ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นพระมารดา

ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นพระมารดา

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
962
ชม
12
บท

เรื่องราวของสาวออฟฟิศที่ตายด้วยอุบัติเหตุ ทว่าเธอกลับมาเกิดยังโลกใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก แถมยังเกิดในร่างของราชินีองค์รองที่กำลังนอนป่วยใกล้ตายและยังมีมีลูกเลี้ยงเป็นเจ้าชายสุดหล่อถึงหกคน เรียกได้ว่างานนี้ไม่รู้ว่าโชคร้ายหรือโชคดีกันแน่ เพราะที่โลกนี้แม่ต้องอาบน้ำให้ลูกชายจนกว่าพวกเค้าจะแต่งงาน...

บทที่ 1 อาบน้ำกับเจ้าชายทั้งหก

ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นพระมารดา

ตอน อาบน้ำกับเจ้าชายทั้งหก

ซ่า! ๆ ๆ ฝนตกพรำๆในเวลาเย็นย่ำหลังเลิกงาน

บรืน! ๆ ๆ รถเก๋งอีโคคาร์สีชมพูคันเล็กกำลังแล่นบนถนนด้วยความเร็วสูงเพื่อหนีรถติดที่กำลังจะเกิดขึ้น

"ฮ้า ค่อยยังชั่ววันนี้ออกมาไวตั้งห้านาทีแน่ะ"

สาวแว่นผมสั่นเอ่ยขณะควงพวงมาลัยรถเก๋งเลี้ยวขึ้นคอสะพานข้ามแม่น้ำใหญ่

เปรี๊ยง! ๆ จู่ๆสายฟ้าก็ฟาดลงมายังพื้นถนนข้างๆกับรถสีชมพู

อร๊ายยยย! สวยหน้าสวยกรี๊ดสุดเสียงขณะที่สองมือสั่นกระตุกแสงจากสายฟ้าก็สว่างจ้าเข้าตรงหน้าจนมองอะไรไม่เห็น

โครม! รถเล็กเสียหลักพุ่งชนราวสะพานก่อนจะร่วงกระทบผิวน้ำที่ดำมืดดัง ตูมมม!

ฟื่ด! ๆ ๆ สาวสวยรีบสูดผมใจเข้าปอดและกลั้นหายใจขณะดิ้นหาทางรอดออกจากรถตัวเอง

ทว่าเข็มขัดนิรภัยไม่อาจถอดได้ ถุงลมนิรภัยที่กระแทกหน้าก็ดันร่างของเธอติดแนบกับเบาะนั่งจนลุกไม่ขึ้น

ลมหายใจค่อยๆหมดลงทุกวินาที ภาพตรงหน้ากระจกดำมืดและดูเย็นยะเยือกเมื่อค่อยๆดำดิ่งลงสู่พื้น น้ำรั่วเข้ามาทางจากขอบประตูทุกทาง น้ำตาหยาดหยดอาบสองแก้มขาวขณะที่ใบหน้าเล็กเรียวสั่นเทา

พยายามดิ้นสุดกำลังเพื่อจะลุกออกจากเบาะ ทว่าเป็นไปไม่ได้เลย

สาวแว่นทำได้เพียงภาวนาในใจเมื่อแรงเฮือกสุดท้ายแทบไม่มีเหลือ

ฮือ! ๆ ๆ "ขออย่าให้หนูเป็นอะไรไปเลย แฟนหนูก็ยังไม่เคยมี"

"หนี้กยศ.หนูก็ยังไม่เคยได้จ่าย"

"ฮือ! ๆ ๆ ขอให้หนูได้ผัวซักคนค่อยตายก็ยังดี"

"ทำไมไม่ให้คนอื่นตายวะ"

"ทำไม่ต้องเป็นฉัน"

นึกจบภาพทุกอย่างก็ดับวูบไปพร้อมกับสติที่ดับสูญ

ณ.ดินแดนแห่งหนึ่ง

เหล่าประชาชนกำลังเดินขวักไขว่อยู่ภายในกำแพงเมืองที่มีปราสาทแหลมๆหลายหลังตั้งตระหง่านสูงเสียดฟ้า

ทหารในชุดเกราะเหล็กสีเงินวาวถือดาบเดินตรวจตราไปบนถนนที่ปูด้วยหินอ่อนและแยกย้ายกันเป็นแถวๆไปสำรวจยังทุกซอกซอย

"ผลไม้ไหมจ๊ะ ๆ" เด็กสาวหน้าตาน่ารักยืนขายผลไม้อยู่ข้างถนน มีร้านค้าตั้งเรียงรายเป็นแนวแถวไปตามถนนหลักที่นำไปสู่ปราสาทสีทอง

นกน้อยบินวนเหนือหัวทหารเกราะเหล็ก มันส่งเสียงจิ๊บๆขณะที่โบกปีกฉวัดเฉวียนพาร่างเล็กๆลู่ลมขึ้นสูง

มองลงมาเบื้องล่างเห็นประชากรนับหมึ่นเรือนแสนกำลังเร่งทำการงานในยามเช้าอย่างสดชื่นแจ่มใส

จิ๊บ! ๆ ๆ นกน้อยโบยบินขึ้นมาเกาะขอบหน้าต่างของปราสาทสีทองณ.ชั้นบนสุด มันส่งเสียงเจื้อยแจ้วราวกับว่ากำลังเพรียกหาใครอยู่

"มาแล้วหรือเจ้าจิ๋ว" เสียงหนุ่มวัยฉกรรจ์ดังขึ้นก่อนปรากฏร่างสูงยาวกำยำที่สง่าผ่าเผยกำลังเดินมายังหน้าต่าง

"ดูสิ วันนี้ท่านแม่ของข้าสวยไหม" องค์ชายกลอเรียสชี้นิ้วมายังสตรีผมทองที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง

จิ๊บ! ๆ ๆ นกกระจอกตัวน้อยร้องตอบและก้มจิกกินข้าวสารในมือใหญ่

แค่ก! ๆ จู่ๆสาวสวยวัยสามสิบที่นอนแน่นิ่งกลับลืมตาตื่น เย้ย! เจ้าชายองค์โตถึงกับตกใจแทบล้ม

"ท่านแม่ ๆ ท่านฟื้นแล้วรึ"

"แม่ ใครรึ ข้าเป็นแม่เจ้าเนี่ยนะ" ราชินีรูปงามเอ่ยขณะลุกนั่ง ภาพรถตกน้ำยังตราตรึงอยู่ในหัวเหมือนว่ามันเพิ่งจะเกิดเมื่อตะกี๊นี้เอง

นี่ฉันรึ?

คือตายแล้วรึนี่คือสวรรค์?

เดี๋ยวนะ นางฟ้าเกิดมาก็โตเป็นผู้ใหญ่เลยดิ?

"ท่านฟื้นแล้วจริงๆด้วย ฮือ! ๆ ๆ" จู่ๆเจ้าชายในชุดเกราะอ่อนที่ทำจากผ้าสีทองก็ร้องไห้โฮ แถมยังเอาหน้ามาซุกซบกับเต้าราชินีองค์รองที่มีศักดิ์เป็นเเม่เลี้ยงของตัวเอง

ถ้าเป็นสวรรค์แล้วข้ามีลูกได้ยังไง?

เออช่างมันเหอะ คงต้องตามๆน้ำไปก่อนเผื่อว่าจะเป็นนรก

สาวสวยผมยาวสีทองอร่ามเอ่ยนึกในใจ

"อือ! ข้าหายแล้วหละ ว่าแต่ที่นี่ที่ไหนล่ะ"

"ก็ปราสาทของท่านไง" องค์ชายกลอเรียส

"ปราสาท แล้วข้า ข้าชื่ออะไรนะ"

"ที่ท่านจำไม่ได้หรือ ไม่สบายรึเปล่า" หนุ่มหล่อเอาแก้มแนบหน้าผากท่านแม่และเอ่ยถาม

"อื้อ ก็ข้าไม่สบายไง เพิ่งฟื้นนี่"

"ท่านชื่อเฟรเซีย นี่ท่านจำตัวเองไม่ได้เลยรึ ฮือ! ๆ ๆ " พูดจบเจ้าชายก็ร้องโฮเสียงดังลั่น

ตุบ! ๆ ๆ ๆ เสียงฝีเท้าชายฉกรรจ์วิ่งกรูมาหน้าห้องก่อนจะมีคนนึงถีบประตูดังโครม

เผยให้เห็นเจ้าชายรูปงามอีกห้าพระองค์กำลังกรูเข้ามายืนล้อมเตียงที่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดง

"ท่านแม่ ท่านแม่เราฟื้นแล้ว ท่านแม่" หนุ่มๆทั้งห้าร้องเรียกดีใจขณะที่ทรุดลงคุกเข่าและเอามือจับแขนขาและเรือนร่างที่เพรียวขาวงามสง่ายากหาใครเปรียบ

"พวกเจ้าเป็นใครน่ะ" เฟรเซียเอ่ย

"เอ๋า ก็ลูกท่านไง" หนุ่มๆตอบ บ้างก็นั่งงง

"ไหนๆท่านก็ตื่นแล้ว เราไปอาบน้ำด้วยกันเถอะนะ" องค์ชายคนโตกล่าว

อีกสองคนช่วยกันอุ้มแขนยกขาพาร่างเพรียวสวยซ่อนรูปเดินลงบันใดวนของปราสาทมายังชั้นถัดไป

หนุ่มๆทั้งหกยัดกันเข้ามายืนอัดในห้องน้ำที่มีอ่างไม้ขนาดใหญ่เพียงอ่างเดียว

ฟุ่บ! ร่างสวยถูกวางยืนกลางดงชายหนุ่มวัยรุ่นและพวกเค้าถอดเสื้อผ้าตัวเองออกจนเปลือยล่อนจ้อนทั้งหกคน

"เดี๋ยว ๆ ข้าว่าข้าอาบเองได้นะน้ำน่ะ" คนสวยเอ่ยขณะเหลียวซ้ายแลขวามองเห็นแท่งเอ็นต่างขนาดหลากรูปแบบทั้งหกอันกำลังจิ้มขาของเธออยู่

อี๋! สองมือน้อยยกขึ้นปิดหน้าหลับตาจนไม่เห็นแท่งรักของผู้ชายทั้งหลาย

"ท่านดูแปลกๆ คงหลับไปนานเกิน"

"ไม่เป็นไร พวกเราจะอาบให้"

"ไม่เป็นไร ข้าอาบเองได้" คนสวยตอบ

"นี่ท่านแม่ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย เราก็อาบด้วยกันมาตั้งกี่ปี"

"เดี๋ยว เราเคยอาบน้ำด้วยกันรึ"

"อื้อ ท่านช่วยจับตรงนี้ไว้ก่อนจะได้ไม่ล้ม"

องค์ชายรองเอ่ยและดึงมือน้อยของท่านแม่มาจับยังแท่งเอ็นอ่อนๆของเค้าตรงหว่างขา

อ๊าคค! เจ้าหญิงร้องลั่น ทว่ามืออีกข้างก็โดนองค์ชายคนโตดึงไปจับแท่งเอ็นที่ใหญ่และแข็งกว่ามาก

พวกน้องๆที่เหลือช่วยกันถอดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวมใส่ของเจ้าหญิงออกไปกองกับพื้นจนหมดสิ้น

มือน้อยสั่นเทา ได้ยินหัวใจตัวเองเต้นดังตูมๆอยู่เต็มหูสองข้าง แท่งเอ็นขององค์ชายรองค่อยๆพองขึ้น มันเต้นตุบๆอยู่ในกำมือจนกำไม่รอบ

ซ่าาาา! น้ำอุ่นในอ่างไม้ทรงกลมตักราดแผ่นหลังจนเย็นว่าบ ดวงตากลมแป๋วเบิกโพลง

อ๊ายยย! เจ้าหญิงกรี๊ดลั่นเมื่อก้มมองเห็นแท่งเอ็นหลายอันที่แข็งเต็มที่จิ้มชนหน้าท้อง ขาและตูดของเธอเต็มไปหมด อีกสองอันก็อยู่ในมือสองข้าง

"ป่ะ เราอุ้มหล่อนลงอ่างกันเถอะ" องค์ชายคนโตเอ่ยบอกน้องๆ

"อ๊า! อย่านะ นี่เป็นกระทะทองแดงใช่ไหมเนี่ย"

เจ้าหญิงผมทองกรี๊ดลั่น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

Oh my boss ร้ายกาจนักรักบอสจัง

ผลิกา(เลอบัว)
5.0

เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

หงส์คืนฟ้า ชะตารัก

ซีไซต์
5.0

"พี่เจี๋ยข้าอยากได้อีกจุมพิตเพิ่มพลังของท่าน" ฉีเย่ว์กล่าวงึมงำบนริมฝีปากของเขา นางเป็นฝ่ายดูดกลีบปากของหยางเจี๋ยเบา ๆ ซุกไซร้ซอกซอนแหย่ลิ้นเข้าไปในปากของเขา สัมผัสอ่อนนุ่มในคราแรกเริ่มโหมกระหน่ำร้อนแรงมากขึ้น ฉีเย่ว์ปลดสายรัดเอวของเขาออกสอดมือล้วงเข้าไปในกางเกงของหยางเจี๋ยพบเนื้อร้อนของเขาแข็งแกร่งขึ้นเต็มลำ นางขยำแรง ๆ พร้อมกับรูดมือเบา ๆ "อ๊า คนดีของพี่" หยางเจี๋ยมือหนึ่งประคองศีรษะของนางให้แนบชิดกับปากของเขาอีกมือล้วงเข้าไปในสาบเสื้อของนาง ฉีเย่ว์ไร้อาภรณ์กางกั้นด้านในนางใส่เพียงเสื้อคลุมนอนสีขาวเท่านั้น เขาลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของนางไล้นิ้วลงไปจนถึงแก้มก้มแล้วขยำเบา หนัก สลับกัน "พี่เจี๋ยให้ข้ารักท่านเถิด" ฉีเย่ว์กัดปากข่มเสียงครางเอาไว้ นางดึงกางเกงของเขาออกโดยมีหยางเจี๋ยคอยช่วยเหลือ นางขึ้นคร่อมเขาอย่างกระหายไม่บัดนี้ตื่นอย่างเต็มตาในขณะที่ควงเอวควบขี่เขาเป็นจังหวะ หยางเจี๋ยขยับรับจังหวะที่องค์ราชินีของตนเองควบขี่ เขาเด้งสะโพกขึ้นรับนางมือดึงผ้ารัดเอวของนางออกแล้วทิ้งไว้ด้านข้าง แหวกสาบเสื้อของนางแล้วผวาศีรษะขึ้นมาอ้าปากดูดรับเนื้ออวบของนางที่กระเด้งเป็นจังหวะ ฉีเย่ว์ดันร่างของตนเองเข้าหาปากเขามือช่วยประคองศีรษะของหยางเจี๋ยให้แนบชิด หยางเจี๋ยดูดปทุมถันคู่งามอย่างกระหาย เสียงหอบหายใจของฉีเย่ว์สั่นสะท้านหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก เขาคือหัวหน้าหน่วยจู่โจมที่ตายในสงคราม และได้ย้อนเวลากลับมาหลายร้อยปีกระทั่งฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กน้อยนาม หยางเจี๋ย เด็กผู้อาภัยจากตระกูลใหญ่ ที่บิดาและมารดาถูกใส่ความว่าทุจริตจนต้องจบชีวิตลง หยางเจี๋ยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกเลี้ยงดูให้เติบโตในจวนราชครู สหายของบิดา และที่นี่เขาได้พบกับเด็กน้อยผู้หนึ่งนาม ฉีเย่ว์ ธิดาของท่านราชครูฉีผู้สูงส่ง พวกเขาเติบโตมาด้วยกัน ความใกล้ชิดทำให้เขาหวั่นไหว หยางเจี๋ยจะทำเช่นไรเมื่อได้พบว่า ตัวเอง ตกหลุมรักคุณหนูผู้สูงส่งจนหมดหัวใจไปเสียแล้ว เขารักนาง ต้องการทำให้นางตกเป็นของเขา และทำลายขวากหนามทุกอย่างที่ขัดขวางให้หมดสิ้นไป เพื่อนางเพียงคนเดียว

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ