Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ

หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ

จินต์พิชา

5.0
ความคิดเห็น
848
ชม
32
บท

เขาโทษว่าเป็นความผิดของเธอที่โทรมาตอนเข้ากำลังปั๊มหัวใจคนไข้ ทำให้เขาเสียสมาธิและเสียคนไข้ไป โดยไม่รู้เลยว่าที่เธอโทรหาก็เพราะเธอเองก็กำลังจะเสียบางอย่างไปเช่นกัน

บทที่ 1 เรื่องวุ่นวัยรุ่นเก้าขวบ

“ครูปิ่นคร้าบ ครูปิ่นช่วยด้วยออมสินล้มหัวมีแต่เลือดเลยครับ” ไออุ่นเด็กชายวัยเก้าขวบวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้องเรียนในเวลาสิบห้านาฬิกา

“อะไรนะไออุ่น ค่อยๆ พูดแล้วนั่นทำไมเสื้อมีแต่เลือด”

“ออมสินครับครู ออมสินล้มหัวมีแต่เลือดเต็มเลย” เด็กชายตอบพร้อมกับหอบเหนื่อย

“แล้วล้มอยู่ที่ไหน ไออุ่นพาครูไปหน่อย”

“สนามฟุตบอลครับครู”

ปิ่นปินัทธ์ครูสาววัยยี่สิบห้าปีรีบวางการบ้านที่กำลังตรวจอยู่แล้ววิ่งตามเด็กชายไออุ่นไปยังบริเวณสนามฟุตบอลซึ่งตอนนี้เด็กๆ เด็กกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่

“หลบหน่อย ครูปิ่นมาแล้ว”ไออุ่นตะโกนบอกเพื่อน

เมื่อเด็กๆ กระจายตัวกันออกแล้วปิ่นปินัทธ์ก็เห็นว่าตอนนี้เด็กชายออมสินนักเรียนห้องของเธอนั่งอยู่บนพื้นและกำลังร้องไห้ เสื้อสีขาวเปื้อนเลือดเต็มไปหมด

“ออมสินเจ็บตรงไหน เอามือออกก่อนนะขอครูดูหน่อย”

“มันมีแต่เลือดเลยครับครู ผมกลัวผมเจ็บ” เด็กชายร้องไห้จนตัวโยน

“เอาล่ะเด็กๆ ไม่ต้องตกใจนะเดี๋ยวครูจะพาออมสินไปหาหมอพวกเธอก็เตรียมตัวกลับบ้านได้แล้ว ฝากบอกครูที่อยู่หน้าโรงเรียนด้วยว่าถ้าแม่ของออมสินมารับให้ตามไปที่โรงพยาบาล” ปิ่นปินัทธ์สั่งนักเรียนที่กำลังยืนมุงดูอยู่

“ข้าวฟ่างหนูไปหยิบกระเป๋าและกุญแจรถของครูมาให้หน่อยได้ไหมเดี๋ยวครูจะไปรอที่รถ” เธอสั่งนักเรียนที่เคยใช้งานประจำให้ไปเอาของเพราะข้าวฟ่างจะรู้ว่าเธอเก็บไว้ตรงไหนบ้าง

“ค่ะครูปิ่น”

“ข้าวฟ่างอย่าวิ่งนะเดี๋ยวจะหกล้มอีกคน”

เมื่อสั่งข้าวฟ่างแล้วปิ่นปินัทธ์ก็หันมามองออมสินที่ยังคงร้องไห้อยู่

“ใครมีผ้าเช็ดหน้าบ้างครูขอยืมหน่อย”

“ผมมีครับ” เด็กนักเรียนชายตัวผอมส่งผ้าเช็ดหน้าสีตุ่นๆ ของตนเองให้ครู

“มีผื่นที่มันสะอาดกว่านี้ไหม”

“ใช้ของหนูก็ได้ค่ะครู” เด็กหญิงคนหนึ่งยื่นผ้าเช็ดหน้าที่ไม่ได้ขาวมากแต่มันก็ยังดีกว่าผืนเมื่อครูให้กับคุณครูสาว

“ขอบใจนะชมพู่ เอาล่ะออมสินเอามือออกเดี๋ยวครูจะกดแผลให้”

“ผมกลัวครับครู เลือดมันจะหมดตัวไหม”

“ไม่หมดตัวหรอกเชื่อครู เอามือออกนะ” ครูสาวค่อยๆ เอามือลูกศิษย์ออกจากนั้นใช้ผ้าเช็ดหน้ากดไปตรงบาดแผล

“เจ็บมากไหม”

“เจ็บครับ”

“เดี๋ยวครูจะพาไปหาหมอนะ ออมสินเดินไหวไหม”

“ผมไม่หาหมอได้ไหมครับครู ผมอยากกลับบ้านอยากไปหาแม่ ไปหายาย”

“ไม่หาหมอได้ยังไงเลือดออกเยอะขนาดนี้ เมื่อกี้บอกว่ากลัวเลือดจะหมดตัวไม่ใช่เหรอไปโรงพยาบาลกับครูก่อน เดี๋ยวครูจะโทรบอกแม่ให้เอง”

“ครับครู”

ปิ่นปินัทธ์พาลูกศิษย์เดินมายังรถของตนเอง ก็พอดีกับข้าวฟ่างถือกระเป๋าและกุญแจรถมาให้

“ขอบใจมากนะข้าวฟ่างหนูก็เตรียมกลับบ้านได้แล้ว”

“หนูขอไปกับคุณครูได้มั๊ยคะ”

“จะไปได้ยังไงล่ะเดี๋ยวแม่ข้าวฟ่างก็มารับแล้ว”

“แต่หนูกลัวออมสินจะตาย”

“ไม่ตายหรอกข้าวฟ่างแค่นี้เองหนู ไปเตรียมกระเป๋ามารอแม่เถอะเดี๋ยวสี่โมงแม่ก็จะมารับแล้ว”

“ค่ะครู”

ระหว่างขับรถมาโรงพยาบาลเด็กชายก็ร้องไห้งอแงจนเธอไม่แทบจะไม่มีสมาธิขับรถ

“ออมสินหยุดร้องก่อนถ้ายังร้องแบบนี้ ครูจะไม่พาไปโรงพยาบาลแล้วเลือดจะไหลหมดตัวนะ”

“ผมเจ็บ ผมกลัวครับครูปิ่น”

“ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวก็ถึงโรงพยาบาลแล้วนะ ออมสินเป็นคนเก่งไม่ร้องนะครับ” ปิ่นปินัทธ์ขับรถไปด้วยปลอบลูกศิษย์ไปด้วย ตอนนี้รถติดมากเธอใช้เวลาสิบห้านาทีก็พากันก็มาถึงโรงพยาบาลประจำจังหวัดขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้โรงเรียนมากที่สุด

หญิงสาวจอดรถบริเวณหน้าห้องฉุกเฉินก็มีเจ้าหน้าที่เข็นรถมารอมารอรับ

“เด็กเป็นอะไรครับครู” เจ้าหน้าที่แผนกรับส่งผู้ป่วยจำได้ว่าเธอคือครูที่ประจำอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเคยพาเด็กมารักษาที่นี่อยู่บ่อยๆ

“เด็กหัวแตกค่ะ” ปิ่นปินัทธ์บอกแล้วรีบลงจากรถมาช่วยพาลูกศิษย์ของตนเองไปนั่งบนรถเข็น

"ออมสินเข้าไปข้างในก่อนนะครับเดี๋ยวครูเอารถไปจอดแล้วจะตามไปนะ”

“ผมกลัว”

“ไม่ต้องกลัวครับพี่เวรแปลเขาใจดี”

“ไปกับพี่นะครับ เข้าไปหาหมอกันนะ”

“ฝากด้วยนะคะฉันขอเอารถไปเก็บแล้วจะโทรแจ้งผู้ปกครอง เด็กมีประกันโรงเรียนนะคะ ชื่อตามเสื้อที่เขาใส่ค่ะ”

หญิงสาวขับรถไปจอดยังบริเวณด้านหน้าซึ่งโชคดีว่ามันยังมีที่ว่างเหลืออยู่ หลังจากจอดรถแล้วหญิงสาวก็โทรศัพท์ไปบอกแม่ของเด็กชายออมสิน

“คุณแม่น้องออมสินใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ คุณครูมีอะไรหรือเปล่าคะ แม่กำลังจะไปรับออมสินหรือว่าคนอื่นเขากลับหมดแล้ว”

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ ครูปิ่นจะโทรมาบอกเรื่องออมสิน”

“ออมสินทำไมคะ”

“คือออมสินเขาหกล้มหัวแตกค่ะ ตอนนี้ครูพามาโรงพยาบาลแล้วค่ะ”

“อะไรนะคะครู” มารดาของออมสินตกใจและเป็นห่วงมาก

“คุณแม่ใจเย็นๆ นะคะตอนนี้ออมสินถึงโรงพยาบาลแล้วครูจะโทรมาบอกให้คุณแม่มารับออมสินที่นี่ค่ะ คุณแม่ขับรถดีๆ นะคะไม่ต้องรีบ”

“แล้วออมสินเป็นอะไรมากไหม เขาสลบหรือเปล่า”

“ไม่หรอกค่ะ ออมสินยังพูดได้คุยได้เพียงแต่ร้องไห้เพราะกลัวเลือดนิดหน่อยค่ะ คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ”

“ลูกชายของแม่ไม่ได้เป็นอะไรมากจริงๆ ใช่ไหมคะครูปิ่น”

“ไม่หรอกค่ะเขาแค่มีเลือดออกครูดูแล้วแผลไม่ได้ลึกอะไร คุณแม่ไม่ต้องตกใจนะคะ”

“ถ้างั้นเดี๋ยวแม่จะรีบไปเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะครูที่โทรบอก”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

ท่านอ๋องข้าไม่ต้องการท่านเป็นสวามี

โรแมนติก

5.0

เพราะชาติก่อนคุณหมอสาวโง่เขลาเชื่อมั่นในความรัก จึงถูกวางยาพิษจนตาย ทว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกลับเป็นสวีอี้หลิง บุตรสาวของท่านโหวซึ่งนางเองก็ถูกวางยาเช่นกัน การกลับมาเกิดใหม่ในครั้งนี้นางจะแก้ไขชะตาของคุณหนูที่น่าสงสารคนนี้ให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นให้ได้ สวีอี้หลิงคนนี้จะไม่คิดใส่ใจสามีที่ตนเองไม่ได้เต็มใจรับเป็นอันขาด ทว่าต่อให้ไม่สนใจ ถึงอย่างไรนางก็ต้องเป็นพระชายาของท่านอ๋องผู้มากความสามารถ ดังนั้นนางจะเป็นสตรีเรือนหลังที่เอาแต่จมทะเลน้ำตา และอ่อนแอไม่สู้คนไม่ได้! ต่อให้สามีไม่รักนางหรือชิงชังนางก็ช่าง นางเองก็มิได้ต้องการเขาเป็นสามีสักหน่อย แค่เพียงมอบหนังสือหย่าให้เท่านั้น สวีอี้หลิงก็พร้อมจากไปทันที ชีวิตสองชาติภพนางจะไม่ยอมให้ใครหลอกอีกแล้ว!

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

โรแมนติก

5.0

เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
หมอขาอย่าทำร้ายหัวใจ
1

บทที่ 1 เรื่องวุ่นวัยรุ่นเก้าขวบ

09/10/2024

2

บทที่ 2 มันผิดนะครับ

09/10/2024

3

บทที่ 3 เด็กกับการหกล้มมันของคู่กัน

09/10/2024

4

บทที่ 4 หลานรักของยาย

09/10/2024

5

บทที่ 5 อยากเจอครูของคนไข้

09/10/2024

6

บทที่ 6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ

09/10/2024

7

บทที่ 7 แบ่งเวลา

09/10/2024

8

บทที่ 8 นึกว่าจะได้เจอกัน

09/10/2024

9

บทที่ 9 ของโปรดที่เหมือนกัน

09/10/2024

10

บทที่ 10 ไม่ปฏิเสธก็คือตกลง

09/10/2024

11

บทที่ 11 เขาคงไม่มีใคร

09/10/2024

12

บทที่ 12 อยากจับไว้แบบนี้ตลอด

09/10/2024

13

บทที่ 13 แค่ได้คุยก็หายเหนื่อย

09/10/2024

14

บทที่ 14 ก็น้ำแอร์มันหยด

09/10/2024

15

บทที่ 15 ใจเต้นแรง nc

09/10/2024

16

บทที่ 16 เปลี่ยนความเจ็บเป็นความสุข nc

09/10/2024

17

บทที่ 17 เพราะรักจึงเต็มใจรอ

09/10/2024

18

บทที่ 18 สัญญาลูกผู้ชาย

09/10/2024

19

บทที่ 19 แค่กอดก็พอ

09/10/2024

20

บทที่ 20 คิดถึงและโหยหา nc

09/10/2024

21

บทที่ 21 ยังไม่อยากคุยตอนนี้

09/10/2024

22

บทที่ 22 ขอคนที่เข้าใจ

09/10/2024

23

บทที่ 23 อีกสามปีมันนานเกินไป

09/10/2024

24

บทที่ 24 ไม่เหมาะสม

09/10/2024

25

บทที่ 25 ได้แค่เพื่อนจริงๆ

09/10/2024

26

บทที่ 26 ทำไมต้องเจ็บ

09/10/2024

27

บทที่ 27 ตัดใจได้จริงๆ

09/10/2024

28

บทที่ 28 โอกาสสุดท้าย

09/10/2024

29

บทที่ 29 เป็นเพื่อนไปก่อน

09/10/2024

30

บทที่ 30 วิกฤต

09/10/2024

31

บทที่ 31 ยื้อไม่ไหวก็ต้องปล่อย

09/10/2024

32

บทที่ 32 ผมขอโทษ (ตอนจบ)

09/10/2024