Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว

หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว

จ้าวฮุ่ยอิง

5.0
ความคิดเห็น
45.1K
ชม
55
บท

ลี่มี่มี่นางงิ้วชื่อดังและบิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อก้องถูกย้อนเวลากลับไปเมื่อ 600กว่าปีก่อน ณ.จวนสกุลหลินซึ่งถูกพระราชโองการสั่งประหาร 9 ชั่วโคตร จนหมดสิ้นตระกูล และเธอคือคุณหนูสิบหกนามว่าาหลินลี่ชา ซึ่งถูกไฟคลอกตายภายในบ่อน้ำร้าง ท่ามกลางสายตาคู่หนึ่งขององครักษ์เสื้อแพรซึ่งเป็นว่าที่คู่หมั้นของเธอในชาติอดีต "ข้าจะกลับมาหาเจ้าอย่างแน่นอน...ซือหม่าเยี่ยคัง ข้าจะต้องได้กลับมาแน่!!! ครั้นเธอถูกนำกลับมาอีกครั้งในฐานะลี่มี่มี่ นางงิ้วชื่อดังแห่งหอเลี่ยงเฟิ่ง และวางแผนที่จะเข้ามาเป็นอนุภรรยาของท่านโหวจอมโหด เพื่อเข้ามาอยู่ในจวนตงฉ่างโหวให้ได้ ลี่มี่มี่ต้องการคิดบัญชีแค้นกับทุกคนที่ทำให้ตระกูลหลินต้องสูญสิ้นโดยเฉพาะตงฉ่างโหวหรือซือหม่าเยี่ยคัง ผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรคนปัจจุบัน ท่านโหวจอมโหด ตาหนวดหน้าเหี้ยมที่ลี่มี่มี่ใช้เรียก แต่แล้วกลับถูกซ้อนแผนอย่างย่อยยับจากที่จะต้องเข้ามาเป็นอนุภรรยา ดันกลับกลายมาเป็นฮูหยินของท่านโหวจอมโหดแทน

บทที่ 1 ตอนที่ 1 บทนำ

รัชศกเจี้ยนเหวิน ปีที่ 4

รัชสมัยจักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้(ฮ่องเต้เจี้ยนเหวิน)



จักรพรรดิหมิงฮุ่ยตี้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิงหลังจากจักรพรรดิหงหวู่ พระราชอัยกาเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ทรงใช้พระนามว่าฮุ่ยตี้ และใช้ศักราชประจำพระองค์ว่าเจี้ยนเหวิน ทรงดำเนินนโยบายลดทอนอำนาจของบรรดาหวางต่างๆ อย่างเข้มงวด อ๋อง 5 พระองค์ถูกย้ายออกจากเมืองที่ประทับ บางพระองค์ถูกปลด บางพระองค์ต้องฆ่าตัวตาย และเยี่ยนอ๋องจูตี้เองก็ถูกแพ่งเล็งเนื่องจากเป็นผู้ที่มีบทบาทมากในการศึกคราวก่อนๆ

และก่อนที่จักรพรรดิหงหวู่จะเสด็จสวรรคตนั้น จักรพรรดิเจี้ยนเหวินทรงมีพระราชโองการห้ามให้อ๋องต่างๆ เข้ามาถวายบังคมพระบรมศพ ด้วยเหตุที่ว่าเกรงจะมีการก่อรัฐประหาร แต่มีอ๋องพระองค์หนึ่งคือเยี่ยนอ๋องไม่ยอมทำตามราชโองการนั้น พร้อมกับนำทหารราชองครักษ์เดินทางมายังเมืองหลวงนานกิง

แต่ด้วยมีราชโองการของจักรพรรดิส่งมาห้าม พระองค์จึงจำเป็นต้องกลับไปที่เมืองเป่ยจิง หลังจากสะสมอาวุธและฝึกซ้อมทหารจนใช้ชำนาญแล้ว เยี่ยนอ๋องจึงตัดสินพระทัยชิงลงมือยกทัพจากเป่ยจิงลงใต้เผชิญหน้ากับหลานชาย โดยอ้างว่าเพื่อกำจัดเหล่าขุนนางกังฉินสอพลอที่อยู่รอบข้างองค์จักรพรรดิ

มีบันทึกว่าก่อนที่พระองค์จะนำกองทัพยกออกจากเมืองนั้น ได้เกิดพายุพัดแรงจนกระทั่งหลังคาวังหักพังเสียหายซึ่งพระองค์กล่าวว่าเป็นเพราะได้เวลาที่พระองค์จะได้เสด็จเข้าไปประทับที่พระราชวังหลังคาเหลืองแล้ว

การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 1942 (ค.ศ. 1399) เป็นเวลานานถึง 3 ปี ในระยะแรกฝ่ายเยี่ยนอ๋องเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากฝ่ายจักรพรรดิมีกองทหารปืนไฟ ซึ่งมีอานุภาพสูงทำให้ต้องทรงถอยทัพกลับไปทางเหนือแต่ทหารทางใต้ไม่คุ้นเคยกับอากาศหนาวทางภาคเหนือจึงล้มป่วยเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก

จนกระทั่ง พ.ศ. 1945 (ค.ศ. 1402) กองทัพของพระองค์ก็ได้ยกมาถึงชานกรุงหนานจิง ซึ่งกองทัพฝ่ายวังหลวงไม่สามารถต้านทานได้อีกเนื่องจากไม่มีแม่ทัพที่ชำนาญศึกเพราะถูกประหารไปตั้งแต่ปลายรัชกาลของจักรพรรดิหงหวู่ เหล่าขุนนางต่างพากันมาสวามิภักดิ์มากขึ้น และเมื่อถึงวันที่สาม เยี่ยนอ๋องก็สามารถบุกเข้าสู่ภายในเมืองได้ ปรากฏว่าเกิดเพลิงไหม้ภายในวังหลวง และมีผู้พบพระศพของฮองเฮากับพระราชโอรสของหมิงฮุ่ยตี้ถูกเพลิงครอกภายในวังชั้นในแต่ไม่มีใครพบพระศพของหมิงฮุ่ยตี้แม้แต่น้อย

และนั่นจึงทำให้มีผู้สันนิษฐานว่าพระองค์ลอบหนีออกไปจากวังหลวงได้โดยการอารักขาจากกองทหารองครักษส่วนพระองค์ซึ่งกลุ่มขุนนางที่มีความจงรักภักดีนำเสด็จหนีออกมาจากวังหลวงได้เป็นผลสำเร็จและทรงผนวชก่อนที่จะเสียเมือง

ภายหลังต่อมาอีก 39 ปี ในรัชศกจ้งถ่ง มีผู้พบพระภิกษุชรารูปหนึ่งที่มีคนจำได้ว่าคือจักรพรรดิฮุ่ยตี้ หมิงอิงจงจึงมีราชโองการให้เชิญพระองค์มาประทับที่กรุงปักกิ่ง ที่ประทับของพระองค์ถูกปิดเงียบและสวรรคตอย่างสงบในกรุงปักกิ่งในเวลาต่อมา

เยี่ยนอ๋องซึ่งมีชัยชนะเหนือกองกำลังของอดีตองค์จักรพรรดิเจี้ยนเหวินสถาปนาตนเองขึ้นปกครองเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์หมิง เฉลิมพระนามว่าหมิงเฉิงจู่ ใช้ศักราชว่าหย่งเล่อ หลังจากที่ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง

พระองค์ทรงมีราชโองการให้ประหารขุนนาง เนื่องจากทรงระแวงว่าขุนนางเหล่านั้นจงรักภักดีต่อพระนัดดาของพระองค์ซึ่งมีจำนวนกว่า 870 คน นอกจากนี้ยังดำเนินนโยบายลดทอนอำนาจเจ้าองค์อื่น ๆ อย่างเข้มงวด เช่น ห้ามมีกองทหารประจำเมืองให้มีได้แต่ทหารรักษาพระองค์จำนวนหนึ่ง ห้ามเจ้าแต่ละเมืองติดต่อกันเองโดยไม่ได้รับพระราชานุญาติ

ภารกิจแรกที่พระองค์ทรงทำคือดำริย้ายเมืองหลวงไปอยู่ที่เป่ยจิงอันเป็นฐานที่มั่นของพระองค์ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันการรุกรานของชนกลุ่มน้อยทางเหนือ ทรงมีพระราชโองการให้อพยพคนมากมายหลายแสนคนจากเมืองหนานจิง มณฑลซานซีและมณฑลเจ้อเจียง

โดยแบ่งเป็น 5 สายเข้ามายังเมืองเป่ยจิงหรือเมืองปักกิ่งในยุคปัจจุบัน พร้อมกับเป็นการหาแรงงานเพื่อสร้างพระราชวังที่ประทับของจักรพรรดิในเมืองหลวงซึ่งก็คือ พระราชวังกู้กง หรือเป็นที่รู้จักกันดีนั่นก็คือ "พระราชวังต้องห้าม"

ในการนี้พระองค์ต้องเกณฑ์คนหนึ่งแสนพร้อมกับช่างฝีมืออีกหลายพันคน การก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามนี้กินระยะเวลานานถึง 15 ปี พระองค์ให้ความสำคัญกับการก่อสร้างพระราชวังต้องห้ามแห่งนี้เป็นอย่างมาก และจะเสด็จมาตรวจตราการก่อสร้างด้วยพระองค์เอง หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 1956 (ค.ศ. 1413) พระองค์จึงทรงย้ายเมืองหลวงจากกรุงหนานจิงมาประทับที่กรุงปักกิ่ง เป็นการถาวร

และในช่วงของเหตุการณ์จลาจลดังกล่าว บรรดาขุนนางที่จงรักภักดีในรัชสมัยของจักรพรรดิเจี้ยนเหวิน ซึ่งถูกคำสั่งให้ประหารชีวิต จำนวนกว่า 870 คนนั้น หาใช่ประหารเพียงตัวขุนนางแต่เป็นการประหารทั้งตระกูล สายเลือดเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ถูกกำจัดและฆ่าล้างโคตรล้มตายนับหลายพันชีวิต

และในการสำเร็จโทษประหารครั้งใหญ่กองกำลังองครักษ์เสื้อแพร ซึ่งเป็นหน่วยอารักขาขององค์จักรพรรดิที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความโหดเหี้ยมและอำมหิตอย่างยิ่งยวด องครักษ์เสื้อแพรถวายความซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเพียงพระองค์เดียวเท่านั้นและเป็นหน่วยงานรับหน้าที่สนองพระราชโองการ จัดการกวาดล้างเหล่าขุนนางที่เป็นปรปักษ์ต่อองค์จักรพรรดิหย่งเล่อ ทั้งสอบสวน จับกุม กักขัง ทรมานตลอดจนสำเร็จโทษ

สาเหตุที่จักรพรรดิหยงเล่อทรงกระทำเช่นนี้นั้นก็เพราะเมื่อครั้งเข้ายึดครองเมืองหนานจิงได้แล้ว จั่วเชียนโตวยวี้ซื่อ ซึ่งเป็นเจ้ากรมสืบสวนฝ่ายซ้าย ส่งจิ่งชิงพยายามที่จะลอบสังหารพระองค์ จักรพรรดิหย่งเล่อจึงสั่งประหารเก้าชั่วโคตร พร้อมทั้งทำลายหลุมฝังศพบรรพบุรุษทั้งหมด รวมทั้งสมาชิกคนอื่นๆ ในหมู่บ้านถูกถ่ายโอนออกนอกหมู่บ้านจนหมด หมู่บ้านนี้ถูกทำลายทิ้ง

ภายหลังได้กลายเป็นการกล่าวอ้างถึงจักรพรรดิหย่งเล่อว่าทรงจัดการกับขุนนางซึ่งจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินอย่างโหดเหี้ยม ดั่งเช่นฟางเสี้ยวหรู ถูกประหารชีวิตสิบชั่วโคตร ครอบครัว 873 คนถูกเนรเทศ ผู้มีสายเลือดเกี่ยวดองเป็นญาติห่างๆถูกประหารมากกว่าพันคน

ฟางเสี้ยวหรู ซึ่งเป็นยอดมหาบัณฑิตแห่งต้าหมิง เคยเป็นพระอาจารย์สอนหนังสือให้แก่รัชทายาทจูอวิ่นเหวิน ภายหลังคือจักรพรรดิเจี้ยนเหวินแห่งราชวงศ์หมิง เป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้เจี้ยนเหวินเป็นที่สุด และยังเป็นกำลังสำคัญในการต่อต้านแผนชิงบัลลังก์ของเยี่ยนอ๋องจูตี้

แต่สุดท้ายเมื่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินได้ตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เยี่ยนอ๋องได้ครองบัลลังก์แทน สถาปนาขึ้นเป็นจักรพรรดิหย่งเล่อ พระองค์ได้บีบให้ฟางเสี่ยวหรูเขียนหนังสือขอขมา ทว่าฟางเสี้ยวหรูยอมตายแต่ไม่ยอมจำนน

ฮ่องเต้หย่งเล่อจึงทรงมีพระราชโองการรับให้สั่งประหารชีวิตเก้าชั่วโคตร แต่ฟางเสี้ยวหรูยังกล่าวออกมาจนกลายเป็นวาทะอันโด่งดังที่สุดในชีวิตของเขาคือ "เก้าไม่พอ ต้องสิบต่างหาก" ชั่วโคตรที่สิบหมายถึงลูกศิษย์ของเขา ก่อนตายเขายังกัดเลือดจากนิ้วตัวเองเขียนอักษร (ช่วน) หมายถึง การแย่งชิง เพื่อประณามการกระทำของฮ่องเต้หย่งเล่อที่ได้อำนาจมาโดยไม่ชอบธรรม

การตายของเหลี่ยนจีหนิง ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้างล้มตายไป1051คน ครอบครัวและญาติพี่น้องร่วมสายโลหิตเดียวกันถูกประหารเก้าชั่วโคตร รวมทั้งเนรเทศคนเป็นหลักร้อยเช่นเดียวกัน การตายของเฉินตี๋ เนรเทศคนไปถึง180 คนโดยประมาณ ในบรรดาคนที่ถูกประหารเป็นครอบครัวที่ถูกประหาร 80 กว่าคน

การตายของหูหรุ่นครอบครัวทั้งหมด270 คนถูกประหารทั้งหมดการตายของต่งย้งครอบครัวทั้งหมดโดนประหาร 230 คน จั้วจิ้น ฮวงกวน ฉีไท่ ฮวงจีเฉิง หวางตู้ ลู๋หยวนจื่อ

และขุนนางคนอื่นๆ ที่ถวายความจงรักภักดีต่อจักรพรรดิเจี้ยนเหวินล้วนถูกประหารทั้งสิ้น นับได้ว่าเป็นการสั่งประหารครั้งใหญ่ที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของราชวงศ์หมิง

ชีวิตของขุนนางที่ถวายความภักดีให้แก่อดีตองค์จักรพรรดิผู้สาบสูญและครอบครัวของผู้คนเหล่านั้นต้องถูกปลิดชีพด้วยคมดาบจนมิเหลือสิ้น เพื่อตัดรากถอนโคนไม่ให้เหลือผู้สืบทอดที่จะกลับมาเป็นผู้ก่อการกบฏและล้างแค้นต่อจักรพรรดิหย่งเล่อในภายหลัง

ยามเมื่อลมพัดหวนมิอาจคืนกลับมาได้ดั่งเช่นกาลก่อนอีกต่อไป เมื่อรัชสมัยของจักรพรรดิเจี้ยนเหวินล่มสลายผลัดเปลี่ยนไปสู่แผ่นดินใหม่ของจักรพรรดิหย่งเล่อ

หน่วยตงฉ่างองครักษ์เสื้อแพรรับคำสั่งจากองค์จักรพรรดิ และจำต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง สังหารขุนนางที่เป็นปรปักษ์และไม่ถวายจงรักภักดี ฆ่าอย่าให้เหลือทั้งตระกูล!!!

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ จ้าวฮุ่ยอิง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หลินลี่ชา ฮูหยินร้ายจวนโหว
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1 บทนำ

16/08/2023

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2 จวนตระกูลหลิน

16/08/2023

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3 ฝันจากอดีต 1

16/08/2023

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4 ฝันจากอดีต 1

16/08/2023

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 1

16/08/2023

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 2

16/08/2023

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7 เมื่อดอกอวี้หลันโปรยปราย 3

16/08/2023

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8 ห้วนคืนสู่สกุลหลิน 1

16/08/2023

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9 หวนคืนสู่สกุลหลิน 2

16/08/2023

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10 คุณชายหน้าสวย

16/08/2023

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11 หลินลี่ชา

16/08/2023

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12 บาดเจ็บเจียนตาย 1

16/08/2023

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13 บาดเจ็บเจียนตาย 2

16/08/2023

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14 ดอกอวี้หลันพาหวนคืน 1

16/08/2023

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15 ดอกอวี้หลันพาหวนคืน 2

16/08/2023

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16 การกลับมาของหลินลี่ชา 1

16/08/2023

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17 การกลับมาของหลินลี่ชา 2

16/08/2023

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18 นางงิ้วคนใหม่แห่งหอเลี่ยงเฟิ่ง

16/08/2023

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19 สะบักสะบอม

16/08/2023

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20 ตู้หรูอี้

16/08/2023