Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ยอดดวงใจซื่อจื่อ

ยอดดวงใจซื่อจื่อ

ซีไซต์

5.0
ความคิดเห็น
5.3K
ชม
25
บท

ฉางเจียอีได้พบกับบุรุษปากร้ายจอมนินทาผู้หนึ่งซึ่งทำให้นางกับเขามีเรื่องราวจนถึงกับลั่นวาจาว่าชาตินี้จะไม่เผาผีกันอีก แต่ชะตาชีวิตกลับเล่นตลกเมื่อนางต้องเข้าไปพัวพันกับเขาเพราะต้องการช่วยพี่ใหญ่ของตนเองให้รอดพ้นจากความทุกข์อันแสนสาหัส ชีวิตนี้ของนางมิใช่ต้องการสิ่งใดมาก นอกจากการใช้ชีวิตอันหรูหราในบ้านของตนเองไปจนตาย ทว่าสวรรค์กลับไม่เมตตานางเพียงนั้นเมื่อทุกอย่างผิดเพี้ยนจากความตั้งใจเพราะมีคนผู้นั้นเข้ามาเกี่ยวพันในชีวิต ให้ตายเถิดเรื่องไม่ได้ง่ายอย่างที่นางคิดเอาไว้เลยแม้แต่น้อย หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายสุขนิยม ปมไม่ซับซ้อนจบสวยงามนะคะ กราบขอบพระคุณทุกท่านมากค่ะ

บทที่ 1 พบกัน

“เร็วเข้าเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

ฉางเจียอีกำลังเร่งให้เสิ่นเสียนบ่าวรับใช้ของตนเองให้คลายเชือกของม้าที่ผูกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่หน้าวัดไป๋หลาง

วันนี้พ่อค้าใหญ่ฉางหลีบิดาของนางพาครอบครัวมาไหว้พระที่วัดไป๋หลางที่ผู้คนในลั่วหยางให้ความศรัทธาอย่างที่สุดเพื่อเป็นสิริมงคลในวันขึ้นปีใหม่

ฉางเจียอีเพิ่งฝึกขี่ม้าได้ไม่นานจึงบังเกิดความฮึกเหิมเพราะก่อนหน้านี้นางเพียงแต่ได้ขี่ม้าวนอยู่ในสนามฝึกขี่ม้าในจวนเท่านั้น บัดนี้เมื่อได้โอกาสออกมาข้างนอกทั้งด้านหลังวัดไป๋หลางยังเป็นทุ่งกว้างเหมาะอย่างยิ่งที่นางจะได้ลองฝีมือ

บ่าวบุรุษที่เฝ้าม้าบัดนี้มีสีหน้าไม่สู้ดี เขามิได้ช่วยฉางเจียอีเพียงแต่ยืนมองเฉย ๆ เกรงว่าหากลงมือช่วยเหลือจะเป็นการสมรู้ร่วมคิดและทำให้ตนเองมีความผิดจนถูกนายท่านลงโทษ

“คุณหนูอันตรายนะขอรับ”

“ข้าขี่ม้าเป็นแล้วจะอันตรายได้อย่างไร”

ฉางเจียอีถลึงตาใส่บ่าวผู้นั้นเมื่อเห็นว่าสีหน้าของเขาซีดเซียวไม่สู้ดีจึงเอ่ยว่า

“ไม่ต้องห่วงข้าจะพามันกลับมาให้เจ้าก่อนที่ท่านพ่อกับท่านแม่จะกลับจวน ไม่เกิดเรื่องกับเจ้าแน่นอนหรือหากเกิดเรื่องข้าก็จะออกหน้ารับแทนเจ้าเอง”

วันนี้บิดาของนางได้เข้าพบกับท่านเจ้าอาวาสแล้วปกติจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งวันเพื่อสนทนาธรรม จากนั้นครอบครัวจะรับประทานอาหารเจที่วัดแล้วค่อยกลับจวน

ฉางเจียอีคิดว่าตนเองมีเวลามากพอที่จะไปขี่ม้าอย่างสบายอารมณ์และย่อมกลับมาทันเวลารับประทานอาหารอย่างแน่นอน

สาวใช้ของนางเสิ่นเสียนขี่ม้าได้คล่องกว่าฉางเจียอีนั่นเป็นเพราะบิดาของเสิ่นเสียนมีหน้าที่ดูแลม้าในของสกุลฉาง นางจึงได้ฝึกฝนมาไม่น้อย

ยามนี้สองนายบ่าวขี่ม้าเคียงกันตามเส้นทางเล็ก ๆ ระหว่างทางก็พบชาวบ้านจำนวนไม่น้อยทั้งเดินเท้าและนั่งรถม้า บ้างก็ขี่ม้ามาเพื่อไหว้พระในวันขึ้นปีใหม่

จุดหมายก็คือทุ่งกว้างหลังวัดไป๋หลางพวกเขาเพียงแต่ไปให้ถึงทางแยกข้างหน้าแล้วเลี้ยวซ้ายก็จะไร้ผู้คนแล้ว

เพราะคนเริ่มมากขึ้นเสิ่นเสียนจึงหันไปบอกกับฉางเจียอีให้ระวังตัว

“ระวังนะคะคุณหนู คนเยอะมากอย่าให้ม้าตื่นตระหนก”

“ไม่เป็นไร ข้าควบคุมได้”

กล่าวยังไม่ทันขาดคำ เบื้องหน้าก็พบคนกลุ่มหนึ่งกำลังฮ้อม้าตรงมาด้วยความรวดเร็ว ฉางเจียอีคิดจะให้ม้าของตนเองหลบไปข้างทางแต่แล้วกลุ่มม้าของคนพวกนั้นกลับเบียดม้าของนางจนตื่นตระหนก

ม้าตัวใหญ่ยกสองเท้าขึ้นร้องฮี้ ฉางเจียอีเกือบจะตกลงจากหลังม้าแล้วดีที่นางทรงตัวเอาไว้ได้ทัน ทว่าหลังจากนั้นมันกลับพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยความเร็วจนนางตกใจ

มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งหลบไม่ทันทำให้บางคนถึงกับล้มลงไปโชคดีที่ม้าไม่ได้เหยียบจึงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย

ฉางเจียอีตกใจยิ่งนัก เพราะม้ากำลังวิ่งด้วยความเร็วที่นางไม่อาจควบคุม นางกรีดร้องอยู่บนหลังม้าไม่ได้ยินเสียงอันใดนอกจากเสียงของลมหวีดหวิวอยู่ข้างหู

ฉางเจียอีคิดหาวิธีหยุดม้าทว่าสมองกลับขาวโพลนคิดสิ่งใดไม่ออก

แต่แล้วบุรุษผู้หนึ่งก็ขี่ม้ามาประชิดข้างม้าของนาง ฉางเจียอีมองเขาแวบหนึ่งคนผู้นั้นก็กระโดดมานั่งบนหลังม้าตัวเดียวกันกับนางแล้ว

แผ่นหลังของนางพลันอุ่นขึ้นมาเมื่อเขากำลังโอบรอบร่างของนางแล้วจังมือที่กำบังเหียนของนางเอาไว้

เขาร้อง ย๊า ออกมาคำหนึ่ง เริ่มบังคับม้าของนางด้วยความเชี่ยวชาญ เพียงไม่นานฝีเท้าของม้าก็ลดลงจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นวิ่งเหยาะๆ ในที่สุด

ฉางเจียอีพ่นลมหายใจยาวเมื่อสักครู่นางรู้สึกว่าตนเองกำลังวิ่งเข้าสู่ความตายด้วยความเร็วที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนในชีวิตภาพต่าง ๆ ในอดีตผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาว่ากันว่าคนเราก่อนจะตายมักจะเห็นภาพในอดีตนางในตอนนั้นก็เห็นเป็นเช่นนั้นเช่นกัน

โชคดีที่มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน

“ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือข้า”

เขาไม่ตอบรับคำขอบคุณของนาง กลับเงียบขรึมจนฉางเจียอีประหลาดใจเขาบังคับให้ม้าหยุดเดินพร้อมกับยื่นมือทั้งโน้มตัวมาลูบแผงคอของม้าพร้อมกับกล่าวว่า

“เด็กดี”

แน่นอนว่าการกระทำนี้ของเขาทำให้นางต้องโน้มตัวตามและถูกเขารัดรึงเข้าไปในอ้อมกอด กลิ่นหอมสะอาดของเขาทำให้ฉางเจียอีรู้สึกหัวใจเต้นระรัว ช่วงหน้าอกของเขานี้ก็ช่างแข็งและกว้างให้ความรู้สึกปลอดภัยได้อย่างน่าประหลาด

นางไม่เคยใกล้ชิดบุรุษใดมาก่อน ความช่วยเหลือของเขานางย่อมซาบซึ้งใจยิ่งนัก

แล้วบุรุษผู้หนึ่งก็ขี่ม้าตามมาในมือของเขาจูงสายบังคับม้าอีกตัวที่บนหลังไม่มีคนขี่ตามมาด้วย

“ซื่อจื่อเป็นอันใดหรือไม่ขอรับ”

คนผู้นั้นส่ายหน้าตอบน้ำเสียงราบเรียบชัดเจน

“ไม่”

บุรุษร่างสูงที่อยู่ข้างหลังนางเอ่ยหนัก ๆ ฉางเจียอีเห็นหน้าคนผู้มาใหม่ชัดเจนก็จำได้ว่าเขาคือกลุ่มคนนั้นที่เบียดม้าของนางจนทำให้ม้าตกใจ

“ที่แท้ก็พวกเดียวกัน พวกท่านทำให้ม้าของข้าตกใจจนเป็นแบบนี้”

ฉางเจียอีกล่าวโทษคนทันที โม่หนิงหลงที่นั่งอยู่ข้างหลังนางถึงกับส่ายหน้า เขาขยับตัวเล็กน้อยจากนั้นก็เหวี่ยงตัวเองลงจากหลังม้า เขายืนบนพื้นอย่างมั่นคงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองนางกล่าวเสียงเย็น

“เป็นเจ้าที่ขี่ม้าไม่เป็นยังจะมากล่าวโทษผู้อื่น ตนเองผิดแท้ ๆ ยังคิดโยนความผิดให้คนอื่นอีก เห็นได้ชัดว่าคนเช่นเจ้าช่างไร้สมอง”

ฉางเจียอีถึงกับพูดไม่ออก เมื่อสักครู่นางยังรู้สึกใจเต้นกับเขาอยู่เลย บัดนี้คนผู้นี้กลับเป็นหนึ่งในตัวต้นเหตุที่ทำให้นางเกือบตายและเขาก็ยังเป็นผู้ที่ช่วยชีวิต

แต่หากไม่ใช่เพราะเขานางก็ไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์นี้ นางคิดว่าการที่เขาช่วยนางเอาไว้ย่อมนับว่าเหมาะสมแล้วไม่นับเป็นบุญคุณอันใด

“เจ้าเพิ่งขี่ม้าเป็นไม่ควรเที่ยวขี่ม้าไปทั่วเช่นนี้ เส้นทางมายังวัดไป๋หลางผู้คนพลุกพล่านและใช้ม้าและรถม้าเป็นจำนวนไม่น้อย หากเจ้าบังคับม้าไม่ได้ก็อย่ามาเที่ยวเกะกะทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน”

ฉางเจียอีจ้องเขาเขม็งจู่ ๆ ก็ถูกตำหนิและถูกต่อว่าทั้ง ๆ ที่พวกเขาเป็นตัวต้นเหตุแท้ ๆ ก็ทำให้นางมีโทสะ

ดวงตาคมยังจ้องนางอย่างคาดโทษ บุรุษผู้นี้ใบหน้าคมคายหล่อเหลาสะดุดตา ผิวขาวเนียนละเอียด ร่างกายสูงโปร่งสง่างาม สวมอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มยังสวมกวานสีเงินบ่งบอกว่าเป็นคนชนชั้นสูง

ถึงจะหล่อเหลาสูงส่งแล้วอย่างไร ทำผิดอย่างไรก็ต้องรับผิดชอบ

ฉางเจียอีลงจากหลังม้า ครานี้เสิ่นเสียนตามมาทันแล้วเสิ่นเสียนย่อมตระหนกเมื่อเห็นคุณหนูของตนกำลังยืนเผชิญหน้ากับคุณชายผู้หล่อเหลาผู้หนึ่งทั้งยังทำท่าจะกัดกินคนผู้นั้น

“ข้าขี่ม้ามาดี ๆ เป็นเพราะพวกท่านทำให้ม้าของข้าตื่นตระหนก มองอย่างไรก็เป็นพวกท่านที่ผิด”

โม่หนิงหลงจ้องใบหน้างามของนางแล้วส่ายหน้า เขาไม่คิดจะโต้เถียงกับสตรีที่ดื้อรั้นไม่ยอมรับผิดคนนี้แล้ว

คงอย่างที่เขาเคยได้ยินมาว่าสตรีที่งดงามมักจะไม่มีสมองนั้น นางผู้นี้เห็นจะเป็นเช่นนี้

เขาหันหลังและคิดจะเดินหนี แต่ฉางเจียอีกลับไม่ยินยอม

“ทำผิดแล้วคิดจะหนีหรือ ท่านต้องขอโทษข้าด้วย”

“ทำคุณบูชาโทษข้าน่าจะปล่อยให้เจ้าตกม้าตายไปเสีย ไม่เห็นบุญคุณก็ช่าง แต่ยังมากล่าวหาคนอื่นเช่นนี้ที่บ้านแม่นางสั่งสอนมาเช่นไร”

“นี่ท่าน”

ฉางเจียอีหัวคิ้วขมวดดวงหน้างามแดงก่ำ โกรธจนอยากกระทืบเท้า นางรีบลงจากหลังม้าคิดจะขวางเขาเอาไว้ไม่ให้หนีแล้วต่อเขาอีกสักหลายคำ ทว่าเสิ่นเสียนเข้ามาขวางหน้านางเอาไว้แล้วเอ่ยอย่างร้อนรน

“คุณหนู เพราะม้าตื่นทำให้มีคนเจ็บไม่น้อยให้ทำอย่างไรเจ้าคะ”

ฉางเจียอีจ้องเขาราวกับจะกินคน

“เห็นหรือไม่ว่าเพราะท่านจึงทำให้เกิดเรื่องเช่นนี้”

เขายกมุมปากน้อย ๆ

“ทักษะการขี่ม้าของเจ้าไม่ได้เรื่องจึงทำให้คนบาดเจ็บ ผู้ใดทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบด้วยตนเองจะมาโยนความผิดให้คนอื่นไม่ได้”

“หากพวกท่านไม่ขี่ม้าไม่ดูตาม้าตาเรือจนเบียดม้าข้าจะเกิดเรื่องเช่นนี้หรือ”

“ข้าขี่มาตามถนนและม้าของผู้อื่นก็หลบหลีกได้เป็นอย่างดี สตรีไร้สมองไร้ฝีมือเช่นเจ้าคงคิดไม่ได้กระมังว่าสมควรจะหลบอย่างไร”

เขากล่าวจบก็กระโดดขึ้นบนหลังม้าของตนเองแล้วจากไปทันใดโดยไม่แม้กระทั่งจะชายตาแลนางอีก

ฉางเจียอีได้แต่ก่นด่าเขาตามหลังด้วยโทสะ

“หน้าตาดีเสียเปล่าแต่กลับเป็นคนเช่นนี้ เพ้ย! กล้าว่าข้าไร้สมองหรือ คนบ้า ข้าขอสาปแช่งท่านให้ได้แต่งงานกับสตรีพิการตาบอด หรือไม่ก็ง่อยเปลี้ยเสียขาทุกข์ทรมานไปตลอดชีวิต คนบ้า!”

หลังจากคนพวกนั้นจากไปแล้ว ฉางเจียอียิ่งโมโหหนักขึ้นเมื่อตนเองต้องเสียเงินทองไปไม่น้อยเพื่อจ่ายค่าทำขวัญชาวบ้านที่ตื่นตกใจเพราะนาง

ด้วยฐานะบุตรสาวของพ่อค้าเสิ่นผู้ร่ำรวยและมีกิจการมากมายที่สุดในลั่วหยาง เงินทองของนางมีมากมายล้นฟ้าย่อมไม่คิดเสียดาย เพียงแต่นางเจ็บใจที่ต้องมาสูญเสียเงินให้กับเรื่องไร้สาระอันเกิดจากการกระทำของคนกลุ่มนั้นที่เป็นตัวต้นเรื่อง

คอยดูเถิดหากนางได้พบเขาอีกครั้ง นางไม่มีวันปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ซีไซต์

ข้อมูลเพิ่มเติม
เด็กร่านของเฮียเดช

เด็กร่านของเฮียเดช

โรแมนติก

5.0

สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

โรแมนติก

5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

ข้าอยู่บน ท่านอ๋องอยู่ล่าง

โรแมนติก

5.0

เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่

ต้องทำเช่นใดให้พวกท่านลุ่มหลง

ต้องทำเช่นใดให้พวกท่านลุ่มหลง

โรแมนติก

5.0

องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

ท่านอาเจ้าขา...ข้าอยากเป็นภรรยาของท่าน

ท่านอาเจ้าขา...ข้าอยากเป็นภรรยาของท่าน

โรแมนติก

5.0

คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง

นิยายเรื่องนี้ เป็นข้าที่เขียน!

นิยายเรื่องนี้ เป็นข้าที่เขียน!

โรแมนติก

5.0

เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

หยางจื้อซี เกิดใหม่ในหมู่บ้านป่าหมอก

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้

เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี

เมีย(เก่า)ฉันเป็นเศรษฐี

Axel Bob
5.0

เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ยอดดวงใจซื่อจื่อ
1

บทที่ 1 พบกัน

19/02/2024

2

บทที่ 2 คนขี้นินทา

19/02/2024

3

บทที่ 3 ข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่

19/02/2024

4

บทที่ 4 เลิกแล้วต่อกันได้หรือไม่

19/02/2024

5

บทที่ 5 แต่งงานกับผู้มีพระคุณ

19/02/2024

6

บทที่ 6 พี่สาวที่น่าสงสาร

19/02/2024

7

บทที่ 7 ข้าจะแต่งเอง

19/02/2024

8

บทที่ 8 ขัดจังหวะ

19/02/2024

9

บทที่ 9 รู้ทัน

19/02/2024

10

บทที่ 10 บีบบังคับ

19/02/2024

11

บทที่ 11 กลับบ้านเดิม

19/02/2024

12

บทที่ 12 เข้าหอ NC

19/02/2024

13

บทที่ 13 เก่งเกินไปแล้ว NC

19/02/2024

14

บทที่ 14 แผนของมารดา

19/02/2024

15

บทที่ 15 ท่านย่าผู้รู้ทัน

19/02/2024

16

บทที่ 16 หวานนัก NC

19/02/2024

17

บทที่ 17 ลงโทษ

19/02/2024

18

บทที่ 18 บังเอิญได้ยิน

19/02/2024

19

บทที่ 19 เผยความในใจ

19/02/2024

20

บทที่ 20 เพลิงไหม้และการหายตัวไปของคน

19/02/2024

21

บทที่ 21 ข้อแลกเปลี่ยน

19/02/2024

22

บทที่ 22 ผู้อยู่เบื้องหลัง

19/02/2024

23

บทที่ 23 ตามแผน

19/02/2024

24

บทที่ 24 จุดจบ

19/02/2024

25

บทที่ 25 ครอบครัวอบอุ่น ตอนจบ

19/02/2024