Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
73.1K
ชม
61
บท

"ไม่ใช่ นี่มันเกียร์ฉัน!" "Oh! ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษ ก็คุณลุงไม่ให้มองมิลก์ก็กำผิดกำถูกสิคะ แล้วข้ามมาทำไมตอนรถไม่นิ่งละคะ" "ใครมันจะไปคิด ว่าเธอจะคิดทำมิดีมิร้ายกับฉันเล่า" "มิลก์เหรอคะ ที่คิดทำมิดีมิร้ายกับคุณลุงน่ะ ไม่ใช่ใช่คุณลุงเหรอคะ มาสอนมิลก์ขับรถแท้ๆ ตรงนั้นยังจะตั้งอยู่อีก"

บทที่ 1 บทนำ

"ฉันจะไปฝึกงานที่นี่แหละ"

น้ำเสียงใสเอ่ยบอกเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองหลังจากที่ได้รับเอกสารแนะแนวการทำงานของสถานีโทรทัศน์ช่องรันซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์อันดับหนึ่งที่ใครต่างก็เฝ้าฝันอยากจะเข้าไปทำงานด้วย ค่าตอบแทนที่มากกว่าที่อื่น แม้จะทำงานหนักกว่าที่อื่นแต่มันก็คุ้มค่ามากๆ สำหรับเศรษฐกิจแบบนี้

"ฉันไปด้วย"

"มีเธอแล้วจะไม่มีฉันได้ไง"

ฐานิดา และ ธนัสพร ต่างก็พูดขึ้นพวกเธอเรียนอยู่คณะสื่อสารมวลชนด้วยกัน แม้จะเพิ่งรู้จักกันตอนเรียนปีหนึ่งแต่พวกเธอก็สนิทกันอย่างมากในชั้นปีไม่มีใครสนิทกันเท่ากับพวกเธออีกแล้ว

"งั้นเราเขียนใบสมัครกัน อย่างน้อยต้องได้ฝึกงานที่นี่สองปี ถึงจะมีการพิจารณารับเข้าทำงานจริง"

"ว่าแต่ยัยป้ามหาภัยของเธอจะยอมเหรอมิลก์"

มารตี เพียงแค่ยักไหล่ให้เป็นคำตอบเธออยู่กับป้ามาตั้งแต่อยู่ ม.5 เพราะพ่อเธอเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตกะทันหัน ส่วนแม่เธอก็ไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เธอเรียนอยู่ ม.2 ทำให้เธอต้องมาอยู่กับป้าที่มีลูกชายโตกว่าเธอหนึ่งปี และลูกสาวรุ่นเดียวกับเธอ แต่ก็นะ อาศัยบ้านเขาอยู่ เขาไม่ทิ้งขว้างเธอก็ดีเท่าไหร่แล้ว

"อย่าไปสนใจเลย"

"ฉันก็ต้องห่วงเธอไหม ดูเธอสิ เธอทั้งเรียบร้อย ทั้งน่ารัก แต่ที่ห่วงมากๆ ก็คือเธอไม่เคยทันคนเลยสักนิด ยังดีหน่อยที่มีนิสัยดื้อด้านอยู่มาก"

"นี่! ยัยนิดาเธอว่าฉันอยู่นะย่ะ!"

"คิก คิก" มารตีทำสีหน้าบูดบึ้งใส่ฐานิดาเพื่อนรักก่อนจะเอียงศีรษะไปซบไหล่ของธนัสพรอ้อนขอความเห็นใจที่ถูกฐานิดากลั่นแกล้ง ธนัสพรใช้มือเรียวลูบศีรษะของมารตีเบาๆ ใบหน้าหวานของทั้งสามคนประดับไปด้วยรอยยิ้มของสาวใสในวัย 21 ปี

ปกติมหา'ลัยจะต้องฝึกงานตอนเทอมสุดท้ายของปีสี่ แต่เนื่องจากนักศึกษาคนไหนก็ตามที่สามารถสัมภาษณ์การฝึกงานผ่านสถานีโทรทัศน์ช่องรัน ทางมหา'ลัยจะพิจารณาเรื่องการศึกษาให้เป็นพิเศษ เพราะนักศึกษาที่ได้ฝึกงานกับสถานีโทรทัศน์ช่องรันต้องฝึกงานทุกวันตามกฎของสถานีฯ โดยไม่ต้องเข้ามหา'ลัย แต่ให้เข้ามาเพียงแค่ช่วงก่อนสอบหนึ่งสัปดาห์ไปจนถึงหลังสอบเสร็จ แล้วถึงไปฝึกงานต่อได้โดยเริ่มตั้งแต่การศึกษาปีสามไปจนจบหลักสูตร

นั่นหมายความว่าระหว่างที่ฝึกงานอยู่นักศึกษาก็ยังคงต้องเรียนเป็นปกติผ่านทางช่องทางออนไลน์ หากใครรับได้ก็ให้ไปทำเรื่องที่ห้องธุรการของทางมหา'ลัยได้เลย

แปะ!

"โอ๊ยยย! คิน"

อาคิน เพื่อนชายเพียงคนเดียวของกลุ่มใช้ม้วนกระดาษตีเข้าที่หน้าผากมนของมารตีเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นเอกสารการสมัครฝึกงานให้กับเพื่อนสาวทั้งสามของตัวเอง

"ไปเอามาได้ไงอะ เห็นว่าใบสมัครหมดแล้วไม่ใช่เหรอ"

"เขียนๆ ไปเถอะน่า ฉันไปเอามาให้พวกเธอได้แล้วกัน"

อาคินลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องรันแต่เขาปกปิดตัวตนเอาไว้เพราะไม่ชอบให้มีเรื่องวุ่นวายตามมาทีหลังเพื่อนๆ ของเขาไม่มีใครรู้ว่าที่บ้านของอาคินทำธุรกิจอะไร ทุกคนรู้เพียงแค่ทำสื่อโฆษณาการตลาดออนไลน์เท่านั้น

"นายนี่ ฉลาดสุดยอด ว่าแต่จะไปฝึกงานกับพวกเราไหมอ่า~"

"นัส เธอได้ดูเอกสารที่ฉันส่งให้ปะเห็นชื่อฉันอยู่บนหัวกระดาษไหมยัยบื่อ!"

"เอ้า! ใครเขาจะไปดูอะไรละเอียดขนาดนั้นอะ"

"กรอกให้มันเร็วๆ หน่อยฉันหิวจะตายอยู่แล้วจะไปกินไหมสุกี้น่ะ"

อาคินบ่นเข้าให้กับเพื่อนสาวของตัวเองฐานิดา กับธนัสพรไม่เท่าไหร่หรอกแต่ยัยมารตีสมองช้าเนี่ยสิ ทำให้เขาต้องปวดหัวหลายต่อหลายครั้ง

"คุณมารตีครับ ตรงนี้เขาให้เขียนแต่ชื่อไม่ใช่ให้เขียนนามสกุลด้วยครับ"

"อ้าว เราลืมยกมือดูอะ คินนนน~ มีใบใหม่ไหม~"

"จะรอดไหมเนี่ยมิลก์เอ๊ย!"

อาคินบ่นไปเพียงแค่นั้นเขารู้ว่าแม้มารตีจะซื่อบื้อ เรียบร้อย แต่เธอก็ยังมีความดื้อรั้น และฉลาดแฝงอยู่บ้างนิดหน่อย เวลาผ่านไปไม่นานนักทุกคนก็ส่งเอกสารการฝึกงานพร้อมกับเดินออกไปนอกห้องเรียนทันที เรียกง่ายๆ ว่าโดดคาบสุดท้ายเนี่ยแหละ เพราะถ้าชักช้าที่นั่งร้านสุกี้ในห้างฯ ดังก็จะเต็มไงละ

- ร้านสุกี้ชื่อดัง @ห้างสรรพสินค้าxxx–

"เกือบไม่ทันแล้ว มิลก์เร็วหน่อย"

"นี่นัส นิดา อย่าวิ่งสิมันดูไม่ดีนะ"

"โอ๊ย คุณมารตีขา~ ขืนชักช้าได้ยืนกินแน่!"

"อะ! รอเราด้วยสิ"

อาคินเองก็เอากับเขาด้วย วิ่งไปจองที่นั่งก่อนเป็นคนแรก แล้วตามด้วยฐานิดากับธนัสพร ทุกคนต่างหัวเราะคิกคักหยิบเมนูขึ้นสั่งอาหารเพราะรู้ว่ามารตีนั้นเรียบร้อย และชักช้า มันเป็นสิ่งที่พวกเขาและเธอชินกันแล้ว

"ตัวเล็กระวัง!"

มารตีเห็นเด็กผู้ชายตั้งหน้าตั้งตาวิ่งเธอกลัวว่าเด็กคนนั้นจะล้มแล้วเกิดอันตรายจึงรีบวิ่งตามไป สองแขนเรียวตั้งท่าจะคว้าตัวเด็กชายคนนั้นเอาไว้แต่เด็กน้อยก็วิ่งไปไวเหลือเกินทำให้เธอเผลอคว้าเข้าที่แขนแข็งแรงของใครบางคนเข้าอย่างจัง

หมั่บ!

"อ่ะ นี่ตัวเล็ก!"

สองมือเรียวยังจับท่อนแขนแข็งแรงของใครบางคนอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเขามันไม่เหมือนใครมือเรียวเริ่มสั่นเทิ้มเล็กน้อยสายตาสอดส่องหาเด็กน้อยแต่ก็ไม่พบ เธอมองเลยไปข้างหลังของชายหนุ่มกล้ามแน่นคนนี้ เห็นชายชุดดำยืนประกบด้านซ้ายและขวาอย่างน่ากลัว มารตีกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากก่อนที่จะตัดสินใจค่อยๆ เงยหน้ามองเจ้าของแขนแข็งแรงที่เธอคว้าเอาไว้

"จะปล่อยได้ยัง ฉันไม่ชอบหรอกนะผู้หญิงที่เข้ามาหาฉันแบบนี้อ่ะ"

"ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษนะคะ"

มารตีก้มศีรษะลงปลกๆ [1] โดยลืมที่จะปล่อยมือ ผู้ชายคนนี้มีเรือนผมสีทองประกายใบหน้าหล่อตามสไตล์ผู้ดีอังกฤษเสียอยู่อย่างเดียวปากสุนัขไปสักหน่อย เขามีดวงตาที่สวยราวกับเทพบุตรเพียงแค่ท่อนแขนของเขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อก็ทำให้หญิงสาวอย่างเธอตกใจในความแน่นหนัดนี้

"เออ ... ขะ ... ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆ นะคะ"

"เธอก็ ... ดูน่ารักดีนะ เสียดายที่วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์"

มือหนาจับที่ปลายคางมนของคนตัวเล็กตรงหน้า เขาโน้มใบหน้าเข้าใกล้เธอจนปลายจมูกแทบจะชนกันอยู่รอมร่อ มารตีตกใจจนเผลอผลักเข้าที่แผงอกแกร่งของชายหนุ่มแต่เขากลับไม่ขยับเลยสักนิด

กินหิน กินปูนเข้าไปรึไง ตัวถึงได้หนักไม่ไหวติงขนาดนี้ ตาบ้า!

"หึ ไปให้พ้นหน้าฉันซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเจอเธอเป็นครั้งที่สอง"

มารตีรีบหมุนตัวกลับแต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาไปไหนเลยก็ถูกมือแกร่งของใครบางคนคว้าเอาไว้แล้วรั้งร่างเธอเข้าหาตัว แผ่นหลังบางชิดกับแผงอกแกร่งของเขา เธอตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่อยู่ในห้างดังจำนวนมาก ใบหน้าหวานเริ่มเห่อร้อนเพราะความโมโห แล้วเธอก็ต้องโมโหหนักขึ้นเมื่อคนตัวสูงก้มหน้าลงจูบเข้าที่หน้าผากมนของคนตัวเล็กอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

"คะ ... คุณ! ทำอะไรของคุณคะ"

"เธอผลักฉัน ฉันก็ต้องเอาคืนสิ"

"คุณก็ผลักฉันคืนสิคะ ไม่ใช่มา ... เอ่อ ... มา ... "

"มาอะไร ถ้าไม่พูดรอบนี้ไม่ใช่ที่หน้าผากแล้วนะ"

"โรคจิต คุณมันโรคจิตชัดๆ อย่าได้พบได้เจอกันอีกเลย!"

มารตีไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เธอรีบวิ่งออกมาทันทีโดยที่มือเรียวยังถูหน้าผากของเธอซ้ำๆ จนแดงเถือก เธอวิ่งเข้าไปนั่งข้างๆ อาคินที่เว้นที่ว่างเอาไว้ให้เธอหนึ่งที่เป็นประจำ

"ไปไหนมามิลก์ ทำไมนานจัง"

"ฉะ ... ฉันไปเข้าห้องน้ำมาน่ะ"

"อย่าโกหกนะ เธอโกหกไม่เก่งรู้ไหม"

"ไม่ได้โกหกนะ กินกันเถอะฉันหิวแล้ว"

ภายในร้านสุกี้ชื่อดังเป็นกระจกใสทำให้คนที่อยู่ด้านนอกจ้องมองเข้าไปได้อย่างชัดเจน ชายหนุ่มลูกครึ่งดวงตาสีน้ำตาลประกายทองระยิบระยับ เหลือบมองหญิงสาวที่อยู่กับเขาเมื่อครู่ ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทีเรียบเฉยไร้ความรู้สึก

"นายครับ ผู้หญิงคนนั้น นายต้องการเธอไหมครับ" ปกติแล้วเขาต้องการอะไร เขาต้องได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม

"ไม่ กูยังไม่มีอารมณ์"

"แล้ววันนี้กลับบ้านเลยหรือว่าจะเข้าบริษัทครับ"

"กูว่าจะไปเยี่ยมรัฐมนตรีสักหน่อย มันเลยกำหนดส่งเงินให้กูมาสองชั่วโมงแล้ว"

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ นังหมูปีศาจ

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ