Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย

เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย

รอยหยัก/宁安 หนิงอัน

5.0
ความคิดเห็น
32.6K
ชม
61
บท

เขา คือเฮดว้ากตัวร้ายที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุ! โหด! ส่วนเธอคือเด็กปีหนึ่งที่ไม่เคยเกรงกลัวเขาเลยสักนิด ยิ่งได้รู้จักทำให้เขารู้ว่า เธอ! ไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เธอปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เขาจะต้องรู้มันให้ได้! ซีรีส์ชุดมาเฟียตามรัก ประกอบด้วยเรื่อง 1.ยัยตัวร้ายกับนายสายโหด จบแล้ว 2.เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย จบแล้ว

บทที่ 1 1

กริ๊ง... กริ๊ง...

“อื้อ” ฉันเอื้อมมือไปกดปิดนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง ก่อนจะบิดตัวไปมา เอ๊ะ ว่าแต่นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย!

07:30

“ฮะ! เจ็ดโมงครึ่ง ซวยล่ะ”

ฉันพูดออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็อาบน้ำน่ะสิ วันนี้มีปฐมนิเทศนักศึกษาปีหนึ่งใหม่ทุกคน และทางมหา’ลัยเขานัดตอนแปดโมงครึ่ง และตอนนี้ฉันเหลือเวลาแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น! จะไปทันไหมเนี่ย ไม่น่าตื่นสายเลยฉัน

วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ฉันใช้เวลาอาบน้ำเพียงแค่สิบนาที ก่อนจะรีบออกมาแต่งตัวด้วยความรวดเร็ว แล้วหยิบเสื้อนักศึกษาพอดีตัว กระโปรงคลุมเข่าหน่อยมาใส่จะได้ดูเรียบร้อย ทรงผมก็ปล่อยเอา หน้าไม่ต้องแต่งละ สายแล้ว

กุญแจรถฉันอยู่ไหน อยู่ไหน อยู่ไหน!

ฉันเปิดลิ้นชักหากุญแจรถลัมโบร์กีนีรุ่นใหม่ล่าสุดของฉัน โอ๊ย ทำไมยิ่งรีบยิ่งช้า อ่า นี่ไงเจอแล้ว เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ฉันก็วิ่งออกจากคอนโด พุ่งตัวเข้ารถคันหรูและขับออกไปด้วยความเร็ว ฉันว่าต้องมีคนด่าหรือแช่งฉันบ้างล่ะ เล่นขับปาดหน้าแซงซ้ายแซงขวาแทบจะทุกคันแบบนี้ แถมยังเหยียบเกือบมิดไมล์

นั่นไง! หลังขับรถด้วยชั่วโมงเร่งรีบทั้งยังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายบนท้องถนน ฉันก็ขับมาถึงมหาวิทยาลัยที่ได้สมัครไว้สักที

เอี๊ยดดดดดดดดดด!

เสียงจอดรถดังสนั่นหวั่นไหวทั่วบริเวณของฉัน เรียกสายตาผู้คนให้หันมามองทั้งชายและหญิง ตอนนี้ใครจะชมใครจะด่าไม่สนใจทั้งนั้นแหละ ฉันรีบ!

หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รีบวิ่งสี่คูณร้อยเข้าไปในในตัวอาคารทันที เพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงแค่สิบนาที การปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ก็จะเริ่มขึ้น

พลั่ก ตุ้บ!

บ้าเอ๊ย ชนใครอีกล่ะเนี่ย ฉันเงยหน้ามองคนที่ฉันชนอย่างไม่สบอารมณ์นัก โอเค ฉันผิดฉันยอมรับ แต่ตอนนี้มันใช่เวลาจะมามองสำรวจผู้ชายตรงหน้าไหมเล่า ถึงเขาจะหล่อก็เถอะ

คนอะไรหน้าตาดีชะมัด ใบหน้าฟ้าประทานเนียนใสไร้สิว ไหนจะริมฝีปากได้รูปนั่น โอ้... พระเจ้าคงทำงานหนักแน่ ๆ เขาถึงได้หล่ออย่างไร้ที่ติแบบนี้ ช่างลงตัวเหลือเกิน พ่อเทพบุตรของฉัน...

“เดินภาษาอะไรของเธอเนี่ยฮะ! คนยิ่งรีบ ๆ อยู่”

เพล้ง! จบกันความเคลิบเคลิ้ม

อ๊าย มันด่าฉัน! เอาคำชมของฉันคืนมา ไม่น่าหลงเคลิบเคลิ้มไปกับรูปลักษณ์ภายนอกของอีตาบ้านี่เลย คนเขาอุตส่าห์ชมว่าหล่อ ไอ้ปากปีจอเอ๊ย นอกจากไม่คิดจะช่วยแล้ว ยังทำหน้ากวนส้นตี_ ใส่อีก หงุดหงิดเป็นคนเดียวหรือไงล่ะ ฉันก็หงุดหงิดเป็นเหมือนกันนะ ว่าแต่นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย ฉันละสายตาออกจากเขาก่อนจะก้มมองนาฬิกาเรือนหรูที่อยู่บนเรียวแขนสวยของฉัน

ตายแล้ว อีกห้านาที!

“ขอโทษนะคะ ที่ดิฉันชนคุณเมื่อกี้ ซึ่งดูจากสถานการณ์แล้วคุณก็ไม่ได้เจ็บอะไรมาก เพราะคนที่ดูท่าว่าจะเจ็บนั้นเป็นดิฉัน อ้อ คุณไม่ได้รีบคนเดียวนะคะ ฉันก็รีบเหมือนกัน คุณน่าจะเป็นสุภาพบุรุษให้มากกว่านี้นะคะ ฉันไปล่ะ ขอโทษอีกครั้งค่ะ”

หลังจากพูดกับคนตรงหน้าจบ ฉันก็รีบวิ่งตรงไปยังสถานที่ที่มหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมไว้ ก่อนจะไล่สายตามองหาเก้าอี้ที่ว่าง เมื่อเจอแล้วฉันก็รีบพาร่างที่แสนจะบอบบางของฉันเข้าไปนั่งทันที

นั่งได้สักพักก็รู้สึกเหมือนมีคนสะกิด พอหันไปมองด้านข้างก็เจอกับผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งส่งยิ้มที่เกือบจะเห็นฟันครบทุกซี่มาให้ พร้อมทั้งจ้องมองมาที่ฉันด้วยแววตาตื่นเต้น จนฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบเธอ

“เธอชื่ออะไรเหรอ เราชื่อน้ำฟ้านะ เรียกเราว่าฟ้าก็ได้”

อืม...เท่าที่สังเกตเธอก็ดูเหมือนจะเป็นคนอัธยาศัยดี ไม่น่าจะมีพิษมีภัยอะไร แถมยังดูร่าเริงเกินปกติเสียด้วยซ้ำ ผูกมิตรเอาไว้ก่อนดีกว่ามันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ถ้าเข้ากันไม่ได้ก็ต่างคนต่างอยู่แค่นั้น

ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าอีกครั้ง พร้อมพูดว่า “หวัดดี เราชื่อแพรวา เรียกเราว่าแพรวก็ได้”

“เธอเรียนสาขาอะไรเหรอ”

“ฉันเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ เธอล่ะ”

“เฮ้! จริงเหรอ งั้นก็ดีสิ เพราะฉันก็สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เหมือนกัน ดีเลยเราจะได้เรียนด้วยกัน เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

“อื้ม”

พรึ่บ!

จู่ ๆ ก็มีผู้ชายหน้าตาดีมานั่งลงข้าง ๆ ฉัน หล่อเสียด้วยนะ จนยัยฟ้าแทบจะเก็บอาการระริกระรี้เอาไว้ไม่อยู่ ก็เล่นสะกิดฉันพร้อมกับมองคนมา ใหม่ตาเยิ้มแบบนี้ จะเป็นอย่างอื่นไปได้ยังไงถ้ามันไม่ได้บ้าผู้ชาย! ฉันมองคนข้าง ๆ ด้วยสายตาปกติ ไอ้หล่อก็หล่ออยู่หรอกแต่ฉันกลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่ผู้ชาย!

“นี่พวกเธอชื่ออะไรกันเหรอ”

“เราชื่อฟ้านะ ส่วนคนนี้อะชื่อแพรว เราสองคนเรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แล้วเธอล่ะ ชื่ออะไรเรียนอะไรเหรอ” ฉันได้แต่นั่งยิ้มขำกับความช่างจ้อของยัยฟ้า ที่นอกจากจะแนะนำตัวเองแล้วยังแนะนำตัวให้ฉันด้วย สดใสร่าเริงสมกับบุคลิกของนางจริง ๆ

“เราชื่อรัน เรียนวิศวกรรมคอมพิวเตอร์เหมือนกัน เราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ”

ฉันพยักหน้ารับทราบ แล้วการปฐมนิเทศก็เริ่มต้นขึ้น

เรื่องที่ปฐมนิเทศก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับระเบียบวินัยใน มหาวิทยาลัยแล้วก็พูดถึงแผนการเรียนการสอนของคณะวิศวกรรมในแต่ละสาขา ทั้งยังมีเหล่าคณาจารย์หลายท่านออกมาให้ความรู้ และมีรุ่นพี่หลายคนมาชี้แนะแนวทางการเรียนให้อีกด้วย

ส่วนใหญ่พวกฉันไม่ค่อยฟังหรอก คุยกันเองเสียมากกว่า น่าแปลกที่เราสามคนเข้ากันได้ดีมากและสนิทกันอย่างรวดเร็ว จากที่เกร็งก็เริ่มเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ดูอย่างนายรันที่เริ่มหลุดอาการตุ้งติ้งออกมาให้เห็น ส่วนน้ำฟ้าก็มีมุมที่ฉันคาดไม่ถึงหลุดออกมาเหมือนกัน

“ไปนั่งที่โต๊ะหินอ่อนตรงนั้นกันเถอะ เราจะได้คุยต่อ”

ยัยฟ้าชี้นิ้วไปยังโต๊ะที่ว่า ก่อนจะเดินนำไปอย่างรีบร้อน เพราะกลัวจะมีคนแย่งโต๊ะที่หมายตาไว้

“นี่ แกใช่ไหม ที่มีเรื่องกับมาร์คัสของฉันนะฮะ!”

ระหว่างที่เรานั่งคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ก็มีเสียงผู้หญิงเข้ามาถามหาว่าฉันไปมีเรื่องกับใครสักคนที่ชื่อว่ามาร์คัส

“ฉันเนี่ยเหรอคะ!”

ฉันถามกลับด้วยความไม่เข้าใจว่าฉันไปมีเรื่องกับใครตอนไหน ก่อนจะใช้สายตามองเธอกลับอย่างท้าทาย เมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ คิดว่าฉันกลัวหรือไง ถือว่ามาสามคนแล้วแพรวคนนี้จะกลัวเหรอ เหอะ

“ก็ใช่นะสิ ถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใคร” คนที่ยืนข้าง ๆ ยัยคนแรกพูดขึ้น ฉันมองหน้าพวกมันนิ่ง ๆ ก่อนจะพูดว่า

“ขอโทษนะคะ” ฉันพูดขอโทษซึ่งพวกมันก็ยกยิ้มอย่างพอใจ แต่ขอโทษนะฉันยังพูดไม่จบ

“ที่ฉันพูดว่าขอโทษ เพราะอยากจะทราบว่า ฉันไปมีเรื่องตอนไหน วันนี้วันเปิดเทอมวันแรกของฉัน และที่สำคัญฉันไม่รู้จักคนที่ชื่อมาร์คัสอะไรนั่นด้วย กรุณาเข้าใจใหม่ด้วยนะคะ”

“แกแน่ใจเหรอว่าไม่มีเรื่อง ก็คนที่แกชนเมื่อเช้าไง นั่นแหละมาร์คัส แฟนฉันเอง”

อ๋อ ที่แท้ก็นายปากปีจอนั่น

“ก็ถ้าเป็นคนเมื่อเช้า ฉันพูดขอโทษเขาไปแล้วค่ะ ที่สำคัญมันเป็นอุบัติเหตุ”

“หึ นี่แกคิดจะอ่อยแฟนฉันใช่ไหม ฉันชื่อมินนี่ จำใส่หัวแกเอาไว้เลยนะว่าเขาเป็นของฉัน อย่ามาเสนอหน้า ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน”

“ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอกับนายนั่นเป็นอะไรกัน และฉันก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับนายบ้านั่นด้วย ทางที่ดีเธอควรไปบอกคนของเธอดีกว่านะ ไม่ใช่ตามมาหาเรื่องฉันแบบนี้ แล้วถ้ากลัวแฟนของเธอจะทิ้งไปมากละก็ ฉันแนะนำว่าให้ล่ามเขาเอาไว้ซะ ถ้าให้ฉันเดานายนั่นคงเจ้าชู้มากสินะ เธอถึงได้มาระแวงชาวบ้านเขาแบบนี้ ผู้ชายก็แบบนี้แหละมักมากไม่รู้จักพอ”

“อ๊าย นี่แกด่ามาร์คัสงั้นเหรอ แกรู้ไหมว่ามาร์คัสเป็นใครน่ะฮะ! จัดการมันเลยมินนี่”

“ใช่ จัดการมันเลย” เพื่อนทั้งสองของยัยมินนี่พูด

“ช้าก่อนยัยพิ้งยัยกรีน” มินนี่หันไปพูดกับเพื่อนของเธอ ก่อนจะคุยกับฉันอีกครั้ง

“แกเพิ่งเข้ามาใหม่คงยังไม่รู้อะไร เพิ่งอยู่ปีหนึ่งอย่าเพิ่งซ่า ฉันเป็นรุ่นพี่เธอหัดให้ความเคารพกันบ้าง ไม่งั้นแกจะอยู่ไม่สุข”

ได้ข่าวว่าฉันไม่ได้เป็นคนหาเรื่อง คำพูดช่างย้อนแย้งเหลือเกินนะยัยป้านี่

“ขอบคุณนะที่เป็นห่วงฉัน แต่เอาเวลาที่มาพูดจาไร้สาระ ไปหาอะไรทำที่มันสร้างสรรค์ดีกว่าไหม ปากบอกว่าเป็นรุ่นพี่ แต่การกระทำไม่ได้ต่างไปจากเด็กสามขวบ ไม่ได้มีความน่าเคารพ ถ้ามีรุ่นพี่แบบนี้ฉันไม่มีซะยังดีกว่า อ้อ แล้วก็บอกไว้ตรงนี้เลยนะว่า อย่ามายุ่งกับฉัน ไม่อย่างนั้น อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

หึ ถ้าอยากมีเรื่องก็มาสิ ฉันพร้อม!

“อ๊าย แก แก” ป้ามินนี่ก็กรี๊ดร้องซะหนวกหู ดีดดิ้นเร่า ๆ ด้วยความขัดใจ พร้อมกับถลาจะมาทำร้ายฉัน

“หยุด!!!”

“...”

“มีเรื่องอะไรกัน ถึงได้มากรีดร้องโวยวายแถมยังจะมาตบกันต่อหน้านักศึกษาที่นี่อีก ไม่อายกันหรือไง ที่นี่มันมหาวิทยาลัยไม่ใช่ตลาดสดที่มีไว้ให้พวกเธอมีเรื่องกันนะ”

คนที่พูดก็คือนายมาร์คัส คนที่ฉันเดินชนเมื่อเช้าแฟนที่ป้ามินนี่พูดถึงนั่นแหละ เขามากับเพื่อนผู้ชายสามคนรวมทั้งตัวเขาเอง และผู้หญิงสวยอีกหนึ่งคน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ รอยหยัก/宁安 หนิงอัน

ข้อมูลเพิ่มเติม
จะไม่ขอทนอีกต่อไป

จะไม่ขอทนอีกต่อไป

โรแมนติก

5.0

คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา

ฤาจะรัก

ฤาจะรัก

โรแมนติก

5.0

เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ

หวงร้าย หวงรัก

หวงร้าย หวงรัก

โรแมนติก

5.0

ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ

ไฟแค้นลวงรัก

ไฟแค้นลวงรัก

โรแมนติก

5.0

เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ความลับของท่านประธาน

ความลับของท่านประธาน

ปีศาจชอนซา
5.0

นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

ข้อเสนอหัวใจ

ข้อเสนอหัวใจ

Nichole Venzo
5.0

หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ