Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เรือนนารีสกุล

เรือนนารีสกุล

วรดร

5.0
ความคิดเห็น
14.4K
ชม
52
บท

ณ.ดินแดนเสี่วยเป้ย ท่ามกลางขุนเขาล้อมรอบด้วยป่าสน สายลมรุนแรงพัดผ่านทุกช่วงเวลา เกล็ดหิมะสีขาวปกคลุมดินแดนแห่งนี้ขาวโพลนทุกหย่อมหญ้า จนพื้นดินมีแต่ความหนาวเย็น ‘เรือนนารี’ เป็นสถานที่ที่ผู้คนด้านนอกอยากเข้ามาชมความงาม แต่เรือนนารีปิดตัวตายมานับสิบปี นับตั้งแต่เจ้าของเรือนตายแบบปริศนา ผ่านมาสิบปี ...ต้นวสันต์ฤดู ใบไม้เริ่มผลิบานหลังหิมะที่ปกคลุมมาหลายเดือนเริ่มละลาย ด้านนอกไม่มีใครสักคนรู้ ภายในเรือนที่ปิดตายหลังนี้ ยังหลงเหลือสายเลือดของสกุลเจียว เจียวเจี๋ย (เจี๋ยเอ๋อ) พี่สาวคนโต อายุยี่สิบห้าปี ตอนนี้นางคือผู้สืบทอดที่คอยดูแลสมาชิกสกุลเจียวที่ยังมีชีวิตรอด สตรีงามสะคราญโฉมเหล่านี้ ต้องซ่อนตัวจากสายตาผู้คน เพื่อให้ปริศนาการตายของเจ้าของเรือนนารี ลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่ทว่า...ความแค้นที่สะสมอยู่ในใจบุตรหลานสกุลเจียวไม่มีทางลบเลือน เจียวลู่ (ลู่เอ๋อ) น้องคนสุดท้องที่เพิ่งมีอายุล่วงเข้าปีที่สิบห้า ตามธรรมดาแล้ว บุตรสาวสกุลเจียวจะถูกส่งเข้าวัง หลังมีอายุครบสิบห้าปี แต่เมื่อสิบปีก่อน ก่อนที่เจียวเจี๋ยจะถูกส่งเข้าวัง มีมือสังหารชายชุดดำบุกมาเข่นฆ่าคนสกุลเจียวจนหมดสิ้น เหมือนฟ้าไม่อยากให้ลมหายใจที่ถูกพรากอย่างไม่เป็นธรรมจบสิ้นลงแค่วันนั้น สองพี่น้องที่สมควรตาย เลยยังมีชีวิตรอด อยู่จนถึงวันนี้

บทที่ 1 1

1.

“ลู่เอ๋อ ตื่นได้แล้ว”

เสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนที่ได้ยินทุกวันดังอยู่ข้างหู จากนั้นประตูไม้กรุกระดาษสีซีดก็ถูกผลัก แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านเงาร่างอรชรที่ยืนเท้าเอวอยู่ด้านหน้าประตูห้องนอนนั่นเอง

เจียวลู่บิดขี้เกียจแล้วค่อยๆ ปรือเปลือกตามอง

เจียวเจี๋ยถอนใจ เดินผ่านประตูเข้ามา “ได้เวลาฝึกชงชาแล้วนะ เจ้าจะเกียจคร้านถึงเมื่อไหร่กัน” นับตั้งแต่เหลือกันแค่สองพี่น้อง จากผู้หญิงอ่อนแอก็ต้องปรับตัวให้เข้มแข็ง เพราะหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นที่เรือนหลังนี้ หญิงอ่อนแอก็ต้องรีบลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง

“เจียเจี่ย ขอข้านอนต่ออีกสักสองก้านธูปได้หรือไม่” วงหน้าขาวดังไข่ปอก ดวงตาเรียวรีเหมือนหยดน้ำค้าง ริมฝีปากสีระเรื่อยิ่งกว่าสีดอกกุหลาบแรกแย้ม

เจียวเจี๋ยส่ายหน้า “เห็นจะมิได้”

เสียงเย็นชาเช่นนั้นของพี่สาว เจียวลู่ถึงรู้ว่ามารยาครั้งนี้ของนางไม่เป็นผล นางทรงตัวนั่ง กำลังจะอ้าปากต่อรอง เจียวเจี๋ยก็พูดสำทับมาอีกครั้ง

“จำได้หรือไม่ ว่าเจ้ามีภาระที่ต้องทำหลังจากนี้อีกสามวัน”

เจียวลู่เบี่ยงปลายเท้าลงจากเตียง ฉวยอ่างน้ำอุ่นที่ใครสักคนนำมาวางไว้ให้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นล้างคราบขี้ตา เจียวเจี๋ยเดินเลยไปรินน้ำชาจากกาใส่จอกดินเผา และเดินมายื่นส่งให้น้องสาวที่ยังพยายามโอ้เอ้รั้งเวลาอยู่

เจียวลู่ที่กระหายน้ำอยู่พอดีจึงรับจอกน้ำชาจากพี่สาว พลางมองเจียวเจี๋ยด้วยแววตาซาบซึ้ง

“ถ้าข้าไม่มีเจียเจี่ย วันนั้นข้าคงตายไปแล้ว”

“ลู่เอ๋อ!!” เจียวเจี๋ยตวาดเสียงแหลม

เจียวลู่สีหน้าสลดลง ความทรงจำที่ยังติดตรึงอยู่ในใจ กลิ่นคาวเลือดลอยคละคลุ้งอยู่เหนือศีรษะ นางมองลอดรอยแตกของฝาไม้ปากบ่อน้ำแห้ง บุรุษและสตรีที่เคยอาศัยอยู่ในเรือนแห่งนี้นอนเกยก่ายสูงท่วมศีรษะ ลำคอบางคนขาดห้อยร่องแร่งเพราะคมกระบี่ เศษเนื้อ ลิ่มเลือดแผ่กระจายเป็นวงกว้าง กลิ่นควันไฟ เสียงแตกปะทุของไม้ดังสนั่นเต็มสองหู เจียวเจี๋ยกอดน้องสาวแน่น ทั้งที่ตนเองก็หวาดกลัวจนตัวสั่น

สองพี่น้องที่หลบอยู่ก้นบ่อน้ำแห้ง เลยรอดตายหวุดหวิด

ดวงตางดงามหลุบลง ริมฝีปากหุบสนิท

เจียวเจี๋ยทิ้งตัวนั่งบนขอบเตียง พลางมองหน้าน้องสาวแล้วก็ถอนใจแรงๆ

“จำไว้ให้ขึ้นใจนะลู่เอ๋อ จากนี้อีกสามวัน เจ้ามีภารกิจต้องทำ”

คนสองร้อยกว่าชีวิตถูกสังหารหมู่ จวบจนทุกวันนี้มือสังหารยังไม่ได้รับโทษทัณฑ์ คนเป็นที่ยังมีชีวิตรอดจะนอนหลับสนิทได้อย่างไร แม้จะเป็นแค่หญิง แต่การแก้แค้นให้คนสกุลเจียว ก็ถือเป็นหน้าที่

ความแค้นเลือดครั้งนี้ คนบงการต้องชดใช้

“เจี่ย ข้าสัญญา” กลีบปากสีระเรื่อย้ำคำสัญญา

“กินข้าวก่อนดีหรือไม่ ข้าทำเกี๊ยวน้ำของโปรดเจ้าไว้ให้” ถึงจะเข้มงวดกับน้องสาวทุกชั่วยาม แต่เจียวเจี๋ยก็ยังไม่วายลดความเข้มงวดในบางครั้ง

“พี่ใหญ่ หากวันนี้ข้าอยากทำอย่างอื่นก่อนการฝึกชงชา พี่สาวคิดว่าข้าจะทำได้ไหมเจ้าคะ”

แววตาเจ็บปวดรวดร้าวของเจียวเจี๋ยผุดขึ้นมา เจียวลู่สัมผัสได้ถึงความโศกสลดในใจพี่สาว พลันนั้นแผ่นหลังบอบบางก็รู้สึกถึงความเย็นเยียบที่แผ่ไปทั่วห้องนอน

“เจ้าลืมคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่แล้วเหรอลู่เอ๋อ”

เป็นคำถามสั้นๆ แต่กระแทกเข้ามากลางใจ เจียวลู่สูดลมหายใจลึกๆ สลัดความกระหายตามประสาสาวแรกแย้มทิ้ง

“พี่ใหญ่ ลู่เอ๋อขอโทษ หลังกินมื้อเช้าอิ่ม ข้าจะไปฝึกชงชา ต่อด้วยการท่องบทกวี” คุณสมบัติของสตรีในวัง ต้องมีความรู้ อ่านออกเขียนได้ กิริยานุ่มลื่นประณีตตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า สตรีสกุลเจียวเป็นต้นแบบของความงดงามทั้งสิบประการนั่น

นับร้อยปี ที่สกุลเจียวฝึกสาวแรกแย้ม และส่งเข้าวังหลัง เพื่อรับใช้บรรดาสนมและกุ้ยเฟย รวมทั้งฮองเอาหรือตัวไทเฮาเอง

ดังนั้นไม่แปลกเลย ที่บิดา มารดายากจนจะส่งลูกสาวของตัวเองมาฝึกมารยาทที่สกุลเจียว ปะเหมาะเคราะห์ดี จับพลัดจับผลูได้ถวายตัวรับใช้ฮ่องเต้ขึ้นมา สุกลนั้นๆ ก็จะพลอยสบาย ได้มีโอกาสเสวยอำนาจผ่านตำแหน่งของบุตรสาว

ตัวบุตรหลานสกุลเจียวเองก็มีวาสนาดี ได้ครองตำแหน่งกุ้ยเฟยก็หลายคน บางคนบารมีสูงส่ง ไปไกลถึงตำแหน่งหวงกุ้ยเฟยก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว

“ลำบากเจ้าแล้ว” เจียวเจี๋ยวางมือบนแผ่นหลังน้องสาว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรดร

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียรักสวมรอยแค้น

เมียรักสวมรอยแค้น

ผจญภัย

5.0

ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...

จแมารลงทะเบียนรัก

จแมารลงทะเบียนรัก

โรแมนติก

5.0

คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน

ความลับความรัก

ความลับความรัก

โรแมนติก

5.0

เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

ทัณฑ์รักรอยน้ำตา

โรแมนติก

5.0

เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

อย่าพูดคำว่าไม่เคย

Gilbert Soysal
5.0

"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

Pinkygirl
4.8

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ซีไซต์
5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ