Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
1.1K
ชม
28
บท

“ฉันจะอ่อนโยนกับเธอให้เหมือนผีเสื้อมาบินมาเกาะเกสรดอกไม้” เขาเอ่ยชิดเรียวปากคู่สวย แล้วจูบซ้ำๆ ลงไปอีกหลายครั้ง สุดปรารถนาปรือตามองเขา อารมณ์เธอสั่นพร่า หวามไหวไปกับสัมผัสรัญจวน ที่เพียงแค่จุมพิต เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง “เธอรู้ไหมว่า เวลาผีเสื้อบินมาดูดน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ ผีเสื้อจะรู้สึกยังไง แล้วน้ำของเกสรดอกไม้จะหมดไปหรือเปล่า ว่าไงตอบฉันมาสิ ว่ารู้ไหม” “ไม่รู้ค่ะ” เธอตอบเสียงสั่น มองหน้าเขาในระยะห่างไม่ถึงคืบด้วยใจไหวหวั่นและขวยเขิน “แล้วอยากรู้ไหมว่า ผีเสื้อจะรู้สึกยังไงและน้ำหวานจะหมดไปหรือเปล่า” เขาถามต่อ แล้วดูเหมือนว่าอลงกตจะใจร้อนไม่เอาคำตอบ “ฉันจะทำให้เธอรู้ด้วยตัวเอง” สุดปรารถนาไม่เข้าใจคำพูดของอลงกต เธอจะรู้ได้อย่างไรในเมื่อไม่ใช่เกสรดอกไม้และไม่ใช่ผีเสื้อ ทว่าความสงสัยกลายเป็นความตกใจ เมื่อเขาลดตัวไปฝังหน้าอยู่กับความเป็นอิสตรีเพศโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว จะหนับขาก็ไม่ทัน จะดันหน้าเขาให้ถอยห่างก็ไม่ได้

บทที่ 1 1

1

หลงจู้หรือผู้จัดการโรงรับจำนำเอกชนแห่งหนึ่งกำลังใช้แว่นขยายอันเล็กส่องดูแหวนเพชรน้ำดีวงหนึ่งที่ลูกค้านำมาจำนำ ความที่เป็นแหวนเพชรที่ไม่มีลูกค้านำมาจำนำบ่อยนัก ทำให้เขาต้องตรวจดูอย่างละเอียดและใช้เวลานานพอสมควร

“จะเอาเท่าไหร่” หลงจู้ถามสาวสวยที่ยืนอยู่นอกกรงเหล็กกั้นกลาง

“หนึ่งล้านห้าแสนค่ะ”

สุดปรารถนาบอกจำนวนเงินที่ตนเองต้องการได้จากการจำนำครั้งนี้ หลงจู้ไม่ได้ตกใจกับจำนวนเงินที่ได้ยิน เขามองหน้าคนนำของมีค่ามาจำนำ ก่อนจะก้มหน้าใช้แว่นขยายส่องดูแหวนวงนั้นอีกครั้ง

“เต็มที่ได้แค่เจ็ดแสน” สีหน้าสุดปรารถนาเครียดขึ้นทันใดกับจำนวนเงินที่ได้ยิน เพราะมันเป็นจำนวนเงินครึ่งหนึ่งที่มารดาต้องการ

“มากกว่านี้ไม่ได้หรือคะคุณลุง หนูมีใบรับประกันจากร้านมาด้วย” เธอต่อรอง

“ได้เท่านี้แหละ ถ้าอยากได้เยอะกว่านี้ต้องไปร้านที่ซื้อมา” หลงจู้ตอบ

“หนูขอถามคุณแม่ก่อนนะคะ” สุดปรารถนาเดินถอยหลังไปนั่งบนเก้าอี้ รีบติดต่อมารดาเพื่อบอกราคาแหวนเพชรที่ให้ตนมาจำนำ การสนทนาเสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่ถึงสี่สิบวินาที สุดปรารถนาลุกขึ้นยืนเดินมาหาหลงจู้ “เจ็ดแสนก็เจ็ดแสนค่ะ”

อีกห้านาทีหลังจากขึ้นตอนการจำนำสิ่งของเสร็จสิ้น เงินเจ็ดแสนบาทก็มาอยู่ในมือสุดปรารถนา เธอเดินออกมาจากโรงรับจำนำอย่างไม่อายสายตาของบุคคลอื่นที่มองมา เธอเดินไปเรื่อยๆ จนถึงรถบีเอ็มดับบลิวที่จอดรออยู่ริมถนน มือเรียวเล็กเคาะกระจกเบาๆ ก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง

“นี่คะแม่” สุดปรารถนาส่งเงินให้ฤทัยรัตน์ที่กระชากมือมารับอย่างไม่สบอารมณ์

“ได้แค่นี้จะพออะไร ฉันต้องการใช้เงินล้านห้า”

“เขาให้แค่นี้ค่ะแม่”

“แกไม่พยายามต่อรองกับเขาใช่ไหม เขาให้แค่ไหนแกก็เอาแค่นั้น ถ้าแกหัดมีปากเหมือนกับคนอื่นบ้าง ฉันก็คงได้ล้านห้าตามที่ต้องการ แกนี่ไม่ได้ดั่งใจฉันเลย”

ฤทัยรัตน์ขึ้นเสียงใส่บุตรสาวที่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

“ก้อยโทรมาถามแม่แล้วนะว่า จะเอาตามจำนวนเงินที่เขาให้หรือเปล่า แม่บอกว่าเอา ก้อยก็ว่าตามแม่” สุดปรารถนาตอบเสียงเบา ไม่เข้าใจว่าตนเองผิดตรงไหน

“ฉันไม่อยากได้หรอกแค่นี้น่ะ เพราะมันไม่พอ ซื้อมาตั้งสามล้าน ได้แค่นี้ไม่คุ้มเลย”

“หลงจู้บอกว่า ถ้าแม่อยากได้มากกว่านี้ต้องไปจำนำร้านที่ซื้อมาค่ะ หรือไม่ก็ขายที่ร้านนั้นค่ะ”

คนเป็นลูกพูดตามที่หลงจู้บอก แต่เธอไม่รู้เลยว่า คำพูดประโยคนี้ทำให้คนเป็นแม่ถึงกับของขึ้น ตวาดใส่บุตรสาวเสียงดัง

“แกก็รู้ว่าฉันเอาไปจำนำที่ร้านไม่ได้ ถ้าฉันทำได้ฉันทำไปนานแล้ว ของราคาเป็นล้าน จำนำได้แค่นี้ มันกดราคากันชัดๆ”

ยิ่งพูดฤทัยรัตน์ยิ่งเจ็บใจ แต่ก็ไม่มีทางเลือก

“แม่จะเอาเงินไปทำอะไร พักนี้แม่ใช้เงินเยอะจัง” เธออดถามไม่ได้ “ทำไมแม่ไม่ขอพ่อคะ ง่ายกว่าเอาของมาจำนำซะอีก”

เป็นความสงสัยที่สุดปรารถนาเก็บไว้ในใจมานานร่วมเดือน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอนำของมีค่าไปจำนำให้ฤทัยรัตน์ หากจะนับครั้งก็ประมาณสิบครั้ง อีกทั้งฐานะทางบ้านเธอไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน มีเงินกินเงินใช้ไม่ขาดมือ เธอจึงมองไม่เห็นความจำเป็นที่มารดาต้องนำเครื่องประดับมาแลกเป็นเงินเช่นนี้

คนถูกถามอึ้งไปชั่ววินาที แต่ก็หาเหตุผลมาตอบคำถามลูกสาวได้

“ฉันเอาเงินไปลงทุนกับเพื่อน แล้วที่ฉันไม่ไปเอาที่พ่อแกก็เพราะอยากหาเงินลงทุนเองน่ะสิ เผื่อมันไปไม่รอด พ่อแกก็จะว่าฉันไม่ได้ว่าเอาเงินไปผลาญทิ้ง ฉันเอาของของฉันไปจำนำดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ”

คำตอบของฤทัยรัตน์ ทำให้สุดปรารถนาเลิกเคลือบแคลง หลายครั้งที่ฤทัยรัตน์ขอเงินธำรงไปลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อน ผลที่ออกมาส่วนใหญ่จะไปไม่รอด เนื่องจากแต่ละคนไม่เป็นมืออาชีพ ทำตามกระแสและเอาหน้าเอาตา พอเวลาผ่านไปก็ขายกิจการทิ้ง แล้วหาเรื่องลงทุนใหม่ ธำรงว่ากล่าวตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง ให้อยู่เฉยๆ ก็มีเงินใช้เพราะลำพังเงินเดือนที่ให้ใช้เดือนละสามแสนก็มากพอแล้ว ไม่ต้องเดือดร้อนวุ่นวายเอาเงินไปละลายทิ้ง ทว่าฤทัยรัตน์ไม่เข็ดหลาบขยันเป็นหุ้นส่วนกับคนนั้นคนนี้ตลอดเวลา สุดปรารถนาคิดว่า เงินก้อนนี้คงนำไปลงทุนกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งอีกเช่นเคย

“พ่อเตือนแม่ด้วยความหวังดีนะคะ ไม่อยากให้แม่เหนื่อย แม่อยู่เฉยๆ ก็มีเงินใช้” สุดปรารถนาแก้ตัวแทนบิดา

“แกไม่ต้องพูดมาก แกอย่าลืมที่ฉันสั่งนะว่า อย่าบอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ ถ้าแกบอกใครล่ะก็ แกกับฉันขาดกัน” ฤทัยรัตน์กำชับบุตรสาว

“ค่ะแม่ ก้อยจำได้ค่ะ”

“จำได้ก็ดี” ฤทัยรัตน์พอใจกับคำตอบ “แกลงไปได้แล้ว รีบไปทำงานไม่ใช่เหรอ ฉันก็จะรีบไปเหมือนกัน”

สุดปรารถนาไม่พูดอะไร เธอยกมือไหว้มารดา ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก้าวลงไปยืนบนฟุตปาธ เธอมองดูรถยนต์ของมารดาที่แล่นออกไป จากนั้นก็เดินไปยังรถยนต์ของตนที่จอดอยู่ไม่ไกล อีกหนึ่งนาทีต่อมา เธอขับรถเบนซ์สปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดมุ่งตรงไปยังโรงแรมหรูแห่งหนึ่งใจกลางเมือง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

Glad Rarus
5.0

หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ