Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลามาหาผู้ชายยุค 90 ภาค2

ย้อนเวลามาหาผู้ชายยุค 90 ภาค2

ต๋อง น่ะ

5.0
ความคิดเห็น
1
ชม
9
บท

ความรัก ความทรงจำ จะอยู่ตลอดไป

บทที่ 1 ลูกชายกำนัน

บ้านทรงไทยยกสูงในพื้นที่บริ เวณหลายสิบไร่ ภายในบ้านมีร่วมสิบห้องและหนึ่งในห้องนั้น ได้มีชายหนุ่มนอนหลับอย่างสบายกายและใจ จนจวบได้เวลายามเช้าตรู่ที่เขาต้องตื่นขึ้นมา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้นและเขาก็พบกับสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพานพบได้เจอ เขารีบลุกขึ้นทันทีและมองไปรอบบริเวณห้อง ที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรแต่ไม่ใช้ปูน ที่ชายหนุ่มเห็นนั้นเป็นไม้รอบห้องส่วนพื้นก็ไม่ต่างกัน ชาหนุ่มผู้นั้นรีบลุกยืนขึ้นและลงจากเตียง แต่เขากับต้องไปเหยียบเนื้อนุ่มๆ จนสร้างความตื่นตระหนกตกใจเขารีบกระโดดขึ้นตียงทันที

“โอ๊ย ลูกพี่ มาเหยียบกันทำไม”ไก่หนุ่มน้อยรีบลุกขึ้นนั่งทันที เมื่ออเขารู้สึกเจ็บที่อก เพราะชายหนุ่มผู้นั้นได้เหยียบที่หน้าอกของเขา

“นายเป็นใคร เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”มิคกี้มีสีหน้าตกใจ เพราะสิ่งที่เขาพบเจอและได้เห็นมันช่างแตกต่างจากห้องของเขาสิ้นเชิง

“ลูกพี่ กินยาผิดสำแดงอะไรอีกล่ะ”ไก่เกาศีรษะแก๊กๆด้วยความมึนงง

“นายจับเรามาเรียกค่าไถ่ใช่ไหม”มิคกี้มองหน้าไก่ที่กำลังมีสีหน้ามึนงง

“เรียกค่าไถ่อะไรล่ะลูกพี่ ที่นี่มันบ้านของลูกพี่ บ้านกำนันบุญมี”

“ใครกันกำนันบุญมี”มิคกี้มีสีหน้าที่สงสัย

“ก็พ่อของลูกพี่ไง”

“ไม่ใช่ พ่อเราเป็นรัฐมนตรี นายอย่ามามั่วพูดไปเรื่อย มาลดตำแหน่งพ่อของเรา”

“ลูกพี่นี่เป็นอะไรเนี่ย ตื่นมาก็สติสตังไม่เต็มซะนี่”

“นายนั่นแหละไม่เต็ม”

“อย่าพูดมากเลยลูกพี่ รีบอาบน้ำแต่งตัวและออกไปกินข้าวได้แล้ว”

“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งเรา ถ้าเราหิวเดี๋ยวจะไปกินเอง แต่ที่นี่มันที่ไหน เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน”

“โอ๊ย ผมไม่คุยกับลูกพี่แล้ว เดี๋ยวจะไปอาบน้ำดีกว่า”ไก่ลุกขึ้นยืนและกำลังเดินออกจากห้อง

“เดี๋ยวก่อน นายเป็นใคร”

“ก็ลูกพี่ผมไง จำไม่ได้อีกเหรอ”

“ชื่อไร”

“ชื่อไก่”

“เหรอ เราไม่เคยมีลูกน้อง ที่มีที่บ้านก็แก่ๆทั้งนั้น”

“อ้าว อยากได้แก่ๆเหรอ เดี๋ยวผมจะให้พ่อมาเป็นลูกน้องเอาไหม”

“ไม่เอา นายนั่นแหละอยู่ก่อน”

“อะไรอีกล่ะลูกพี่ มีอะไรก็พูดมา”

“ที่นี่บ้านกำนันบุญมี แล้วเรามาอยู่นี่ได้อย่างไรกัน”

“อ้าว ก็ลูกพี่เป็นลูกชายกำนันบุญมี จะไม่ให้อยู่ที่นี่แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหนล่ะ”

“จริงเหรอ”มิคกี้รู้สึกมึนงง และไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นและได้เห็นในช่วงเวลานี้ที่แปลกออกไป

“ป่ะโธ่ ลูกพี่เป็นอะไรไปเนี่ย บอกแล้วว่าอย่าหนีกำนันไปเที่ยวงานวัด โดนตัวอะไรเข้าสิงล่ะเนี่ย”

“งานวัดอะไรไม่เคยไป เราไปเล่นฟุตบอลมา”

“ฟุตบงฟุตบอลอะไรไม่เคยเห็นเล่น มีแต่เมื่อคืนช่วงหัวค่ำ ขึ้นไปต่อยมวยแล้วโดนน็อค สลบล้มฟุบคาเวที”ไก่แอบหัวเราะนิดๆ

“นายนั่นแหละบ้า เราไม่เคยชกมวยเลย”

“ไม่เคยก็ไม่เคย ผมไปก่อนนะเดี๋ยวมาหา ไปอาบซะหน่อย เมื่อคืนกว่าจะพาลูกพี่มาได้เล่นเอาผมเหนื่อยเลยนะ”ไก่รีบเดินออกจากห้องนอนในทันที

“เดี๋ยวก่อน”มิคกี้เรียกไก่ไม่ทัน เพราะไก่รีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

มิคกี้นั่งลงบนเตียงแล้วครุ่นคิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา ถึงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างหน้าประหลาดใจยิ่งนัก มิคกี้จำได้ลางๆว่ากำลังเล่นฟุตบอลกับเพื่อนอยู่ และในช่วงเวลานั้นที่เขาไล่เลี้ยงฟุตบอลมาถึงหน้าประตู พอได้จังหวะเหมาะเขาเตะลูกฟุตบอลเพื่อหวังทำประตู แต่ดันพลาดโดนคานประตู ลูกฟุตบอลกระเด็นมาโดนที่ศีรษะของเขา จนล้มลงฟุบกับพื้น หลังจากนั้นเขาก็จำอะไรไม่ได้ ตื่นมาอีกทีก็อยู่ ณ ที่แห่งนี้

มิคกี้ก้มหน้าก้มตาด้วยความสับสน ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ถึงมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน มิคกี้นั่งนิ่งๆอยู่พักหนึ่ง เขาก็คิดถึงคำพูดของไก่ที่บอกให้อาบน้ำและไปกินข้าว มิคกี้จึงทำตามสถานการณ์ตรงหน้าไปก่อน สิ่งแรกที่เขาต้องหาคือผ้าเช็ดตัวเพื่อมาผลัดเสื้อผ้า แต่ก็หาไม่เจอเขาวนหาจนรอบห้อง เจอแต่ผ้าขาวม้าลายแดงขาว มิคกี้หยิบขึ้นมาดูซึ่งมันบางมาก แต่เขาไม่มีทางเลือก จึงนุ่งผ้าขาวม้าเพื่อถอดกางเกงออก หลังจากนั้นเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ภายในห้อง

พอมิคกี้เข้ามาภายในห้องน้ำเขามองหาฝักบัว แต่ก็ไม่พบได้แต่เห็นโอ่งน้ำลายมังกรที่มีขันสีเขียววางอยู่บนฝาอลูมินเนียม มิคกี้จึงเปิดหยิบขันออกเปิดฝาโอ่งวางไว้ หลังจากนั้นมองซ้ายมองขวามองบน เพราะเขากลัวคนมาแอบดูเมื่อคิดว่าปลอดภัย มิคกี้จึงถอดผ้าขาวม้าพาดไว้ หลังจากนั้นตักน้ำในโอ่งราดตัวร่วมสิบขัน

เมื่อตัวเปียกซุ่มมิคกี้หาครีบอาบน้ำแต่ไม่เจอ เห็นมีสบู่ตรานกแก้วมิคกี้จึงจำเป็นต้องหยิบมาใช้ถูตัว มิคกี้อดคิดไม่ได้ว่ามาอยู่ในที่แบบนี้ได้อย่างไรกัน ข้าวของเครื่องใช้ทำไมไม่คุ้นเคย เหมือนอย่างที่เขาเคยดูในหนังละครไม่ผิดเพี้ยน มิคกี้ทนอาบน้ำที่แสนจะเย็นจนขนลุก เขาจึงรีบอาบรีบออกมาจากห้องน้ำ และเปิดตู้เสื้อผ้าที่มีแต่ชุดที่ไม่ใช่แนวของเขาเลย มิคกี้ถึงกับกุมขมับด้วยความมึนงง เพราะในชีวิตของมิคกี้มีแต่เสื้อผ้าแบรนด์เนม

มิคกี้ไม่รู้จะใส่ชุดอะไรเขาจึงเลือกกางยีนส์ตัดขาสั้น และมีรอยขาดตรงต้นขากับเสื้อยืดสีดำสกรีนลายรูปปิศาจ เมื่อเขาแต่งตัวเสร็จก็ยืนนิ่งอยู่สักพักว่าจะทำอย่างไรดี เขาสับสนอลหม่านจิตใจเพราะคิดอะไรไม่ออก ถ้าจะถูกจับตัวมาทำไมถึงอยู่ในห้องแบบสบายๆ มิคกี้ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งจึงเปิดประตูออกไป

สิ่งที่มิคกี้เห็นไปลานกว้างๆที่พื้นเป็นไม้ขนาดใหญ่ เขามองไปรอบๆซึ่งกว้างมาก และผนังบ้านก็เป็นไม้เช่นกัน มีรูปผู้หญิงผู้ชายอายุสี่สิบกว่าๆติดไว้ และอีกรูปหนึ่งเป็นรูปของเขาเอง มิคกี้ยืนมองดูรูปตัวเองอยู่นาน จนสะดุ้งเมื่อมีเสียงดังมาจากข้างหลัง

“ไอ้ต่อมึงยืนทำซากอะไร มากินข้าวซิวะ”เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านหลัง

มิคกี้หันหน้าไปมองทันที ซึ่งชายที่เรียกก็เป็นคนเดียวกับคนในรูป มิคกี้หันมองรูปถ่ายอีกรอบ และเขาได้เห็นหญิงสาววัยกลางคนที่หน้าเหมือนคนในรูปถ่าย

“ต่อเอ่ย มากินข้าวเร็วลูก”หญิงสาววัยกลางคนเรียก

มิคกี้ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ นอกจากทำตัวเนียนและหาจังหวะหลบหนีจากที่แห่งนี้ให้จงได้ เขาเดินไปเรื่อยๆและนั่งลงกับพื้นไม้ใกล้ๆชายหญิงคู่นั้นที่เรียกขานเขา

“ของโปรดของเองเลย น้ำพริกแมงดา”จันทราหญิงสาวพูดขึ้น

“ครับ”มิคกี้สะอึกกับคำว่าแมงดา แต่เขาไม่มีเวลาที่จะคิดอะไรมากนัก

“ตักข้าวซิไอ้ต่อมึงจะให้แม่มึงตักให้เหรอ”กำนันบุญมีอดรำคาญลูกชายที่นั่งนิ่งๆไม่ได้

“ที่นี่ที่ไหนครับ”มิคกี้กลั้นใจพูด

“ก็บ้านกูซิวะ”กำนันบุญมีพูดขึ้น

“ลุงเป็นใครเอาผมมาอยู่ด้วยทำไม”

“มึงก็ลูกกูซิไอ้ต่อ มึงเป็นบ้าอะไรของมึง”

“ผมไม่ใช่ลูกลุง พ่อผมเป็นรัฐมนตรี”

“ต่อ ทำไมพูดกับพ่ออย่างนั้น แม่ไม่ชอบเลยที่ลูกพูดจาฟังไม่ได้”จันทราพูดแทรกทันที

“คุณไม่ใช่แม่ผม แม่ผมเป็นคุณหญิง”

“ต่อเป็นอะไรมากไหมนี่ลูก เมื่อคืนลูกไปไหนมาโดนอะไรมาหรือเปล่า”จันทรารู้สึกสงสัย เพราะเธอพึ่งรู้ข่าวเมื่อเช้าว่าลูกชายไปเที่ยวงานวัด และได้ขึ้นชกมวยแต่แพ้น็อคสลบกลางเวทีมวย

“มันคงยังมึนๆอยู่ เมื่อคืนพี่งแพ้น็อคคาเวที เสียชื่อลูกกำนันหมด ทีหลังถ้าอ่อนซ้อมก็ไม่ต้องไปชกมวยอายเขา”

“ผมไม่ได้ไปชกมวย ผมเล่นฟุตบอลอยู่ แล้วลูกฟุตบอลมันกระเด็นมาโดนศีรษะผมเลยสลบ ตื่นมาอีกทีก็มาอยู่ที่นี่”

“มึงประสาทกลับแล้วมั้งไอ้ต่อ พูดจาเลอะเลือนฟังไม่ได้เลยนะ”

“ผมไม่ได้ประสาทกลับ ผมไม่ได้ชื่อต่อ ผมชื่อมิคกี้อยู่กรุงเทพ ไม่ใช่ที่ต่างจังหวัดอย่างนี้”

“พ่อลูกเราอาการหนักน่าจะพาไปหาหมอไหม”จันทราหันมามองกำนันบุญมี

“ผมไม่ได้เป็นอะไร ผมว่าพวกคุณมากว่าที่ต้องไปหาหมอ จูจู่ก็พาผมมาที่นี่แล้วหาว่าเป็นลูก”

“แม่ ดูมันพูด นั่นปากมันเหรอนะ แบบนี้มันต้องโดนหวาย”กำนันบุญมีรีบเรียกลูกน้องทันที

“ไอ้ไก่ เอาหวายมาที”

“ครับ” ไก่วิ่งมาพร้อมถือหวายมาด้วย

“กำนันจะเอามาทำอะไรเหรอครับ”ไก่ถาม

“เอามาตีไอ้ลูกทรพีนะซิ กูเลี้ยงมันมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย มันยังหาว่ากูไม่ใช่พ่อมันอีก ให้เรียนหนังสือก็ไม่เรียน จบมอหกแล้วให้สอบเอ็นทรานซ์ก็ไม่ไป เหลือเวลาอีกไม่นานแล้วก็จะหมดเขต”

มิคกี้ฉุกคิดได้ทันทีเมื่อได้ยินว่าต้องไปสอบเอ็นทรานซ์ เขาจึงหยุดพูดตอบโต้กำนันบุญมี เพราะมิคกี้คิดว่าขืนเขายังไม่หยุดอาจโดนเฆี่ยนหลังลายเป็นแน่

“ถ้าคุณตีผม ผมก็จะไม่ไปสอบเอ็นทรานซ์”

“มึงพูดอะไรนะ พูดอีกที”กำนันบุญพูดขึ้น

“ผมจะเรียนต่อ แล้วก็จะไปสอบเอ็นทรานซ์”

“ไอ้ไก่ เอาหวายทิ้งไปไกลๆเลย เผาไฟยิ่งดี”

“อะไรของกำนันเนี่ย”ไก่พูดขึ้น

“ไอ้ไก่มึงอย่าพูดมาก กูบอกให้เอาไปทิ้ง กูจะไม่ใช้มันแล้ว”

“ครับพ่อกำนัน”

“ต่อ พูดจริงใช่ไหม”จันทราหันหน้ามามองมิคกี้

“จริงครับ แม่”มิคกี้พยายามทำตัวเนียน เพราะเขาดูแล้วว่าชายหญิงคู่นี้ไม่ได้หวังร้ายกับเขา

“แหม ลูกพี่พอเจอหวายนี่สมองกลับทันทีเลยนะ”

“ไอ้ไก่ถ้าไม่หุบปากเดี๋ยวกูจะตีมึงแทน”

“ไม่พูดแล้วกำนัน”

“แล้วมึงจะเรียนคณะอะไร”กำนันบุญมีถามด้วยความอยากรู้

“บริหารธุรกิจครับ”มิคกี้พูดอย่างหนักแน่น

“เรียนรัฐศาสตร์ดีกว่าไหมลูก”กำนันบุญมีพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“ก็ได้ครับ”มิคกี้รับคำไปอย่างนั้น เพราะเขาคิดว่าพอไปสอบแล้วก็จะหาทางกลับบ้านไปด้วย

“มึงนี่เวลาไม่ดื้อก็น่ารักดีไอ้ลูกพ่อ”กำนันบุญมียิ้มไม่หุบ

“ดีแล้วลูก”จันทราปลื้มใจอย่างที่สุด ที่ลูกชายเปลื่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

“ไอ้เรื่องสอบอย่าไปเครียดเลย ถ้าสอบไม่ได้เอกชนก็มีพ่อมีปัญญาส่งมึงเรียน ขอแค่ให้มึงเรียนแค่นั้นแหละ”

“ครับพ่อ”มิคกี้เผลอพูดคำว่าพ่ออย่างชัดถ้อยชัดคำ

“แล้วมึงจะเลือกเรียนที่ไหนล่ะ”

“มหาวิทยาลัยพิพัฒนเมธาครับ”

“เอาอย่างงั้นเลยเหรอ ที่นี่เขาว่าเข้าอยากมากนะ”

“ผมเคยเรียนที่นี่แล้ว ไม่น่าอยากสำหรับผม”

“มึงเข้าไปเรียนตอนไหนวะ”กำนันบุญมีเกาหัวด้วยความมึนงง

“เอ่อ ในฝัน ผมฝันว่าอยากเข้าเรียนที่นี่ครับ”

“เอ่อดี ที่ไหนก็ได้พ่อสนับสนุน”

“ครับพ่อ”

“แม่ตักข้าวให้ไอ้ต่อมันซิ ปานนี้หิวแย่แล้ว มัวแต่คุยกันตั้งนาน”กำนันบุญมีพูดขึ้น

“ไหนพ่อไม่ให้ตักไง ให้ลูกตักข้าวกินเอง”

“แม่จันทราก็ อันนั้นมันเมื่อกี้แต่ตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว”

“จ๊ะ”จันทราอดยิ้มไม่ได้

เมื่อจันทราตักข้าวมาให้มิคกี้ เขาก็นั่งมองข้าวที่เต็มจาน พร้อมอาหารตรงหน้าที่มีน้ำพริกแมงดา ผักบุ้งต้ม ข้างๆก็เป็นแกงส้มมะละกอ มิคกี้มองไปมองมา แล้ววางช้อนไว้ในจานข้าวอย่างเดิม

“ทำไมไม่กินล่ะลูก”จันทราพูดขึ้น

“ผมกินเผ็ดไม่ได้ครับ”

“ใช่ๆ มันพึ่งโดนต่อยปากนะ ดูซิเจ่อเลย”กำนันบุญมองไปที่ริมฝีปากของลูกชาย

“เดี๋ยวแม่ไปทอดไข่เจียวให้กินนะ”

“ครับแม่”

มิคกี้นั่งมองจันทราที่รีบลุกขึ้นไปทอดไข่เจียวในห้องครัว ส่วนเขาก็นั่งนิ่งๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนกำนันบุญมีก็รู้สึกว่าลูกชายคนนี้แปลกไปมาก แต่เขาก็ไม่สนถ้าแปลกในแง่ที่ดีขึ้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ต๋อง น่ะ

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ได้ยินเสียงฉันไหม

ได้ยินเสียงฉันไหม

โรแมนติก

4.4

เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

โรแมนติก

5.0

“อันตัวข้า มีนามว่าไป๋ฟางเซียน” ปกติคนอื่นข้ามเวลาคงได้รับมิติ พลังวิเศษ ความเทพทรูต่าง ๆ แล้วนางเล่า ไม่เห็นเป็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านบ้าง เท่านั้นยังไม่พอ! นางยังเข้ามาอยู่ในร่างสาวงามอันดับหนึ่ง มีสถานะเป็นถึงภรรยาของท่านแม่ทัพ ที่สามีหาได้รักใคร่ชมชอบไม่ ออกจะเกลียดแสนเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หนำซ้ำสามีหน้าตายผู้นั้นดันมีคนที่ตนพึงใจอยู่แล้ว เช่นนี้นางจะเอาตัวรอดต่อไปในโลกที่ไม่รู้จักได้อย่างไร นอกจากจะต้องปรับตัวอย่างมากแล้ว นางต้องคิดหาวิธีรับมือกับบุรุษผู้เป็นสามีที่จ้องแต่จะกินหัวนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย! โอ สวรรค์ ท่านเกลียดชังอะไรข้านักหนา เหตุใดถึงให้ข้าเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ชีวิตสงบสุขที่ใฝ่ฝัน คงได้จบสิ้นกันแล้ว แต่ช่างเถอะ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่สามารถหลีกหนีได้ นาง! ไป๋ฟางเซียนผู้นี้! จะขอร่วมลงประชันสนามอารมณ์กับเขาเอง! ให้มันรู้กันไปเลยว่า ภรรยาอย่างนาง จะเอาชนะสามีอย่างเขา... ไม่ได้!

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

สวนฟาร์มมหัศจรรย์ยุค80

เมืองแฟนตาซี

5.0

เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

เสด็จอาเลิกตามใจพระชายาสักทีเถอะ

โรแมนติก

4.7

ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ