หวงรัก พันธะสวาท

หวงรัก พันธะสวาท

pamika_1995

5.0
ความคิดเห็น
120.2K
ชม
137
บท

“เลือกเอานะคะ ระหว่างความสุขของคุณกับชีวิตของสิปรางค์” กรกันต์รู้ว่านั่นไม่ใช่เพียงคำขู่ของคนอกหัก ทว่ามันคือคำอาฆาตของคนที่แค้นฝังใจต่างหาก มาร์ตินี่อีกแก้วจึงถูกสาดลงคออย่างรวดเร็ว ค่ำคืนนี้เขาที่จะใช้มันดับความทุกข์ทั้งหมดที่มี เครื่องดื่มมึนเมาทั้งหลายที่ถูกนำออกมาด้วยคงช่วยให้ลืมบางสิ่งบางอย่างได้อย่างไม่ยากเย็นนักลืม แต่ภาพที่เขาเห็นตรงหน้า สิปรางค์ยังคงก้มๆ เงยๆ อยู่ในห้องลองชุด หญิงสาวมาทำอะไรตรงนี้ ตอนนี้สี่ทุ่มกว่าแล้ว เธอควรพักผ่อนเพื่อใครอีกคนไม่ใช่หรือ? ด้วยความสงสัย บวกกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่แล่นพล่านในกระแสเลือด กรกันต์ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งนาทีก็หยุดอยู่ตรงหน้าเธอ กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนกึกทำให้สิปรางค์เงยหน้าขึ้นมอง “เฮีย” แต่พอเห็นสีหน้าแดงก่ำของเขา เธอก็ทำท่าจะผละหนี “เดี๋ยวสิ” กรกันต์รีบรั้งแขนเธอไว้ ขณะที่ชั่งใจอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุยกันก่อนได้ไหม” เขาขอร้องเสียงเครียด ทั้งปาก ทั้งตา มันสั่นไปหมด เพราะมั่นใจว่าหากปล่อยมือเธอไป โอกาสแบบนี้คงไม่มีอีกแล้ว สิปรางค์มองแววตาแดงก่ำของเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆ ออกมา “เราไม่มีอะไรต้องคุยกันค่ะ นี่ก็ดึกแล้ว...ปรางค์ขอตัวนะคะ” หญิงสาวตัดบทอย่างคนใจร้าย ไม่อาทรต่อความน้ำเสียงเว้าวอนของเขาของสักนิด ซ้ำร้ายยังสลัดมือเขาออกอย่างไร้เยื่อใย ในจังหวะที่กำลังจะหมุนตัวหนี จู่ๆ เขาก็พุ่งมากอดจากด้านหลัง “ปรางค์...” เขาพูดแค่นั้นก็เงียบหายไปหลายนาที ส่วนเธอก็ยังยืนยันเจตนาเดิม วันนี้หัวใจเเข็งแกร่งกว่าเมื่อวาน เพราะฉะนั้นความอบอุ่นจากลำแขนทั้งสองจึงไม่สามารถทำให้เธอหวั่นไหวได้อีก ในเมื่อเขาอยากกอด อยากยื้อให้ตัวเองเจ็บปวด...ก็ตามใจ “พรุ่งนี้...” กรกันต์พยายามบังคับเสียงตัวเองไม่ให้สั่น “เฮียจะเป็นของคนอื่นแล้ว เราจะคุยกันดีๆ สักครั้งไม่ได้เลยเหรอ?” “...” “หยุดทำตัวห่างเหิน หยุดทำเหมือนระหว่างเรามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันสักทีได้ไหม!” “แล้วเรายังมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันอีกคะ สายเลือดเดียวกันก็ไม่ใช่ เพื่อนกันก็ไม่ใช่ ยิ่งคนรัก...ก็ยิ่งไม่มีวันได้เป็น!” “แต่ปรางค์ท้อง...” เขาหยุดพูด ท่ามกลางความร้อนผ่าวที่หัวตาทั้งสอง “ลูกของเฮีย...อยู่ในนี้” มือหนากำลังเลื่อนลงไปหน้าท้องที่นูน ทว่ากลับถูกสิปรางค์ปัดออกอย่างรวดเร็ว “ห้ามแตะต้องเขานะ!” เธอพลิกตัวหนี สองมือโอบท้องตัวเองไว้ด้วยความหวงแหน สิปรางค์ไม่มีท่าทีแปลกใจสักนิดที่เขารู้ว่าเธอท้อง ถ้าเขาดูไม่ออกนี่สิ...คงเป็นเรื่องแปลกพิกล หูตาของกรกันต์มีไปทั่ว จนเธอคร้านกวาดตามองหา หากชายหนุ่มอยากรู้นัก เธอก็จะสนองความต้องการนั้นด้วยความจริงที่เขาจะทำได้แค่เพียงมอง... ทว่านาทีนั้นเองเธอเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีหยาดน้ำใสๆ เปรอะเปื้อนซีกแก้มด้านซ้ายของอีกฝ่าย เขาจะร้องไห้ทำไมกัน ในเมื่อคนถูกกระทำมาตลอด คือ เธอ! “คนใจร้าย...ห้ามแตะต้องหัวใจของปรางค์อีก!” อาการหวงแหนเกินเหตุนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่มมหาศาล กรกันต์ตัดสินใจขยับเท้าเข้าหา แต่พอเห็นเธอเตรียมขยับหนีราวกับรังเกียจกัน เขาจึงยืนนิ่ง “ปรางค์...” เสียงเขาอ่อนล้านัก อาจเพราะหัวใจมันแห้งเหือดมาหลายเดือน ความจงเกลียดจงชังที่เธอแสดงออก มันจึงส่งผลกระทบต่อหัวใจเขาอย่างจัง “เขาเป็นของปรางค์คนเดียว เฮียไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของเขาด้วยซ้ำ และการที่ปรางค์มาที่นี่ไม่ได้หมายความว่าปรางค์จะยอมเฮียทุกอย่างหรือจะขออะไรก็ได้ อย่าลืม...ว่าปรางค์ก็ยังเป็นปรางค์อยู่วันยังค่ำ เมื่อก่อนเคยร้ายยังไง วันนี้ก็จะเป็นอย่างงั้น ในเมื่อต่างคนต่างอยู่ไม่ได้ พรุ่งนี้เฮียก็คอยดูฤทธิ์เดชของผู้หญิงคนนี้ได้เลย” คำกล่าวของเธอไม่เกินจริงสักนิด สิปรางค์มาที่นี่เพราะหน้าที่และคำขอของผู้มีพระคุณก็เท่านั้น หากแต่กรกันต์ยังยื้อ ไม่ยอมปล่อยวางเรื่องระหว่างกันดังที่เคยพูด พรุ่งนี้เธอก็จะทำให้เขาเห็นว่าการไม่รักษาคำพูดเป็นอย่างไร “ปรางค์จะทำอะไร” สายตาของเขาเต็มไปด้วยคำถาม ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ดูจะเลือนหายไปหลังจากได้กลิ่นกายอ่อนๆ ของเธอ “อยากรู้ก็มีชีวิตอยู่ให้ถึงพรุ่งนี้สิ”

บทที่ 1 สิปรางค์ 1

พอร์ชเคย์เเมนสีเหลืองวิ่งฉิวเข้าสู่คฤหาสน์หลังงานย่านสุขุมวิท จากนั้นเสียงเบรกเอี๊ยดก็ดังลั่นเมื่อเจ้าตัวจงใจเร่งเครื่องปาดโค้งบริเวณลานน้ำพุ ก่อนที่ตัวรถจะหยุดบริเวณลงหน้าเทอเรชหรูหรา

สิปรางค์ตวัดขาลงจากรถ ก่อนจะก้าวฉับๆ เข้าไปในบ้านหลังงามที่เจ้าตัวไม่ได้กลับมาร่วมเดือน เสียงรองเท้าส้นสูงแบรนด์ดังกระทบพื้นหินอ่อนยังคงดังอย่างต่อเนื่อง เมื่อเจ้าตัวเมินสลิปเปอร์คู่งามแล้วเดินกระเเทกกระทั้นตามเเรงอารมณ์เข้าไปหาบิดาผู้ให้กำเนิด

ปัง!

เสียงประตูกระแทกแรงๆ ตามมาด้วยร่างเพรียวระหงยืนจังก้าอยู่หน้าโต๊ะทำงานของเจ้าสัวใหญ่ แววตาที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมากว่าหกสิบปีเหลือบมองบุตรสาวด้วยความรัก ปากหยักปริยิ้ม ก่อนจะพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทหลบฉากออกไป

“ป๊า!!!”

สิปรางค์ทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เต็มแรงพลางตวัดช่วงขาเรียวๆ ที่โผล่พ้นชุดเดรสสีดำสนิทขึ้นมาไขว่ห้างด้วยความเคยชิน ก่อนที่สองแขนจะยกขึ้นกอดอกยามที่เจ้าตัวถูกขัดใจ

“โอ๊ะ โอ วันนี้วันอะไรน๊อ...ลูกสาวสาวคนสวยถึงได้กลับบ้านได้”

สิปรางค์ปรายตามองบิดาแล้วสะบัดหน้าหนี ฝ่ายเจ้าสัวเห็นอาการนั้นก็พลันหัวเราะด้วยความเอ็นดู

ร่างสูงใหญ่ผ่อนกายพิงพนักเก้าอี้ ปากกาในมือถูกวางลงช้าๆ จากนั้นจึงตามมาด้วยแว่นสายตาที่สวมมากว่าชั่วโมง

“งอนอะไรป๊าอีกล่ะ คนสวย...”

เจ้าของห้องเพ่งมองคนที่นั่งเชิดหน้าคอแทบเคล็ดแล้วก็อดที่จะเย้าแหย่ไม่ได้ สิปรางค์ผู้แสนเย่อหยิ่งในตอนนี้คงกำลังคิดอะไรในหัวอยู่แน่ๆ

วัดได้จากหัวคิ้วที่ขมวดเป็นปม ปากอิ่มเม้มแน่นจนเกิดรอย ซ้ำใบหน้ายังหนีอีกหลายองศา วางเดิมพันด้วยทรพย์สินย์ทั้งหมดที่มีได้เลยว่า อีกไม่กี่นาทีต่อไปนี้ พายุลูกย่อมๆ คงเกิดในห้องนี้แน่นอน

“ป๊า!” แววตาขุ่นเคืองนั้นตวัดมามองบิดา ท่ามกลางความไม่พอครุกรุ่นจนอก “ป๊าก็รู้ว่าปรางค์งอนเรื่องอะไร”

“หา!” เจ้าสัวแสร้งเบิกตาโต พลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “นี่ป๊ารู้ใจลูกสาวที่ไม่กลับบ้านเป็นเดือนๆ ด้วยเหรอนี่ โอ้โห...ต้องเก่งขนาดไหนกันนะ”

วาจานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางน้ำเสียงที่ไหลรื่นไม่มีสะดุด พอเห็นปากอิ่มเม้มแน่นมากขึ้น ความสนุกในการต่อปากต่อคำจึงเริ่มขึ้น “งั้นป๊าเดานะ กลับบ้านตอนนี้ อืม...อยากได้อะไรหรือเปล่าคะคนสวย กระเป๋าคอลเล็คชั่นใหม่หรือว่านาฬิการุ่นลิมิเต็ดจากช็อปต่างประเทศเอ่ย...”

“...” สิปรางค์นั่งเงี ยบ รู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกจากทางด้านหลัง

“ไม่ใช่กระเป๋า ไม่ใช่นาฬิกา...” คนเป็นบิดายังแสร้งพึมพำกับตัวเอง สักพักจึงเงยหน้าเอ่ยขึ้นว่า “เอ หรือจะเป็นรถสปอร์ตรุ่นใหม่กันนะ ต้องใช่แน่ๆ เลย ป๊าเห็นเขากำลังฮิตกันนี่นา...”

เจ้าสัวแสร้งทำหน้าซื่อตาใส พร้อมกับแสดงความใจป้ำด้วย ‘การเปย์ลูกสาว’ ดั่งเคย

สิปรางค์ต้องการอะไรท่านก็หาให้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความรัก อีกส่วนก็เพราะชดเชยช่วงเวลาที่เคยหายไป แต่ดูเหมือนคราวนี้ข้าวของเงินทองไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเท่าไหร่ คนสวยของเจ้าสัวใหญ่ถึงกับปรี๊ดแตก

“ป๊าอย่านอกเรื่องนะ! ป๊าก็รู้ว่าทำไมปรางค์ถึงต้องรีบมาหาป๊าตอนนี้!”

สิปรางค์ส่งเสียงแหลมปรี๊ดจนแสบแก้วหู ใบหน้าติดจะหยิ่งบึ้งตึงจนคนรอบข้างนึกขยาด ทว่าสำหรับคนพ่อ ไม่ว่าจะยังไงสิปรางค์ของท่านก็น่ารักเสมอ แม้แต่เวลานี้ก็ตาม!

“โธ่! คนสวย ป๊าไม่มีญาณวิเศษนะลูก จะได้รู้ว่าลมหอบสาวน้อยของป๊าให้กลับบ้านได้ในตอนกลางเดือนแบบนี้”

คนเป็นพ่อยังเฉไฉไปเรื่อย ขณะที่เก้าอี้ไปมาอย่างอารมณ์ดี มือหนาที่ผ่านการทำงานมาอย่างหนักหน่วงก็ยกปากกาขึ้นเคาะโต๊ะอย่างนึกครึ้มใจ

ท่านชอบเวลาสิปรางค์เหวี่ยงหรือวีน อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลก แต่ท่านรู้ว่าบุตรสาวคนสวยที่เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตา การศึกษาและฐานะทางสังคม จะไม่เหวี่ยงวีนคนอื่นแบบไร้เหตุผล จะยกเว้นก็แค่ท่านและ...

“ก็ป๊า...”

แค่เพียงจะอ้าปากโวยวาย สายตาก็เหลือบไปเห็นใครอีกคน กำลังยืนเงียบๆ อยู่ริมหน้าต่าง ด้วยท่วงท่าราวกับนายแบบในนิตสารอินเตอร์สักเล่ม

สิปรางค์สังเกตเห็นว่าเขาถอนหายใจเล็กน้อยหลังจากที่เธอพูดจบ ก่อนจะหมุนกายกลับเข้ามา

“เฮีย! ออกไปเลยนะ ปรางค์จะคุยกับป๊าสองคน!”

สิปรางค์ร้องบอกด้วยใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากอวบอิ่มยื่นออกมาอย่างน่าขัน เธอไล่เขาแล้ว แต่ร่างสูงกลับนิ่งเฉย มิหนำซ้ำคนที่ถูกเรียกว่า ‘เฮีย’ ยังท้าทายเธอด้วยการถอดสูทตัวนอกออกอย่างอ้อยอิ่งแล้วพาดมันลงกับโซฟาหลุยส์ตัวโปรดของเธอ

พรึ่บ!

เขาทิ้งตัวลงนั่งอย่างไม่ออมเเรง ท่อนขาเเข็งแกร่งตวัดขึ้นไขว่ห้างวางมาดเท่ห์ มือหนาปลดประดุมเสื้อออกอวดแผนอกแกร่งแน่นตึง

“นี่! ปรางค์ไล่เเล้วนะ”

เขาปรายตามองหน้าเธอเเล้วเมินเฉย ร่างสูงเอื้อมไปกดอินเตอร์คอมด้านข้าง ก่อนจะเปล่งเสียงขรึมสั่งการกับแม่บ้านคนสนิท

“นมทิพย์ครับผมขอกาแฟดำให้ผมหนึ่งแก้วครับ อ้อ! แล้วก็ขอน้ำส้มสด ไม่ใส่น้ำตาลด้วยครับ”

“ปรางค์ไม่กิน!” สิปรางค์สวนกลับเสียงแหลมปรี๊ด ขณะที่กรกันต์กลับตอบเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เฮียก็ยังไม่ได้บอกนี่นา...ว่าสั่งมาให้ปรางค์”

“ไอ้.!!!” คราวนี้เธอพูดไม่ออก เพราะความดันกำลังพุ่งปรี๊ดจนแทบทะลุเพดาน สิปรางค์กลั้นใจหันหน้าหนี ก่อนจะพยายามระงับอารมณ์เดือดปุดๆ ของตัวเอง

“จุ๊ๆๆๆ ไม่เอาสิครับ เป็นคนสวยแล้วไม่ทำกริยาแบบนี้นะครับ”

“ไอ้! คนบ้า คนขี้แกล้ง ป๊า...ดูสิคนแบบนี้เหรอที่ป๊ารักนักรักหนา”

สิปรางค์แทบอยากจะกระทืบพื้นให้สมกับความหงุดหงิดที่กำลังก่อตัวเป็นริ้วๆ วันนี้อุตส่าห์ถือฤกษ์ดีเข้าบ้านมาช่วงกลางเดือน ก็คิดว่าลูกรักของป๊าคงไม่อยู่ที่บ้าน...แต่ที่ไหนได้ นั่งเสนอหน้าอยู่นี่!

“ปรางค์! ไม่เอาลูก ยกมือชี้หน้าเฮียแบบนั้นมันไม่น่ารักเลยนะ มาๆ มาให้ป๊ากอดก่อนทีนึง” เจ้าสัวธวัชชัยอ้าแขนรับลูกสาว ทว่าสิปรางค์ในตอนนี้ร้อนใจเกินกว่าจะวิ่งเข้ามากอดท่านดั่งเคย

“ไม่ค่ะ! ป๊าตอบมาก่อน ที่ป๊าให้สัมภาษณ์เมื่อเช้าหมายความว่ายังไง”

น้ำเสียงห้วนจัดกับลมหายใจหอบเเรงของเธอทำให้คนกลางในห้องแอบกลั้นยิ้ม สิปรางค์ในวัยสามขวบกว่ากับสิปรางในวันนี้ไม่แตกต่างกันมากนัก

เวลาโกรธเธอก็เเรงเหมือนกับพายุ

เวลาดีก็ดีใจหาย ให้เรียกเรียกเฮียคะ เฮียขา...ก็ยอม

แล้วดูตอนนี้สิ ไอ้บ้า...เธอก็กล้าเรียก

“สัมภาษณ์เรื่อง?”

“เรื่องที่บอกว่าปรางค์จะหมั้น!”

เธอยืนเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง แม้จะเจอสายตาห้ามปรามจากคนทั้งสอง แต่เรื่องแบบนี้ใครเล่าจะทนไหว ต่อให้เอาอิฐมาถ่วงเธอก็นั่งไม่ลง!

“อ๋อ...” คราวนี้เจ้าสัวธวัชชัยลากเสียงยาวเหยียด คล้ายกับเพิ่งนึกว่าได้ว่าข่าวอะไรหลุดรอดออกไปในเช้าช่วงเช้าที่ผ่านมา

“นึกว่าเรื่องอะไร?”

ท่าทีไม่ทุกข์ร้อนนั้นเล่นเอาสิปรางค์ปร๊ดแตกเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับการที่ถูกบิดาหาคู่ให้ แต่ครั้งนี้เธอรู้สึกว่าบิดาล้ำเส้นเกินไป

สองเท้าจึงย่ำตรงมาหาบิดาทันที

สิปรางค์เท้ามือลงกับโต๊ะ พร้อมเอ่ยถามต้องน้ำเสียงเดือดดาลสุดๆ “ป๊า...ตกลงป๊าจะบังคับปรางค์ให้ได้เลยใช่ไหม”

“สวยซะเปล่าแต่พูดจาไม่มีหางเสียง คะ ขา...ก็ไม่เคยได้ยิน”

เป็นอีกครั้งที่น้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยดังแว่วกระทบหูของคนสวย คราวนี้เหมือนเธอจะฉุนขาด สองเท้าบนส้นสูงจึงก้าวฉับๆ หมายจะไปเอาเรื่องเขา

“เฮีย! ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะปรางค์ไม่ชอบ”

“ไม่!” กรกันต์ส่ายหน้านิ่ง พร้อมกับสำทับอีกระรอก “ถ้าเฮียเป็นป๊า เฮียจะให้ปรางค์เข้ามุม แล้วให้อ่านหนังสือมารยาทผู้ดีอีกสิบรอบ เผื่อปรางค์จะนึกว่าออกว่า ควรพูดกับผู้ใหญ่ยังไง”

“ไอ้!” สิปรางค์พูดไม่ออก เธอกำมือแน่น ก่อนจะหลับตาปี๋แล้วตั้งใจส่งเสียงกรี๊ดร้องดังลั่นบ้านเหมือนเคยในยามที่ถูกขัดใจ

ทว่าทุกอย่างยังไม่ทันได้เกิดขึ้น เพียงแค่เธอขยับเสียงเคาะประตูดังขึ้นอย่างนอบน้อม และทันทีที่ได้รับอนุญาต บานประตูก็ถูกเปิดออกอย่างช้าๆ

“น้ำส้มค่ะ คุณชะ...คุณหนู!”

เมื่อเข้ามาแล้วพบว่าใครยืนอยู่กลางห้อง นมทิพย์ก็ร้องเรียงคนที่เลี้ยงมากับมือด้วยสุ้มเสียงดีใจเกินจะกล่าว ก่อนจะขยับร่างอวบๆ ไปสวมกอดคนที่แสนคิดถึงอย่างรวดเร็ว

กระทั่งทุกคนในห้องต้องใจหายไปตามๆ เมื่อหญิงชราวัยแตะเลขเจ็ดกับน้ำหนัดเฉียดเจ็ดสิบนิดๆ วิ่งปร๋อราวกับเด็กสาววัยยี่สิบ

“คุณหนู....ทูนหัวของนม”

มือไม้เหี่ยวย่นแปะป่ายไปตามเรือนร่างงามระหงอย่างเเสนหวงแหน ก่อนจับเธอพลิกหมุนไปมาอย่างที่ทำเป็นประจำ และทันทีที่ได้รับอ้อมกอดของ อารมณ์ร้อนๆ ของเธอก็เย็นลงสนิทใจ

อาจเพราะท่านเลี้ยงเธอมาเหมือนลูก สิปรางค์จึงรักและเคารพท่านไม่ต่างกัน

“คุณหนูสบายดีนะคะ”

ได้ยินแบบนั้นสิปรางค์จึงหันไปมองลูกรักของป๊าแล้วแอบเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมายิ้มสดใสให้คนที่เลี้ยงเธอมา

“ปรางค์สบายดีค่ะนม แล้วนมล่ะคะ...แอบกินขนมหวานจนน้ำตาลขึ้นหรือเปล่า”

เธอถามกลับอย่างรู้ทัน เพราะเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา แม่นมของเธอมีนัดตรวจตามปกติ ถึงแม้เดือนนี้สิปรางค์จะติดธุระสำคัญจึงไม่สามารถพาท่านไปหาหมอได้ แต่ข่าวคราวของคนที่เธอรักก็มีให้ทราบอยู่เป็นระยะๆ และคราวนี้น้ำตาลในเลือดของป้ากุลก็พุ่งสูงจนน่าเป็นห่วง

“แหม! คุณหนูก็ คนแก่มันก็ขึ้นๆ ลงๆ เนอะ”

น้ำเสียงของคนสูงวัยตอบกลับแบบอ้อมแอ้ม กระนั้นกลับไม่กล้าสบตาทูนหัวของตัวเอง

“นมคะ ปรางค์รู้นะว่าป้ากุลแอบกินขนมมีกะทิ ปรางค์บอกแล้วใช่ไหมคะว่ากะทิทานเยอะๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ...”

จากนั้นเสียงหวานๆ ที่ติดเหวี่ยงนิดๆ ก็ร่ายยาวไปอีกเกือบสิบประโยค เล่นเอาคนแก่ที่แอบกินขนมในยามดึกหน้าจ๋อยไปหลายนาที และกว่าสิปรางค์จะรู้ตัวว่าพูดมากไปก็ตอนที่ได้ยินผู้ชายทั้งสองในห้องหัวเราะขึ้นมาพร้อมๆ กัน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ pamika_1995

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวนรัก วิวาห์ลวง

หวนรัก วิวาห์ลวง

โรแมนติก

5.0

เมื่อเจ้าสาวของ วาโย หายตัวไปก่อนพิธีวิวาห์ เป็นเหตุให้เขาต้องเข้าพิธีกับผู้หญิงที่เขาทั้งรัก ทั้งแค้นอย่าง มุกไหม ที่ถูกเขาตราหน้าว่า ผู้หญิงหลอกลวง ........................................ "จะแค้นเคืองอะไรกันหนักหนาค่ะ ไม่รักกันเเล้วหรือไง? "เอ่ยถามเขาด้วยเสียงสะอื้น จนคนฟังรับรู้ได้ถึงความเศร้าจากน้ำเสียง "... ต้องการอะไร? " น้ำเสียงยังเย็นชาจับจิต คงไม่ต่างจากจิตใจของเขาที่ด้านชาในตอนนี้ "แค่ต้องการให้เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ได้มั้ยคะ"? เว้าวอน ออดอ้อนด้วยน้ำเสียงที่ยังเจือสะอื้น แต่กระนั้นยังต้องกลืนก้อนสะอื้นที่จุกแน่น ก่อนจะกระพริบตาเพื่อไล่น้ำตาที่จวนเจียนจะไหล "หึ เธอฝันไปหรือเปล่า? ตื่นซะที!! อย่าพูดอะไรที่มันฟังดูง่ายไปหน่อยเลย"ร่างสูงแค่นเสียงหัวเราะ มุมปากยกยิ้มหยัน "แล้วตรงใหนค่ะที่มันยาก? " ตอกกลับเขาทันควัน "ยากตรงที่ใจฉันมันพังไปแล้วไง!! ใจคนไม่ใช่เครื่องจักร มันมีความรู้สึก มันเจ็บเป็น! "ตะคอกเธอกลับอย่างไม่ลังเลตามเเรงอารมณ์ที่อัดอั้นมานาน คนอย่างเขาถ้ารักก็มาก แต่ถ้าเกลียดจะเกลียดมากกว่าที่เคยรัก!! ........................................ "ได้โปรด มุก...ยกโทษให้ผู้ชายสารเลวคนนี้ด้วย ฮึก อึก..ได้โปรด...ที่รัก" "ฮือ มะ ไม่ ฮึกฮึก"น้ำตาเม็ดโตพรั่งพรูเต็มสองข้างแก้มนวล ใบหน้าหวานแดงก่ำ มือบางโอบรอบแก้มสากขอเขาไว้ พลางโขกขมับแนบชิด สองสายตาสื่อประสานกัน ปากบางเริ่มเอื้อนเอ่ย.... ........................................

หวนรัก คืนปรารถนา

หวนรัก คืนปรารถนา

โรแมนติก

5.0

วายุ : นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงผู้จมอยู่กับอดีต เขาเป็นชายหนุ่มผู้คลั่งรัก ทว่าทิฐิทำให้เผลอทำร้ายคนที่รักที่สุด อลิสา : ดาราสาวที่พลาดพลั้งอุ้มท้องลูกของนักธุรกิจหนุ่ม แต่เขากลับผลักไส ไม่รัก มิหนำซ้ำยังกลับไปหาคนรักเก่าอีกด้วย ..................... "นอนกับฉันแค่คืนเดียว กล้าดียังไงมาพูดว่าเป็นเมียฉัน! เพราะถ้าเเค่คืนเดียว ฉันคงมีเมียไปค่อนโลกแล้ว" "แล้วถ้าอลิซท้องล่ะคะ! ท้อง! หมายถึงกำลังมีเด็ก...ที่ตอนนี้กำลังเป็นก้อนเลือดนอนนิ่งอยู่ในนี้"มือบางลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างยั่วเย้า ก่อนจะยกยิ้มอย่างเป็นต่อ "....." วายุ จ้องสบด้วยสายตาเกรี้ยวกราด ฝ่าเท้าหนัก ค่อยๆ สาวเท้าเข้าหาเธออย่างคุกคาม "เหตุผลแค่นี้ พอที่จะเป็นเมียคุณได้หรือยัง! "เสียงหวานท้าทายเขา ใบหน้างามเชิดรั้นอย่างถือดี ก่อนที่ปากอิ่มจะเบ้ออกน้อยๆ ด้วยความเจ็บปวด เพราะปลายคางมนถูกบีบจนน้ำตาเล็ด "อย่าคิดจะใช้เด็กมาต่อรองกับฉัน! เพราะฉันไม่ใช่พระเอกที่จะยอมเเต่งงานกับเธอเพียงแค่ทำผู้หญิงท้อง...ฉันบอกเอาไว้ตรงนี้เลย ฉันจะรับผิดชอบแค่เด็ก..ที่อาศัยท้องเธอมาเกิดเท่านั้น! "เสียงเข้มกระซิบเหี้ยม ก่อนมือหนาอีกข้างจะยกขึ้นกดหน้าท้องแบนราบนั้นเบาๆ เพื่อเป็นการย้ำเตือน! "แต่ลูกของฉันต้องการมีทั้งพ่อและแม่! "มือบางสะบัดเขาออกอย่างถือดี ก่อนจะตะโกนลั่นใส่หน้าเขา "หึ...ถามจริงๆ อยากให้ลูกมีพ่อหรืออยากได้ผัวจนตัวสั่นกันแน่! " .................... "จำไว้นะคุณยุ! วันนี้คุณอาจจะยังไม่ต้องการพวกเรา...ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันไหนที่เราไม่ต้องการคุณบ้าง แม้แต่วิญญาณของพวกเราคุณก็จะไม่ได้เห็น! "อลิสาตะโกนลั่นใส่หน้าเขาอย่างสุดทน ใบหน้างามเต็มไปด้วยน้ำตาทั้งสองข้างแก้ม "ปากดี " "ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะคุณ...พวกไร้ความรับผิดชอบ! " "อลิสา"เสียงเข้มกดต่ำ ใบหน้าคมขึงขัง อารมณ์ร้อนเริ่มเดือดพล่าน "เอากระโปรงไปใส่มั๊ยค่ะ บริจาคให้"เสียงหวานเอ่ยบอกเขา มือบางปาดน้ำตาก่อนจะยกยิ้มสมเพชส่งให้ "...." เพี๊ยะ! "หน้าตัวเมีย...คนสารเลว" "..." "อลิซเกลียดคุณที่สุด!"

เงารัก พันธนาการสวาท

เงารัก พันธนาการสวาท

โรแมนติก

5.0

เพราะความเหมือน เธอจึงเป็นแค่ 'เงา' ที่เขาไม่มีวันรัก ความสัมพันธ์ลับๆ ที่เกิดขึ้น จึงถูกร้อยรัดไว้ด้วยความเร่าร้อน ทว่าเธอเจ็บ...แต่กลับพูดไม่ได้ เพราะคำว่าตัวแทนที่ชีวิตนี้ก็ไม่มีใครอยากเป็น! .............................. 'ดรันย์ พิพัฒน์พงศ์ ' ศัลยเเพทย์หนุ่ม ผู้หอบเอาหัวใจที่บอบช้ำมาให้เธอรักษา...ด้วยการใช้เธอ 'เป็นตัวแทน' ของใครอีกคน "มิดา...กอดพี่ จูบพี่ ช่วยทำให้พี่ลืมผู้หญิงคนนั้นสักที! " 'รมิดา ธารากุล' เพราะความเหมือน เธอจึงกลายเป็น 'เงา' ที่เขาไม่มีวันรัก... "คุณหมอคะ...กอดกันทุกวัน จูบกันทุกวันแบบนี้ แต่เคยคิดจะรักกันบ้างไหมคะ" เพราะความเมาทำให้เขาเห็น 'เธอ' เป็น 'ผู้หญิงคนนั้น' เพราะแอบรัก จึงทำให้เธอยอม...ตกเป็นของเขา ท่ามกลางความเร่าร้อนที่ตื่นเพริด การขยับโยกบนเรือนกายที่แสนหวานและเสียงครวญครางที่ดังขึ้นอย่างสุขสม ทว่าเขากลับเรียก 'ชื่อเธอ' เป็น 'คนอื่น' เจ็บ... แต่กลับต้องยิ้มรับ...แล้วเเสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่รู้สึก แล้วรอคอยเศษความรักจากเขา...คนที่เธอเองก็เดาใจไม่ถูกเลยสักที!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

ได้กลับมาครานี้...ข้าจะไม่แต่งงาน

ได้กลับมาครานี้...ข้าจะไม่แต่งงาน

หลงเวลา
5.0

ฉินเซี่ยหรู คุณหนูใหญ่แห่งสกุลฉิน นางสิ้นอายุขัยจากการถูกสามีอย่าง หวงจิงอวี่ทำร้ายจิตใจด้วยการรับอนุเข้ามาอยู่ในจวนมากมาย เขามิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครั้งจนอนุที่รับมานั้นตั้งครรภ์ อำนาจในการดูแลเรือนของนางจึงดูไร้ค่า เพราะแม่ของสามีก็ดูถูกที่นางมิสามารถมีทายาทสืบสกุลได้ นางจะมีได้เช่นไรกัน ในเมื่อสามีที่แต่งนางมานั้นมิเคยร่วมเตียงกับนางเลยสักครา จนนางตรอมใจและดับสูญไปในที่สุด ผู้ใดจะรู้เรื่องราวหลังจากนั้น ฉินเซี่ยหรูได้กลับชาติไปเกิดในร่างของหลานสาวขี้โรคของนาง แต่ทว่าการได้เกิดใหม่ในครั้งนี้ทำให้ร่างกายของหลานสาวนั้นกลับมาแข็งแรงราวปาฏิหารย์ สตรีที่เคยมีอายุยี่สิบสามปี แต่บัดนี้กลับกลายมาอยู่ในร่างของเด็กหญิงอายุเจ็ดขวบ นางตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าในอนาคต นางจะมิยอมแต่งงานอีกต่างหาก แต่เมื่อได้พบเจอกับเขา นักปราชญ์หนุ่มที่เพิ่งย้ายมา นางจึงเปิดใจและอยากแต่งงาน นั่นเป็นเพราะเขาทำให้นางได้รู้จักความรักที่แท้จริง... ความรักที่ไม่เคยได้รับรักตอบจากชาติภพก่อน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หวงรัก พันธะสวาท
1

บทที่ 1 สิปรางค์ 1

06/04/2023

2

บทที่ 2 สิปรางค์ 2

06/04/2023

3

บทที่ 3 สิปรางค์ 3

06/04/2023

4

บทที่ 4 ความรู้สึกที่ติดค้าง 1

06/04/2023

5

บทที่ 5 ความรู้สึกที่ติดค้าง 2

06/04/2023

6

บทที่ 6 ความรู้สึกที่ติดค้าง 3

06/04/2023

7

บทที่ 7 ระยะห่างที่หายไป 1

06/04/2023

8

บทที่ 8 ระยะห่างที่หายไป 2

06/04/2023

9

บทที่ 9 ระยะห่างที่หายไป 3

06/04/2023

10

บทที่ 10 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 1

06/04/2023

11

บทที่ 11 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 2

07/04/2023

12

บทที่ 12 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 3

07/04/2023

13

บทที่ 13 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 4

07/04/2023

14

บทที่ 14 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 5

07/04/2023

15

บทที่ 15 ตำแหน่งใหม่กับคนรู้ใจ 6

07/04/2023

16

บทที่ 16 ความรู้สึกที่ห้ามไม่ได้ 1

09/04/2023

17

บทที่ 17 ความรู้สึกที่ห้ามไม่ได้ 2

09/04/2023

18

บทที่ 18 ความผิดพลาดที่ตั้งใจ 1

10/04/2023

19

บทที่ 19 ความผิดพลาดที่ตั้งใจ 2

10/04/2023

20

บทที่ 20 ความผิดพลาดที่ตั้งใจ 3

10/04/2023

21

บทที่ 21 คำว่าพี่น้องมันค้ำคอ 1

12/04/2023

22

บทที่ 22 คำว่าพี่น้องมันค้ำคอ 2

12/04/2023

23

บทที่ 23 คำว่าพี่น้องมันค้ำคอ 3

12/04/2023

24

บทที่ 24 ผิดที่ผิดเวลา 1

13/04/2023

25

บทที่ 25 ผิดที่ผิดเวลา 2

13/04/2023

26

บทที่ 26 ดวงใจในไฟแค้น 1

16/04/2023

27

บทที่ 27 ดวงใจในไฟแค้น 2

17/04/2023

28

บทที่ 28 ดวงใจในไฟแค้น 3

18/04/2023

29

บทที่ 29 ศัตรูสู่หัวใจ 1

19/04/2023

30

บทที่ 30 ศัตรูสู่หัวใจ 2

20/04/2023

31

บทที่ 31 ศัตรูสู่หัวใจ 3

21/04/2023

32

บทที่ 32 นกต่อ 1

22/04/2023

33

บทที่ 33 นกต่อ 2

25/04/2023

34

บทที่ 34 นกต่อ 3

26/04/2023

35

บทที่ 35 นกต่อ 4

27/04/2023

36

บทที่ 36 แหย่หัวใจเสือ 1

28/04/2023

37

บทที่ 37 แหย่หัวใจเสือ 2

29/04/2023

38

บทที่ 38 แหย่หัวใจเสือ 3

29/04/2023

39

บทที่ 39 แหย่หัวใจเสือ 4

30/04/2023

40

บทที่ 40 เหยียบหัวใจให้จมดิน 1

02/05/2023