เขารักเธอตั้งแต่แรกเห็น แต่เพราะความเข้าใจผิดทำให้เขาร้ายกาจกับเธอ ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "ไม่ต้องทำท่ารังเกียจฉันขนาดนั้นก็ได้ เพราะฉันก็ไม่ได้พิศวาสผู้หญิงสำส่อนแบบเธอหรอก" เธอหันขวับไปมองเขา ก็ได้เห็นแต่สายตาดูถูกเหยียดหยามของเขา "พี่หมายความว่ายังไงคะ" เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด เธอไปสำส่อนอะไรกับใครตอนไหน "อย่าแกล้งทำเป็นไขสือหน่อยเลย กับฉันทำเป็นสะดีดสะดิ้ง ทีกับผู้ชายคนอื่นเธอร่าน" "พี่ช้าง" เธอหลุดอุทานออกมาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าจะโดนเขาด่าเช่นนี้ แต่เธอไม่อยากเสวนากับคนพาล เห็นว่าฝนเริ่มซา เลยคิดว่าจะกลับบ้านตัวเอง ยังไงก็เปียกอยู่แล้ว เปียกอีกนิดก็คงไม่เป็นไร "จะรีบไปไหนล่ะ" คเชนทร์ตามมากระชากแขนของพิมพ์แก้วเอาไว้ เธอตกใจสะบัดหนีแต่ไม่หลุด "กับฉันทำไมทำท่ารังเกียจแบบนี้ หรือแกล้งทำเป็นดีดดิ้นเล่นตัวโก่งค่าตัว" เขารั้งเธอมากอดรัดเอาไว้แนบอก พิมพ์แก้วตกใจกับการกระทำป่าเถื่อนของเขา "ฉันก็แมนทั้งแท่ง เงินก็มีเต็มกระเป๋า รับรองว่าลีลาเด็ดไม่แพ้ผู้ชายคนไหน เธอไม่สนเหรอ" เขาพูดจาอย่างคุกคาม "หยาบคายร้ายกาจที่สุด นี่ปล่อยนะ ถึงแก้วจะร่านยังไง แต่รู้เอาไว้ว่าไม่ร่านกับพี่แน่นอน ฉันจะนอนกับผู้ชายทุกคนบนโลกยกเว้นพี่" "อย่างนั้นเหรอ" เขาจูบเธออย่างดุเดือด พิมพ์แก้วดิ้นรนผลักไส ก่อนจะตบหน้าเขาฉาดใหญ่ ทำให้ใบหน้าของเขาหันไปตามแรงตบ เธอเตรียมหนีแต่เขากระชากแขนเธอเอาไว้ ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บจนหน้าชาไปหมด เขาใช้ลิ้นดุนดันกระพุ่งแก้มเอาไว้ ก่อนที่จะจับเธอแบกขึ้นบ่าพาเข้าไปในกระท่อมหลังน้อย "นี่ปล่อยนะ คนบ้าป่าเถื่อน" เธอหวีดร้อง รู้สึกมึนหัวไปหมด เขาโถมกายเข้าหา ทาบทับเธอเอาไว้ทั้งตัว "ไม่ปล่อย" เขาตอบอย่างยียวน ก่อนจะซุกใบหน้าเข้าหา ขบเม้มซอกคอเนียนละเอียดของเธอไม่ยอมละห่าง "ปล่อยแก้วนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนี แต่ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของเขาได้ เขากระชากเสื้อผ้าเปียกชื้นของเธอออกไปจากร่าง พิมพ์แก้วหวีดร้องเสียงหลง ใจหายวาบ ไม่คิดว่าจะเสียท่าเขาขนาดนี้ ไม่คิดด้วยว่าคเชนทร์จะป่าเถื่อนกับเธอถึงเพียงนี้ เธอยกมือขึ้นกอดอก อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่เคยมีใครได้เห็นนวลเนื้อขาวผ่องใต้ร่มผ้าของเธอมาก่อน "ว้าย! ปล่อยนะ" พิมพ์แก้วดิ้นหนีเขาก็ตามมาทาบทับ ใช้มือหนากดมือเล็กไปกับเตียงไม้ขนาดกลาง "อย่านะคะพี่ช้าง" "อื้อ" เสียงประท้วงของเธอหายเข้าไปในลำคอเมื่อเขาก้มลงมาจุมพิต ริมฝีปากแสนหวานอย่างดูดดื่ม เธอพยายามเบี่ยงหลบ เขาก็ใช้มือหนาจับปลายคางสวยเอาไว้ บังคับให้เธอเผยอปากรับจูบเขา มือหนาอีกข้างรวบมือเธอขึ้นเหนือศีรษะเพื่อล็อกเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอใช้มือประทุษร้ายเขาได้ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งอยากเอาชนะ จัดการกระชากกางเกงผ้าด้านล่างของเธอออก หัวใจของพิมพ์แก้วหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม "พี่ช้างอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ" "กับคนอื่นเธอยอม แต่กับฉันเธอไม่ยอม" "แก้วสกปรกสำส่อนก็อย่าเอาตัวเองมาเกลือกกลั๊วกับแก้วเลยค่ะ" "ยอมรับแล้วสินะว่าตัวเองสกปรก ก็ดีเอามัน ๆ ไม่ต้องถนอมมาก" เขาหยิบเครื่องป้องกันมาสวมใส่ก่อนจะแยกเรียวขาของเธอออก
พิมพ์แก้วเดินไปมาอยู่หน้าเตาไฟเพื่อปรุงอาหาร
เธอได้รับการถ่ายทอดวิชาทำอาหารมาจากคุณยาย พอคุณยายเสียชีวิตเธอจึงกลายเป็นแม่ครัวใหญ่ รับปรุงอาหารในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะงานบวช งานศพ งานแต่ง หรือแม้กระทั้งงานขึ้นบ้านใหม่
ในขณะที่เธอปรุงอาหารอยู่นั้นเสียงเอ่ยแซวและเสียงโห่ก็ดังขึ้น
พิมพ์แก้วหันไปมองทางด้านหลังก่อนจะอุทานออกมา
“อุ๊ย” เพราะคเชนทร์หรือช้าง ลูกชายกำนันประจำตำบลนั้นกำลังยืนยิ้มอยู่ทางานหลังเธอ
คเชนทร์ตามจีบเธออยู่นานหลายเดือน ตั้งแต่ที่เขากลับมาจากกรุงเทพฯ แต่เธอไม่เล่นด้วย เพราะฐานะที่แตกต่างกัน และมารดาของเขาไม่ชอบเธอ
แม้ลึกๆ แล้วเธอจะเคยมีความประทับใจให้แก่เขาตั้งแต่เยาว์วัย ก่อนที่เขาจะเดินทางไปเรียนต่อในเมืองใหญ่
และอาจเพราะว่าเขาร่ำรวย ฐานะดี บิดามารดามีหน้ามีตาในสังคม อีกทั้งคเชนทร์เองก็ยังหน้าตาดีมาก สาว ๆ ในหมู่บ้านต่างชอบเขามากมาย
เธอจึงไม่อยากแก่งแย่งชิงดีกับใคร เพราะเธอมีฐานะปานกลาง อายุเพียงแค่สิบแปด แถมยังกำพร้า คเชนทร์มีลูกล้อลูกชนมาก เธอกลัวจะตามเขาไม่ทัน จึงไม่อยากเผลอตัวเผลอใจให้เขา กลัวเขาจะแค่หลอก
วันก่อนเธอยังเห็นสาว ๆ หน้าตาดี จากในเมืองมาหาเขาอยู่เลย
“ให้พี่ช้างช่วยไหมจ๊ะแก้ว” เขาเอ่ยถามเสียงหวาน มองเธอด้วยสายตาเหมือนจะกลืนกิน ทำเอาพิมพ์แก้วใจสั่น ยอมรับว่าเขาทำให้เธอหวั่นไหวอยู่มากเหมือนกัน แต่เธอพยายามหักห้ามใจ
“ไม่ต้องจ้ะ” พิมพ์แก้วเอ่ยตอบ ยื่นมือไปคนแกงเนื้อในหม้อที่ส่งกลิ่นหอมกรุ่นตลบอบอวลไปทั่ว
คเชนทร์ก็เดินมาเบียดทางด้านหลัง จับมือเธอช่วยคนแกงด้วย
“อุ๊ย! ปล่อยนะคะพี่ช้าง” เธอดึงมือหนีหน้าแดงก่ำลามไปถึงใบหู ที่นี่เป็นบ้านของเขา อะไร ๆ ก็ดูเข้าทางเขาไปเสียหมด ทุกคนก็ดูรู้เห็นเป็นใจกับเขา
ด้วย ไม่มีใครห้ามปรามหรือสนใจเมื่อคเชนทร์เข้าหาเธอ
“พี่อยากช่วยนี่จ้ะ” เขายิ้มหน้าเป็น
“ไม่เป็นไรจ้ะ หน้าที่ของฉัน” เธอรีบเอ่ยบอก
เธอเป็นแม่ครัวรับจ้างตามงาน หรือบางงานก็ช่วยไม่ได้คิดเงินมากมาย แล้วแต่เจ้าของงานให้ นอกจากเงิน เขาก็ให้เป็นข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องปรุงรสและเครื่องครัว ทำให้เธอไม่ต้องซื้อหาของพวกนี้ในการดำรงชีวิตเลยประหยัดไปได้มาก
แถมที่บ้านเธอยังปลูกพืชผักสวนครัวเอาไว้อีก ดังนั้นเงินจากการรับจ้างเป็นแม่ครัวเลยมีเหลือเก็บ
บ้านช่องคุณยายก็ปลูกเอาไว้ให้แล้ว แม้จะไม่ใช่บ้านหลังใหญ่มากนัก แต่ก็ทำให้เธออาศัยอยู่ได้อย่างสบาย กันแดดกันฝน ไม่ต้องไปนอนหนาวอยู่ใต้โคนกล้วย
“ตาช้างมาอยู่นี่เองแม่ตามหาเสียทั่ว” เสียงของชบาผู้ซึ่งมารดาของคเชนทร์เอ่ยขึ้น วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของสามี นั่นก็คือกำนันครามนั่นเอง นางและสามีเชิญแขกเหรื่อมาเยอะ เพราะอยากให้ลูกชาย ได้รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ และลูกสาวคนรวยๆ เผื่อจะถูกใจลูกผู้ดีมีเงินคนไหน จะได้ทาบทามสู่ขอให้ลูกชายเสียเลย
“ครับแม่”
“มาขลุกตัวอยู่ในครัวทำไม ที่นี่มีแม่ครัวอยู่แล้ว เราน่ะไปรับแขกกับแม่ดีกว่า” ชบาพูดเสียงเฉียบ ก่อนจะมาดึงลูกชายออกไปจากครัว ที่ทำเป็นเพิงชั่วคราว ทางด้านหลังบ้าน นี่ก็อีกเหตุผลหนึ่ง ที่เธอไม่อยากยุ่งกับคเชนทร์ เพราะมารดาของเขาค่อนข้างหวงมาก และท่านเอง ก็คงมองว่าเธอไม่เหมาะสมกับลูกชายของท่านด้วยประกันทั้งปวง
เป็นจริงดังคาด หลังจากเสร็จงาน ชบาเรียกไปพบ เพื่อจ่ายค่าตอบแทน
“ฉันขอพูดตรง ๆ นะพิมพ์แก้ว” ชบาเอ่ยเสียงเฉียบ
“ฉันไม่อยากให้ลูกชายของฉันไปยุ่งกับผู้หญิงที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเธอ ฉันพูดแบบนี้เธอคงเข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ”
“หลบหลีกได้ก็ควรหลบหลีก ตาช้างน่ะ ก็เหมือนผู้ชายทั่วไป เห็นผู้หญิงหน้าตาพอใช้ได้ ก็หยอกเล่นไปแบบนั้นเอง แต่เขาไม่ได้คิดจริงจังหรอก ฉันพูดแบบนี้ เธอก็คงเข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ” พิมพ์แก้วรับคำ เธอไม่ชอบมีปัญหากับใครอยู่แล้ว เมื่อเสร็จงานเลี้ยงที่บ้านกำนันคราม พิมพ์แก้วเคลียร์ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็ปั่นจักรยาน เดินทางกลับบ้าน
“อุ๊ย” พิมพ์แก้วอุทาน เมื่อจู่ ๆ คเชนทร์ก็โผล่ออกมาจากข้างทาง มาดักหน้าของเธอเอาไว้
“ว้าย!” จักรยานเธอล้มลงไม่เป็นท่า
“โอ๊ย!” เธอร้องเสียงหลง
“เฮ้ย!” เขาร้องอย่างตกใจ รีบเข้าไปประคองร่างน้อยเอาไว้
“เป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอพยายามลุกแต่ไม่ไหว ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บ
“โอ๊ย!”
“ไม่เป็นอะไรได้ไง ร้องซะขนาดนี้”
“พี่ช้างจะทำอะไรคะ” เธอร้องอย่างตกใจ รีบกอดคอหนาเอาไว้ เมื่อเขาอุ้มขึ้นสู่อ้อมแขน
“อุ้มไปส่งบ้านไง ปวดขาซะขนาดนี้ จะกลับยังไงล่ะ”
“แล้วใครเป็นคนทำล่ะคะ” เธอต่อว่าเขา เขาก็ยิ้มใส่ตาเธอ
“พี่เป็นคนทำ พี่ยอมรับ พี่จะไถ่โทษด้วยการไปส่งแก้วที่บ้านไง”
“ไม่ต้องค่ะ”
“ทำไมล่ะ”
“แก้วตัวหนัก”
“แต่พี่อุ้มไหว”
“จักรยานแก้วล่ะคะ”
“เดี๋ยวให้คนเอาไปส่งให้” เขาอุ้มเธอเดินจ้ำอ้าวกลับบ้านสวนของเธอเอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก
“บ้านร่มรื่นน่าอยู่จัง” เขาวางเธอที่แคร่ตรงใต้ถุนบ้าน ก่อนจะกวาดสายตา มองไปรอบกาย ก็เห็นแต่สวนผัก ต้นไม้ ดอกไม้ แลดูสดชื่นร่มรื่น
หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN
ข้อมูลเพิ่มเติม