Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
2.6K
ชม
15
บท

“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต

บทที่ 1 ตอนที่ 1 คมสัน

หลายปีก่อน

“คม … อย่าสิ” เสียงหวานสั่นร้องห้ามไม่ให้ชายหนุ่มซุกซน

“เบื่อลิ้นผมแล้วเหรอ”

“ใครจะเบื่อแต่ขอไปล้างก่อนไม่ได้เหรอ เสร็จไปตะกี้ยังไม่ได้เข้าห้องน้ำเลย” หญิงสาวต่อรอง

“ยิ่งแฉะยิ่งได้อารมณ์ไม่รู้เหรอ ดูสิอุ้ม รู้สึกไหมครับ” ชายหนุ่มไม่ได้ถามเปล่าๆ เขาตวัดลิ้นไปทั่วร่องน้ำฉ่ำ มันทั้งหอมทั้งหวานไม่มีสิ่งใดเทียบได้ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมทั้งนั้น

“คมจ๋า สะ … เสียว จัง” หญิงสาวบิดกายเร่าๆ ขาที่เคยหนีบไว้อ้ากว้างขึ้นเรื่อยๆ

คมสันไม่ได้ช่ำชองแค่การใช้บั้นเอวแต่เรียวลิ้นก็สะเด็ดสะเด่าไม่แพ้กัน เขาชื่นชอบจะเรียกว่าหลงใหลการเสพสมก็ไม่ผิดนัก เขาชอบเห็นผู้หญิงถึงจุดสุดยอด ตอนพวกเธอควบคุมตัวเองไม่ได้เพราะความเสียวซ่านมันเร้าใจสุดๆ

ใช้ลิ้นได้กับใช้ลิ้นเป็นไม่เหมือนกัน ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ ขอเปรียบด้วยการขับรถคนหนึ่งขับเป็นส่วนอีกคนขับเป็นเหมือนกันแต่รู้ทางลัดทางลับและรู้จักรถของตัวเองเป็นอย่างดี แน่นอนว่าคนหลังได้เปรียบกว่า เขาไปถึงจุดหมายได้หลายทาง วันไหนรีบก็ใช้ทางลัดอยากกินลมชมวิวก็ใช้ทางลับ ถ้าอยู่ๆ รถกระตุกสั่นเหมือนเจ้าเข้าก็ไม่ตกใจ

ซึ่งคมสันใช้ลิ้นเป็น เขาชอบปรนเปรอผู้หญิง การที่เธอได้ขึ้นสวรรค์ซ้ำๆ ในคืนเดียวกันหรือกลางวันก็ตามคือความสุขของการเสพสม สำหรับผู้ชายหนุ่มแน่น ร่างกายแข็งแรง ไม่ใช่เรื่องยากที่จะไปถึงจุดหมาย แค่เห็นผู้หญิงแก้ผ้าหรือใส่ชุดวับๆ แวมๆ ก็พร้อมทำกิจกรรม

การเล้าโลมพวกเธอ ทำรักด้วยปากและนิ้วจึงเป็นการยืดเวลาแห่งความสยิวให้ยาวนานขึ้น

การร่วมรักหรือเรียกให้ง่ายกว่านั้นคือเอากันไม่ได้มีแค่การสอดใส่กระแทกกระทั้นบั้นเด้าให้ถึงเป้าหมายมันทำได้มากมายหลายอย่างหลายทางสุดจินตนาการ

การกอดคลอเคล้าเคลียนับเป็นการอุ่นเครื่องที่ดี ชีวิตจริงไม่เหมือนหนังโป๊ที่เจอหน้ากันก็ใส่กันยับแล้วแตกใส่หน้าภายในห้านาที ทำแบบนั้นไม่ใช่เรื่องผิดแต่ทำบ่อยๆ จะต่างอะไรกับกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทุกวัน น่าเบื่อจะตาย

“ใกล้แล้วจ้ะ อีกนิด อืม …” หญิงสาวกดหัวชายหนุ่มให้จมลึกกว่าเดิม เธออยากให้ใบหน้าของเขาแนบชิดกับส่วนอ่อนไหวให้มากที่สุด อยากให้เขาขยี้หน้ากับมัน ย่ำยีมันให้หนักขึ้นอีก

“อุ้มจ๋า สั่นริกๆ เลย เสียวมากใช่ไหม” คมสันมองความฉ่ำเยิ้มด้วยตาหวานเชื่อม น้ำใสๆ ไหลออกมาทีละนิดจากรูรักคือภาพที่เขาโปรดปราน เขาแตะลิ้นเบาๆ ไปที่ปุ่มกระสันแต่เธอกลับร้องลั่น

“คมเนี่ย ! จะไม่ให้อุ้มพักเลยเหรอ”

“ก็ของอุ้มน่าเลียน่าดูดทำไมล่ะ”

“ไม่จริงหรอก”

“ไม่เอาไม่คิดถึงเรื่องเก่าๆ อุ้มเหนื่อยแล้วใช่ไหม งั้นนอนเฉยๆ นะ คมทำต่อเอง”

ก่อนมาเจอคมสัน อรอุมาคบหากับผู้ชายคนหนึ่ง ทุกอย่างดูดีน่าจะไปกันได้แน่นอนแต่ก็มาตกม้าตายที่เรื่องบนเตียง เขาชอบจนถึงบังคับให้เธอทำรักด้วยปากทุกวัน เธอก็ไม่เคยบ่นหรือบ่ายเบี่ยงเพราะถือเป็นความสุขของคนรักแต่ในทางกลับกัน เขาไม่เคยใช้ปากให้เธอเลย ด้วยเหตุผลว่ารังเกียจเป็นของต่ำ

แรกๆ อรอุมาก็รับได้แต่พอเอาไปเล่าให้เพื่อนฟัง เธอถึงได้รู้ว่าพลาดประสบการณ์แสนสยิวไปอย่างน่าเสียดาย

เธอจึงยื่นคำขาดกับเขาว่า ถ้าไม่ยอมใช้ปากให้เธอก็เลิกกันไป ผลคือ เขาเก็บเสื้อผ้าออกไปทันทีซึ่งนับว่าดีมากๆ เพราะผู้ชายคนต่อมาของเธอคือคมสัน

เขาเปิดประสบการณ์ทางเพศให้เธอแบบหมดเปลือก พาท่องสวรรค์ไม่รู้กี่ร้อยกี่พันชั้น

เมื่อคบกันแล้ว ความจริงใจจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แต่รวมถึงเรื่องทางเพศด้วย

ถ้าเรากล้าบอกความต้องการที่แท้จริงออกไปก็จะทำให้เข้าใจกันมากขึ้น

กับแฟนคนก่อน อรอุมาไม่เคยกล้าบอกว่าการโดนขยำนมสุดแรงมันเจ็บแค่ไหน เธอกลัวเขาไม่พอใจจึงอดทนเจ็บนมเรื่อยมาแต่กับคมสันแค่ร้องด้วยเสียงผิดปกติ เขาจะรีบถามทันทีว่าเจ็บเหรอ ทำแรงไปใช่ไหม ทั้งที่ความจริงเธอแค่เสียวจนจะขาดใจก็เท่านั้นเอง

“ทำยังกับเมื่อกี้ อุ้มไม่นอนเฉยๆ เนอะ”

“ไม่เฉยนะ ดิ้นซะหมอนหล่นเลย”

“อืม … คมจ๋า” อรอุมาโอบแขนไปที่ลำตัวบึกบึน เขาขึ้นมาอยู่ข้างบนแล้ว เจ้ายักษ์ใหญ่ตาเดียวกำลังสอดเข้ามาช้าๆ ขนาดแฉะจนที่นอนเปียกก็ยังต้องสอดใส่อย่างระมัดระวังเพราะของใหญ่แบบนี้ กระแทกพรวดเดียวน้องหมีได้ฉีกแน่นอน

คมสันเกิดมาดีพร้อมเหมือนพระเจ้าจงใจปั้นเป็นพิเศษ เขาหน้าตาหล่อเหลาคมสันซึ่งบังเอิญมากที่ดันชื่อคมสันอีก สูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร

สูง ใหญ่ ล่ำ จึงเป็นคำเปรียบเปรยที่ไม่เกินจริง

ตัวสูง ของใหญ่ ร่างกายล่ำสัน

ของที่ว่ามาในขนาดถุงยางห้าสิบแปดและทีเด็ดก็คือมุกอีกห้าเม็ด แค่ดุ้นที่เหมือนไฟฉายก็สยิวจนต้องขมิบแล้วฝังมุกเพิ่มอีกสาวๆ ที่เจอกลืนน้ำลายทุกคน พวกเธอคิดว่าถ้าได้อมได้เลียหรือถ้าเจ้าดุ้นนี้เข้ามาในรูจะรู้สึกยังไง

การศึกษาก็พอไปวัดไปวาได้เพราะจบ ปวช. แม้ไม่สูงถึงระดับมหาวิทยาลัยแต่ก็มีอาชีพหาเลี้ยงตัวเองสบายแถมดูแลผู้หญิงได้ด้วย

คมสันกับอรอุมาคบหากันได้ห้าปีและกำลังวางแผนจะมีลูก ส่วนเรื่องแต่งงานข้ามไปได้เลยเพราะทั้งสองเห็นตรงกันว่าไม่จำเป็น พ่อแม่ก็ไม่อยู่แล้วไม่ต้องมีพิธีให้วุ่นวาย เก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้อย่างอื่นดีกว่า

“ชอบจัง เวลาได้ยินเสียงแจะๆ ตอนกระแทกเนี่ย” คมสันเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นเพื่อเพิ่มความสยิว

“โดนขนาดนี้ถ้าหมียังแห้งอยู่ก็บ้าแล้ว” อรอุมาว่าให้

วันนี้เป็นวันหยุด ทั้งสองจึงไม่ต้องเร่งรีบออกไปทำงาน พอตื่นก็นอนกลิ้งเล่นบนที่นอนแต่ไม่ใช่แค่คนที่ตื่นเจ้าดุ้นก็ตื่นด้วย

สายป่านนี้แล้วยังไม่ได้ลงจากเตียงเพราะมัวแต่ทำกิจกรรมเข้าจังหวะ

“อยากแฉะกว่าเดิมไหมคนดี”

“อยากสิ แตกในเลยนะสุดหล่อ” อรอุมาขยำก้นแข็งปั๋ง เธอช่วยกำกับจังหวะให้แรงขึ้นแล้วไม่นานก็เกิดเสียงโหยหวนชวนขนลุก ถ้าใครได้ยินคงคิดว่าเกิดฆาตกรรมในห้องนี้แน่นอน

เมื่อวาดลีลาจนเตียงกระจุยก็ต้องหิวเป็นธรรมดา ทั้งสองเลือกไปกินนอกบ้านเพื่อความสะดวก อรอุมาไม่ชอบทำกับข้าว คมสันก็ไม่ปลื้มเท่าไหร่ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือไม่ต้องทำ

“แปลกจัง ทำไมวันนี้คนน้อย” อรอุมาแปลกใจตั้งแต่หาที่จอดรถได้ ปกติถ้าเป็นวันหยุดต้องวนอย่างต่ำสามรอบกว่าจะได้จอด วันนี้ขึ้นมาก็ได้เลย พอเดินเข้ามาในห้างยิ่งแปลกใจที่ผู้คนบางตา

“วันหยุดยาวไง คนออกต่างจังหวัดกันหมด”

“อ้อ ! จริงด้วย ลืมไปเลย”

“ลืมได้ไง กุ๊กกับแฟนก็ไปญี่ปุ่นเพราะวันหยุดไม่ใช่เหรอ” คมสันหมายถึงเพื่อนที่ทำงานของอรอุมา

“คนหิว จำอะไรไม่ได้หรอก ตกลงกินบุฟเฟ่ต์สายพานนะ” อรอุมาเริ่มตาลายเพราะหิวจนน่าจะกินวัวได้ทั้งตัว

ทั้งสองเดินเข้าไปในร้าน แจ้งความต้องการสั้นๆ ตามที่พนักงานถาม เมื่อได้ที่นั่งก็ลงมือทันทีโดยไม่รีรอ

คมสันเป็นสายเนื้อ เขาหยิบเนื้อวัวกับเนื้อหมูมาอย่างละห้าจานแล้วเทโครมลงไปในหม้อชาบู จากนั้นก็หยิบผักและของกินเล่นอื่นๆ เช่น ลูกชิ้น วุ้นเส้น สาหร่าย

ส่วนอรอุมาเป็นสายข้าว เธอเดินไปที่บาร์อาหารแล้วคีบข้าวปั้นและของทอดอย่างละหนึ่งถาด เธอนำไปวางที่โต๊ะแล้วกลับมาตักข้าวหน้าแกงกะหรี่ รวมถึงเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ผักดอง น้ำจิ้ม

คมสันรองท้องด้วยเนื้อหนึ่งหม้อแล้วจึงลุกไปที่บาร์อาหารพอถึงเวลานั้นอรอุมาก็เริ่มหยิบของบนสายพาน

ทั้งสองมีวิธีการกินที่ตรงข้ามกันสุดๆ แต่ไม่เคยทะเลาะกัน ใครจะกินแบบไหนชอบยังไงก็เอาที่สะดวกถ้าเรื่องแค่นี้ยังจับมาเป็นประเด็นคงอยู่กันยากแน่นอน

ไม่ใช่ว่าคมสันไม่มีน้ำใจหยิบเผื่อคนรักแต่เธอเป็นคนบอกว่าไม่ต้องเพราะกว่าจะได้กินของก็เย็นชืด ตักเองหยิบเองเท่าที่กระเพาะรับไหวดีที่สุด ไม่ต้องมาโทษกันด้วยว่าตักเยอะไปจนสุดท้ายต้องโดนปรับเงินเพราะอาหารเหลือ

“เก่งมาก !” อรอุมาชื่นชมตัวเองที่กินทุกอย่างที่หยิบมาหมดเกลี้ยง

“อิ่มไหมครับ”

“หลักฐาน” อรอุมาลูบพุงกลมๆ ให้ดู

“น่าเอ็นดู มีแค่นี้ก็ยังจะโชว์”

อรอุมาเป็นสาวอวบหุ่นเนื้อนมไข่ หน้าท้องจึงไม่ได้แบนราบหรือมีขาเรียวยาวเหมือนนางแบบ เธอตัวนุ่มนิ่มมีแก้มน่าฟัดแต่คมสันไม่เคยพูดถึงรูปร่างให้ช้ำใจแม้แต่ครั้งเดียว

ผิดกับผู้ชายคนก่อนที่ว่าเช้าว่าเย็น บอกให้เข้าฟิตเนสบ้าง เลิกกินขนมบ้าง หนักสุดคือให้ไปดูดไขมัน จะได้สวยๆ เหมือนพริตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์

ทั้งที่ตอนแรกเธอก็หุ่นแบบนี้หน้าตาอย่างนี้ พอได้กันกลับไม่พอใจ อยากมาเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเป็น

เรื่องหน้าท้องหรือพุงคือปมฝังใจที่สุด แฟนเก่าบอกว่าเธอเหมือนผู้หญิงท้องห้าเดือน

แต่แฟนคนปัจจุบันบอกว่า พุงของเธอน่ารักนุ่มนิ่ม ไม่ได้ใหญ่โตอะไรเลย มันคือร่างกายของคนคือความปกติธรรมดาที่มนุษย์ทั่วไปมีกัน เธอหุ่นแบบนี้จะมีหน้าท้องบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

คมสันชอบหุ่นนุ่มนิ่มของอรอุมา มันถึงใจเต็มไม้เต็มมือจับตรงไหนก็เด้งดึ๋ง

“คิดอะไรอยู่” อรอุมาถามแล้วทำตาหรี่

“คิดถึงบางอย่างที่นุ่มนิ่ม มีหัวสีชมพู” คมสันกระซิบเบาๆ ที่หูอรอุมาแล้วแก้มของเธอก็เป็นสีชมพู

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัณณากานต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
แม่บ้านวัยกระเตาะ

แม่บ้านวัยกระเตาะ

มหาเศรษฐี

5.0

♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายเป็นใบ้

คุณนายเป็นใบ้

โรแมนติก

5.0

เล่อซานเป็นคนใบ้ เธอถูกสามีละเลยมาเป็นเวลาห้าปี ม้แต่เธอตั้งท้องยังถูกแม่สามาีทำร้ายจนแท้งลูก หลังจากการหย่าร้าง สามีของเธอก็ประกาศหมั้นกับคนรักในใจของเขาทันที เธอกุมท้องที่นูนเล็กน้อยไว้ ในที่สุดก็ได้สติและเข้าใจว่าเขาไม่เคยจริงจังกับเธอมาก่อน... เธอหันหลังจากไปอย่างเด็ดขาด และทั้งสองก็กลายเป็นคนแปลกหน้า หลังจากที่เธอจากไป ชายคนนั้นก็ตามหาเธอไปทั่วโลก เมื่อพวกเขาได้พบกันอีกครั้ง เธอก็รักคนอื่นไปแล้ว เป็นครั้งแรกที่เขาถามอย่างถ่อมตัวว่า "ได้โปรดอย่าไป..." ทว่าคำแรกที่เธอพูดก็คือให้เขาไปให้พ้น!

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

โรแมนติก

4.9

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ความรักเป็นพิษ

ความรักเป็นพิษ

โรแมนติก

5.0

เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" “จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ” “ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ”

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

โรแมนติก

5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ