Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คลั่งรักสาวน้อยสิบแปด

คลั่งรักสาวน้อยสิบแปด

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
40
ชม
11
บท

เขารักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะความเข้าใจผิดทำให้เขาร้ายกาจกับเธอ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "ไม่ต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะฉันก็ไม่ได้พิศวาสผู้หญิงสำส่อนแบบเธอหรอก" เธอหันขวับไปมองเขา ก็ได้เห็นแต่สายตาดูถูกเหยียดหยามของเขา "พี่หมายความว่ายังไงคะ" เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เธอไปสำส่อนอะไรกับใครตอนไหน "อย่าแกล้งทำเป็นไขสือหน่อยเลย กับฉันทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ทีกับผู้ชายคนอื่นเธอร่าน" "พี่ช้าง" เธอหลุดอุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะโดนเขาด่าเช่นนี้ แต่เธอไม่อยากเสวนากับคนพาล เห็นว่าฝนเริ่มซา เลยคิดว่าจะกลับบ้านตัวเอง ยังไงก็เปียกอยู่แล้ว เปียกอีกนิดก็คงไม่เป็นไร "จะรีบไปไหนล่ะ" คเชนทร์ตามมากระชากแขนของพิมพ์แก้วเอาไว้ เธอตกใจสะบัดหนีแต่ไม่หลุด "กับฉันทำไมทำท่ารังเกียจแบบนี้ หรือแกล้งทำเป็นดีดดิ้นเล่นตัวโก่งค่าตัว" เขารั้งเธอมากอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์แก้วตกใจกับการกระทำป่าเถื่อนของเขา "ฉันก็แมนทั้งแท่ง เงินก็มีเต็มกระเป๋า รับรองว่าลีลาเด็ดไม่แพ้ผู้ชายคนไหน เธอไม่สนเหรอ" เขาพูดจาอย่างคุกคาม "หยาบคายร้ายกาจที่สุด นี่ปล่อยนะ ถึงแก้วจะร่านยังไง แต่รู้เอาไว้ว่าไม่ร่านกับพี่แน่นอน ฉันจะนอนกับผู้ชายทุกคนบนโลกยกเว้นพี่" "อย่างนั้นเหรอ" เขาจูบเธออย่างดุเดือด พิมพ์แก้วดิ้นรนผลักไส ก่อนจะตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ทำให้ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เธอเตรียมหนีแต่เขากระชากแขนเธอเอาไว้ ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บจนหน้าชาไปหมด เขาใช้ลิ้นดุนดันกระพุ่งแก้มเอาไว้ ก่อนที่จะจับเธอแบกขึ้นบ่าพาเข้าไปในกระท่อมหลังน้อย "นี่ปล่อยนะ คนบ้าป่าเถื่อน" เธอหวีดร้อง รู้สึกมึนหัวไปหมด เขาโถมกายเข้าหา ทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว "ไม่ปล่อย" เขาตอบอย่างยียวน ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหา ขบเม้มซอกคอเนียนละเอียดของเธอไม่ยอมละห่าง "ปล่อยแก้วนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนี แต่ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของเขาได้ เขากระชากเสื้อผ้าเปียกชื้นของเธอออกไปจากร่าง พิมพ์แก้วหวีดร้องเสียงหลง ใจหายวาบ ไม่คิดว่าจะเสียท่าเขาขนาดนี้ ไม่คิดด้วยว่าคเชนทร์จะป่าเถื่อนกับเธอถึงเพียงนี้ เธอยกมือขึ้นกอดอก อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่เคยมีใครได้เห็นนวลเนื้อขาวผ่องใต้ร่มผ้าของเธอมาก่อน "ว้าย! ปล่อยนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนีเขาก็ตามมาทาบทับ ใช้มือหนากดมือเล็กไปกับเตียงไม้ขนาดกลาง "อย่านะคะพี่ช้าง" "อื้อ" เสียงประท้วงของเธอหายเข้าไปในลำคอเมื่อเขาก้มลงมาจุมพิต ริมฝีปากแสนหวานอย่างดูดดื่ม เธอพยายามเบี่ยงหลบ เขาก็ใช้มือหนาจับปลายคางสวยเอาไว้ บังคับให้เธอเผยอปากรับจูบเขา มือหนาอีกข้างรวบมือเธอขึ้นเหนือศีรษะเพื่อล็อกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอใช้มือประทุษร้ายเขาได้ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ จัดการกระชากกางเกงผ้าด้านล่างของเธอออก หัวใจของพิมพ์แก้วหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม "พี่ช้างอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ" "กับคนอื่นเธอยอม แต่กับฉันเธอไม่ยอม" "แก้วสกปรกสำส่อนก็อย่าเอาตัวเองมาเกลือกกลั๊วกับแก้วเลยค่ะ" "ยอมรับแล้วสินะว่าตัวเองสกปรก ก็ดีเอามัน ๆ ไม่ต้องถนอมมาก" เขาหยิบเครื่องป้องกันมาสวมใส่ก่อนจะแยกเรียวขาของเธอออก

บทที่ 1 1

พิมพ์แก้วเดินไปมาอยู่หน้าเตาไฟเพื่อปรุงอาหาร

เธอได้รับการถ่ายทอดวิชาทำอาหารมาจากคุณยาย พอคุณยายเสียชีวิตเธอจึงกลายเป็นแม่ครัวใหญ่ รับปรุงอาหารในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะงานบวช งานศพ งานแต่ง หรือแม้กระทั้งงานขึ้นบ้านใหม่

ในขณะที่เธอปรุงอาหารอยู่นั้นเสียงเอ่ยแซวและเสียงโห่ก็ดังขึ้น

พิมพ์แก้วหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะอุทานออกมา

“อุ๊ย” เพราะคเชนทร์หรือช้าง ลูกชายกำนันประจำตำบลนั้นกำลังยืนยิ้มอยู่ทางานหลังเธอ

คเชนทร์ตามจีบเธออยู่นานหลายเดือน ตั้งแต่ที่เขากลับมาจากกรุงเทพฯ แต่เธอไม่เล่นด้วย เพราะฐานะที่แตกต่างกัน และมารดาของเขาไม่ชอบเธอ

แม้ลึกๆ แล้วเธอจะเคยมีความประทับใจให้แก่เขาตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนต่อในเมืองใหญ่

และอาจเพราะว่าเขาร่ำรวย ฐานะดี บิดามารดามีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งคเชนทร์เองก็ยังหน้าตาดีมาก สาว ๆ ในหมู่บ้านต่างชอบเขามากมาย

เธอจึงไม่อยากแก่งแย่งชิงดีกับใคร เพราะเธอมีฐานะปานกลาง อายุเพียงแค่สิบแปด แถมยังกำพร้า คเชนทร์มีลูกล้อลูกชนมาก เธอกลัวจะตามเขาไม่ทัน จึงไม่อยากเผลอตัวเผลอใจให้เขา กลัวเขาจะแค่หลอก

วันก่อนเธอยังเห็นสาว ๆ หน้าตาดี จากในเมืองมาหาเขาอยู่เลย

“ให้พี่ช้างช่วยไหมจ๊ะแก้ว” เขาเอ่ยถามเสียงหวาน มองเธอด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกิน ทำเอาพิมพ์แก้วใจสั่น ยอมรับว่าเขาทำให้เธอหวั่นไหวอยู่มากเหมือนกัน แต่เธอพยายามหักห้ามใจ

“ไม่ต้องจ้ะ” พิมพ์แก้วเอ่ยตอบ ยื่นมือไปคนแกงเนื้อในหม้อที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นตลบอบอวลไปทั่ว

คเชนทร์ก็เดินมาเบียดทางด้านหลัง จับมือเธอช่วยคนแกงด้วย

“อุ๊ย! ปล่อยนะคะพี่ช้าง” เธอดึงมือหนีหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู ที่นี่เป็นบ้านของเขา อะไร ๆ ก็ดูเข้าทางเขาไปเสียหมด ทุกคนก็ดูรู้เห็นเป็นใจกับเขา

ด้วย ไม่มีใครห้ามปรามหรือสนใจเมื่อคเชนทร์เข้าหาเธอ

“พี่อยากช่วยนี่จ้ะ” เขายิ้มหน้าเป็น

“ไม่เป็นไรจ้ะ หน้าที่ของฉัน” เธอรีบเอ่ยบอก

เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างตามงาน หรือบางงานก็ช่วยไม่ได้คิดเงินมากมาย แล้วแต่เจ้าของงานให้ นอกจากเงิน เขาก็ให้เป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุงรสและเครื่องครัว ทำให้เธอไม่ต้องซื้อหาของพวกนี้ในการดำรงชีวิตเลยประหยัดไปได้มาก

แถมที่บ้านเธอยังปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้อีก ดังนั้นเงินจากการรับจ้างเป็นแม่ครัวเลยมีเหลือเก็บ

บ้านช่องคุณยายก็ปลูกเอาไว้ให้แล้ว แม้จะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากนัก แต่ก็ทำให้เธออาศัยอยู่ได้อย่างสบาย กันแดดกันฝน ไม่ต้องไปนอนหนาวอยู่ใต้โคนกล้วย

“ตาช้างมาอยู่นี่เองแม่ตามหาเสียทั่ว” เสียงของชบาผู้ซึ่งมารดาของคเชนทร์เอ่ยขึ้น วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของสามี นั่นก็คือกำนันครามนั่นเอง นางและสามีเชิญแขกเหรื่อมาเยอะ เพราะอยากให้ลูกชาย ได้รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ และลูกสาวคนรวยๆ เผื่อจะถูกใจลูกผู้ดีมีเงินคนไหน จะได้ทาบทามสู่ขอให้ลูกชายเสียเลย

“ครับแม่”

“มาขลุกตัวอยู่ในครัวทำไม ที่นี่มีแม่ครัวอยู่แล้ว เราน่ะไปรับแขกกับแม่ดีกว่า” ชบาพูดเสียงเฉียบ ก่อนจะมาดึงลูกชายออกไปจากครัว ที่ทำเป็นเพิงชั่วคราว ทางด้านหลังบ้าน นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่ง ที่เธอไม่อยากยุ่งกับคเชนทร์ เพราะมารดาของเขาค่อนข้างหวงมาก และท่านเอง ก็คงมองว่าเธอไม่เหมาะสมกับลูกชายของท่านด้วยประกันทั้งปวง

เป็นจริงดังคาด หลังจากเสร็จงาน ชบาเรียกไปพบ เพื่อจ่ายค่าตอบแทน

“ฉันขอพูดตรง ๆ นะพิมพ์แก้ว” ชบาเอ่ยเสียงเฉียบ

“ฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันไปยุ่งกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอ ฉันพูดแบบนี้เธอคงเข้าใจนะ”

“เข้าใจค่ะ”

“หลบหลีกได้ก็ควรหลบหลีก ตาช้างน่ะ ก็เหมือนผู้ชายทั่วไป เห็นผู้หญิงหน้าตาพอใช้ได้ ก็หยอกเล่นไปแบบนั้นเอง แต่เขาไม่ได้คิดจริงจังหรอก ฉันพูดแบบนี้ เธอก็คงเข้าใจนะ”

“เข้าใจค่ะ” พิมพ์แก้วรับคำ เธอไม่ชอบมีปัญหากับใครอยู่แล้ว เมื่อเสร็จงานเลี้ยงที่บ้านกำนันคราม พิมพ์แก้วเคลียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็ปั่นจักรยาน เดินทางกลับบ้าน

“อุ๊ย” พิมพ์แก้วอุทาน เมื่อจู่ ๆ คเชนทร์ก็โผล่ออกมาจากข้างทาง มาดักหน้าของเธอเอาไว้

“ว้าย!” จักรยานเธอล้มลงไม่เป็นท่า

“โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลง

“เฮ้ย!” เขาร้องอย่างตกใจ รีบเข้าไปประคองร่างน้อยเอาไว้

“เป็นไงบ้าง”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยายามลุกแต่ไม่ไหว ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ

“โอ๊ย!”

“ไม่เป็นอะไรได้ไง ร้องซะขนาดนี้”

“พี่ช้างจะทำอะไรคะ” เธอร้องอย่างตกใจ รีบกอดคอหนาเอาไว้ เมื่อเขาอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขน

“อุ้มไปส่งบ้านไง ปวดขาซะขนาดนี้ จะกลับยังไงล่ะ”

“แล้วใครเป็นคนทำล่ะคะ” เธอต่อว่าเขา เขาก็ยิ้มใส่ตาเธอ

“พี่เป็นคนทำ พี่ยอมรับ พี่จะไถ่โทษด้วยการไปส่งแก้วที่บ้านไง”

“ไม่ต้องค่ะ”

“ทำไมล่ะ”

“แก้วตัวหนัก”

“แต่พี่อุ้มไหว”

“จักรยานแก้วล่ะคะ”

“เดี๋ยวให้คนเอาไปส่งให้” เขาอุ้มเธอเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านสวนของเธอเอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก

“บ้านร่มรื่นน่าอยู่จัง” เขาวางเธอที่แคร่ตรงใต้ถุนบ้าน ก่อนจะกวาดสายตา มองไปรอบกาย ก็เห็นแต่สวนผัก ต้นไม้ ดอกไม้ แลดูสดชื่นร่มรื่น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

ทัณฑ์สวาทเมียบำเรอ

เทียนธีรา
5.0

เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

เกาะครีต
5.0

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ

Charlton Buccafusco
5.0

ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ