คุณลุง CEO สายเปย์

คุณลุง CEO สายเปย์

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
499
ชม
16
บท

เวทนช่วยเด็กสาวเอาไว้จากการโดนวางยา เธอหนีหายไปในค่ำคืนเสน่หา แล้วเขาก็ได้พบเจอเธออีกครั้ง และรับรู้ความลำบากของเธอ เขาจึงยื่นมือเข้าช่วย เหตุการณ์อันแสนวาบหวามในค่ำคืนนั้นก่อกำเนิดชีวิตน้อย ๆ ในครรภ์ของเธออย่างมิอาจหลีกเลี่ยง

บทที่ 1 1

1

หยาดรัศมีรู้สึกอึดอัดกับสายตาของเอกวิทย์ที่กำลังมองเธออย่างหยาดเยิ้ม

“คุณเอกคะ หยาดต้องขออภัยคุณเอกด้วยนะคะ ที่หยาดไม่สามารถรับรักคุณได้ หยาดอายุแค่สิบแปด อายุยังน้อย หยาดยังไม่อยากมีครอบครัวน่ะค่ะ อีกอย่างหยาดก็ไม่ได้รักคุณ เราเป็นพี่เป็นน้อง เป็นเพื่อนกันน่าจะดีกว่านะคะ” หยาดรัศมีตัดสินใจบอกความรู้สึกกับอีกฝ่ายไปตรง ๆ

ป้าสะใภ้ของเธอบังคับให้เธอแต่งงานไปกับผู้ชายที่ท่านหาให้เพื่อจะได้เรียกสินสอดจากผู้ชายพวกนั้นเป็นค่าเลี้ยงดูเธอ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ลุงกับป้าของเธอได้รับเงินมรดกจำนวนมหาศาลจากการตายของบิดามารดาของเธอแล้ว ยังจะมีค่าเลี้ยงดูอะไรอีก หลังจากผลาญเงินมรดกจนหมด สองสามีภรรยา รวมถึงน้องสาวลูกพี่ลูกน้องก็ใช้แรงงานเธอยิ่งกว่าทาส ทำงานตั้งแต่เด็ก ถ้าไม่พอใจก็ทุบตีทำร้าย ด่าทอสารพัด

แถมยังไม่ส่งเสียให้เธอเรียนต่ออีก แต่ให้เธอออกมาทำงานส่งผักผลไม้ช่วยงานที่บ้านแทน

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ ฉันไม่ชอบบังคับจิตใจใครอยู่แล้ว” เอกวิทย์พูดเหมือนเข้าใจ แต่ในใจคุกรุ่นไปด้วยความโทสะ เขาเสียเงินไปแล้วก็ต้องได้อะไรคืนมาบ้าง ในเมื่อพูดกันดีๆ ไม่ชอบ ก็คงต้องใช้กำลัง

“ขอบคุณนะคะที่คุณเอกเข้าใจ” เธอถึงกับยกมือไหว้เขา เพราะไม่อยากแต่งงานไปกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก เธอยังอยากหาลู่ทางเรียนต่อ บางทีอาจจะมีงานอะไรให้ทำแล้วส่งเสียตัวเองเรียนได้ เธอไม่อยากใช้ชีวิตอยู่กับลุงและป้าสะใภ้ใจยักษ์อีกแล้ว

“กินเถอะ อาหารอร่อยทั้งนั้นเลย กินเสร็จ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่บ้านเอง” เอกวิทย์เอ่ยบอก ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจ

ผ่านไปไม่นาน เขาก็รั้งเธอออกไปจากร้านอาหาร จุดหมายคือห้องพักที่เขาจองเอาไว้

ดูสิว่าถ้าตกเป็นของเขาแล้ว ยังจะปฏิเสธไม่อยากแต่งงานกับเขาอยู่อีกไหม

“ปล่อยนะ ปล่อย คุณจะทำอะไร” หยาดรัศมีที่ถูกประคองไปที่ห้อง พอจะมีสติอยู่บ้างเริ่มโวยวาย

เธอรู้ว่าตัวเองโดนวางยา ขาที่เดินก็อ่อนแรงไปหมด แต่ก็พยายามดิ้นสู้ เพื่อหนีออกจากอ้อมแขน

“ขนาดนี้ยังจะฤทธิ์เยอะอยู่อีก ให้รู้กันไปว่าได้ฉันเป็นผัวแล้ว เธอยังจะยังปฏิเสธอยู่อีกไหม”

เอกวิทย์ที่ประคองร่างอ่อนแรงไปที่ห้องชนเข้ากับร่างสูงของใครคนหนึ่งเข้า

“เฮ้ย! เดินยังไงวะนี่” เอกวิทย์พูดด้วยความโมโห

“คุณนั่นแหละเดินยังไง ถึงมาชนกับเจ้านายของผมแบบนี้” เมฆเอ่ยถามเสียงกร้าว

“ชะ... ชะช่วยด้วย” หยาดรัศมีใช้แรงเฮือกสุดท้ายถลาเข้าไปหาร่างสูงของเวทน ก่อนจะร้องขอความช่วยเหลือจากเขา

“นี่คุณวางยาผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ” เวทนเอ่ยถามเสียงกร้าวเมื่อเห็นสภาพคนในอ้อมแขน

“มึงเสือกอะไรด้วยวะ”

“รู้ไหมว่าเจ้านายของผมเป็นใคร”

“เป็นใครวะ มึงไม่รู้แล้วกูจะรู้ไหม” เอกวิทย์เอ่ยถามอย่างไม่เกรงกลัว มองสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายไม่วางตา

“ส่งผู้หญิงมานี่ หล่อนเป็นแฟนของฉัน”

“เป็นแฟนแต่มอมยา น่าจะไม่ใช่แล้วมั้ง หล่อนยังขอให้ฉันช่วยอยู่เลยนี่” เวทนกอดรัดร่างสาวน้อยเอาไว้ ไม่ยอมส่งคืนให้อีกฝ่าย

“บอกให้ส่งเธอมายังไงล่ะ”

“ฉันจะพาผู้หญิงคนนี้ไป” เวทนดึงร่างน้อยที่พยายามเกาะกอดเขาเอาไว้ให้เดินไปด้วยกัน

“เฮ้ย! จะพาหล่อนไปไหน หยุดนะ” เอกวิทย์ตะโกนเรียก ทำท่าจะเดินตาม แต่เมฆเข้ามาขวางเอาไว้

“นี่นามบัตรของบอสผม ถ้ามีปัญหาอะไรก็ติดต่อไปได้เลย” เอกวิทย์ก้มมองก่อนจะตาโต คนที่พาหยาดรัศมีไปคือเวทน เปรมนฤดล ซีอีโอของบริษัทยักษ์ใหญ่ผลิตเครื่องดื่มทุกชนิดจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ แถมยังมีธุรกิจอีกมากมายในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นตระกูลดังที่ร่ำรวยติดอันดับโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวมหลายแสนล้านบาท อีกทั้งต้นตระกูลยังสืบเชื้อสายมาจากผู้ดีเก่า

เขาหรือจะกล้าติดต่อไป เอกวิทย์ถึงกับสยอง เขาเป็นแค่ลูกชายเจ้าของธุรกิจวัสดุก่อสร้างขนาดกลาง ร่ำรวยสู้คนที่เพิ่งเดินจากไปไม่ได้

“เมฆ เราต้องพาหล่อนไปหาหมอ” เวทนเอ่ยกับเลขาคนสนิทและยังเป็นมือขวาของเข าคอยช่วยจัดการเรื่องงานต่าง ๆ ให้ด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเป็นกังวล

“ผมว่าไม่ทันแล้วล่ะครับบอส” เมฆมองสภาพของเด็กสาวแล้วทำตาปริบ ๆ

“ไม่ทันอะไรวะ” เวทนเอ่ยถามก่อนจะโดนกดไปบนเตียงนอนกว้าง

“ผมว่าบอสช่วยเธอดีกว่าครับ แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยว่ากัน ให้เงินไปสักก้อนน่าจะจบเรื่องครับ” เมฆเดินหนีออกไปจากห้องพัก ในขณะที่สาวน้อยกำลังกอดรัดเวทนเอาไว้เต็มอ้อมแขน

“ใจเย็น ๆ ก่อนสาวน้อย” เวทนร้องบอก แต่เธอก็กดทับเขาเอาไว้ จัดการกับเสื้อผ้าและจูบเขาอย่างร้อนแรง

ใบหน้าสวยใสหวานละมุนทำเอาเขาตบะแตก เธอน่ารักและน่าปรารถนาเป็นที่สุด ไม่รู้ว่าทำไมถึงโดนวางยา

แม้จะหักห้ามใจเพียงใดก็ตาม สุดท้ายเรือนร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนของเธอก็ทำให้เขาต้องสานต่ออย่างมิอาจหลีกเลี่ยง

มือหนาหยิบเครื่องป้องกันมาสวมใส่ การกดแทรกเรือนกายเข้าไปในเรือนร่างสาวทำให้เขาต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ เพราะโดนบีบรัดอย่างรุนแรง

สาวน้อยใต้ร่างยังบริสุทธิ์ผุดผ่องอยู่ นั่นทำให้เขาพยายามถนุถนอมเธอให้มากที่สุดขณะภารกิจรักอันแสนวาบหวาม

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ