Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เลขาคุณมาเฟีย
5.0
ความคิดเห็น
ชม
35
บท

รติรสมาสมัครงานเป็นแม่บ้านในบริษัทที่แม่ตัวเคยทำงานและหายตัวไป แต่ทุกอย่างผิดแผนเมื่อถูกดึงไปทำงานเป็นเลขาของประธานคนใหม่ นอกจากจะเป็นเลขาแล้วยังพ่วงด้วยตำแหน่งพาร์ทเนอร์บนเตียงอีกด้วย ***************** "คุณไม่มีความสุขในการใช้ชีวิตแล้วคิดเหรอคะว่าโรส กับครอบครัวมีความสุข พวกเราพยายามตามหาแม่ แต่ก็ติดต่อแม่ไม่ได้เลยมันทรมานมากๆ"

บทที่ 1 ขอไปหาประสบการณ์

รติรสหรือโรสหญิงสาววัย 22 ปีกำลังเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เพราะบริษัทที่เธอสมัครงานไว้ตอบรับและให้เธอไปเริ่มงานในสัปดาห์หน้าหญิงสาวต้องลงไปกรุงเทพก่อนหนึ่งสัปดาห์เพื่อหาที่พักและระหว่างนี้ก็จะไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกัน

“ป้าไม่เข้าใจเลยทำไมหนูจะต้องไปทำงานไกลถึงกรุงเทพล่ะลูก เชียงใหม่บ้านเราก็มีบริษัทตั้งเยอะตั้งแยะหนูไม่คิดจะสนใจทำบ้างเหรอ”

“ก็ที่นู่นให้เงินเดือนมากกว่านี้ค่ะป้าวรรณ แล้วที่นี่ก็มีคนรู้จักป้าวรรณกับลุงเรืองแล้วไหนจะพี่ฤทธิ์อีก ไปทางไหนก็มีแค่คนรู้จักหนูว่าพวกเขาก็คงรับหนูเข้าทำงานเพราะเกรงใจแน่ๆ”

“เงินเดือนมากกว่าก็จริงแต่ค่าครองชีพก็สูงนะลูกแล้วไหนจะต้องเสียค่าที่พักอีกถ้าอยู่ที่นี่หนูไม่ต้องเสียค่าที่พักค่าอาหารก็ไม่ต้องเสียเลยนะโรส”

“แต่หนูว่าที่นู่นมันโอกาสดีกว่านะคะป้า หนูจะใช้จ่ายอย่างประหยัดรับรองว่ามีเงินเหลือเก็บแน่ๆ”

“นี่ป้าจะเปลี่ยนใจหนูไม่ได้จริงๆ ใช่ไหม”

“หนูขอไปหาประสบการณ์เยอะๆ ก่อนนะคะถ้าเบื่อแล้วจะกลับมาช่วยงานลุงกับป้าที่สวน”

“ที่ป้าไม่อยากให้หนูไปเพราะป้ากลัวว่าหนูไปทำงานที่กรุงเทพแล้วจะหายไปเหมือนแม่”

“หนูไม่หายไปหรอกค่ะป้า หนูจะพยายามติดต่อป้าตลอดรับรองว่าไม่หายไปแน่ค่ะ” หญิงสาวรีบโน้มน้าวจิตใจป้าวรรณา

“แต่ป้าก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี”

“ไม่ต้องเป็นห่วงหนูหรอกค่ะป้าหนูเอาตัวเองรอดได้ค่ะ”

“หนูจะไปอยู่กับเพื่อนชื่ออะไรนะ มีเบอร์โทรศัพท์ของเขาไหมป้าอยากจะขอไว้หน่อยเผื่อว่ามีธุระฉุกเฉินแล้วติดต่อหนูไม่ได้ได้” วรรณาเป็นห่วงมากเพราะไม่เคยห่างจากรติรสนานๆ เลย

“ค่ะเดี๋ยวหนูเอาเบอร์ให้นะคะ เพื่อนของหนูคนนี้ชื่อนวนันท์หรือนันท์ค่ะ เขาเคยมาบ้านเราหลายครั้ง คนนี้ไงคะ” รติรสเอารูปที่ตนเองถ่ายคู่กับนวนันท์กับป้าของตนดูเพราะไม่อยากให้ท่านเป็นห่วงมาก

“อ๋อ หนูคนนี้นี่เองถ้ารู้ว่าไปอยู่กับเพื่อนคนนี้ป้าก็ค่อยเบาใจหน่อย แต่หนูจะไปทำงานจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่จะไปตามหาแม่นะโรส”

“ไม่หรอกค่ะ แม่เขาไม่ติดต่อเรามาสองปีแล้วหนูจะไปตามหาเขาที่ไหนล่ะ เบาะแสอะไรของแม่ก็ไม่มีเลยหนูว่าป่านนี้แม่เขาอาจจะลืมเราไปแล้วหรือไม่บางทีแม่อาจจะไม่อยู่บนโลกนี้ก็ได้ค่ะ”

หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบทำเหมือนไม่เจ็บปวดแต่ในใจลึกๆ แล้วตนเองยังคงคิดถึงมารดาและการลงไปกรุงเทพครั้งนี้ก็เพื่อจะตามหามารดาของเธอ รติรสอยากรู้ว่าทำไมมารดาถึงหายไปนานถึงหนึ่งสองปี ครั้งสุดท้ายที่มารดาส่งเช็คมาให้จำนวนเงินมันค่อนข้างมาก เมื่อเธอโทรไปยังบริษัทที่มารดาเคยทำงานอยู่ทางนั้นก็บอกว่ามารดาเธอลาออกไปได้แล้วซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผิดปกติมากๆ

หญิงสาวพยายามถามเพื่อนของมารดาเท่าที่ตนเองจะพอรู้จักแต่ก็ไม่มีใครบอกอะไรได้เลยรู้แค่ว่ามารดาของเธอลาออกจากบริษัทนั้นจากนั้นก็ไม่มีใครเจออีก

รติรสตามข่าวของมารดาอยู่ตลอดแต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามารดาของเธออยู่ที่ไหนหญิงสาวจำชื่อบริษัทนั้นได้ดีและเธอพยายามโทรศัพท์ไปถามอยู่หลายครั้งว่ามีการรับสมัครงานบ้างหรือเปล่า และนับว่าเป็นโชคดีมากที่บริษัทนั้นกำลังประกาศรับสมัครงานหลายตำแหน่ง เธอไปสมัครในตำแหน่งแม่บ้านเพราะคิดว่าตำแหน่งนี้จะสามารถเข้านอกออกในได้พูดคุยกับคนอื่นได้โดยไม่ผิดสังเกต

เรื่องนี้หญิงสาวไม่ได้บอกคุณป้าวรรณา เธอบอกแค่ว่าไปทำงานในแผนกบัญชีของบริษัทแห่งหนึ่งเท่านั้นเพราะถ้าป้ารู้ก็คงห้ามและไม่ยอมให้เธอไปกรุงเทพอย่างแน่นอน

“แล้วหนูจะอยู่กับเพื่อนนานแค่ไหนล่ะโรส”

“เท่าที่หนูคุยกับนันท์ก็น่าจะอยู่กันสักพักค่ะ ถ้าหาห้องเช่าได้ก็คงย้ายออก”

“เงินที่แม่ส่งมาให้เราก็ยังพอเหลืออยู่ ป้าว่าโรสเปลี่ยนใจทำงานที่เชียงใหม่ ดีไหมถึงเงินเดือนจะไม่มากอย่างที่หนูบอกแต่เราก็จะได้อยู่ใกล้กัน” ป้าวรรณาต่อรองอีกครั้งพวกเธอได้ขัดสนเรื่องเงินเลย เพราะนอกจากจะมีเงินก้อนสุดท้ายที่มารดาของรติรสส่งมาให้มากถึงสิบล้านพวกเขาก็ยังมีรายได้จากการทำสวนส้มอีกมาก

“ป้าวรรณขา หนูขอไปทำงานหาประสบการณ์ที่บริษัทใหญ่ๆ สักสองสามปีได้ไหมคะ แล้วหนูจะกลับมาอยู่กับป้า” หญิงสาวสวมกอดป้าที่รักเหมือนกับมารดาของตนเองอย่างประจบ

“ป้ารู้ว่าคงห้ามหนูไม่ได้ เพราะตอนนี้หนูก็เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แต่ป้าอยากให้หนูรู้ไว้นะโรส ป้าเป็นห่วงมาก หนูเป็นหลานสาวคนเดียวของป้านะถ้าหนูเป็นอะไรไปขึ้นมาป้าคงแย่แน่”

“หนูสัญญาค่ะป้าวรรณว่าจะดูแลตัวเองดีๆ และจะโทรหาป้าบ่อยๆ ถ้ามีวันหยุดติดๆ กันหลายวันหนูจะกลับมาหาป้านะคะ”

“หนูไม่อยู่แล้วป้าคงเหงามากๆ”

“รถว่าป้าวรรณเหงาอีกไม่นานหรอกค่ะเดี๋ยวพี่ฤทธิ์เขาก็คงมีหลานให้ป้าอุ้มเร็วๆ นี้” เธอหมายถึงฤทธิกรลูกชายคนเดียวของป้าวรรณากับลุงเรือง

“ก็ขอให้มันจริงเถอะพี่ชายของเราน่ะ แต่งงานไปตั้งสามปีแล้วเมื่อไหร่จะมีลูกกันสักทีก็ไม่รู้”

“หนูถามพี่ฤทธิ์แล้ว พี่เขาบอกว่าน่าจะภายในปีนี้แหละค่ะ ป้าวรรณเตรียมเลี้ยงหลานได้เลย แต่มีหลานแล้วก็อย่าลืมหนูนะคะ”

“ใครจะลืมได้ลงล่ะป้าเลี้ยงหนูมาตั้งแต่เกิดรักมากกว่าลูกแท้ๆเสียอีก”

“ป้าเมื่อวรรณอย่าพูดแบบนี้นะคะเกิดพี่ฤทธิ์ได้ยินแล้วก็มาโวยวายหาว่าหนูแย่งความรักอีกหนูขี้เกียจทะเลาะกับพี่เขาค่ะ”

“เขาก็แค่อิจฉาโรสอย่างงั้นแหละจริงๆ แล้วป้าก็รักสองคนเท่ากันแต่จะรักและห่วงหนูมากกว่าเพราะหนูเป็นผู้หญิง”

“ขอบคุณนะคะป้า ขอบคุณที่รักและเลี้ยงหนูมากถ้าไม่มีป้าก็คงแย่แน่ๆ”

หญิงสาวกอดป้าของตนเองแน่นถ้าไม่มีป้าวรรณนาคนนี้ก็คงไม่มีรติรสเหมือนกันเพราะตั้งแต่มารดาของเธอคลอดได้ไม่กี่เดือนเธอก็ลงไปทำงานที่กรุงเทพจากนั้นนานๆ ครั้งถึงจะขึ้นมาหา แต่ก็ส่งเงินมาให้ใช้ตลอดทุกเดือน

จนกระทั่งเมื่อเกือบสองปีที่แล้วมารดาส่งเช็คก้อนสุดท้ายมาให้จำนวน 10 ล้านบาทจากนั้นเธอก็ติดต่อมารดาไม่ได้อีกเลย

เธอกับฤทธิกรลูกชายของป้าวรรณาลงไปตามหาที่กรุงเทพแต่ก็ไม่มีวี่แวว ทุกคนจึงถอดใจและคิดว่าบางทีนี้มารดาของเธออาจจะหนีไปอยู่ที่อื่นหรือไม่ก็อาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็เป็นได้

ส่วนบิดาของเธอนั้นเลิกกับมารดาของเธอตั้งแต่เธอยังไม่คลอดและล่าสุดที่รติรสได้ข่าวบิดาของตนเองก็เมื่อหลายปีก่อนซึ่งท่านเสียชีวิตไปแล้วด้วยอุบัติเหตุ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จินต์พิชา

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ได้ยินเสียงฉันไหม

ได้ยินเสียงฉันไหม

โรแมนติก

4.4

เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี

อสูรสองหัวใจ

อสูรสองหัวใจ

มหาเศรษฐี

5.0

“คนไม่มีค่า ไม่จำเป็นต้องถนอม เหมือนกับเธอยังไงล่ะแคท เธอมันก็แค่ก้อนกรวดเม็ดทรายไร้ค่า ไร้ราคา เป็นได้แค่ตุ๊กตามีชีวิตที่ดิ้นระริกอยู่ใต้ระหว่างขาของฉันเท่านั้น” ถ้อยคำของชายร่างใหญ่ที่คร่อมร่างเปลือยของเธอ ช่างเป็นคำพูดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับนันท์นภัสมากเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยเต้นเร่าด้วยความเสียใจ ร่างกายเย็นเฉียบประหนึ่งเธอฝังตัวอยู่ในหิมะขาวโพลน “คุณอูโก้...” เสียงเจ็บช้ำกล่าวออกไป “ใช่...ฉันคืออูโก้ จำชื่อเจ้าของเธอให้ขึ้นใจ แม่สัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ ของฉัน สร้อยที่ฉันให้เธอใส่มันก็เปรียบเสมือนปอกคอที่สวมให้สัตว์เลี้ยงตัวโปรด ให้คนอื่นเขารู้ว่า เธอมีเจ้าของแล้ว และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาแย่งสัตว์เลี้ยงของฉันไปได้ นอกเสียจากว่า ฉันจะปล่อยมันไปเอง แล้วก็จำใส่กะโหลกกลวงๆ ของเธอเอาไว้ด้วยว่า ร่างกายของเธอทุกสัดส่วน อย่าให้ใครมาแตะต้อง ไม่อย่างนั้นเธอได้แหลกคามือฉันแน่ วันนี้ฉันจะลงโทษเธอเบาะๆ ที่ริอ่านให้ไอ้แจ็คมันจับมือ ไม่หนักไม่หนาอะไรหรอก...แค่คางเหลืองเดินลงจากเตียงไม่ได้เท่านั้นเอง”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
เลขาคุณมาเฟีย
1

บทที่ 1 ขอไปหาประสบการณ์

15/10/2024

2

บทที่ 2 คนที่ต้องตามหา

15/10/2024

3

บทที่ 3 ยังไม่อยากจริงจังกับใคร

15/10/2024

4

บทที่ 4 มัดใจ

15/10/2024

5

บทที่ 5 ขอสนุกก่อน

15/10/2024

6

บทที่ 6 งานที่อยากทำ

15/10/2024

7

บทที่ 7 ลองดูสักครั้ง

15/10/2024

8

บทที่ 8 เจ้านายมีเสน่ห์

15/10/2024

9

บทที่ 9 จับผิด

15/10/2024

10

บทที่ 10 งานลงตัวแล้ว

15/10/2024

11

บทที่ 11 ไม่เคยจริงจัง

15/10/2024

12

บทที่ 12 เลขาในมุมเซ็กซี่

15/10/2024

13

บทที่ 13 เรียกฉันว่าบอริส

15/10/2024

14

บทที่ 14 ฉันไม่ได้บังคับ nc

15/10/2024

15

บทที่ 15 พาร์ทเนอร์

15/10/2024

16

บทที่ 16 พาร์ทเนอร์

15/10/2024

17

บทที่ 17 ต้องรีบตามหา

15/10/2024

18

บทที่ 18 เป็นอย่างที่คิดไว้

15/10/2024

19

บทที่ 19 ยังเจอตอนนี้ไม่ได้

15/10/2024

20

บทที่ 20 ไม่ได้ขู่ แต่ขอร้อง

15/10/2024

21

บทที่ 21 ทุกอย่างออกมาจากส่วนลึก nc

15/10/2024

22

บทที่ 22 ยังให้คำตอบไม่ได้ nc

15/10/2024

23

บทที่ 23 ข้อความที่ทำให้ยิ้ม

15/10/2024

24

บทที่ 24 ปกปิดอะไรไว้

15/10/2024

25

บทที่ 25 หวั่นไหว

15/10/2024

26

บทที่ 26 ความจริง

15/10/2024

27

บทที่ 27 ไม่สบายใจมานาน

15/10/2024

28

บทที่ 28 จะอภัยได้ไหม

15/10/2024

29

บทที่ 29 ไม่อยากเป็นพาร์ทเนอร์แล้ว

15/10/2024

30

บทที่ 30 คิดถึงก็แต่มาหา nc

15/10/2024

31

บทที่ 31 ลูกสาวคนใหม่

15/10/2024

32

บทที่ 32 กล้ามากขึ้น

15/10/2024

33

บทที่ 33 อยากมีความสุขแบบนี้ไปตลอด nc

15/10/2024

34

บทที่ 34 ไม่ได้หนีแต่ไม่ได้บอก

15/10/2024

35

บทที่ 35 ตอนจบ

15/10/2024