจริงๆ หรอก” “บ้าก็บ้าสิ หันมานี่สิคะคนดี” ธารนทีพยายามดึงผ้าห่มหนาที่กลายเป็นที่ซ่อนตัวให้คนตัวเล็กออกไป แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่ออีกคนงอแงไม่ยอมท่าเดียว “อย่า ตัวหม่ำไปเยอะแล้ว” “ก็วันนี้ยังไม่ได้หม่ำเลยนี่ น่า นิดเดียว เอ้! หนูนุ่มนี่ อย่าดื้อสิคะ” เขาจับเธอพ้นออกมาจนได้ สายตาตรึงบังคับไม่ให้ขยับหนี แล้วพ่อตัวดีก็ค่อยๆ...

บทที่ 1 เด็กดื้อ

เธอทั้งดื้อทั้งซน และเขาก็บอกตัวเองว่า จะกำราบเธอให้อยู่หมัด

------------

ใบหน้าน่ารักที่เชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งถือดี และไม่มีท่าทีสะทกสะท้านต่อคำบอกคำสอนใดๆ นั้น แทบจะทำให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้าม ทะยานเข้าไปฉุดให้ลุกขึ้นยืนและฟาดไม้เรียวลงบนสะโพกงอนๆ งามๆ สักสองสามที เผื่อแม่ตัวดีจะสำนึกอะไรขึ้นมาได้บ้าง ไม่ใช่มีแต่หาเรื่องหาราวให้เขากับภรรยาต้องปวดเศียรเวียนเกล้าหลายครั้งหลายคราอยู่แบบนี้

นนท์ สิริลดาวงศ์ เป็นคุณพ่อวัยเกือบกลางคนที่ยังคงหนุ่มแน่นของเด็กสาวคนที่กำลังนั่งกอดอกอยู่ตรงหน้า ยัยตัวแสบของเขากลอกตาไปมาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างน่าตีมากๆ

ทั้งที่เขาไม่เคยเลี้ยงดูแบบตามใจอะไรมากเลยสักนิด แต่ทำไมยัยลูกบังเกิดเกล้าคนนี้ถึงได้ดื้อรั้น ไม่ฟังใคร เอาแต่ใจ แถมยังเอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่แบบสุดๆ อีกต่างหาก

เชื่อเถอะว่าถ้า นิตยา ภรรยาคนสวยของเขา กลับมาจากข้างนอกแล้วได้รู้เรื่องราวที่ลูกสาวสุดที่รักไปก่อเอาไว้ คงได้เป็นลมล้มพับไปแน่ๆ

“ที่พ่อพูดพ่อบอกไปเนี่ย เราไม่สนใจฟังเลยใช่มั้ยหนูนุ่ม”

ผู้ชายอบอุ่นที่สุดของบ้านเอ่ยถามอย่างระงับอารมณ์ฉุนเฉียว แน่นอนว่าโดยพื้นฐานนิสัย เขาไม่ใช่คนใจเย็นอะไรมากมาย เพราะอย่างนั้นเชื้อใจร้อนและเจ้าอารมณ์จึงถ่ายทอดไปยังสายเลือดคนนี้ได้เต็มที่ เรียกว่าเต็มที่เกินไปด้วยซ้ำ

“นุ่มฟังค่ะ ก็คุณพ่อบังคับให้นุ่มนั่งฟังนิ่งๆ ไม่ให้เถียง ไม่ให้ไปไหน แล้วคุณพ่อจะมาว่านุ่มไม่ตั้งใจฟังทำไมคะ”

หนูนุ่ม หรือ นางสาวนิรดา สิริลดาวงศ์ วัยสิบแปดปี เถียงออกมาในที่สุด หลังจากนั่งฟังพระบิดาเทศนาไปหลายกัณฑ์

“แล้วจะปรับตัวใหม่มั้ย รับปากพ่อก่อนว่าจะไม่ทำอะไรไม่เข้าท่าแบบนี้อีก”

“นุ่มไม่รับปากอะไรทั้งนั้นค่ะ ถ้าใครกล้ามาหือหรือรังแกนุ่ม นุ่มไม่ปล่อยมันไว้ทั้งนั้น”

สาวน้อยคนงามเริ่มหน้าบูดเป็นตูดเป็ดเมื่อถูกตำหนิซ้ำๆ ซากๆ ในสิ่งที่เธอคิดว่าไม่ได้เป็นความผิดของตนทั้งหมด หรือหากจะผิด เธอก็ไม่ชอบเลยสักนิดที่จะต้องโดนดุ แม้ท่าทีจะยียวนเหมือนไม่ได้เกรงกลัวบทลงโทษของบิดา แต่ทว่าในใจนั้นลุ้นยิ่งกว่าผลสอบโอเน็ต

แอบปรายสายตามองไปยังไม้เรียวที่ถูกเก็บไว้ในซอกหนึ่งของห้องรับแขกเป็นระยะ ภาวนาว่าขอพ่ออย่าได้เดินไปหยิบมันมาวางใกล้เธอเลย

“หนูนุ่ม...พ่อเตือนเราแล้วนะ” เสียงบิดาเย็นยะเยือกจนขนบนผิวกายบางใสลุกซู่

ไอ้กลัวก็กลัวอยู่ แต่จะให้ยอมแพ้แม่สาวน้อยก็คิดหนัก เธอไม่ได้เป็นคนผิดก่อนจริงๆ นี่ ที่ทำไปน่ะมันสมควรแล้ว

“ถ้าคุณพ่อจะตีนุ่ม ก็ตีเลยค่ะ ยังไงนุ่มก็จะไม่สำนึก และไม่มีทางไปขอโทษมันด้วย นุ่มไม่ผิด” ลองเสี่ยงดู จ้างให้พ่อก็ไม่กล้าตีหรอก ไม้เรียวมีไว้แค่ใช้ขู่หรอกน่า แต่ดูท่า…เธอคงคิดผิด

ร่างสูงผุดลุกขึ้น เดินลิ่วๆ ไปฉวยไม้เรียวยาวขนาดใหญ่เท่าสายไฟเตารีดแล้วเดินกลับมาทันที ใบหน้าที่ยังมีเค้าความหล่อเหลาไม่จาง แดงก่ำด้วยถึงซึ่งจุดเดือด เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวสุดที่รักที่ใครต่างมองว่าเป็นสาวน้อยบริสุทธิ์แสนดีจะร้ายกาจและแย่ถึงเพียงนี้ ทั้งที่มีพ่อและแม่คอยสั่งสอนสิ่งดีๆ เสมอมา

“ลุกขึ้นมา ในเมื่อพูดไม่ฟัง พ่อก็จะไม่ใจดีกับเราอีก”

เสียงประกาศิตที่เอ่ยกร้าวออกมา ทำให้ใบหน้าที่เชิดอยู่ก่อนนั้นหดลงจนเหลือไม่ถึงสองนิ้ว เอาจริงหรือนี่!

“พ่อบอกให้ลุกขึ้น!” นนท์ประกาศกร้าว ความโมโหโกรธาที่เลี้ยงลูกไม่ได้ดั่งใจ ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความเจ็บปวดในหัวอกพ่อ ที่รู้สึกว่าตนเลี้ยงลูกมาได้ไม่ดีพอ นิรดาจึงก่อปัญหาให้ตามแก้ไม่จบไม่สิ้น

ผลัวะ! ผลัวะ! ผลัวะ!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Honey Orapim

ข้อมูลเพิ่มเติม
เอ๋อรัก (เด็กบ๊อง)

เอ๋อรัก (เด็กบ๊อง)

โรแมนติก

5.0

ภาคต่อ ดื้อรัก (เด็กดื้อ) แต่แยกอ่านได้ไม่งงนะคะ * เด็กเอ๋อแถมสติไม่สมประกอบ ที่กำลังก่อกวนให้หัวใจคนไม่เอาถ่านเต้นไม่เป็นจังหวะ * “พี่โจมองอะไรเหรอคะ” “มองคน” “หนูไม่เห็นใครเลย” เพราะนิรตานั้นไม่ได้สนใจอะไร เธอจึงไม่คิดฟังว่าใครพูดถึงใคร ต่างกับเตชัสผู้ถูกพาดพิงที่ได้ยินชัดแจ๋วเต็มสองรูหู “เมื่อกี้มันมีคนบ้าแอบนินทาพี่” “นินทาคืออะไร...” “พูดถึงลับหลังในทางที่ไม่ดี” “ก็เลยโกรธเหรอคะ” “ใช่” “พี่โจต้องไม่โกรธนะคะ โบราณเขาถือว่า โกรธคือโง่ โมโหคือโง้โง่ค่ะ” ----------------- “เอาใหญ่แล้วนะหนูนิ่ม เห็นพี่ยอมหน่อยแล้วไม่เกรงใจ เดี๋ยวเหอะ” “ก็พี่โจ...” นิรตาทำท่าจะเถียง ก่อนจะหน้าหงอยลงเมื่อเขาทำหน้าดุใส่ทั้งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดแท้ๆ “เดี๋ยวจะโดน ไม่โดนสักทีไม่ดีขึ้นเลย” “โดนอะไรคะ” “ไม่บอก” นิรตาได้ยินเช่นนั้นก็จะลุกขึ้นเพื่อว่าจะกลับบ้าน แต่เตชัสก็คว้าเอวเธอไว้และดึงให้นั่งลงบนตักแกร่งเสียก่อน แม้สาวน้อยจะพยายามดิ้นบิดกายออกห่าง แต่เขาก็กระชับอ้อมแขนกอดรัดแน่นขึ้น “โกรธเหรอ...โกรธคือโง่ โมโหคือโง้โง่นะ” ว่าจบก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อเห็นใบหน้าหวานสวยนั้นงงงวยผสมกับความมุ่ยๆ เหมือนงอนๆ ใบหน้าของนิรตาตอนนี้ทำให้เขาบรรยายไม่ถูก รู้แต่ว่าเห็นแล้วขำอีหลี * ซีรีส์ในชุดยังไงก็รัก 1. ดื้อรัก (เด็กดื้อ) - ตีพิมพ์และวางแผง ต.ค.2560 (ทำมือ) #6 2. เอ๋อรัก (เด็กบ๊อง) - ตีพิมพ์และวางแผง ก.ค.2566 (ทำมือ) #16 3. รักนะคะคนเถื่อนของฉัน - ตีพิมพ์และวางแผง ส.ค.2559 (ทำมือ) #5

ดันรัก

ดันรัก

โรแมนติก

5.0

ดันรัก (เจ้จ๋า+ไอ้เป๊ก) “ผมชอบแบบนี้ ชอบสาวอวบ” “เค้าอ้วนหรอ” รอยยิ้มที่มีบนใบหน้าสวยจางลงไป เมื่อได้ยินแบบนั้น ทำให้กังวลขึ้นมาอีกว่าตัวเองอ้วนเผละขึ้นมาแล้วหรืออย่างไร “เปล่า ไม่ได้อ้วนเลย แต่อวบตรงนี้” เขาขยำมือลงไปตรงจุดที่ว่า อวบตรงนี้ ทำเอาคนโดนกระทำต้องบิดกายหลบน้อยๆ ด้วยความเขินอาย “อวบเป็นส่วนๆ อะ” “คนบ้า ปล่อยเลยนะ” จารุณาพยายามดึงมือเขาออกจากจุดอันตรายช่วงบน แต่ดูเหมือนคนที่เด็กกว่าจะไม่นำพาแรงขัดขืนเท่ามดนั้น -------------------- ดันรัก 2 (พิกเจอร์+ป๊อกจี้) “งั้นสัญญากับพี่ได้ไหมคะ ว่าต่อไปนี้จีจี้จะไม่เอาแต่ใจ แล้วจากนี้และตลอดไปก็จะให้พี่เอาแต่เรา” เปรมยุดายกมือขึ้นปิดปากหยักทันทีเมื่อเขาเอ่ยจบ เกรงว่าจะได้ฟังคำพูดห่ามๆ อย่างอื่นอีก นี่มันคืนแต่งงานบ้านไหนเนี่ย เธอต้องมานอนตัวแดงหน้าแดงฟังเขารำพันอะไรเสี่ยวๆ “อายอะไร พูดความจริง ตอบมา สัญญา” รัตนทัตไม่ยอมให้แม่เมียตัวน้อยปฏิเสธ และระหว่างที่เธอเม้มปากแน่นไม่ยอมเอื้อมเอ่ย มือหนาก็ลูบไล้ไล่สัมผัสไปถึงไหนต่อไป คนที่ตั้งใจว่าจะไม่คุยกับเขาแล้วเพราะกลัวเขาจะพูดทะลึ่งตึงตังเลยจำต้องอ้าปาก “พี่พิก พอแล้วค่ะ” ประท้วงเขาเบาๆ เมื่อเห็นว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำนั้นตรงข้ามกับคำที่บอกเธอว่าเหนื่อยและไม่มีแรงไปมากโข “พออะไรครับ หืม” ยังจะมาย้อนถามอีกนะคนบ้ากามนี่! ก็รู้ว่าเขามีสิทธิ์ ไม่ได้คิดจะปฏิเสธความต้องการของเขาหรอก แต่เปรมยุดาอยากรู้จริงๆ ว่าผู้ชายเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่า หรือเฉพาะพี่พิกเท่านั้น เลยอดถามเขาไม่ได้ว่า “ทำไมพี่พิกถึงได้หมกมุ่นกับเรื่องบนเตียงจังคะ” “งั้นเปลี่ยนไปที่ระเบียงไหมล่ะ”

มิตรพิศวาส (คุณเพื่อน ยอดยาหยี)

มิตรพิศวาส (คุณเพื่อน ยอดยาหยี)

โรแมนติก

5.0

"จะออกไปไหนน่ะเล่ย์ ข้างนอกอากาศเย็น เล่ย์ไม่สบายอยู่นะ" เธอบอกเสียงอ่อนโยน "เรื่องของเล่ย์ เล่ย์ก็จะไปตามประสาคนโสด" เขาตอบอย่างงอนๆ "เป็นอะไรอีกฮะ อย่ามาเอาแต่ใจกับลินนะ ลินไม่ชอบ" บอกเสียงเข้ม พลางจ้องหน้าเขาเขม็ง "ใครจะไปดีเหมือนไอ้นพล่ะ" "หยุดพูดถึงนพแบบนั้นนะ ทำไมเล่ย์ต้องพาดพิงถึงเค้า" "เล่ย์เป็นเพื่อนลิน เล่ย์ก็ต้องพูดถึงแฟนลินได้สิ ทำไม หรือเพื่อนคนนี้มันไม่มีสิทธิ์ ใช่สิ เล่ย์มันก็แค่เพื่อนนี่ เพื่อนที่ลินไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา" เขาว่าเธอระรัวอย่างที่ไม่เคยทำมานานแล้ว "นี่เล่ย์ไปกันใหญ่แล้วนะ นพเค้าไม่ใช่แฟนลิน นพเค้ามีคนรักอยู่แล้ว ทำไม เป็นเพื่อนลินมันไม่ดีตรงไหน หรืออยากจะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นผัวหรือไง ฮะ" พัฒนะอ้าปากค้าง หน้าขึ้นสีเข้มขึ้นมาทันใด เมื่อเจอคำพูดตรงไปตรงมาแบบนั้น ก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นเรียบเฉย เมื่อเข้าใจว่าเธอแค่หวง กลัวเขาจะไปเที่ยวเตร่เดินควงสาวอื่นๆ เหมือนที่แล้วๆ มา ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งมากมายกว่านั้น

Online on Love (รักได้ไหม เมื่อหัวใจออนไลน์ไปหาเธอ)

Online on Love (รักได้ไหม เมื่อหัวใจออนไลน์ไปหาเธอ)

โรแมนติก

5.0

“เป็นอะไร” เธอหันไปมองหน้าเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง ยังจะกล้ามาถามอีก! “พิมพ์ต่างหากที่ต้องถามคุณว่าคุณเป็นอะไร ทำไมต้องทำกับพิมพ์แบบนี้ พิมพ์ทำอะไรผิด” “ก็แต่งด้วยแล้วก็น่าจะพอใจ ยังจะต้องการอะไรอีก ทำไมแค่นี้ก็ต้องคิดเล็กคิดน้อย” “พิมพ์ไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย พิมพ์แค่ไม่เข้าใจ” “แล้วต้องการเข้าใจแบบไหน คิดเองเออเองจบแล้วนี่” เขาสวนกลับรวดเร็วจนเธออ้าปากค้าง ก็จริง เธอไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย ไม่เลยจริงๆ ตอนนี้เขาเหมือนคนแปลกหน้า ไม่ใช่คนที่เธอเคยรู้จักมาตลอดอีกแล้ว “งั้นเราก็คงไม่มีอะไรจะต้องคุยกันอีกแล้วค่ะ” เธอว่าก่อนจะลุกเดินหนีเขาเข้าไปในห้องนอน “ฮันนี่ ฟังผมก่อน” เขาตามมากระชากแขนไว้ให้เธอหยุดเดิน แต่เธอก็สะบัดออกและถอยห่างจากเขา “ไม่! พิมพ์จะกลับบ้าน พิมพ์ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว ฮือๆ” เธอตะโกนใส่หน้าเขาพร้อมอาการสะอึกสะอื้นที่ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง หันหลังเตรียมจะเดินไปที่โซนแต่งตัว เพื่อเก็บเสื้อผ้า ของที่เป็นของของเธอจริงๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่เขาซื้อให้ พิมพ์อรตั้งใจว่าจะขนกลับไปที่บ้านให้หมด ให้มันจบๆ กันไป แต่โซนิคที่โมโหจนเลือดขึ้นหน้า เดินมากระชากข้อมืออีกครั้งและตวาดด้วยความฉุนเฉียว “จะไปไหน!” “ปล่อยพิมพ์นะ อย่ามาทำกับพิมพ์เจ็บๆ แบบนี้ คุณไม่มีสิทธิ์” คำพูดของเธอทำให้เขาตาลุกวาว “ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ ดี! ก็ให้มันรู้ว่าผัวอย่างผมจะแตะต้องคุณไม่ได้” เขาว่าเสียงดุดันพร้อมกับกระชากร่างงามเข้ามาปะทะอกกว้าง แล้วรวบกอดเอาไว้แน่น

นางมารร้าย บำเรอรัก

นางมารร้าย บำเรอรัก

โรแมนติก

5.0

“ดีจัง” ซีลีนาผงกหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้เขา พร้อมทั้งคำพูดแปลกๆ เหมือนจะเป็นคนละเรื่อง ทำให้คิ้วเข้มได้รูปขมวดเข้าหากันด้วยความไม่เข้าใจ “ซินนี่ดีใจจังที่คุณห่วงซินนี่ คราวหลังถ้าซินนี่น้อยใจคุณอีก ซินนี่จะแกล้งกลับบ้านดึกๆ คุณจะได้รอและก็เป็นห่วง” ป้าบ! มือหนาฟาดลงบนสะโพกเด้งๆ นั้นทันทีที่หญิงสาวพูดจบ กวนประสาทจริงๆ ทำให้ชาวบ้านเขาอดหลับอดนอนยังไม่สำนึกอีก “อื้อ เจ็บ อย่าตีสิคะ จับตรงนี้ดีกว่า” มือบางจับมือหนาลงมาวางแหมะลงบนภูเขาก้อนใหญ่ ก่อนที่ฝ่ายสามีจะรีบชักมือออกหนี ไม่ต่างจากเจอของร้อน ตกใจเพื่อ? พิลึกจริงเชียว ก็จับอยู่ทุกวัน “ไปอาบน้ำได้แล้ว ดึกแล้วนะ จะได้นอนซะที” บอกพลางพยายามผลักร่างที่ทำท่าจะยั่วเขากลางดึก แต่ดูท่าทางแม่นางจะพยศขึ้นมาอีก กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าซีลีนาโกรธงอนอะไร “เอ็ดรังเกียจเหรอคะ ซินนี่เข้าใจว่าคุณชอบกลิ่นกายซินนี่เสียอีก ทุกทีซินนี่เห็นคุณหอมไปทุก...” “พอเถอะน่า” เขารีบหยุดคำพูดวาบหวิวที่พาให้ใจวาบหวาม ยามจินตนาการลงลึกไปในรายละเอียดตามคำเย้าที่เธอว่า

หมูตุ๋นอุ่นรัก

หมูตุ๋นอุ่นรัก

โรแมนติก

5.0

“อย่าคิดมาก” “แล้วคิสมั้ย” ขอโทษที่เธอปากไวไปหน่อยนะ จะเขินย้อนหลังก็ไม่ทันแล้วมั้ง “หือ?” “คิสมั้ย” นี่แน่ะ! ย้ำให้มันชัดเจนกันไป ก็แค่พูดเฉยๆ นี่นา ไม่เป็นไรหรอกน่า “แน่ใจนะว่าอยากให้คิส” -------------- “โบนัสพนักงานดีเด่น” คงอยากตอบแทนที่เธอมาทำความสะอาดห้องให้ตลอดช่วงที่เรียนมาด้วยกันสินะ แม้จะดีใจมากแค่ไหนแต่ก็อดแซวเขาไม่ได้ “โบนัสมันก็ต้องเป็นตังค์สิ” “จะเอามั้ยล่ะ อยากได้กี่แสน” “อ่า เยอะไป จ้าวขอแค่ยี่สิบ” พูดจบก็ยื่นมือแบออกไปตรงหน้าเขา ก็เลยโดนฟาดฝ่ามือเบาๆ “ไปอาบน้ำได้นะ” จ้าวจันทร์ทำท่าทางครุ่นคิด พลันหวนนึกไปถึงเมื่อครั้งที่หลับคาทีวีแล้วน้ำไม่ได้อาบก็เลยพยักหน้าแล้วเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องของเขาอย่างว่าง่าย พอเข้ามาถึงก็ต้องแปลกใจที่เห็นว่าที่อ่างล้างหน้ามีผ้าขนหนูและแปรงสีฟันวางทับกันไว้ และมีโพสต์อิตแปะไว้ด้วยว่า “จั่นเจา” แม้เป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทำไมถึงทำให้เธอยิ้มกว้างได้มากขนาดนี้นะ โธ่เอ๊ย ที่แท้ก็แอบชอบเราเหมือนกันแน่ๆ เตรียมของส่วนตัวให้ขนาดนี้ไม่ใช่แฟนจะทำแทนได้อ่อ ไม่ชอบกันตรงไหนเอาปากกามาเคาะหัวเลยดิ ที่ผ่านมาคือมีใจชัวร์ ฟันธง! ---------------- ฝากหมูตุ๋นลูกแม่อวบพ่อคิง น้องชายของหมูน้อยไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะค้า ขอบคุณมากๆ เลยค่า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ประวัติศาสตร์

4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

โรแมนติก

5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ดื้อรัก (เด็กดื้อ)
1

บทที่ 1 เด็กดื้อ

05/03/2023

2

บทที่ 2 เด็กดื้อ (2)

05/03/2023

3

บทที่ 3 เด็กดื้อ (3)

05/03/2023

4

บทที่ 4 ผู้ชายอบอุ่น

05/03/2023

5

บทที่ 5 ผู้ชายอบอุ่น (2)

05/03/2023

6

บทที่ 6 ผู้ชายอบอุ่น (3)

05/03/2023

7

บทที่ 7 ผู้ชายอบอุ่น (4)

05/03/2023

8

บทที่ 8 ผู้ชายน่ารัก

05/03/2023

9

บทที่ 9 ผู้ชายน่ารัก (2)

05/03/2023

10

บทที่ 10 ผู้ชายน่ารัก (3)

05/03/2023

11

บทที่ 11 ผู้ชายน่ารัก (4)

05/03/2023

12

บทที่ 12 คนนิสัยเสีย

18/03/2023

13

บทที่ 13 คนนิสัยเสีย (2)

18/03/2023

14

บทที่ 14 คนนิสัยเสีย (3)

18/03/2023

15

บทที่ 15 คนนิสัยเสีย (4)

18/03/2023

16

บทที่ 16 คนนิสัยเสีย (5)

18/03/2023

17

บทที่ 17 เผด็จการ

18/03/2023

18

บทที่ 18 เผด็จการ (2)

18/03/2023

19

บทที่ 19 เผด็จการ (3)

18/03/2023

20

บทที่ 20 ไม่เคยจะหลาบจำ

18/03/2023

21

บทที่ 21 ไม่เคยจะหลาบจำ (2)

18/03/2023

22

บทที่ 22 ไม่เคยจะหลาบจำ (3)

18/03/2023

23

บทที่ 23 ไม่เคยจะหลาบจำ (4)

18/03/2023

24

บทที่ 24 แก้แค้นจนแทบสะอึก

18/03/2023

25

บทที่ 25 แก้แค้นจนแทบสะอึก (2)

18/03/2023

26

บทที่ 26 แก้แค้นจนแทบสะอึก (3)

18/03/2023

27

บทที่ 27 แก้แค้นจนแทบสะอึก (4)

18/03/2023

28

บทที่ 28 เอาคืนจนแทบกระอัก (เมื่อพี่น้ำเย็นกลายเป็นพี่น้ำเดือด)

18/03/2023

29

บทที่ 29 เอาคืนจนแทบกระอัก (เมื่อพี่น้ำเย็นกลายเป็นพี่น้ำเดือด) (2)

18/03/2023

30

บทที่ 30 เอาคืนจนแทบกระอัก (เมื่อพี่น้ำเย็นกลายเป็นพี่น้ำเดือด) (3)

18/03/2023

31

บทที่ 31 กายต่อกาย ใจต่อใจ

18/03/2023

32

บทที่ 32 กายต่อกาย ใจต่อใจ (2)

18/03/2023

33

บทที่ 33 กายต่อกาย ใจต่อใจ (3)

18/03/2023

34

บทที่ 34 กายต่อกาย ใจต่อใจ (4)

18/03/2023

35

บทที่ 35 กายต่อกาย ใจต่อใจ (5)

18/03/2023

36

บทที่ 36 กายต่อกาย ใจต่อใจ (6)

18/03/2023

37

บทที่ 37 กายต่อกาย ใจต่อใจ (7)

18/03/2023

38

บทที่ 38 พิษรักแรงหึง

18/03/2023

39

บทที่ 39 พิษรักแรงหึง (2)

18/03/2023

40

บทที่ 40 พิษรักแรงหึง (3)

18/03/2023